EP.5 จะรักษารอยยิ้มนี้ไว้ด้วยชีวิต

1220 คำ
EP.5 จะรักษารอยยิ้มนี้ไว้ด้วยชีวิต “เดี๋ยวก่อนค่ะพี่ราเซม” เด็กสาวตัวน้อยขัดขึ้นชีคหนุ่มจึงปล่อยเธอลง เมื่อเท้าเล็กๆ สัมผัสลงบนพื้นเธอก็วิ่งกลับไปหาบิดาทันที ยื่นจมูกเล็กๆ ไปหอมแก้มที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของบิดาฟอดใหญ่ “เดี๋ยวหนูกลับมานะคะ” “ครับ” ชีคฮาดีนหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยเช่นกันก่อนจะยิ้มจนตาเล็กหยี ใบหน้าโหดที่คนทั้งรัฐต่างกริ่งเกรงบัดนี้กลับอาบไปด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมใจ “ร้ายนักนะเรา” ชีคราเซมอุ้มน้องสาวขึ้นมาหอมแก้มบ้าง เซรินะห์หัวเราะคิกกอดพี่ชายไว้แน่น ใบหน้าของชีคหนุ่มก็มิได้แตกต่างไปจากใบหน้าของชีคฮาดีนผู้เป็นบิดาออกจะมากกว่าด้วยซ้ำเมื่อทั้งตาทั้งริมฝีปากได้รูปแย้มยิ้มตลอดเวลา “พี่ชายจะให้น้องดูอะไรเหรอคะ” “เดี๋ยวไปถึง น้องก็รู้” ชีคราเซมมองหน้าเด็กสาวตัวน้อยแล้วก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าที่แสดงชัดว่าอยากรู้เอามากๆ ว่าตนจะได้พบกับสิ่งใด ชีคหนุ่มอุ้มเด็กน้อยเข้าไปในศูนย์วิจัย เพราะยัยตัวน้อยหน้าบูดบึ้งไม่ยอมเดินเองร้องจะให้อุ้มท่าเดียว แต่เพราะความขี้อ้อนช่างพูดนี่ล่ะที่ทำให้เขาทั้งรักทั้งหวง จนแทบไม่กล้าไปไหนไกลๆ เพราะกลัวจะอดคิดถึงเซรินะห์ไม่ได้ “เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย” ชีคหนุ่มเอ่ยถามเจ้าหน้าที่ “เรียบร้อยแล้วครับท่านชีค หลังจากที่ก่อนหน้านี้ขู่คำรามไม่ยอมหยุด ยิ่งตอนที่ท่านชีคกลับออกไปใครก็เข้าใกล้มันไม่ได้เลย กว่าจะสงบลงได้ก็เล่นเอาได้แผลกันไปหลายคน” เจ้าหน้าที่รายงานถึงเจ้าสิงโตตัวน้อยที่แผลงฤทธิ์เสียจนเจ้าหน้าที่ทั้งหลายถึงกับกุมขมับ “เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูเอง” ชายหนุ่มเดินเข้าไปในศูนย์วิจัยที่สร้างขึ้นเพื่อวิจัยและคุ้มครองสัตว์หายาก อีกทั้งยังเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์เพื่อนำกลับคืนสู่ป่าใหญ่ รวมทั้งสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายจากการล่า หรือทำร้ายกันเอง ชายหนุ่มอุ้มเซรินะห์มาหยุดอยู่ที่กรงขังสัตว์ขนาดกลาง สิงโตสีขาวเพศผู้นอนหันหลังให้กับผู้มาเยือน ท้องอ้วนๆ ของมันพองขึ้นพองลงด้วยจังหวะสม่ำเสมอซึ่งเขาแน่ใจว่ามันคงหลับเพราะความเหนื่อยล้า “ว้าว” เสียงใสดังขึ้น ดวงตาเป็นประกายจ้องมองเจ้าสัตว์ตัวเล็กขนปุกปุยสีขาวราวกับตุ๊กตา “แมว” เด็กสาวร้องเสียงดังจนองครักษ์อาติฟและเจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยอดที่จะหัวเราะไปกับความไร้เดียงสาไม่ได้ “น้องอยากอุ้มแมว” เด็กสาวบอกความต้องการออกไปตามประสาซื่อด้วยเข้าใจว่าเจ้าสิ่งที่นอนอยู่นั้นเป็นแมวจริงๆ “ไม่ใช่แมวครับ นั่นนะลูกสิงโตขาว” ชีคหนุ่มอธิบาย “สิงโตขาว” เด็กสาวทวนคำของชายหนุ่ม ดวงตายังคงจับจ้องมองสิงโตจนไม่กะพริบ “น้องอุ้มได้มั้ยคะ” เจ้าของเสียงใสมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาออดอ้อน “ไม่ได้ สิงโตเป็นสัตว์ป่าดุร้าย ถึงแม้ว่าเจ้าสิงโตตัวนี้จะเป็นเพียงแค่ลูกสิงโต ทว่าถ้าเราไม่คุ้นกับมัน มันก็จะตะปบเราได้” ชีคหนุ่มอธิบายให้น้องสาวฟัง จึงไม่เห็นว่าเจ้าสิงโตตัวน้อยขยับตัวตื่นแล้ว เพียงแต่ยังนอนนิ่งอยู่ดังเดิม “ท่านชีคครับ” เจ้าหน้าที่นายหนึ่งเอ่ยเรียก เขาจึงหันไปคุยกับเจ้าหน้าที่โดยปล่อยให้เซรินะห์ยืนมองสิงโตอยู่ด้านหลังเพียงลำพัง “เจ้าสิงโตน้อย” เซรินะห์เรียกสิงโตเบาๆ เมื่อเห็นว่ามันตื่นแล้ว อีกทั้งมันกำลังจ้องมองมาทางเธอด้วยความสงสัย ต่างฝ่ายต่างสบตากันสุดท้ายเจ้าสิงโตตัวเล็กก็ค่อยๆ ลุกขึ้นเดินมายังลูกกรงใกล้เด็กสาว มองสำรวจอีกครั้งอย่างระวังภัย เซรินะห์เอื้อมมือเข้าไปลูบหัวลูกสิงโต มันตกใจถอยหลังกลับจนชิดผนังอีกด้าน เธอหัวเราะเบาๆ มองไปยังลูกสิงโตแทบไม่กะพริบตา “มานี่เร็ว มาเล่นด้วยกันนะ ฉันไม่ทำอะไรแกหรอก” สิงโตตัวน้อยค่อยๆ เดินเข้ามาหาเด็กสาวอีกครั้ง เซรินะห์ลูบหัวมันเบาๆ อย่างอ่อนโยน “เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะฮัมซา” เซรินะห์ตั้งชื่อให้มันเสร็จสรรพ สิงโตตัวน้อยเริ่มเคลิ้มกับสัมผัสของสาวน้อยจนมันเริ่มนอนหมอบลง เซรินะห์เลื่อนมือไปลูบคอของมัน ได้ผลมันนอนหงายให้เด็กสาวเกาคอด้วยท่วงท่าสบาย “ท่านชีค” องครักษ์อาติฟตะลึงจนตาค้างเมื่อเห็นภาพตรงหน้า “มีอะไรหรืออาติฟ” ชีคหนุ่มซึ่งกำลังตรวจดูเอกสารจากเจ้าหน้าที่นายหนึ่งเงยหน้ามององครักษ์คนสนิทเพียงครู่เดียวก่อนจะหันกลับไปสนใจเอกสารในแฟ้มอีกครั้ง “คุณหนูเซรินะห์ กับสิงโต...สิงโตมะมัน...” ยังไม่ทันสิ้นสุดคำพูดชีคหนุ่มก็ทิ้งแฟ้มเอกสารหันกลับไปหาน้องสาวทันที ด้วยลืมไปว่าปล่อยน้องสาวตัวน้อยไว้หน้ากรงสิงโต ถึงแม้จะเป็นสิงโตตัวเล็กแต่ก็เคยงับเขาจนเลือดซิบมาแล้ว ทว่าภาพที่เขาเห็นกลับทำให้เขาต้องตะลึง “เซรินะห์” เขาเอ่ยเรียกน้องสาวแผ่วเบา เด็กสาวผินใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มมาทางพี่ชาย “พี่ชายดูเจ้าฮัมซาสิคะ น้องกับฮัมซาเป็นเพื่อนกันแล้วค่ะ” เด็กหญิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสกังวาน ดวงตาสุกใสพราวระยับ ทางด้านเจ้าสิงโตก็หงายท้องหมดสภาพสิงโตน้อยจอมแผลงฤทธิ์ไปโดยปริยาย “ไหนน้องตั้งชื่อมันว่าอะไรนะ” ชีคหนุ่มคุกเข่าลงข้างเด็กหญิงตัวน้อย ดึงร่างบางเข้ามากอดอย่างแสนรัก ไม่อยากจะคิดเลยว่าผลจากความประมาทของเขาเมื่อสักครู่ หากเกิดอันตรายกับเซรินะห์แม้แต่ปลายเล็บเขาจะทำอย่างไร เขาคงโทษตัวเองไปตลอดชีวิต “ฮัมซาค่ะ นมซะห์เคยบอกว่าพี่ชายชื่อราเซมแปลว่า ราชสีห์ แล้วราชสีห์ก็แปลว่าสิงโต น้องเลยตั้งชื่อสิงโตตัวนี้ว่า ฮัมซา จะได้มีความหมายเหมือนชื่อของพี่ชายด้วยยังไงล่ะคะ” เซรินะห์ยิ้มก่อนจะหันไปมองเจ้าสิงโตที่กำลังนั่งมองทั้งสองคุยกันตาแป๋ว “แล้วน้องรู้หรือเปล่า ว่าเซรินะห์แปลว่าอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยถามหญิงสาวตัวน้อย ยกมือขึ้นบีบจมูกกระจิริดด้วยความเอ็นดู “นมซะห์บอกว่าชื่อของน้องแปลว่าดวงจันทร์ค่ะ นมซะห์ยังบอกอีกว่าน้องเป็นดวงจันทร์ที่ให้แสงสว่างแก่ทะเลทรายยามค่ำคืน ให้กลับมามีสีเหลืองทองอีกครั้งหลังจากพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว” เด็กน้อยพูดเจื้อยแจ้วราวกับนกแก้วนกขุนทอง เธอยืดอกขึ้นด้วยความภาคภูมิใจในความหมายของชื่อตนเองเสียจนดูน่าขบขัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม