ตอนที่ 12

2353 คำ
หญิงสาวทั้งร้องทั้งดิ้นรนและสะบัดตัวหวังที่จะให้หลุดจากมือของลูกน้องเสี่ยประเดิม เมื่อดิ้นไม่หลุดก็ได้แต่ตะโกนร้องบอกเสี่ยแก่คราวพ่อออกมาแทน ด้วยตอนนี้ใบหน้าของผู้เป็นพ่อและน้านั้นบวมช้ำเต็มไปด้วยเลือดแล้วนั่นเอง “หยุด! หยุดเถอะ!” “ช่วยไม่ได้ หนูเกวลินเป็นคนบีบให้เสี่ยทำเองนะ แต่ถ้าหนูยอมมาเป็นของเสี่ย...เสี่ยจะยกหนี้ให้หมดเลย” เสี่ยประเดิมต้องการที่จะบีบให้หญิงสาวนั้นจนมุมและยอมตกลงมาเป็นอีหนูของตนเองให้ได้ “ไม่! ฉันไม่ยอมหรอก หยุดทำร้ายพ่อกับน้าของฉันได้แล้วเสี่ย! อย่า...พอแล้ว” นางพุดกรองเองที่ตอนนี้โดนลูกน้องเสี่ยประเดิมตบตีจนใบหน้าบวมเป่ง เลือดเปรอะเต็มใบหน้าถึงกับจับมือของลูกน้องเสี่ยที่กำลังจะประเคนฝ่ามือลงมาใส่ที่หน้าของนาง พร้อมกับกระซิบบอกเบาๆ “พวกแกเบาหน่อยสิโว้ย ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้วนะ” ลูกน้องเสี่ยประเดิมจึงแกล้งทำท่ายื้อยุดฉุดให้นางพุดกรองล้มลงไปนั่งที่เก้าอีกด้านหนึ่งของเสี่ยประเดิม โดยมีร่างของนายพงษ์ศักดิ์ที่โดนซ้อมจนสะบักสะบอมจนเลือดกบปากหน้าตาปูดแดงช้ำไปตามๆ กัน “กะ...เกวลูก...อย่ายอมนะ...” นายพงษ์ศักดิ์ผู้เป็นพ่อร้องบอกลูกสาวออกมาด้วยความเจ็บ “กะ...เกว...น้าเจ็บเหลือเกิน...ช่วยน้ากับพ่อของหนูด้วยเถอะนะ...ช่วยเราด้วย...รับปากเสี่ยเถอะ...ไม่เห็นแก่น้าก็เห็นกับพ่อของหนูเถอะ พี่พงษ์เค้าไม่รู้เห็นอะไรด้วยแต่ก็ต้องมาเจ็บตัว...เกวไม่สงสารพ่อของหนูบ้างเหรอลูก...” นางพุดกรองพูดอย่างยากลำบาก ด้วยเพราะปากของนางนั้นบวมเจ่อจากฝ่ามือของลูกน้องเสี่ยประเดิมที่ประเคนหมัดเข้าใส่อย่างไม่ยั้งตามที่ได้ซักซ้อมกันเอาไว้ แต่นางพุดกรองลืมบอกว่าให้พวกมันลงมือให้เบาๆ หน่อย ผลที่ออกมาก็เลยดูสมจริงเกินกว่าที่นางคิดเอาไว้มากนัก “อย่าทำ! พอแล้ว! ฉันขอร้องอย่าทำร้ายพ่อฉัน!” เกวลินร้องห้ามปากคอสั่น เป็นห่วงชีวิตของผู้เป็นพ่อใจแทบขาด ส่วนน้องสาวแม่ถึงแม้จะไม่ชอบที่คอยแต่สร้างหนี้สินและปัญหามาให้แต่เธอก็ไม่อยากให้ต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้ “ตกลงจะเอายังไง จะใช้หนี้เสี่ย หรือว่าจะให้เสี่ยเอาชีวิตของสองคนนี่ไป” พวกมันพูดจากข่มขู่ “แล้วพ่อฉันเกี่ยวอะไรด้วย พ่อฉันไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับหนี้สินที่น้าพุดกรองไปสร้างไว้เลยนะ” “ไม่สนโว้ย! อยู่บ้านเดียวกันก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมดนั่นแหละ จริงมั้ยครับเสี่ย” มันพูดพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่สนใจกับอะไรทั้งสิ้น “ลูกสาวของคุณเค้าไม่ยอมชดใช้หนี้ให้กับฉัน คุณเองก็ไม่ยอมเซ็นยกที่ดินนี้ให้กับฉัน แล้วจะให้ฉันไปเก็บหนี้กับใครล่ะ ในเมื่อคุณพุดกรองเค้าบอกว่าพวกคุณจะใช้หนี้ให้น่ะ ฉันไม่มีเวลามานั่งเล่นอยู่ที่นี่นานนักหรอกนะ” “แล้วถ้าฉันเซ็นยกบ้านกับที่ดินให้พวกแกไปแล้วพวกฉันจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ” นายพงษ์ศักดิ์พูดออกมาอย่างเหลืออดในความเอาแต่ได้ของพวกมัน “นั่นมันก็เป็นเรื่องของพวกคุณไม่เกี่ยวกับฉัน ใครจะเป็นยังไงฉันไม่สนใจ” เสี่ยประเดิมพูดบอกพร้อมแสยะยิ้มออกมา “ไอ้พวกชั่ว!” นายพงษ์ศักดิ์ด่าพวกมันออกมาอย่างเหลืออด ผัวะ!!เสียงด้ามปืนที่กระทบตบเข้าที่แก้มของชายสูงวัยอย่างแรงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง “กรี๊ดดด!!! อย่า! อย่าทำร้ายพ่อฉัน!” “ก็มันอยากด่าเสี่ยของพวกเราก่อนทำไมล่ะ นี่เสี่ยของพวกเราพยายามพูดดีด้วยแล้วนะ” “พอ! พอแล้ว...ฉันจะใช้หนี้ให้กับเสี่ยเอง แต่ขอเวลาให้ฉันหน่อย” เกวลินบอกอย่างยอมจำนน หญิงสาวไม่อาจทนเห็นผู้เป็นพ่อถูกทำร้ายได้ “จะเอาไปทำไมกันล่ะเวลา ก็เสี่ยบอกแล้วไงว่าเพียงแค่หนูเกวลินยอมเป็นของเสี่ยซะเท่านี้ก็หมดเรื่อง บ้านก็ยังเป็นของหนูเกวลินอยู่ หนี้สินเสี่ยก็จะยกให้ สบายใจกันทั้งสองฝ่าย ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ” “ฝันไปเถอะ! ไม่มีทางมีวันนั้นหรอก!” “เอาละๆ เสี่ยเองก็อยากได้หนูเกวลินมาเป็นของเสี่ยด้วยความสมัครใจ ยังไงเสี่ยก็จะให้เวลากับหนูก็ได้ เดี๋ยวจะหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็กอีก” เสี่ยประเดิมพูดบอกออกมาอย่างคนอารมณ์ดี “แล้วเสี่ยจะให้เวลาฉันสักกี่วัน” “ถ้าหนูเกวลินต้องการเวลาจากเสี่ย เสี่ยประเดิมคนนี้ก็จะให้เวลากับหนูเต็มที่ไปเลยหนึ่งวันเต็มๆ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ พอมั้ยจ๊ะหนูเกวลินจ๋า...” “เสี่ย! เงินตั้งหกแสนฉันขอเวลาหาสักอาทิตย์ไม่ได้เหรอ ให้มาได้ยังไงเวลาแค่เพียงวันเดียว ขอเวลามากกว่านี้ไม่ได้เหรอเสี่ย” เกวลินอ้าปากค้างกับเวลาที่พวกมันให้กับเธอ หญิงสาวพยายามต่อรอง “เสี่ยก็ให้เวลาหนูมามากพอแล้วนะ แต่ถ้าหากหนูเกวลินไม่อยากจะเสียเวลาก็ให้ไอ้แก่พ่อหนูเซ็นยกบ้านกับที่ดินให้กับเสี่ยซะสิจะได้ไม่ต้องไปวิ่งหาเงินให้เหนื่อยเปล่าๆ อยู่ทำไมกัน แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้นก็อย่างที่เสี่ยบอกนั่นแหละ เพียงแค่หนูมาเป็นของเสี่ยเรื่องทุกอย่างจบ” เสี่ยประเดิมไม่วายวกกลับเข้ามาหาเรื่องที่บอกให้เธอยอมเป็นอีหนูของมันอีกครั้งหนึ่ง “เรื่องนี้เลิกคิดไปได้เลยเสี่ยยังไงก็ไม่มีทาง...ตกลง! วันเดียวก็วันเดียว ภายในวันพรุ่งนี้ฉันจะหาเงินมาให้กับเสี่ยให้ได้” เกวลินตัดสินใจพูดออกไปในที่สุด “แต่เสี่ยบอกไว้ก่อนเลยนะว่าถ้าวันพรุ่งนี้แล้วหนูเกวลินยังหาเงินมาคืนให้เสี่ยไม่ได้ บ้านหลังนี้จะต้องตกมาเป็นกรรมสิทธิ์ของเสี่ยทันทีเลยนะ...อย่าลืมล่ะ เฮ้ย! พวกเอ็งสองคนเอาพ่อกับน้าของหนูเกวลินไปขึ้นรถด้วย” เสี่ยประเดิมสั่งการลูกน้องทันที พร้อมร่างของนายพงษ์ศักดิ์และนางพุดกรองถูกจับให้ลุกขึ้นยืนแล้วบังคับให้เดินไปกับพวกมันด้วยกัน “เดี๋ยวๆ ก็ฉันยอมชดใช้หนี้ให้แล้วยังไงล่ะ ทำไมไม่ปล่อยพ่อกับน้าฉันล่ะ...” “ก็ถ้าหนูเบี้ยวเสี่ยแล้วเอาเรื่องไปบอกตำรวจขึ้นมาเสี่ยก็แย่นะสิ เรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีตัวประกันกันบ้าง ถ้าหากวันพรุ่งนี้หนูเกวลินหาเงินมาคืนเสี่ยได้ตามที่บอกเสี่ยก็จะปล่อยพ่อกับน้าของหนูให้เป็นอิสระ แต่ถ้าหากหนูเกวลินหาเงินมาคืนเสี่ยไม่ได้อย่างที่พูด บ้านกับที่ดินนี้เสี่ยก็จะยึด พ่อของหนูเสี่ยก็จะส่งไปขายแรงงานกับพวกเรือประมงเถื่อนที่เค้าต้องการคนงาน ส่วนน้าพุดกรองของหนูเกวลินเสี่ยก็จะเอาไปขายซ่องแถวๆ เขมรเพื่อชดใช้หนี้ให้กับเสี่ยแทน ในเมื่อหนูหาเงินมาให้เสี่ยตามที่พูดไม่ได้ ข้อตกลงที่เสี่ยเสนอให้หนูก็ไม่เอา เพราะฉะนั้นเสี่ยจะทำอะไรกับของที่เป็นเหมือนหลักประกันนี้ยังไงก็ได้ จริงมั้ยล่ะจ๊ะหนูเกวลินจ๋า...อย่าลืมนะจ๊ะว่าหนูมีเวลาเพียงแค่วันเดียวเท่านั้นที่จะหาเงินมาคืนให้กับเสี่ยน่ะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ” เสี่ยประเดิมพูดพลางหัวเราะออกมาอย่างสะใจและพึงพอใจกับแผนการของนางพุดกรองผู้เป็นน้าของหญิงสาวในครั้งนี้ “พ่อกับน้าฉันเค้าแก่แล้วนะอย่าเอาพวกเค้าไปเลย น้าฉันเค้ายิ่งไม่ค่อยสบายอยู่ ฉันรับปากแล้วยังไงเสี่ยก็ต้องได้เงินแน่นอน โฉนดที่ดินที่อยู่ในมือเสี่ยอีกล่ะ นะ...อย่าเอาพวกเค้าไปเลยนะฉันขอร้อง...” หญิงสาวพูดอ้อนวอนพร้อมกับน้ำตาที่คลอหน่วย “หนูอย่ามาเซ้าซี้ให้มากนักเลยนะ ตราบใดที่ยังไม่ได้เงินหนูก็อย่าหวังว่าพ่อกับน้าจะได้รับอิสระเลย ไป! เดินไปได้แล้ว” เสี่ยประเดิมยังคงยืนกรานไม่ยอมปล่อยตัวนายพงษ์ศักดิ์และนางพุดกรองให้เป็นอิสระอยู่ดี “ปล่อยพ่อกับน้าฉันเถอะ ตอนนี้แม่ฉันนอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลอาการเป็นตายเท่ากัน กำลังใจก็คือพ่อของฉัน ขอร้องเถอะนะ ปล่อยพวกเค้าเถอะ” เกวลินบอกเสียงสะอื้น นางพุดกรองที่ในตอนแรกยังนึกกระหยิ่มยิ้มย่องกับแผนการที่กำลังจะสำเร็จลงในอีกไม่ช้าถึงกับนิ่งอึ้งไปทันที นางหวนนึกถึงภาพของพี่สาวที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นของตัวบ้านเมื่อคืนนี้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็แล่นลิ่วเข้ามาในจิตใจ ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองหลานสาว ครั้นเห็นแววตาที่พยายามพูดจาต่อรองหวังจะช่วยทั้งพ่อและน้าสาวคนนี้ก็ยิ่งเกิดความสำนึกผิดขึ้นมา ก่อนที่จะสลัดศีรษะไปมาเมื่อสมองซีกที่มีแต่ความเคียดแค้นชิงชังในความสุขของครอบครัวพี่สาวเป็นฝ่ายบอกว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันดีแล้ว พี่สาวของนางไม่รู้จักระวังเองถึงได้พลาดตกลงมาเช่นนั้น ดวงตาเศร้าสลดเมื่อครู่จางหายไปก่อนที่จะกลับกลายมาเป็นดวงตาที่เสแสร้งแกล้งทำเพื่อให้หญิงสาวตายใจเหมือนเช่นทุกครั้งที่เคยทำใส่พี่สาวของตนเอง “เกว...เกวหลานน้า...ช่วยน้าด้วยนะลูก...” “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแล้ว เอ้า...เดินไปได้แล้ว” เสี่ยประเดิมสั่งลูกน้องเสียงดัง ลูกน้องเสี่ยผลักร่างของนายพงษ์ศักดิ์และนางพุดกรองให้เดินออกจากบ้านไป แต่เกวลินไม่ยอมแพ้ หญิงสาวเดินตามหลังมาติดๆ ก่อนจะวิ่งมายืนขวางอยู่ด้านหน้าแล้วยกมือกางกั้นไม่ยอมให้พวกของเสี่ยประเดิมพาพ่อกับน้าของเธอออกจากบ้านไป “หยุดนะ! ฉันไม่ให้พวกแกไป” คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายชุดดำยกปืนเล็งมาที่หญิงสาวในทันที “เกว...ลูก!” นายพงษ์ศักดิ์ร้องเรียกชื่อลูกสาวเสียงหลงด้วยความกลัวว่าพวกมันจะยิงเธอ “ออกไป! อย่ามาขวาง” พวกมันพูดขู่ “เกวหลีกไปลูกเดี๋ยวถูกยิง!” นายพงษ์ศักดิ์พูดบอกลูกสาวด้วยความห่วง “หนูเกวลินอย่ามาขวางเสี่ยแบบนี้นะ เดี๋ยวลูกน้องเสี่ยพลาดยิงหนูขึ้นมาจะเป็นเรื่องนะ” เสี่ยประเดิมพูดบอกน้ำเสียงเริ่มจะหงุดหงิด “ฉันขอพูดกับพ่อกับน้าของฉันแป๊บเดียวเท่านั้น!” หญิงสาวบอกจุดประสงค์ที่เธอจะทำ “โว้ยยย ผู้หญิงนี่เรื่องมากจริงเชียว เอ้าเฮ้ย...ให้หนูเกวลินเค้าคุยกับพ่อกับน้าเค้าหน่อย” เสี่ยประเดิมพูดออกมาอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยอมหยุดเพื่อให้หญิงสาวได้ในสิ่งที่ต้องการ “พ่อคะ...อดทนหน่อยนะคะ เกวจะหาเงินมาช่วยพ่อให้ได้ค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาทั้งน้ำตา พร้อมจับมือของผู้เป็นพ่อไว้แน่น ก่อนจะหันไปมองหน้าของนางพุดกรองผู้เป็นน้าแล้วเดินเข้าไปหา หญิงสาวหยุดอยู่ตรงหน้าของน้องสาวแม่ “น้าพุดกรองเห็นแล้วใช่มั้ยว่าการพนันมันทำให้น้าต้องเจอกับสิ่งเลวร้ายอะไรบ้าง แล้วมันก็ส่งผลร้ายมาให้กับครอบครัวของเกว พ่อของเกวต้องมาเกี่ยวในเรื่องร้ายๆ แบบนี้ด้วย และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เกวจะช่วยน้าแล้วนะคะ เกวก็ไม่หวังจะให้น้าพุดกรองให้สัญญากับเกวหรอก ว่าจะเลิกเล่นการพนัน อันนี้มันขึ้นอยู่กับตัวน้าพุดกรองเองว่าจะเลิกหรือว่าจะยังใช้ชีวิตอยู่กับมันต่อ เกวแค่อยากจะบอกว่าที่เกวช่วยเพราะว่าน้าพุดกรองเป็นครอบครัวของเกว น้าเป็นคนในครอบครัวของเราค่ะ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เกวอยากจะบอกน้าเพียงแค่นี้แหละค่ะ” พูดจบหญิงสาวก็หลีกทางให้กับพวกมันทั้งที่ในใจนั้นไม่อยากทำ “เสร็จแล้วใช่มั้ย เอ้า...เดิน” เสี่ยประเดิมถามหญิงสาวก่อนจะสั่งให้คนทั้งคู่ออกเดิน คำพูดของหลานสาวทำให้นางพุดกรองสะอื้นไห้อยู่ในอกกับคำว่าครอบครัว แต่กระนั้นความรู้สึกดังกล่าวมันเพียงแค่ชั่ววูบ นางก็ยังคงหาได้ซาบซึ้งไม่ จะสำนึกหรือสำเหนียกถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปก็หามีไม่แต่อย่างใด ก่อนจะเดินตามลูกน้องของเสี่ยประเดิมออกไปโดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว มีแต่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ยิ้มออกมาด้วยความสาสมใจที่เห็นครอบครัวของพี่สาวแท้ๆ กำลังตกอยู่ในภาวะคับขันและลำบากเพราะการกระทำของตนด้วยความสะใจ นายพงษ์ศักดิ์พยักหน้าให้ลูกสาวแล้วเดินตามแรงผลักของพวกมันขึ้นรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าประตูรั้วบ้านก่อนจะขับออกไป โดยมีสายตาของเกวลินมองตามท้ายรถไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มอยู่เพียงลำพัง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม