"ปลาย ๆ "
หญิงสาวร่างอวบ ความสูงประมานร้อยหกสิบห้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน ผมสีบลอนด์สั้นประบ่า ทุกท่วงท่าและบุคลิกของหล่อนดูดีแม้จะเป็นสาวอวบก็เต็มไปด้วยความมั่นอกมั่นใจ
"ปลายจ๋า"
ส่งเสียงเรียกชื่อฉันอีกครั้งเมื่อเห็นว่าฉันไม่ขานรับ
"มีอะไรเหรอยัยรัก?"
รักตาภา คือชื่อของเธอเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน ขณะที่ฉันกำลังวุ่นอยู่กับการจัดพื้นที่เตรียมกล้องต่างๆเพื่อจะไลฟ์สดในติ้กต้อกขายเสื้อผ้าของใช้เด็กต่างๆที่สั่งมาจากต่างประเทศ บ้างก็สินค้าจากจีน เกาหลี และเวียดนาม
เสื้อผ้าที่ฉันขายมีตั้งแต่หลักสิบยันหลักร้อย อาชีพเดียวที่ฉันทำคือการขายของ บางทีก็ไปตั้งแผงแถวตลาดนัดท้ายรถต่างๆ ฉันเลี้ยงลูกด้วยตัวเองจึงไม่มีเวลาจะไปหางานประจำทำ
"นี่ ๆ ดูนี่"
"อะไร บอกมาเถอะ ไม่มีเวลาอ่าน"
"ฉันส่งรูปภาพของตาปริมไปลงประกวดนายแบบจูเนียร์มา ทางทีมงานเขาติดต่อกลับมาแล้ว ลูกเธอผ่านการคัดเลือกรอบแรกอีกสองวันเข้าสตูดิโอไปถ่ายงานได้เลย"
"ไม่เอา ลูกฉันยังเล็ก ไปทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก"
ฉันรีบปฏิเสธเพราะกลัวว่าลูกจะไม่ชอบ เนื่องจากไม่เคยเห็นปริมปริมชอบแสดงออกอะไรแบบนั้น
"ไปเถอะน่า ได้รางวัลตั้งห้าหมื่นแน่ะ ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอะไร แค่ถ่ายๆ และก็ลงในเพจให้เขาโหวต ใครได้คะแนนโหวตเยอะที่สุด ได้เงินรางวัลห้าหมื่น แถมพรีเซนเตอร์แบรนด์เสื้อผ้าจูเนียร์สตาร์เป็นเวลาหนึ่งปี เงินค่าพรีเซนเตอร์ก็แยกออกไปต่างหากอีก ไม่สนใจจริงเหรอ ข่าวว่าค่าเทอมปริมๆไม่ใช่น้อย เอาไว้เป็นเงินค่าเทอมสิ"
"ไปครับแม่ ปริมอยากได้เงิน"
ปริมปริมเดินออกมาจากห้องพอดีหลังจากทำการบ้านเสร็จ ฉันนิ่งคิดไปชั่วครู่ เงินมันก็อยากได้อยู่หรอกนะแต่ว่า ปริมปริมไม่ได้ฉายแววอะไรแบบนั้นเลย มีดีก็แค่หน้าตาที่หล่อตั้งแต่เด็ก เหมือน...เขา
"นะ ๆ ลองดู"
"นะค้าบแม่"
มือเล็กๆยื่นมาเกาะแขนเป็นการอ้อนขออนุญาต ฉันถอนหายใจออกมา ใจอ่อนอีกตามเคย
"อืม ได้ แต่ปริมปริมรู้ใช่มั้ยลูก ว่าการทำงานแบบนี้มันต้องมีความรับผิดชอบมากแค่ไหน"
"ปริมทราบค้าบ และปริมก็รู้ว่าแม่เหนื่อยกับการหาเงินเป็นค่าเทอมให้ปริมมากแค่ไหน ปริมอยากช่วยแม่ค้าบ"
เจอประโยคนี้กับสายตาออดอ้อนเว้าวอนเข้าไปฉันถึงกับไปไม่ถูก น้ำตาซึมออกมาอย่างไม่อาจกลั้น หันไปมองหน้าของรักตาภาอีกครั้ง อีกฝ่ายเอาแต่พยักหน้าหงึกๆเชียร์อย่างเต็มที่
"โอเค งั้นไปเทรนด์กับน้ารักเลย แม่ไม่ค่อยรู้เรื่องการโพสต์ท่าอะไรแบบนี้หรอก เอาไปเลยผู้จัดการส่วนตัว"
"ขอแค่เธออนุญาตเรื่องอื่นสบายบรื๋อ"
ปัดมือพรางยักคิ้วใส่ฉัน ฉันส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มออกมา เอาเถอะได้ไม่ได้อย่างน้อยลูกของฉันก็ได้หาประสบการณ์ ลำพังไลฟ์ขายของมันก็พออยู่ได้อยู่แล้ว เพราะเราก็ประหยัดกันแบบสุดๆ แม้ว่าร่างกายของฉันจะผอมเกร็งกว่าแต่ก่อนมาก เพราะต้องเลือกกินเลือกใช้แต่ของที่จำเป็น อนาคตของปริมปริมสำคัญที่สุด
"ฉันเชื่อมือเธออยู่แล้ว มาเถอะมาไลฟ์ได้แล้ว ฉันจ่ายค่าตัวให้เธอมาไลฟ์ให้นะจ้ะเพื่อนรัก"
เป็นจริงดังนั้น แม้ว่าสินค้าจะเป็นของฉัน แต่ฉันไม่ชอบออกสื่อ ส่วนมากจะจ้างรักตาภาหรือไม่ก็จ้างน้องๆนักศึกษาที่กำลังหางานพิเศษมาช่วยไลฟ์ให้
แต่เวลาออกไปขายตามตลาดนัดต่างๆฉันก็ไม่ติดอะไรสามารถขายเองได้สบายเพียงแต่หน้ากล้องเท่านั้นที่ฉันไม่สามารถทำได้เพราะฉันไม่ชอบออกสื่อ
ไม่อยากให้ใครรู้จักฉันมากเกรงว่าจะสาวมาถึงลูก และจะรู้ไปถึงเขาคนนั้นซึ่งเป็นพ่อของลูก หากปัณณ์รู้ว่าฉันมีลูกกับเขา ฉันกลัวว่าลูกของฉันจะเป็นปัญหากับเขาได้ ซึ่งบางทีปัณณ์อาจจะมีครอบครัวแล้ว และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเปอร์เซนต์อันน้อยนิดที่เขาจะรู้ แต่ฉันก็อดที่จะแอบแพนิคไปก่อนไม่ได้
แม้ว่าเราจะเดินคนละทางมาเนิ่นนานและก็ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ปัณณ์อยู่ที่ไหน มีอนาคตอย่างไร ฉันรู้เพียงแต่ว่าบ้านเขาก็รวยประมานนึงอนาคตของเขาคงจะสวยงามแน่นอน ฉันรู้เพียงแค่นี้เท่านั้น
"เหม่ออีกแล้ว ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันนี่แหละจะเป็นแม่ให้ปริมปริมออกหน้าแทนเธอเอง ไม่ต้องคิดมากโอเคมั้ย?"
รักตาภารู้ดีว่าเรื่องของฉันเป็นมาอย่างไร และฉันกำลังกลัวอะไรอยู่ รักตาภาเข้าใจและคอยซัพพอร์ตฉันอยู่ข้างๆฉันในทุกๆเรื่องเสมอ
"อืม ขอบใจนะ"
"ฉันสวยยังปลาย?"
หมุนตัวไปมา ถึงว่ารักตาภาจะอวบๆเจ้าเนื้อแต่บอกไว้ก่อนเลยว่าหล่อนสวยและเซ็กซี่จนผู้ชายต้องมองเหลียวหลังเสมอ
"เริ่ด ปังมาก เริ่มเลยแอดมินพร้อมแล้ว พนักงานแพคสินค้าทำงานได้เลยนะคะ ยังเหลือของที่ต้องแพคอีกเยอะ"
หันไปบอกปริมปริมที่ตั้งท่าเตรียมทำงานตามค่าจ้างสองร้อยบาทเหมือนทุกๆวัน
"พร้อมค้าบ"
"โอเช"
ฉันยกมือขึ้นทำสัญลักษณ์โอเคให้ลูก ก่อนจะหันมายิ้มให้รักตาภาที่ตอนนี้เริ่มทำการไลฟ์แล้ว
บ้านสโรชินี
"คุณแม่คะ รูปเด็กคนนี้หน้าคุ้นๆเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน"
อสมายื่นรูปให้ผู้เป็นมารดาดูหลังจากที่ได้รับแฟ้มภาพของนายแบบนางแบบน้อยที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกเข้ามาในแบรนด์สินค้าของเธอ หญิงวัยกลางคนแต่งตัวดูดีเหมือนคุณหญิงคุณนายรับรูปเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่สะดุดเหลือเกินมาพินิจพิจารณาดูด้วยความฉงนสนเท่ห์
"เหมือนปัณณ์"
ตอบได้โดยทันทีอย่างไม่ต้องคิดเยอะ
"ใช่มั้ยคะแม่ พี่ปัณณ์ชัดๆ คงไม่ได้แอบไปมีลูกไว้ที่ไหนนะคะ อิอิ"
อสมาเพียงพูดเล่นเท่านั้นเพราะไม่มีวันที่พี่ชายของเธอจะไปแอบมีลูกไว้ที่ไหนแน่นอน เขาสนใจผู้หญิงที่ไหนกัน แถมนิสัยยังดุดันเย็นชาทำตัวลึกลับจนน่าขนลุก เธอเป็นน้องเองยังขยาด
"แล้วถ้าสมมุติเป็นลูกของพี่ปัณณ์จริงๆคุณแม่จะทำยังไงคะ?"
ถามทีเล่นทีจริง
"ดีใจสิ แม่จะรีบไปรับมาอย่างไว"
"หืม คุณย่าขา มันไม่ได้กระมังคะ แม่เขาจะยอมให้เหรอ?"
เลียนเสียงเป็นคุณย่าสัพยอกผู้เป็นมารดาเพราะรู้ดีว่าคุณศศิมารดาของเธอนั้นอยากมีหลานแค่ไหน
"อย่าลืมว่าพ่อเราเป็นทนาย เรื่องแย่งเด็กมาเลี้ยงเองไม่ใช่เรื่องยาก"
"โอ้ย! คงไม่ใช่หรอกค่ะแม่ ถ้าใช่คงปวดหัวน่าดู"
อสมายักไหล่อย่างขยาดเมื่อนึกถึงเรื่องปวดหัวเกี่ยวกับการขึ้นศาลอะไรต่างๆ โชคดีที่ปัณณ์พี่ชายของเธอไม่เป็นทนายเหมือนผู้เป็นบิดา ไม่อย่างนั้นล่ะก็คงได้ปวดหัวไม่จบไม่สิ้น