ขัดใจ

1876 คำ
“ปลื้ม มึงจะรีบไปไหนวะ?” ฟร้องซ์เอ่ยถามปลาบปลื้มขึ้น เพราะเมื่อเห็นว่าจบคาบเรียนปุ๊บเขาก็รีบพุ่งออกจากห้องเรียนทันที ด้วยความร้อนรนราวกับจะรีบออกไปไหน “ไปหาอัญชัน”เขาตะโกนตอบ “เมื่อไหร่มึงจะบอกชอบมันสักทีวะ” พอเห็นว่าเพื่อนตัวเองแอบชอบมาตั้งแต่สมัยเรียนก็อดที่จะอยากรู้ไม่ได้ “เกลียดขี้หน้ากูขนาดนั้น บอกชอบไปมีหวังกูแห้วแน่ๆ” “แล้วเลิกใช้แผนยืมมือคนอื่นหรือยัง” ‘อัญชัน...’ ปลาบปลื้มวิ่งหน้าตั้งมาหาอัญชัน พร้อมกับยื่นดอกกุหลาบสีขาวให้เธอ ‘อะไร?’ เธอถามพร้อมกับอมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะรีบปั้นหน้านิ่งดังเดิม ‘เอ่อ...มีคนฝากมาให้’ ปลาบปลื้มกล่าว พร้อมกับยื่นดอกกุหลาบให้เธอ ‘ฉันไม่ชอบ’ รอยยิ้มของเธอหุบลงทันทีเมื่อเขาบอกว่ามีคนฝากมาให้ ‘เออ...ฉันก็ว่าแล้ว...โคตรเชยเลย...ฮ่าๆๆ ...คิดได้ไงวะว่าเอาดอกไม้ให้สาว’ ปลาบปลื้มพูดแก้เก้อ แถมยังทำทีเห็นด้วยกับเธออีกด้วย ‘อัญชัน...’ ‘อะไร!!’ ‘เอ่อ...มีคนเอาขนมมาฝากเธอ’ ยื่นขนมร้านประจำให้เธอ ‘ไม่เอา ไม่กิน แกเอาไปกินเถอะ’ ‘ก็คิดเอาไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องไม่ชอบ งั้นต่อไปฉันจะไปบอกมันนะ’ ‘ฝากบอกด้วย ว่าต่อไปไม่ต้องเอาอะไรมาให้แล้ว รำคาญ!!’ ภาพสมัยเรียนแวบเข้ามาในหัว ทุกครั้งที่เขาเอาของไปให้แล้วอ้างว่าเป็นคนอื่น อัญชันก็มักจะไม่รับ แถมตอนนั้นเขาก็ไม่กล้าพอที่จะบอกว่าตัวเองนั่นแหละ ที่เป็นเจ้าของทุกอย่างที่เอาไปให้เธอ มาถึงตอนนี้ก็ไม่กล้าเหมือนเดิม กลัวว่าถ้าบอกออกไป จากที่เกลียดกันอยู่แล้ว ต้องเกลียดยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ แล้วแบบนี้ถ้าห่างกัน ไม่เจอหน้ากัน เขาจะอยู่ยังไง “กูจะทำอะไรก็เรื่องของกู อย่าเสือก...” เขาตอบเพื่อนก่อนจะรีบเดินไปที่รถทันที จากนั้นก็ขับรถไปรับเธอที่ตึกบริหาร จอดรอไม่นานเธอก็เดินออกมาพร้อมกับน้ำค้าง ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเดินคู่กันออกมา มันทำให้ปลาบปลื้มเผลอยิ้มตามไปด้วย ผู้หญิงอะไรโคตรน่ารัก “น้ำค้าง” ปลาบปลื้มเลื่อนกระจกรถลงแล้วตะโกนทักทายน้ำค้างด้วยใบหน้าระรื่น ส่วนน้ำค้างก็ยิ้มตอบมาเช่นกัน แต่เพียงไม่นานก็ทำให้ทั้งคู่แทบหุบยิ้ม “น้ำค้าง!!” เสียงดุดันของไทม์เอ่ยเรียกเธอขึ้น พร้อมกับดวงตาคมกริบตวัดมองไปยังปลาบปลื้มที่ยิ้มให้คนของเขาอย่างไม่เป็นมิตร “คะ...คุณไทม์...” น้ำค้างพูดเสียงตะกุกตะกัก แอบตกใจเล็กน้อยที่เขามารอรับเธอ “อย่ามาเสือกยิ้มให้คนของกู!!” ไทม์เอ่ยบอกแล้วกระชากแขนของน้ำค้างให้ตามเขาไปขึ้นรถ “อะไรวะ?” ปลาบปลื้มขมวดคิ้วมุ่นกับเหตุการณ์ที่ตัวเองเจอ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก “แล้วจะยืนบื้ออีกนานไหม หิวข้าว!!” เขาตะโกนเรียกอัญชันที่กำลังยืนมองภาพเพื่อนรักที่ถูกดึงออกไปอย่างแรง “ไอ้ปลื้ม แกว่าสองคนนั้นแปลกๆไหม น้ำค้างจะเป็นอะไรไหม ฉันเป็นห่วงมัน” เธอถามด้วยสีหน้าที่ดูเป็นกังวล “ไปยุ่งอะไรกับเขาล่ะ ท่าทางอย่างกะผัวหวงเมีย หวงขนาดนั้นไม่กล้าทำอะไรหรอก เชื่อฉัน” เขาเอ่ยบอกอย่างคนที่ดูคนออก และอีกนัยคือต้องการให้เธอหมดห่วง “ก็เพราะเป็นคำพูดแกไงเลยเชื่อไม่ค่อยได้ แล้วเมื่อไหร่จะเอารถตัวเองมาใช้สักที เนียนเลยนะ ถ้าจะเอาไปใช้บ่อยขนาดนี้ซื้อต่อเลยสิ” “รถมือสอง ใครจะอยากซื้อ...”ตีหน้ามึนตอบ “ก็แกเอาไปใช้เป็นของตัวเองเลยนี่” “จะไปห้างใช่ป้ะ ไปเลยไหม”เขาตัดบทเพราะไม่อยากเถียง “อื้ม...” สิ้นคำตอบของเธอ เขาก็ขับรถไปยังห้างสรรพสินค้าทันที “ตัวไหนดี” คนตัวเล็กเอ่ยถามขอความคิดเห็น พร้อมกับชูเดรสสีแดงและสีขาวให้ปลาบปลื้มช่วยเลือก “จะใส่ไปไหน?” เขาถามเธอกลับเสียงเรียบ “ก็...งานเลี้ยงรุ่นโรงเรียนเก่าไง...แกอย่าบอกนะว่าไม่ได้อ่านไลน์กลุ่ม”เธอเลิกคิ้วมอง “อ้อ...เอ้อ...อ่านดิ...ใครจะไม่อ่าน” เขาตอบส่งๆ ไป ทำทีเป็นตามข่าว ทันเหตุการณ์ เพราะกลัวจะเสียหน้าหากตอบว่าไม่รู้ “แล้วจะตอบได้ยัง ว่าสีไหน” “ขาว” “ทำไมต้องสีขาว?” ปลาบปลื้มขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจผู้หญิงเลยทำไมต้องคอยถามเหตุผล พอถามแล้วตอบไม่ถูกใจก็มางอนอีก “เพราะสีแดงมันโป๊” “แล้วแกไม่ไปซื้อชุดของแกล่ะ” “ไม่เอาอ่ะ ที่บ้านชุดเยอะแยะ จะไปซื้อให้เปลืองเงินเพื่อ?” “จิ๊ ก็มันใส่ไปแล้วไง” “ใส่แล้ว? แล้วใส่อีกไม่ได้หรอ บ้านก็มีเครื่องซักผ้า” เขาถามอย่างไม่เข้าใจ “ก็มี แต่เคยใส่แล้วไง ไม่ชอบใส่ซ้ำ” “อะไรของเธอวะ ฉันไม่เข้าใจ แล้วนี่เลือกเสร็จหรือยัง ทำไมต้องเลือกนานขนาดนั้นด้วย” “มาแล้วบ่นทีหลังไม่ต้องมานะ” พูดจบก็เดินถือชุดสองสามชุดไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ “ปลื้ม!!” แต่พอเดินไปถึง เธอก็รั้งเขาที่กำลังจะเดินออกไปนอกร้านไว้เสียก่อน “อะไร อย่าบอกนะว่าจะให้ถือให้” “เปล่า...”เอ่ยตอบตาแป๋ว “แล้วอะไร?” เลิกคิ้วมองใบหน้าสวยที่ยิ้มแห้งๆ บนใบหน้า “ขอตังหน่อย” มือเล็กแบมือพร้อมกระดิกนิ้วเบาๆ จากนั้นก็ยิ้มกว้างๆ หวังให้เขาใจอ่อนจ่ายให้ “แล้วตังเธอล่ะ?” “ฉันเอาไปซื้อของหมดแล้ว น่านะ จ่ายให้หน่อย” ทีอย่างนี้มาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน เมื่อกี้ยังแทบจะกินหัวเขาอยู่เลย “จิ๊” แม้จะทำหน้าไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็เดินไปที่เคาน์เตอร์และหยิบบัตรเครดิตในกระเป๋ายื่นให้พนักงาน “ขอบใจ...” “คิดดอกนะบอกไว้ก่อน” “อะไร ยืมแค่นี้คิดดอกเลยหรอ ทำไมงกจังวะ” “โห...3หมื่น!! ชุดไม่กี่ชุด 3หมื่นเลยหรอ เห้ย...ทำไมเธอใช้ของแพงจังอัญชัน” ปลาบปลื้มบ่นเมื่อมองใบเสร็จในมือ ที่พนักงานส่งคืนมา พร้อมกับบัตรเครดิตของเขา “เอ้า ก็ของแบรนด์ไง...” “แบรนด์แล้วบินได้หรอ ชุดเล็กๆ อย่างกับเศษผ้า ราคาเป็นหมื่น นี่เธอเอาอะไรคิดเนี้ย หัดใช้เงินประหยัดๆ บ้างนะ” เธอทำหูทวนลมที่เขาบ่นเธออย่างกับพ่อ ในใจก็คิดว่าบ้านออกจะรวยทำไมถึงได้ใช้เงินประหยัดด้วยไม่เข้าใจ “ปลื้ม...ขอเงินหน่อยดิ อยากกินไอติมอ่า” นอกจากจะไม่สนใจที่เขาพูดแล้วยังมีน่ามาขอเงินเขาเพิ่มอีก “สลดบ้างไหมเนี้ย ด่าไปตั้งเยอะ” “เร็วๆ เดี๋ยวคิวจะยาว” เธอเร่งเร้าเขา มือก็แบรอเงินจากเขาอย่างกดดัน “เท่าไหร่” “399” “เห้ย ไอติมอะไรทำไมแพงจังอ่า” “ก็วัตถุดิบอย่างดีไง” “ไม่ต้องกิน เดี๋ยวพาไปกินไอติมกะทิหน้าห้าง” “ไม่เอา ฉันจะกินที่นี่” “แต่เงินฉัน!!” “ฉันยืม ฉันไม่ได้จะเอาไปแล้วไม่คืนสักหน่อย” เธอเริ่มมีอารมณ์ที่ถูกขัดใจ “แต่มันเป็นเงินฉัน ฉันมีสิทธิ์จะให้ยืมหรือไม่ให้ยืมก็ได้” “จิ๊!” เมื่อเจ้าตัวไม่ยอมให้ยืม เธอก็เดินตึงตังออกจากร้านไปทันที เดินไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเมื่อย มือเล็กทั้งสองข้างเริ่มล้าเพราะถุงในมือมันค่อนข้างหนัก พอปลาบปลื้มเห็นว่าเธอเริ่มที่จะถือไม่ไหว บวกกับอาการงอนก็เลยเดินไปดึงถุงมาถือเอาไว้แทน จากนั้นก็เดินนำลิ่วๆ เข้าร้านอาหารญี่ปุ่นไปทันที “อยากกินชาบู ไม่อยากกินอาหารญี่ปุ่น” เธอเอ่ยขึ้นโดยที่ไม่ได้มองหน้าเขา “มีเงินหรือไง?” “ฉันจะฟ้องมี๊” “ฉันก็จะฟ้องอาซันเหมือนกันว่าเธอใช้เงินเปลือง” “หึ่ย! ฝากไว้ก่อนเถอะ” ร่างเล็กกัดฟันพูดด้วยความหงุดหงิด จากนั้นก็ยกมือขึ้นกอดอกอย่างกับเด็กเอาแต่ใจ “จะกินอะไร เลือกมา” เขาดันเมนูอาหารมาให้เธอ “ไม่!! อยากกินก็กินไปคนเดียว ฉันบอกแล้วไงว่าไม่อยากกินอาหารญี่ปุ่น” 20นาทีต่อมา... “พี่คะ ขอเทมปุระเพิ่มอีกจานค่ะ” เสียงใสเอ่ยเรียกพนักงานให้เอาเทมปุระมาอีกชุด หลังจากที่จานแรกเธอจัดการกินเรียบคนเดียวไม่ได้แบ่งคนตรงข้ามเลย “ไหนบอกไม่กิน” “ฉันหิวหรอกย่ะ” “อืม คงหิวจริงๆ แหละ กินคนเดียวเกือบหมดโต๊ะแน่ะ” เขากล่าวประชดประชันไม่จริงจังมากนัก นึกขำอยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องเก็บอาการก่อน “ขอชาพีชเพิ่มด้วยครับ” เขาหันไปสั่งพนักงานให้มาเติมน้ำให้เมื่อเห็นว่าน้ำเมนูโปรดของเธอมันหมดแล้ว “จะรับอะไรเพิ่มอีกไหมคะ”พนักงานเอ่ยถาม “จะเอาอะไรอีกไหม?” เขาไม่ได้ตอบพนักงานไป แต่กลับมองหน้าอัญชันแล้วถามเธอแทน “เอา เกี๊ยวซ่าชีสค่ะ แล้วก็ไก่ทอดคาราอะเกะ” “ค่ะ สักครู่นะคะ” “เอ่อ ขอโคโรเกะชีสด้วยนะครับ” เขาสั่งอีกอย่างให้อัญชัน เพราะเห็นว่าเป็นอีกเมนูที่เธอชอบ แน่นอนว่าเขาใส่ใจเธอทุกรายละเอียด จนรู้ว่าเธอชอบและไม่ชอบอะไร จะมีก็แต่เธอนั่นแหละที่ไม่เคยรู้เลยว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร “ค่ะ งั้นรอสักครู่นะคะ” พออาหารที่สั่งรอบที่2มาเสิร์ฟจนครบ อัญชันและปลาบปลื้มก็ลงมือทานกันอย่างเอร็ดอร่อย จากที่ตอนแรกต่อต้านไม่ยอมกิน กลายเป็นว่าตอนนี้กินอย่างมีความสุขเสียอย่างนั้น หลังจากกินเสร็จ เขาก็จ่ายเงินและพาเธอเดินออกจากร้าน โดยมีเขาเป็นคนถือถุงเสื้อผ้าของเธออยู่เช่นเดิม ปล่อยให้เจ้าตัวเดินตัวปลิวอย่างมีความสุขไป “ปลื้ม!!” เดินนำไปสักพักเธอก็หันกลับมาเรียกเขา ที่ตอนนี้เดินตามหลังเธออยู่ “อะไร?” จ้องหน้าเธอนิ่ง ยิ้มแบบนี้มันต้องหาเรื่องเสียเงินอีกแน่ๆ ปลาบปลื้มคิดในใจ “ขอร้องรอบสุดท้ายแล้วจะไม่กวนอีก” “อะไร” “เอ่อ...เครื่องสำอางลดราคา...แล้ววันนี้มันวันสุดท้ายแล้วด้วย...ขอเงินหน่อยดิ...น้า...พลีส~” พูดพร้อมกับทำตาปริบๆ แล้วท่าทีออดอ้อนนั่นแหละมันทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวไม่เป็นท่า “นะปลื้มนะ” “...มะ...” “ได้ไหมปลื้มสุดหล่อ” ความฉิบหายมาเยือน กะจะอ้าปากห้ามแล้ว ไอ้เราก็บ้ายอด้วยไง ชมเสียงหวานขนาดนี้ก็ต้องยอมแล้วไหม “ให้งบ3พัน” “เย้!!” แล้วเธอก็วิ่งปรู๊ดเข้าช็อปเครื่องสำอางไปด้วยท่าทีกระดี๊กระด๊า “ไอ้บ้ายอเอ้ย” เธอพูดกับตัวเองเบาๆ หลังจากที่วิ่งห่างจากเขาไปแล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม