๑๙
"...ผมไม่มี เท่าที่ให้ไปผมให้ไปทั้งหมดแล้ว"
"คุณให้ฉันสิบล้าน ให้ยัยฟ้าสองล้าน แล้วแปดล้านของคุณล่ะคุณเสกสรรค์ เงินแปดล้านของคุณหายไปไหน เดี๋ยวนะ หรือว่าคุณไปติดผู้หญิงที่ไหนอีก หรือว่าคุณเอาเงินพวกนั้นไปให้อีนังน้ำ คุณบอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะว่าเงินของคุณมันหมดไปกับอะไร"
"หยุดโวยวายได้แล้วคุณเฟื่อง หยุดโวยวายก่อนที่ผมจะหมดความอดทนกับคุณ!"
"นี่คุณตะคอกฉันงั้นเหรอ คุณตะคอกใส่ฉันงั้นเหรอ!"
ปึกก~
กำปั้นเล็กฟาดลงที่แผงอกของสามีอย่างแรง ยิ่งคิดไปต่างๆ นานาว่าเงินแปดล้านที่เสกสรรค์มีอาจจะตกไปเป็นของคนอื่นแล้ว อารมณ์เดือดมันก็ยิ่งรุนแรงมากกว่าเก่า
"เงินอยู่ไหน ฉันถามว่าเงินคุณอยู่ไหน"
"ผมบอกว่าเงินหมดแล้ว แต่ไม่ได้หมดไปเพราะการพนันแบบคุณก็แล้วกัน!" ความอดทนที่หมดลงทำให้เสกสรรค์ตะเบ็งเสียงออกมาอย่างสุดจะกลั้น ทุกวันนี้เขาเองก็เครียดหนัก หลังจากที่พาคนที่เขาเคยเรียกว่าเป็นลูกสาวคนเล็กไปส่งให้กับเจ้าของเงินยี่สิบล้าน ความรู้สึกผิดมันถาโถมเข้ามาใส่อย่างจัง และแน่นอนว่า เขาไม่ได้มีอารมณ์ที่จะหวนกลับเข้าไปในบ่อนได้ใหม่ มันรู้สึกผิดในใจทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดของเด็กสาวที่เขาเคยเลี้ยงดู เธอถามว่าความรักความเอ็นดู หรือแม้แต่ความผูกพันของเขาและภรรยาที่น้ำใจเคยเรียกว่าพ่อแม่ไม่เคยมีให้เธอเลยเหรอ ถึงสามารถใช้ตัวเธอแลกกับเงินในจำนวนที่เขาและภรรยาต้องการได้อย่างง่ายดาย
"แล้วคุณก็ไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าผมจะนำเงินนั้นไปให้น้ำ เพราะนับตั้งแต่วันนั้นผมไม่เคยติดต่อลูกได้ น้ำไม่เคยโทรกลับมา ตอกย้ำว่าคำที่น้ำพูดว่าพวกเราได้ตายจากกันไปแล้วมันคือเรื่องจริง" น้ำตาเแห่งความอัดอั้นไหลพราก เปื่องรัตน์คือภรรยาที่ร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วยกันมานาน ปลายฟ้าคือลูกสาวแท้ๆ สายเลือดเดียวกัน มันจริงอยู่หากให้เลือกระหว่างลูกในไส้กับลูกของคนอื่นที่เก็บมาเลี้ยง ปลายฟ้าอาจจะสำคัญกว่า แต่ไม่ใช่ว่าเขาไม่รักคนที่เลี้ยงดูอย่างกับลูกเช่นน้ำใจ และเป็นเพราะว่าลึกๆ แล้วเขารักและห่วง ความรู้สึกทุกข์อยู่ในใจมันถึงไม่เคยหายไปเลย
"เงินอยู่ไหน เงินแปดล้านของคุณอยู่ไหน"
"ผมใช้ไถ่บ้านและใช้หนี้นอกระบบไปหมดแล้ว มันก็แทบจะไม่พอแล้วด้วยซ้ำแล้วแบบนี้จะให้มันเหลืออะไร"
"เฮงซวย ไอ้ผัวเฮงซวย แทนที่จะเหลือเงินไว้ให้ฉันนำไปต่อทุนบ้าง โง่จริงเลย!" คำพูดร้ายกาจที่หลุดออกมาจากผู้ที่เป็นภรรยามันยิ่งทำให้เสกสรรค์แทบจะหมดแรง มือหนายกขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆ ทั้งที่อยากต่อว่าว่าเงินในส่วนจำนวนของเขาเขาใช้มันอย่างมีประโยชน์ ไม่เหมือนเงินส่วนที่อยู่กับเธอซึ่งหมดไปในพริบตาอย่างไร้ความหมาย และที่ทำให้รู้สึกแย่ไปกว่านั้น เงินยี่สิบล้านภายในเวลาหนึ่งเดือน มันหมดไปภายในพริบตา
"พ่อแม่ อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันพอดีเลย ฟ้าจะมาขอเงินเพิ่ม คางที่ทำมันเบี้ยวอ่ะแม่ มันเหมือนปิศาจ ฟ้าอยากทำคางใหม่ ขอเพิ่มหนึ่งล้านได้ไหมแม่ พ่อก็ได้แม่ก็ได้"
"อีลูกเวร แกมันก็คอยแต่ผลาญเงินฉัน พันเดียวฉันก็ไม่มีให้แกหรอกนังฟ้า"
"มะ แม่ ทำไมแม่พูดแบบนี้ล่ะ แม่ฉันมีเงินเป็นสิบล้านเลยไง ฟ้าขอแค่ล้านเดียวทำไมถึงไม่ยอมให้"
"ไม่ให้เพราะฉันไม่มีไง หมดแล้ว หมดตัวทั้งฉันและแกและพ่อแกเลย!"
"อ้าวแม่ แล้วคางฟ้าล่ะ มันเบี้ยวนะ ฟ้าต้องทำใหม่..." เสกสรรค์มองภรรยาและลูกสาวที่ตอบโต้กัน ถึงกับต้องทิ้งสายตาลงต่ำ มองพื้นด้วยความทุกข์ใจ เคยคิดว่าหากได้เงินก้อนนี้ชีวิตจะต้องดีขึ้น กลับกลายเป็นว่าระยะเวลาเพียงหนึ่งเดือน ความแย่กลับมาเยือนเหมือนเดิม
"ว้าว อันนี้พี่ปุ้ยทำเองเลยเหรอคะ" หญิงสาวในชุดเสื้อยืดลายเก๋สีใบตองอ่อนกับกางเกงขาสั้นสีขาวสำหรับใส่อยู่บ้านเดินเข้าไปหาโต๊ะอาหารลายสลักหินอ่อนสีขาว มือเรียวสัมผัสที่ชิ้นมะม่วงที่ถูกแกะสลักอย่างสวยงามบ่งบอกถึงความปราณีตที่ผู้ทำสร้างมันขึ้นมา
"สวยไหมคะคุณน้ำ ปุ้ยทำสุดฝีมือเลยนะคะ"
"พี่ปุ้ยเก่งจังเลยค่ะ ตอนเรียนมัธยมน้ำเคยเรียนวิชาพวกนี้ด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ติดตัวมาด้วยเลย" เจ้าของคำพูดยิ้มแห้งๆ พลางมองเลยไปที่แตงโมซึ่งถูกจัดไว้ในจานอย่างสวยงาม
"อย่าไปเชื่อนังปุ้ยมันเลยหนูน้ำ มะม่วงสวยๆ ที่หนูเห็น ป้าทำเองค่ะ"
"อ้าว..." น้ำใจหันไปมองปุ้มปุ้ยที่กำลังยิ้มแห้งๆ ก่อนจะมองเลยไปยัง หมอน ป้าแม่บ้านที่เห็นว่าอยู่บ้านหลังนี้มานานแล้วเหมือนกัน
"นังปุ้ยมันโม้ค่ะ หนูน้ำอย่าไปเชื่อมัน"
"พี่ปุ้ยโกหกน้ำเหรอคะเนี่ย" หญิงสาวเอ่ยถามหยอกเย้า
"ปุ้ยตั้งใจจริงๆ นะคะคุณน้ำ ตั้งใจล้างมะม่วงและปลอกเปลือกอย่างตั้งใจเลยล่ะค่ะ" คนฟังยิ้มเก๋ให้กับความขี้เล่นของแม่บ้านสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ทั้งปุ้มปุ้ยและป้าหมอนมีความเป็นมิตรและใจดีกับเธอมาก ทุกคนคอยให้ความช่วยเหลือเธอในเรื่องต่างๆ อย่างน้อยๆ ก็ช่วยเป็นเพื่อนคลายความเหงาให้เธอได้มากอยู่เหมือนกัน
"ถ้าหนูน้ำอยากทำอะไรแบบนี้ หนูน้ำบอกป้านะคะ ป้าพร้อมถ่ายทอดฝีมือ อย่าหาว่าป้าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะคะ ผู้หญิงอย่างเราๆ การมีฝีมือ เป็นอะไรที่วิเศษที่สุดค่ะ"
"ขอบคุณค่ะป้าหมอน น้ำเชื่อฟังคำสอนของป้าหมอนนะคะ"
"คุณน้ำน่ารักมากเลยค่ะ นิสัยดีมากด้วย ไม่แปลกใจเลยที่นายรักคุณ"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ" เจ้าของคำพูดคลี่ยิ้มจางๆ ส่งไปให้ บอกตรงๆ ว่าเธอยังไม่ได้คาดหวังหรอกว่าสามีของเธอในตอนนี้เขาจะรักเธอ
หนึ่งเดือนที่มาอยู่ที่นี่ แม้ไม่มีงานแต่งใหญ่โต แต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่รู้จักเธอในฐานะภรรยาของเจ้าของบ้าน ทุกคนให้เกียรติและเคารพเธอ เท่านั้นมันก็เหนือความคาดหมาย เธอไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายมากไปกว่านี้เลย
"ทั้งป้าและนังปุ้ยรู้ค่ะว่าคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง สิ่งหนึ่งที่หนูน้ำควรรู้ คุณภาสเธอเป็นคนดีมากนะคะ ชีวิตคู่ของคนเรา คนอาจจะมองว่าจะมีความสุขได้ก็ต่อเมื่อมีคำว่ารัก แต่คนสมัยป้า ซึ่งอาจจะเป็นรุ่นป้ารุ่นยายรุ่นปู่รุ่นย่าของหนู เราอยู่กันเพราะความดี คนสมัยนั้น ไม่ค่อยได้เริ่มต้นเพราะความรักกันหรอก แต่เท่าที่เห็นแล้ว สุดท้ายความดีก็ทำให้คนอยู่ด้วยกันมาจนมีลูกมีหลาน ความดีจะช่วยหล่อเลี้ยงให้เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน หากวันนี้หนูยังไม่รู้สึกรักเจ้านายของป้า เก็บเอาความดีของคุณเขาไปพิจารณาบ้างนะคะ ป้ารับปากคุณพ่อของคุณภาสเอาไว้ก่อนท่านจะเสียว่าป้าจะคอยเลี้ยงหลานของท่านซึ่งเป็นลูกของคุณภาส ป้าอยากทำตามสัญญา แต่ที่ต้องรีบพูดเพราะกลัวว่าสังขารของป้ามันจะไม่ไหวเอาค่ะ"
"ป้าก็ว่าไป ถ้าสังขารป้าไม่ไหว ใครจะดูแลลุงพัฒน์ผัวป้าล่ะ"
เพี๊ยะ!
"โอ๊ยป้า..." คนที่ถูกฝ่ามือฟาดต้นแขนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยร้องเสียงหลงขึ้นมา
"เอ๊ะนังคนนี้นี่ ฉันจะยุให้หนูน้ำมีลูกให้คุณเขาอุ้มอยู่นะ"
"แบบนี้ต้องช่วยลดงานลุงพัฒน์ เพื่อที่ลุงจะได้มีเวลาอยู่กับป้าเยอะๆ เพื่อเป็นรางวัลสำหรับแรงเชียร์ในครั้งนี้สินะครับป้าหมอน" เสียงจากทางด้านหลังส่งผลให้น้ำใจหันขวับ พบเจ้าของบ้านที่ยืนพิงขอบประตูอมยิ้ม ทันทีที่เขาเห็นว่าเธอมอง เขาหันมามองสบตากับเธอทันที
"ที่ป้าหมอนพูด ฟังแล้วชื่นใจจัง" เจ้าของคำพูดพูดขึ้นพลางเดินเข้าไปสวมกอดผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งหวังดีกับเขาไม่ต่างจากแม่จากทางด้านหลัง ป้าหมอนคนนี้อยู่กับเขามานาน นานมากจนเขารู้สึกรักไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเลย
"ป้าพูดถูกใจ ป้าหมอนใจดี ...อยากให้น้ำใจดีกับพี่แบบนี้บ้างจัง" การหยอดคำหวานของผู้ชายบ้านๆ ทว่าอบอุ่นมากส่งผลให้คนที่อยู่ในห้องครัวอมยิ้มไปตามๆ กัน ปุ้มปุ้ยเผลอบิดตัวแสดงออกถึงความขวยเขินในความอ้อนเมียของเจ้านาย เช่นเดียวกับหมอนเองที่ทิ้งสายตามองหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่นาน แต่ก็แอบมองเห็นความน่ารักของเด็กสาวจนนึกเอ็นดู
ความที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ผู้หญิงแพ้ความขี้อ้อนของผู้ชายเสมอ เจ้านายสุดหล่อที่หมอนรักเหมือนลูก มาถูกทางแล้ว