รถเฟอร์รารี่สีแดงสดจอดนิ่งอยู่หน้าตึกคณะบริหารธุรกิจ เพื่อรอรับใครบางคน ชายวัยยี่สิบเจ็ดปีมองผ่านแว่นกันแดดสีชาแล้วก้มมองดูนาฬิกาข้อมืออีกครั้งเพราะในตอนนี้เลยเวลานัดมาเกือบยี่สิบนาทีแล้ว
เขาถอนหายใจอย่างหงุดหงิดเพราะถูกโทรตามให้มารับแต่กลับต้องมารอซะอย่างนั้น มือเลื่อนไปกดเบอร์โทรไปหาคนคุ้นเคยไม่นานปลายสายก็รับแต่ก็รีบวางทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำยังไม่ทันหายงงเสียงข้อความก็ดังขึ้น
หลิน : อีกสิบนาทีนะ
ว่าน : แล้วจะเร่งทำไมวะมาก็ต้องรออีกเนี่ย
หลิน : แก่แล้วขี้บ่น รอแป๊ปเดียวเอง
"เด็กเวร!" ตอนโทรบอกก็สั่งให้รีบขับไอ้เขามันก็เชื่อคนง่ายเลยเหยียบเต็มที่แซงแม่งทุกคันจนได้คำสรรเสริญเป็นนิ้วกลางชูให้กับสัตว์สี่ขามาตลอดทางเพื่อมารอครึ่งชั่วโมงนี่นะ
ว่านนั่งเล่นเกมรออีกประมาณสิบกว่านาทีประตูรถก็เปิดออกโดยคนตัวเล็กหน้าแดงก่ำมีเหงื่อซึมแล้วยังหอบอีกต่างหาก เขาปรายตามองเธอก็เหมือนจะรู้สึกผิดนะถึงได้ทำหน้าอ้อนแล้วจับมือไปแนบแก้มแล้วซบลงส่งยิ้มหวานเชียวแต่หน้าเธอมันเปียกเหงื่อเขาเลยต้องหยิบกระดาษทิชชูมาซับเหงื่อให้ก่อน
"ทำไมช้าวะ?"
"แป๊ปเดียวเองนะเสี่ยว่าน"
"ครึ่งชั่วโมงเนี่ยนะ!"
"ก็อาจารย์ปล่อยช้าหลินไม่ผิดนะ"
"แล้วโทรไปเร่งเสี่ยเพื่ออะไร?"
"ก็...หลินไม่อยากรอนี่"
"ไม่คิดว่าเสี่ยทำงานบ้างเหรอ?"
"หลินขอโทษเสี่ยอย่าโกรธนะ เอางี้นะต่อไปหลินกลับพร้อมเพื่อนก็ได้"
ว่านถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายเพราะคำว่าเพื่อนของเธอมันเชื่อถือได้ยากมากจนบางครั้งก็แอบหวั่นใจว่าจะไม่ใช่แค่เพื่อนจริงแต่เป็นคนมาเข้าจีบมากกว่า
หลินก็รู้ว่าเขาเป็นคนยังไงถึงได้พูดแบบนี้ออกมาเพื่อจะให้หยุดด่าว่าเรื่องมาช้าแล้วมันก็ได้ผลเสมอทุกครั้ง
"กินอะไรรึยัง?" ต่อให้ไม่พอใจขนาดไหนก็ยอมให้เสมอแค่เธอยังไม่ไปไหนกับใครก็พอ
"ยังเลย คืนนี้หลินไปเที่ยวกับเพื่อนนะ" ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรายงานด้วยแต่เพื่อความสบายใจของเขาก็จำเป็นต้องทำ
"ผู้หญิงหรือผู้ชาย?" หวงนะแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในสถานะอะไรกันแน่เพราะระหว่างเราหาความชัดเจนไม่เคยได้เลย
"ก็มีทั้งหญิงชายแหละ เสี่ยว่านเป็นอะไรรึเปล่าทำหน้าดุเชียว" ไม่ใช่แค่ดุนะเพราะหันมาจ้องหน้าแล้วก็เงียบก่อนจะขับรถออกไปด้วยความเร็วมากจนน่ากลัว
เสี่ยว่านคือคนที่เข้ามาอยู่ในชีวิตแบบงงๆประมาณปีครึ่งได้แล้วมั้งไม่แน่ใจ เธอรู้จักกับเขาเพราะไปทำงานเป็นพริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์แล้วเขาก็เป็นคนจ้างอีกด้วย เราก็คุยเข้ากันได้เป็นอย่างดีถึงจะมีบางช่วงที่ห่างหายกันไปบ้างเพราะว่าเขางานยุ่งมากแล้วไม่นานก็กลับมาแบบนี้จนน่างงเสมอว่ากำลังคิดอะไร
คิดจะมาก็มาแล้วพอไปก็ไม่เคยบอกกันเลย!
เสี่ยว่านทำให้เธอสับสนมาก!
เขาเป็นคนสูงโปร่งผิวขาวเหลืองหน้าค่อนข้างดุพอสมควรอาจจะเพราะรูปปากที่คว้ำก็ได้แต่ก็ตามใจเก่งมากไม่ว่าจะโทรหาดึกๆขอให้มารับหรือหลายครั้งที่เราไปกินข้าวด้วยกันจนเพื่อนเข้าใจผิดว่าเธอมีแฟนทั้งที่ความจริงเราไม่ได้รักกันแบบนั้น
"กินอะไร?" ว่านถามระหว่างรถติดแต่ถ้าผ่านแยกนี้ไปก็ถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มีร้านให้เลือกเยอะ
"ซูซิไหมไม่ได้กินนานแล้ว" เธอก็นึกว่าจะไม่คุยแล้วซะอีกเพราะว่าเขาเล่นขับรถมาเงียบๆตลอดทาง
"ช่วงนี้ได้ทำงานไหม?" ถ้าเขาไม่ถามเธอก็คงจะไม่เล่าให้ฟังแล้วบทสนทนาระหว่างเราก็แทบจะไม่มีเลย
"เรียนอย่างเดียวเลยเดี๋ยวตามคนอื่นไม่ทัน" สมองก็ยิ่งช้าขืนทำงานอีกนะมีหวังตามเพื่อนไม่ทันแถมอาจารย์ยังสั่งงานเหมือนว่านักศึกษาจะว่างอย่างนั้นแหละ
"เสี่ยว่าน"
"ว่า?"
"คืนนี้ไม่ต้องโทรหานะ"
"ทำไม?"
"เผื่อเมาไง"
"ที่ไหนเดี๋ยวไปรับ?"
"ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวกลับพร้อมเพื่อนเอาก็ได้" เพราะถ้าคืนนี้เมาก็คิดว่าจะไปนอนค้างคอนโดเพื่อนเลยเพราะใกล้สุดแต่ก็แอบหวั่นใจนิดๆตรงที่เพื่อนมีแฟนแล้วนี่สิ
"เสี่ยจะไปรับส่งโลเคชั่นมาด้วย กลับพร้อมเพื่อนไม่ปลอดภัยหรอกนะหลิน" เพราะเพื่อนคนไหนก็ยังไม่รู้เลยแล้วไว้ใจได้บ้างรึเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกันดังนั้นทางที่ดีคือไปรับแล้วมาค้างด้วยกันดีกว่า เธอปรายตาแอบมองคล้ายว่ากำลังคิดมากอยู่แต่นี่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกซะหน่อย
เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราค้างด้วยกันนะ!
เรื่องของเขากับหลินไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยแค่เริ่มต้นจากความชอบแล้วคุยเข้าคอกันดีแต่รู้ตัวอีกทีก็คิดถึงเธอมากจนแทบทนไม่ไหวถึงบางช่วงที่งานยุ่งมากแต่ถ้าเธออยากเจอก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมาหาเลยสักนิด แต่หลินนี่สิถ้าปล่อยนานเข้าหน่อยก็มักจะมีคนมาจีบตลอดบางครั้งก็เริ่มคุยกันถึงสุดท้ายจะไปไม่รอดแค่ก็แอบหวั่นใจอยู่นะว่าจะเสียเธอไปเข้าสักวัน
เรื่องของเราไม่มีใครรู้หรอกถึงเพื่อนเธอจะสงสัยว่าเฟอร์รารี่สีแดงใครเป็นเจ้าของแต่หลินก็ไม่เคยพาไปแนะนำเลยสักครั้งเช่นเดียวกันที่เขาไม่แนะนำให้เพื่อนรู้จักเธอ
เรื่องของเราที่มันไม่ชัดเจนแบบนี้ก็เพราะเธอคนเดียวนั่นแหละไม่รู้ว่าอยากจะมีพี่น้องเพิ่มขึ้นนักมากรึไงถามทีไรคำตอบก็ได้มาแบบเดิมตลอด
แม่ง! พี่น้องพ่อเธอดิ!!
หลังจากกินซูซิอิ่มก็เดินเล่นกันต่อนิดหน่อยแล้วถึงได้ขับรถไปส่งเธอที่คอนโดไม่ลืมจะถามเรื่องคืนนี้ให้เคลียร์เพราะยังไงซะก็จะไปรับมาให้ได้ถึงแม้ว่าเย็นนี้ต้องขับรถไปหาเพื่อนรักที่นัดรวมตัวกินเหล้าเนื่องในโอกาสเหี้ยอะไรของมันก็ไม่รู้สิเขาไม่ได้อ่านเลยด้วยซ้ำรู้แค่ต้องมาไม่งั้นโดนรุมด่าแน่
เพื่อนกูแต่ละคนแทบจะไม่ใช่นักธุรกิจกันแล้ว
แม่ง….ขี้เมาทั้งนั้น!!
และเขามาถึงเป็นคนสุดท้ายทันทีที่เดินเข้าไปพวกมันก็มองแรงเหมือนว่าเขาเป็นนักโทษคดีร้ายแรงอย่างนั้นแหละ แต่เรื่องนี้เขาไม่ผิดนะก็ใครใช้ให้มันเล่นนัดกะทันหันแบบนี้ละ
"กูนึกว่าจะไม่มาซะแล้วไอ้เหี้ย!" ฟีฟ่าบ่นนิดๆเพราะเป็นคนมาถึงก่อนใครแล้วเพื่อนแต่ละคนก็ลีลากันซะเหลือเกินกว่าจะเสด็จมาได้แต่เขาไม่ใช่คนชวนดื่มนะแต่ไอ้คนชวนมันก็มาก่อนไอ้ว่านไม่ถึงสิบนาทีนี้เอง
"โห่! ไอ้เหี้ยกูมาได้เร็วขนาดนี้ก็บุญหัวแล้ว แหม่...คอแห้งไม่ดูเวลาเลยนะพวกมึง!" ถ้าปรกติเขาก็ทำงานซึ่งไม่มีทางที่จะมาได้เร็วหรอกพวกมันก็รู้กันดี
"ก็กูเหงานี่หว่า!" น่านบ่นต่อแล้วเริ่มชงเหล้าส่งให้เพื่อนแต่ละคนที่ไม่รู้วันนี้ไปกินรังแตนกันรึไงถึงทำหน้าบึ้งตึงกันขนาดนี้
"เดี๋ยวคืนนี้กูมีนัดแดกมากไม่ได้นะเว้ย" ว่านรีบบอกก่อนเดี๋ยวเพื่อนจะบ่นเอาได้เพราะแต่ละคนปากหมาทั้งนั้นแล้วเพราะแบบนี้แหละพวกเราถึงคบกันมาได้นานขนาดนี้
"นัดกับใครวะไอ้ว่าน? อย่าบอกนะว่ามึงมีเมียแล้ว!!" ชานถามต่อแล้วปรายตามองเพื่อนอีกคนที่ทำหน้างงมากแต่ก่อนจะพูดจะถามอะไรต่อไอ้เพื่อนเวรก็กระดกเหล้ารวดเดียวแล้วทำหน้าบึ้งมากกว่าเดิมอีก
หรือว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิด!
"เมียพ่อมึงดิไอ้สัตว์! คนนี้น้องสาวเว้ย" ได้เป็นแค่พี่ชายทั้งที่ความจริงเราน่าจะเป็นผัวเมียแล้วด้วยซ้ำในเมื่อนอนกอดกันออกจะบ่อยถึงจะยังไม่ได้เอากันจนน้ำแตกแต่แค่นั้นก็มากเกินกว่าคำว่าพี่ชายแล้วเหอะ
พูดแล้วก็เจ็บแดกเหล้าย้อมใจต่อดีกว่า!
"มึงเป็นลูกชายคนเดียวไม่ใช่เหรอวะ?" ชานถามต่อด้วยความจำอันดีเลิสคือเพื่อนเวรเป็นลูกชายคนเดียวที่ถูกตามใจจนสันดานเสียแบบนี้ไง
"ก็…" กำลังจะพูดละแต่ไอ้เพื่อนเหี้ยพูดแทรก
"พี่น้องท้องชนกันอะดิ! มึงอย่าแถนะไอ้เหี้ยกูรู้!!" ทำหน้าแบบนี้แม่งใช่เลย คิดแล้วก็อยากจะเห็นน้องสาวคนพิเศษของมันจริงว่าสวยขนาดไหนถึงได้เอาคนแรดๆอย่างไอ้เสี่ยว่านอยู่ได้
"แดกเหล้าไปอย่าพูดมาก!"
"แทงใจดำละสิไอ้สัตว!"
"กูกับน้องเขายังไม่ได้กันเว้ย พูดอะไรใช้สมองหน่อยไม่ใช่ใช้แต่หัวค*ยอย่างเดียว!"
"มึงก็รีบเผด็จศึกดิวะจะได้มีเมียก่อนใคร"
"แดกเหล้าไปไอ้เหี้ย!"
เพื่อนในกลุ่มเดียวกันก็สันดานเหมือนกันหมดถึงคบกันมาได้ขนาดนี้แล้วบางครั้งพวกแม่งก็หายหัวไปหมดกว่าจะรวมตัวกันได้ใช้เวลานานเลย พวกมันแต่ละคนก็งานยุ่งทั้งนั้นเพราะส่วนใหญ่ทำงานสานต่อธุรกิจของครอบครัวในตำแหน่งสูงด้วยสิเลยมีความกดดันเป็นพิเศษ
เพื่อนเขามีชื่อฟีฟ่า ชานและน่านแต่พวกมันไม่มีใครโสดสนิทสักคนหรอกเพราะแรดเก่งมากว่างเป็นโผล่สักผับควงผู้หญิงเปลี่ยนไปมาไม่หยุดจนบางครั้งเขาก็อดจะสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงนิสัยดีกว่าเพื่อนทุกคนแบบนี้
ไม่เคยนอกลู่นอกทางหรือนอกใจหลินเลยสักครั้ง
ซื่อสัตย์กว่าหมาก็กูนี่แหละ!