BAD RELATIONSHIP 8 โง่

1938 คำ
'ก็ดี แล้วเธอจะรู้ว่า ไอ้คำที่ฉันเคยบอกว่าอย่าให้ฉันเจอเธออีก...มันเป็นยังไง' คำพูดของเตวินทร์ยังคนวนเวียนอยู่ในหัวของฉัน แววตานิ่งเรียบที่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่างยิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจกับการตัดสินใจของตัวเอง LINE พราวดาว : ตกลงมึงลงกับพวกกูใช่ไหม พราวดาว : กูเขียนชื่อมึงลงไปในกลุ่มแล้วนะ Read ฉันก็ได้แต่นั่งนิ่งมองข้อความของพราวที่ส่งเข้ามาด้วยความรู้สึกคิดไม่ตก ซึ่งหลังจากที่แยกจากเตวินทร์ ตอนนั้นฉันก็อารมณ์ค้างโมโหมากเลยโทรบอกพราวดาวว่าจะลงวิชาอาจารย์แซมดี้ด้วย แล้วพอได้สติ...สภาพฉันก็ต้องมาเป็นแบบนี้ไง เชื่อไหมว่านี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันไม่เป็นตัวของตัวเอง ปกติฉันไม่ใช่คนแบบนี้เลย ฉันเป็นคนที่กล้าและพร้อมที่จะท้าทายไปกับทุกอย่าง แต่กับเตวินทร์คนนี้ เขามีแรงอะไรบางอย่างจากสายตาที่ทำให้ฉันรู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย สายตาที่ดูเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความดุดันคู่นั้น... "ให้ตายเถอะ..." ทำไมฉันต้องมาเจอกับเขาอีกครั้งในสถานการณ์แบบนี้ด้วย "วรัญญา" เสียงอาจารย์เอ่ยเรียกชื่อฉันดังขึ้นทำให้ฉันได้สติเงยหน้าไปมอง "คะ" "เข้าใจบทเรียนดีใช่ไหม" อาจารย์มองหน้าถามฉันน้ำเสียงใจดี "ออค่ะ เข้าใจค่ะ" ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไป เพราะเนื้อหาการเรียนการสอนก็ไม่ต่างจากมหาลัยที่ฉันย้ายมาสักเท่าไหร่ มันเป็นสาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เหมือนกัน อาจจะมีบางจุดที่แตกต่างกันไปแต่ก็พอเข้าใจได้ "โอเค ถ้าไม่เข้าใจตรงไหน ถามอาจารย์ได้เลยนะ" อาจารย์ยิ้มบอกฉัน "ค่ะ" ฉันก็ยิ้มตอบกลับอาจารย์ไปตามปกติ ในขณะนั้นเอง... "เด็กเส้นแหละดูทรงแล้ว" นักศึกษาในห้องคนนึงก็พูดขึ้นพร้อมกับเบ้ปากมองมาทางฉันด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน ฉันเองก็ค่อนข้างชินกับอะไรแบบนี้แล้วแหละ ตอนอยู่มหาลัยเดิมก็มักจะมีคนมาอะไรแบบนี้กับฉันอยู่เสมอทั้งที่ฉันก็อยู่ของฉันเฉย ๆ แต่คนพวกนั้นก็ทำตัวน่ารำคาญใส่ฉันไม่หยุดเพียงเพราะฉันเป็นที่สนใจของใครหลายคนโดยที่ฉันเองก็ไม่ได้ชอบนะที่จะตกเป็นที่สนใจของคนอื่น "แค่สีผมก็รู้แล้วปะว่าไม่ธรรดา" หนึ่งในผู้หญิงสองคนนั้นเอ่ยออกมา ซึ่งคำพูดของยัยนั่นทำเอาฉันเผลอแสยะยิ้มออกมาด้วยความตลก แค่เพราะฉันทำผมสีบลอนด์แค่นี้ ก็ดูรู้แล้วเหรอว่าไม่ธรรมดา เหอะ...ตัดสินคนแค่ภายนอกกันเก่งจริง ๆ นะ น่ารำคาญชะมัด "งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ค่ะ" เสียงอาจารย์พูดขึ้นทำให้ฉันที่นั่งอยู่จัดการหยิบชีทเดินออกจากห้องทันทีด้วยความรู้สึกรำคาญสายตากับท่าทีของผู้หญิงในเซคกลุ่มนั้น ฉันจึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงออกมาเพื่อตัดปัญหาดีกว่าเพราะถ้ามันเริ่มไม่โอเค ฉันก็กลัวใจตัวเองเหมือนกัน ก็บอกแล้วไง...ฉันไม่ใช่คนยอมคน ตึก ตึก... ครืดด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้ฉันที่กำลังเดินอยู่ชะงักหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาดู พราวดาว ติ๊ด "ว่า..." (มึงอยู่ไหน) "กำลังลงไปใต้ตึก มีอะไรรึเปล่า" (พวกกูนั่งอยู่โต๊ะเดิม มึงมีเรียนต่อไหม?) "ไม่มี" (ดีเลย งั้นไปหาแซมดี้กัน สะดวกปะ) "ทำไมอะ มีอะไร" (มึงต้องไปลงทะเบียนกับแซมดี้วันนี้ เพราะแซมดี้จะได้เอาชื่อมึงเข้ากลุ่มพวกกู เดี๋ยวเต็ม) "..." ฉันก็หยุดเดินยืนนิ่งอยู่กับที่ไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เข้ามาในใจ ฉันตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมที่จะ... "วาเลน!" ฉันสะดุ้งไปทันทีที่ได้ยินเสียงพราวดังขึ้น ซึ่งมันไม่ได้ดังจากปลายสายโทรศัพท์แต่...มันดังมาจากบริเวณด้านหน้าของฉันต่างหาก ฉันดันมาหยุดตรงที่พวกนั้นนั่งอยู่ไม่ไกลพอดี แล้วสายตาของฉันก็ต้องไปปะทะเข้ากับใครอีกคนที่นั่งแสยะยิ้มเล็กน้อยมองหน้าฉันอยู่ด้วยแววตาที่ฉันไม่ชอบมันเอาซะเลย มันดูร้ายกาจแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูก "มึง! มาดิ" พราวดาวตะโกนบอกฉันออกมาเสียงดังทำให้ฉันตัดสินใจลอบถอนหายใจเดินตรงไปยังเพื่อนตัวเองด้วยท่าทีมั่นใจไม่เกรงกลัวใคร จะกลัวอะไรวาเลน...ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเลย "มึงไม่มีเรียนแล้วแน่ใช่ไหม" พราวถามฉัน "อืม" ฉันก็พยักหน้าตอบกลับไป โดยเพื่อนของพราวก็นั่งกันอยู่ครบเหมือนตอนแรกที่ฉันเจอ "งั้นเราไปหาแซมดี้กันเลยดีปะ" พราวหันไปมองหน้าถามเตวินทร์ที่นั่งอยู่ "อืม" เจ้าของใบหน้าหล่อก็พยักหน้าตอบกลับก่อนที่พวกเขาจะพากันลุกขึ้นเดินไปยังห้องของอาจารย์แซมดี้ที่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ค่อยอยากเรียนกับอาจารย์คนนี้สักเท่าไหร่ ฉันเองก็พอจะได้ยินชื่อเสียงมาบ้างว่าอาจารย์คนนี้ค่อนข้างเป็นอาจารย์ที่นักศึกษาหลายคนไม่ชอบและรำคาญในความขี้อวดขี้โม้ รวมถึงการกดคะแนนของอาจารย์คนนี้ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้นิสัยส่วนตัวที่ได้ยินมาเลย ตึก ตึก... เสียงพวกเราพากันเดินเข้าไปยังลิฟต์หรูในอาคารเรียนโดยที่ลิฟต์มันก็ไม่ได้ใหญ่มากทำให้ด้านในต้องยืนเบียดกันอยู่ไม่น้อย ซึ่งฉันต้องเป็นคนสุดท้ายที่เดินเข้าไปในลิฟต์ที่มีเตวินทร์ยืนอยู่ตรงกลางและฉันต้องเดินเข้าไปเพื่อยืนอยู่ด้านหน้าเขา...แล้วสายตาของเราสองคนก็ปะทะมองหน้ากันอีกครั้ง "วา มึงไม่เข้ามาอะ" พราวพูดขึ้นทำให้ฉันได้สติ "อืม" สองเท้าฉันก็เดินเข้าไปยืนตรงหน้าของคนตัวสูงที่ยืนอยู่ เราใกล้กันมาก...จนฉันได้กลิ่นน้ำหอมจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง น้ำหอมกลิ่นนี้....กลิ่นเดียวกับฉัน "ไอ้เตวินทร์วันนี้มึงฉีดน้ำหอมกลิ่นแรงจังว่ะ" เอเดนพูดขึ้นเพราะพอเข้ามาอยู่ในลิฟต์กลิ่นน้ำหอของฉันกับอีกคนก็กระจายออกมาทั่วลิฟต์ราวกับช่วยกันโปรโมทกลิ่น "..." เตวินทร์ก็ยืนเงียบไม่พูดหรือตอบอะไรกลับไป ติ๊ง! ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ฉันจึงรีบเดินออกจากลิฟต์ทันทีด้วยความเร่งรีบ ก่อนจะได้ยินเสียงแสยะหัวเราะของคนด้านหลังตามมา "หึ" น่ารำคาญหมอนี่ชะมัด จะแสยะหัวเราะไรนักหนา "มึง ทางนี้" พราวดาวบอกก่อนจะพาฉันเดินไปยังห้องของอาจารย์แซมดี้ แอดด ทันทีที่ประตูห้องพักอาจารย์เปิดออก ฉันก็มองเห็นอาจารย์ชายท่านนึงที่ดูท่าทางออกแนวตุ้งติ้งอย่างเห็นได้ชัด นี่นะเหรอ...อาจารย์แซมดี้ที่หลายคนเล่าขานกันมา เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้เจอกับอาจารย์คนนี้ "อาจารย์แซมดี้คะ นี่ค่ะวรัญญาที่หนูบอก" พราวเอ่ยบอกอาจารย์แซมดี้ขึ้น "อืม แล้วทำเรื่องลงทะเบียนรึยัง" ถึงจะดูตุ้งติ้งแต่น้ำเสียงดูดุเอาเรื่องเลยนะ "ยังค่ะ" "ทำไมยังไม่ลงอีก รออะไร" "..." ฉันก็นิ่งอย่างไม่รู้จะตอบยังไงเพราะฉันเองก็ยังลังเลใจอยู่ในตอนแรก "ตอบสิ" "กำลังจะลงค่ะ ตอนแรกว่าจะไม่ลงเทอมนี้" ฉันมองหน้าตอบอาจารย์แซมดี้ไปตามตรงน้ำเสียงไม่คิดกลัว แล้วทำไมฉันต้องกลัวด้วยล่ะ ฉันมีสิทธิ์ที่จะเลือกเรียนได้นี่ ไม่เห็นจะต้องทำเหมือนฉันทำผิดอะไรขนาดนั้นเลย มันยังเหลือเวลาสามารถลงทะเบียนเลทได้อีกเป็นอาทิตย์ "มึง" พราวหันมากระซิบสะกิดฉันทำให้ฉันค่อย ๆ พ่นลมหายใจออกมาเลื่อนสายตาไปอีกทาง "เอาเรื่องนะเนี่ย" ฉันก็นิ่งไม่ตอบ "จะไหวเหรอ เตวินทร์" อาจารย์แซมดี้เงยมองหน้าถามเตวินทร์ที่ยืนอยู่ด้านหลังด้วยรอยยิ้มที่ฉันไม่ชอบเอาซะเลย เข้าใจนักศึกษาหลายคนแล้วแหละ เข้าใจแล้วว่าทำไมหลายคนถึงไม่ชอบ สายตาดูถูกนิสิตตัวเอง...คนแบบนี้มาเป็นอาจารย์ได้ยังไง? "ไปลงทะเบียนภายในสี่โมงเย็น ถ้าเธอลงช้ากว่านั้น...เธอจะไม่ได้เรียนเซคนี้" "ค่ะ" "เชิญ" ทันทีที่อาจารย์พูดจบ ฉันก็เดินออกมาจากห้องพักอาจารย์นั้นทันทีด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ นี่ฉันต้องเรียนกับอาจารย์แบบนี้จริง ๆ เหรอ ให้ตาย! "มึง ใจเย็น" พราวเดินเข้ามาจับแขนบอกฉัน ฉันก็ยืนนิ่งทำหน้าหงุดหงิดออกมาก่อนจะชะงักไปเมื่อสายตาเหลือบไปปะทะเข้ากับใครอีกคนที่มองหน้าฉันอยู่ "ตกลงมึงยังจะลงอยู่ไหมตัวนี้" พราวถาม ซึ่งฉันก็เอาแต่นิ่งมองหน้ากับคนตัวสูงที่แสยะยิ้มมองฉันตอบกลับมาด้วยแววตานิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยความท้าทาย ท้าทายฉันงั้นเหรอ... "ลง" ฉันจัดการตอบกลับพราวไปด้วยสีหน้าจริงจังไม่ยอมแพ้ ก็แค่อาจารย์คนเดียว...ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ไม่ใช่แค่อาจารย์สิ...อดีตของเดิมพันฉันก็เช่นกัน หลังจากที่พูดคุยตกลงกันเสร็จ ฉันก็ลงทะเบียนเรียนตามที่อาจารย์คนนั้นบอกก่อนที่พวกเราจะแยกย้ายกลับคอนโดตัวเองกันไปตามประสา โดยฉันเองก็เดินไปยังด้านหลังตึกคณะที่เป็นลานจอดรถสำหรับนักศึกษาเพื่อเดินตรงไปยังรถของตัวเอง แต่ในขณะนั้นเอง... "กล้าดีนี่" เสียงใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ฉันหันไปมองตามเสียงอย่างรู้ทันทีว่ามันเป็นเสียงของใคร "หมายถึงเรื่องอะไร" ฉันมองหน้าถามคนตัวสูงขึ้นแววตาไม่เกรงกลัว "ที่ยังกล้าลงวิชาแซมดี้" "แล้วทำไมฉันต้องไม่กล้าด้วย" "..." เจ้าของใบหน้าหล่อก็เงียบไม่ตอบเอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่อย่างนั้นจนฉันเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก "จะจ้องอะไรนักหนา ทำไม...คิดถึงวันวานเรื่องเก่า ๆ ของเราเหรอ" อะไรไม่รู้ทำให้ฉันพูดแบบนั้นออกไปโดยไม่ทันคิด ซึ่งคำพูดของฉันทำเอาเตวินทร์ชะงักนิ่ง เดินเข้ามายังฉันที่ยืนอยู่จนฉันเผลอถอยหลังจนติดกระโปรงรถตัวเอง "ผู้หญิงอย่างเธอ...ทำไมฉันต้องคิดถึง" ริมฝีปากหนาเอ่ยตอบกลับมา โดยคำพูดของเขามันเหมือนเข้ามาจี้ที่ใจของฉัน ผู้หญิงอย่างฉันงั้นเหรอ... "ก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้เหรอที่ทำให้นาย...โง่อยู่เป็นเดือน" ฉันแสยะยิ้มพูดออกไป ซึ่งทันทีที่ฉันพูดจบ ดวงตาคมของคนตรงหน้าก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มันคือความแข็งกร้าวดุดันจนฉันเผลอกลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกเริ่มหายใจไม่ออก "โง่งั้นเหรอ..." "...งั้นเธอก็โง่เหมือนกันที่กล้าพูดประโยคนี้กับฉัน" พรึบ! "อ๊ะ จะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉัน...!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม