“กรี๊ด” เสียงกรีดร้องของพรรณพฤกษา ทำให้คนในบ้านพากันตกใจ เพราะนานร่วมหนึ่งเดือนแล้วที่พวกเขาไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องนี้ คนแรกที่วิ่งไปยังห้องต้นเสียงยังคงเป็นกัลป์ พี่ชายที่แสนดี แต่เขายังไม่ทันที่จะเข้าไปในห้องน้องสาว วิรงรองที่ขันอาสาช่วยดูแลพรรณพฤกษาเข้ามาห้ามไว้
“อย่าค่ะกัลป์ อย่าเข้าไป”
“ผมเป็นห่วงกล้วยไม้ นานเป็นเดือนแล้วนะที่กล้วยไม้ไม่กรีดร้อง” ใบหน้าและน้ำเสียงของกัลป์ ฉายชัดถึงความเป็นห่วงน้องสาว
“วิรู้ค่ะว่ากัลป์เป็นห่วงกล้วยไม้ แต่ถ้ากัลป์เข้าไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร รังแต่จะทำให้กล้วยไม้กลัวมากขึ้น เดี๋ยววิเข้าไปดูเองค่ะ กัลป์รอตรงนี้ดีกว่าค่ะ” วิรงรองบอกเหตุผล
“แม่ว่าทำตามที่วิบอกเถอะลูก กัลป์กับคุณพ่อรอตรงนี้นะ แม่กับวิจะเข้าไปเอง” วชิราภรณ์ที่วิ่งมาสมทบ เดินเข้าไปในห้องลูกสาวพร้อมกับวิรงรอง โดยมีกัลป์กับธัญญ์รออยู่หน้าห้อง
“กรี๊ด...ไม่นะ อย่าเข้ามา กรี๊ด”
พรรณพฤกษากรีดร้องต่อเนื่อง นัยน์ตาหวานอมเศร้าเอ่อล้นด้วยหยาดน้ำตา ดวงตาเลิกลั่ก ตัวเธอสั่น จนคนเป็นแม่ต้องกอดปลอบ
“กล้วยไม้ลูกแม่ ไม่เป็นอะไรแล้วนะลูก ไม่มีใครทำอะไรลูกแม่แล้วนะ อย่าร้องนะลูก”
วชิราภรณ์ปลอบบุตรสาวทั้งน้ำตา ความเสียใจของคนเป็นแม่จุกแน่นในอก ไม่มีวันลบเลือนตราบจนถึงวันพรรณพฤกษาหายเป็นปกติ ลูกสาวเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน นางรู้สึกเจ็บปวดไปพร้อมกับลูกด้วย
“กล้วยไม้กลัวอะไรคะ ไม่ต้องกลัวนะคะคนดี ที่นี่ไม่มีผู้ชายเลยสักคน ไม่มีใครทำอะไรกล้วยไม้นะคะ กล้วยไม้ใจเย็นๆ นะ” วิรงรองปลอบโยน น้ำตาซึมทุกครั้งที่เห็นพรรณพฤกษาไม่ได้สติ สงสารอีกฝ่ายจับใจ
“นั่นไง นั่นไง มันจะทำร้ายฉัน นั่นไง”
พรรณพฤกษาชี้ไปทางทีวีจอใหญ่ปลายเตียง วชิราภรณ์กับวิรงรองรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เธอเป็นเช่นนี้ทันที วิรงรองรีบลุกขึ้นยืน เดินไปปิดทีวีที่กำลังมีละครหลังข่าว และในละครก็มีฉากผู้ชายทำร้ายผู้หญิง ภาพนั้นคงจะไปสะกิดใจพรรณพฤกษา จึงเกิดอาการดังกล่าว
“ไม่มีแล้วลูก เห็นไหมว่ามันหายไปแล้ว” วชิราภรณ์บอกลูกสาว อาการพรรษพฤกษาค่อยๆ สงบลง
“ใครกันนะเปิดทีวีให้กล้วยไม้ดู หรือว่ากิ่งจะลืมปิด”
วิรงรองหมายถึง ยุพดี พยาบาลที่จ้างมาดูแลพรรณพฤกษา เธอคงลืมปิดทีวีก่อนกลับบ้าน ส่งผลให้เกิดเหตุนี้กับพรรณพฤกษา
“ช่างเถอะวิ ของอย่างนี้มันลืมกันได้” วชิราภรณ์ไม่ถือโทษโกรธยุพดี เพราะทุกวันนี้ยุพดีก็ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว “แม่ว่า วิออกไปบอกคุณพ่อกับกัลป์เถอะว่า กล้วยไม้ไม่เป็นอะไรแล้ว ทั้งคู่จะได้สบายใจ”
“ค่ะคุณแม่” วิรงรองเดินหน้าเศร้าไปยังประตูห้อง เพื่อนำข่าวไปบอกสองพ่อลูกที่ยืนสังเกตการณ์หน้าห้อง
“กล้วยไม้เป็นอะไร ทำไมอยู่ๆ ถึงได้กรีดร้อง” กัลป์รีบถามคนรัก
“กิ่งคงลืมปิดทีวีน่ะคะ เป็นจังหวะพอดีกับที่มีละคร ฉากที่ผู้ชายทำร้ายผู้หญิงพอดี กล้วยไม้ก็เลยเกิดอาการขึ้นมา ตอนนี้กล้วยไม้สงบลงแล้วค่ะ” วิรงรองตอบ
กัลป์มองน้องสาวผ่านประตูห้องที่เปิดกว้าง แรงโทสะในใจของชายหนุ่มโหมกระหน่ำ เมื่อเห็นคนเป็นแม่กอดพรรณพฤกษา โยกตัวเธอเบาๆ และได้ยินเสียงร้องเพลงกล่อม อีกนานแค่ไหนที่พรรณพฤกษาคนเดิมของทุกคนจะกลับมา อีกนานแค่ไหนที่ครอบครัวอันแสนอบอุ่นของเขาจะกลับคืนมา มันจะมีวันนั้นหรือไม่กัลป์เองก็ไม่อาจตอบได้
และนั่นทำให้กัลป์นึกถึงตัวต้นเหตุที่ทำให้พรรณพฤกษาเป็นเช่นนี้ คชาจะรู้หรือไม่ว่า ความระยำที่ทำไว้กับหญิงสาวคนหนึ่งมีผลกระทบต่อครอบครัวเธอสาหัสสากรรจ์มากแค่ไหน ไม่...มันคงไม่รับรู้และไม่สนใจ แต่เขานี่แหละจะทำให้ครอบครัวของคชารู้ซึ้งเอง
กัลป์หมุนตัวเดินห่างหน้าห้องน้องสาว เขาก้าวเดินอย่างมั่นคงไปตามบันไดบ้านที่ทอดตัวสู่ชั้นล่าง เช่นเดียวกับความตั้งใจที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง คชาทำอย่างไรกับพรรณพฤกษา เขาก็จะทำกับขวัญข้าวอย่างนั้นบ้าง
หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง...
ขวัญข้าวนั่งหน้าเศร้าเคล้าน้ำตาอยู่บนเตียงใหญ่ภายในห้องที่ตนเองถูกกังขังไว้ นานร่วมหนึ่งสัปดาห์ที่เธออยู่ที่นี่ ไม่ได้ย่างกายออกไปไหน นพพลลูกน้องของกัลป์ที่ทำหน้าที่ดูแลเธอจะเป็นคนนำอาหารมาให้ทานครบสามมื้อ เสื้อผ้าก็นำมาให้ผลัดเปลี่ยน จะเรียกได้ว่า ขวัญข้าวกินนอนอยู่ในห้องนี้ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และไม่เคยเห็นหน้ากัลป์อีกเลยนับแต่วันนั้น
“แม่ ขวัญคิดถึงแม่จัง...ฮือ”
ขวัญข้าวรำพึงถึงมารดา เธอร้องไห้ ปล่อยเสียงสะอื้นออกมาเบาๆ มือเล็กปาดน้ำตาทิ้งราวกับเด็กน้อย เมื่อนึกถึงคำพูดและอ้อมกอดของคนเป็นแม่ การหายตัวไปของตน อาจทำให้บัวรินเป็นห่วง เพราะเธอไปไหนมาไหนต้องบอกกล่าวทุกครั้ง ยิ่งไม่ทราบข่าวคราว ความเป็นห่วงพุ่งพรวดขึ้นหลายเท่า แล้วเวลานี้ขวัญข้าวเชื่อว่า นางคงนั่งร้องไห้คิดถึงเธอเช่นกัน
ระหว่างขวัญข้าวกำลังทุกข์โศกอยู่นั้น บานประตูก็เปิดพรวด ร่างสูงใหญ่ของกัลป์ก้าวเข้ามาในห้อง ก่อนที่เขาจะปิดประตูโครมใหญ่ ไม่แยแสความดัง ก้าวเดินเข้ามาหาเธอด้วยท่าทางน่ากลัว ขวัญข้าวกระเถิบตัวหนี ตัวสั่น มองเจ้าของห้องอย่างขลาดกลัว
“เธอรู้ไหมว่า พี่ชายเธอทำให้น้องสาวฉัน กับครอบครัวของฉันต้องตกนรกทั้งเป็น”
กัลป์เอ่ยเสียงเข้ม นัยน์ตาดุกร้าว จ้องมองขวัญข้าวเขม็ง ประกายตาของเขาเสมือนราชสีห์จ้องเหยื่อ เหยื่อที่เขาอยากจะฆ่าให้ตายคามือเสียตอนนี้ ทว่าเขาทำตามความคิดไม่ได้ เธอจะต้องตายทั้งเป็นเหมือนพรรณพฤกษา