EP.6 จะรักษารอยยิ้มนี้ไว้ด้วยชีวิต
“แล้วน้องเข้าใจความหมายที่นมซะห์อธิบายหรือเปล่า” เมื่อพี่ชายเอ่ยถามเช่นนั้น เด็กสาวตัวน้อยก็ส่ายหน้าไปมาจนผมหยักศกสีดำขลับเป็นอิสระจากยางรัดผมที่ร่วงหล่นลงสู่พื้น ผมไหมกระจายปิดแก้มป่องที่เริ่มแดงระเรื่อเนื่องจากโดนไอร้อนจากแดดระหว่างเดินทางมายังศูนย์วิจัยแห่งนี้ ชีคราเซมก้มลงหยิบยางมัดผมสีชมพูมีตุ๊กตามิกกี้เมาส์และมินนี่เมาส์ติดอยู่ขึ้นมาก่อนจะจัดการรวบผมของน้องสาวไว้อย่างชำนาญ
“แล้วนมซะห์ไม่ได้อธิบายรึไง” ชีคหนุ่มทอดถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม
“นมซะห์บอกว่าอีกสิบสองสิบสามปีข้างหน้า น้องกับพี่ราเซมจะเข้าใจความหมายนี้เป็นอย่างดีค่ะ” หญิงสาวอธิบายให้พี่ชายฟังทั้งที่เธอเองก็มิได้เข้าใจความนัยของแม่นมเท่าใดนัก ทางด้านชีคราเซมเองก็อดที่จะแปลกใจกับคำบอกกล่าวของเซรินะห์มิได้แต่ก็ไม่ได้ติดใจแต่อย่างใด
“เดี๋ยวเจ้าหน้าที่จะเอานมมาให้เจ้าฮัมซา เซรินะห์อยากดูมั้ยครับ”
“อยากดูค่ะ” น้ำเสียงกระตือรือร้นจนชีคหนุ่มถึงกับอมยิ้ม
เจ้าหน้าที่ถือขวดนมขวดใหญ่เปิดกรงเข้าไปแล้วจัดการป้อนนมลูกสิงโตด้วยขวดนมคล้ายของเด็กทารก เซรินะห์กระโดดเหยงๆ อยากจะขอป้อนบ้าง จนชีคหนุ่มใจอ่อนอนุญาตให้เธอเข้าไปป้อนนมลูกสิงโตได้ โดยที่ชายหนุ่มยืนเฝ้าไม่ห่าง ดูเหมือนเจ้าฮัมซาจะพอใจไม่น้อยที่เซรินะห์เป็นคนป้อนนมให้มัน หลังจากดูดนมเสร็จมันก็เลียเนื้อเลียตัวแล้วพลอยเลียมายังมือเซรินะห์ด้วย เด็กสาวหัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้
“เอาไปเลี้ยงที่บ้านเราได้มั้ยคะ”
“ไม่ได้จ้ะลูกสิงโตยังเล็กมาก” ชีคหนุ่มอธิบาย
“น้องคงเหงาน่าดูถ้าไม่ได้อยู่ใกล้ๆ เจ้าฮัมซา” เด็กหญิงเอ่ยน้ำตาซึม ชีคหนุ่มใจอ่อนยวบเมื่อเห็นใบหน้าผิดหวังของน้องสาว
“เอาไว้ให้เจ้าฮัมซาโตกว่านี้อีกสักหน่อย เราค่อยมารับมันไปอยู่ที่คฤหาสน์กับเราดีมั้ยครับ” ชีคหนุ่มใจอ่อนอีกจนได้ ดวงหน้าที่ร่ำๆ จะร้องไห้เมื่อสักครู่แย้มยิ้มจนแก้มแทบปริ
“เซรินะห์รักพี่ชายที่สุดเลยค่ะ” เซรินะห์กระโดดกอดพี่ชายไว้แน่น
ชีคหนุ่มอมยิ้ม...ในตอนนี้โลกทั้งใบของเซรินะห์มีเพียงแค่เขา ชีคฮาดีน แม่นมพากีซะห์ และคฤหาสน์อัชมาวีย์เท่านั้น แต่อีกไม่กี่ปีต่อจากนี้เมื่อเด็กสาวตัวน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาคงได้แต่หวังว่าเธอจะพบผู้ชายดีๆ สักคนที่รักเธอและพร้อมจะดูแลเธอต่อจากเขาได้เป็นอย่างดี
ชีคหนุ่มทอดมองดวงตากลมโตเป็นประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวสุกสกาวบนท้องฟ้ามืดมิดยามราตรี ดวงดาวทั้งสองดวงประดับลงบนใบหน้าหวานจิ้มลิ้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ จะเป็นเช่นไรหนอหากวันนั้นมาถึง...วันที่เด็กสาวตรงหน้ารับรู้ถึงชาติกำเนิดของตัวเอง แววตาสุกใสคู่นี้จะยังคงเปล่งประกายงดงามเฉกเช่นเวลานี้หรือไม่
ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ภายในสวนกว้าง ลมเย็นพัดแรงจนกิ่งไม้ไหวลู่ไปตามแรงลม เสียงใบไม้เสียดสีสลับกับเสียงนกร้องจิ๊บๆ ก่อนจะโผขึ้นไปบนท้องฟ้าสีครามเมื่อมีผู้มาเยือน ผมสีดำระลงมาปรกใบหน้าคร้ามแดดจนเป็นสีน้ำตาลเข้ม คิ้วหนาขมวดมุ่น ดวงตาสีเขียวมรกตมองร่างเด็กหญิงตัวน้อยก่อนจะปรายยิ้มที่มุมปาก ย่อตัวลงนั่งข้างๆ ร่างบางที่บัดนี้ทอดตัวนอนบนพื้นหญ้าสีเขียวขจี ศีรษะหนุนนอนบนลำตัวของสิงโตสีขาวตัวใหญ่ ข้างกายมีการบ้านวิชาภาษาอังกฤษวางระเกะระกะ ดูเหมือนว่าสาวน้อยจะทำการบ้านจนผล็อยหลับไป ชีคราเซมคว้าสมุดการบ้านขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าเซรินะห์ทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาจึงมิได้ติดใจปล่อยให้สาวน้อยนอนรับลมเย็นภายใต้ร่มไม้ใหญ่ดังเดิม
“พี่ชาย”
แพขนตางอนค่อยๆ กระพือขึ้นช้าๆ เผยดวงตากลมโตสีดำสนิท ริมฝีปากอิ่มสีแดงระเรื่อเบะออกอย่างขัดใจ มือเรียวขยี้เปลือกตาไปมางัวเงียลุกขึ้นนั่ง ชุดกระโปรงสีขาวตัวสวย ผมหยิกหยักศกสีดำสนิทยาวตกลงมาถึงเอวขับให้เด็กหญิงดูน่ารักน่ากอดราวกับเทพธิดาน้อยตกลงมาจากสรวงสวรรค์
“ว่ายังไงแม่หนู” ชีคราเซมขยี้ผมเด็กสาวไปมาด้วยความเอ็นดู
“น้องง่วงนอน”
“อ้าว...ง่วงก็นอนสิพี่ไม่ได้กวนสักหน่อย” ใบหน้าคมเข้มหัวเราะขัน
“ก็น้องอยากกลับเข้าไปนอนในคฤหาสน์นี่นา” เซรินะห์บอกความต้องการ แต่ดูเหมือนพี่ชายจะไม่เข้าใจว่าน้องสาวต้องการจะสื่ออะไร
“อุ้ม” เซรินะห์ยื่นมือทั้งสองข้างไปเบื้องหน้า ดวงตากลมโตออดอ้อนพี่ชายเฉกเช่นทุกครั้ง
“เซรินะห์อายุสิบห้าแล้วนะ ตัวหนักขนาดนี้พี่อุ้มไม่ไหวหรอก”
เด็กหญิงตัวน้อยหน้างออย่างขัดใจ “จะให้อุ้ม พี่ราเซมอุ้มน้องนะคะ” ใบหน้าที่งอจนดูเหมือนจะร้องไห้เมื่อได้รับการขัดใจ ทำให้ชายหนุ่มถึงกับใจอ่อน
ตั้งแต่วันที่เขารับหญิงสาวเข้ามาในชีวิตเรียบง่าย คฤหาสน์ชายโสดก็เปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันย้อนกลับ คฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยความเงียบเหงาตามประสาชายโสดกลับเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะจากเจ้าของเสียงใสผู้เป็นดวงใจของคนทั้งคฤหาสน์ เขาและบิดาเฝ้ามองการเจริญเติบโตของเธอตั้งแต่วันแรกที่เธอหัดนั่ง คลาน และหัดยืน ทุกภาพยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ด วันแรกที่เขาจับมือเซรินะห์เขียนตัวหนังสือ สอนวาดรูป ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน ขี่ม้า จนแทบจะเรียกได้ว่าเธอเป็นที่รักของเขาและทุกๆ คนในคฤหาสน์ แล้วใครล่ะจะกล้าขัดใจใบหน้าหวานๆ ตัดกับสีผิวขาวจนดูเหมือนตุ๊กตามีชีวิตที่ช่างออดอ้อนคนนี้ได้
นับวันเธอยิ่งเติบโตเป็นสาวสะพรั่งจนเขารู้สึกใจหาย ไม่มีเด็กตัวเล็กๆ ที่หัดพูดคำว่าท่านพ่อ และพี่ชาย คำสองคำที่ทำให้หัวใจเหี่ยวเฉาของชายต่างวัยกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ทว่าทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปเซรินะห์เริ่มโตเป็นสาว แม้เธอจะมีอายุแค่เพียงสิบห้าปีแต่เขาปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเธอจะกลายเป็นสาวสวยจนเขาและบิดาต้องคอยถือปืนไล่ยิงหนุ่มๆ ที่มาตามจีบไม่หวาดไม่ไหว
“นะคะพี่ชาย” น้ำเสียงหวานทำให้ชีคหนุ่มใจอ่อน เจ้าฮัมซาลุกขึ้นนั่งยื่นขาหน้าทั้งสองมายังเบื้องหน้ายืดตัวออกเพื่อบิดขี้เกียจ ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เจ้านายสาวจ้องมองทั้งสองคุยกันไม่ห่าง