ยามห้าย
ศาลากลางน้ำ
พระวรกายใหญ่ของจอมมารชินซางเสด็จออกจากตำหนักที่ประทับตรงไปศาลากลางน้ำ หลังจากสรงน้ำและเสวยพระกระยาหารค่ำแล้วเสร็จ ฉลองพระองค์สีนิลกาฬพร้อมผ้าคลุมสีเดียวกันทาบทับอยู่บนพระวรกายสูงใหญ่ ท่ามกลางสายลมที่พัดมาเอื่อยๆ
ครั้นทรงพระดำเนินมาหยุดยืนอยู่ภายในศาลากลางน้ำ พระเนตรมีอันต้องเบิกกว้างขึ้นมาทันที เมื่อหมากบนกระดานที่พระองค์ทรงวางกลพิสดารเอาไว้ ถูกแก้ได้อีกครามิหนำซ้ำยังวางหมากแก้ลำกลับคืนชนิดที่ว่าฝีมือขั้นเทพแค่ไหนก็ต้องปวดขมับขึ้นมาโดยพลัน
“อะไรกัน! แก้หมากของข้าได้อีกแล้วหรือนี่”รับสั่งด้วยความรู้สึกทึ่งในฝีมือของผู้ที่แก้หมากเกมนี้ของพระองค์
พระพักตร์หล่อเหลาคมคร้ามหันกลับไปทอดพระเนตรตำหนักรับรอง ซึ่งพระองค์อนุญาตให้องค์หญิงจากแคว้นฉู่เข้ามาพำนักเป็นการชั่วคราว ก่อนจะทรงทอดพระเนตรแสงไฟในห้องบรรทมดับวูบลงเมื่อเวลาล่วงเลยเข้าสู่ยามวิกาล
“องค์หญิงแคว้นฉู่เป็นเจ้าจริงๆ อย่างนั้นหรือที่สามารถแก้กระดานหมากล้อมของข้าได้ มิหนำซ้ำยังวางกลหมากพิสดารทำให้ข้าต้องขบคิดอย่างยิ่งยวดเช่นนี้ ฝีมือไม่ธรรมดาเลยทีเดียว” รับสั่งรำพึงพลางหันกลับไปทอดพระเนตรกลหมากพิสดารบนกระดานตรงพระพักตร์
“ให้มันรู้ไปสิว่าจอมมารเช่นข้าจะพ่ายแพ้ให้แก่สตรีมนุษย์ตัวเล็กๆ เพราะไม่สามารถแก้กลหมากนี้ได้” รับสั่งพร้อมทรุดพระวรกายลงนั่งบนตั่งที่ประทับ พระเนตรจับจ้องอยู่ที่กระดานหมากล้อมอย่างเอาจริงเอาจัง
เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนานท่ามกลางความเย็นยะเยือกที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ ทั่วบริเวณเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ทว่าพระวรกายใหญ่ของจอมมารยังทรงนั่งประทับอยู่ในศาลากลางน้ำเช่นเดิม โดยมีขันทีคนสนิทคอยถวายการรับใช้ กาน้ำชาถูกตั้งให้ร้อนอยู่ตลอดเวลาและถูกเติมน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า จวบจนกระทั่งตัวหมากบนกระดานถูกวางลงในตำแหน่งที่ทำให้สุรเสียงของจอมมารดังขึ้นมาโดยพลัน
“สำเร็จ! ข้าสามารถแก้หมากกระดานนี้ได้แล้ว” รับสั่งด้วยความดีพระทัยอย่างเห็นได้ชัด
“ทรงดีพระทัยดั่งเช่นองค์หญิงจากแคว้นฉู่เลยพ่ะย่ะค่ะ พอพระนางแก้หมากบนกระดานของพระองค์ได้จะแสดงพระอาการแปลกประหลาดออกมาทันที” ขันทีรับใช้กราบทูลรายงาน
“เช่นนั้นรึ!” รับสั่งโดยมิหันกลับมาทอดพระเนตร
“ใช่พ่ะย่ะค่ะ... แต่จะแตกต่างจากพระองค์ก็ตรงที่องค์หญิงแคว้นฉู่ทรงใช้เวลาแก้หมากบนกระดานทุกครั้งไม่เกินสองชั่วยามเท่านั้น ในขณะที่พระองค์ทรงใช้เวลาในการแก้หมากบนกระดานนานกว่าพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีรับใช้พลั้งปากรายงานจนลืมตัว
“ฮึ่มมมม!!!” สุรเสียงคำรามลั่นดังอยู่ในพระศอครั้นจอมมารหนุ่มทรงได้ยินเช่นนั้น พระเนตรสีนิลกาฬหันกลับไปทอดพระเนตรขันทีรับใช้คนดังกล่าวเขม็ง
“เจ้ายืนสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลาเช่นนั้นรึ!จึงล่วงรู้ว่าองค์หญิงแคว้นฉู่ใช้เวลาแก้หมากล้อมของข้าในระยะเวลาอันสั้นในขณะที่ข้าใช้เวลานานกว่านาง” รับสั่งถามสุรเสียงขุ่น
“พะ...พ่ะย่ะค่ะ!” ขันทีรับใช้กราบทูลกลับไปเสียงสั่น
คำตอบเพียงสั้นๆ แต่กลับทำให้จอมมารมีพระอาการฮึดฮัดเป็นการใหญ่ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น
“เพราะอะไรเจ้าจึงเฝ้าสังเกตการณ์องค์หญิงผู้นั้นอยู่ตลอดเวลา ว่างงานมากนักหรือไง!” รับสั่งถามกลับไป
“อะ... เออ...” ขันทีรับใช้ยืนติดอ่างมิกล้ากราบทูลไปตามตรง
“ตอบ! หากยังยืนอมพะนำอยู่อีก ข้าจะสั่งโบยเจ้ายี่สิบไม้และขังคุกอีกสามเดือนอยากได้รับโทษเช่นนั้นหรอกรึ!” รับสั่งสุรเสียงเข้ม
“ตุบ!” ร่างสูงของขันทีรับใช้ทรุดกายลงนั่งกับพื้นศาลาทันที
“กะ...กระหม่อมผิดไปแล้วพ่ะย่ะค่ะที่แอบชื่นชมองค์หญิง จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอดเวลา ทำให้ล่วงรู้ว่าพระนางทรงเป็นเช่นไรบ้าง... ไม่ได้มีเพียงกระหม่อมผู้เดียวเท่านั้นที่แอบชื่นชมพระนาง บรรดานางกำนัล ขันทีและทหารองครักษ์ภายในตำหนักบูรพาก็พากันชื่นชมกันถ้วนหน้าด้วยเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีรับใช้กราบทูลตามความเป็นจริง
พระขนงคมเข้มขมวดเข้ากันทันใดครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น
“องค์หญิงแคว้นฉู่มีสิ่งใดให้ข้าราชบริพารภายในตำหนักบูรพาของข้า ต่างพากันชื่นชมกันอย่างถ้วนหน้าถึงขนาดต้องคอยแอบมองนางอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้” รับสั่งคลางแคลงพระทัยพลางทอดพระเนตรขันทีรับใช้ตรงพระพักตร์
เงียบงันไร้สิ้นเสียงถ้อยเจรจาใดๆ แม้แต่น้อย
“ตอบ!!!” สุรเสียงเอ็ดกลับไปดังกระหึ่ม
“ตะ...ตอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” ขันทีรับใช้รีบตอบกลับไปทันที
“ก็ตอบมาสิชักช้าอยู่ใย! ข้ารอฟังอยู่” จอมมารรับสั่งสุรเสียงเข้ม
“อะ... องค์หญิงทรงมีน้ำพระทัยงาม ไม่ถือพระองค์แม้แต่น้อย ไม่ว่าจะพระดำเนินผ่านไปที่ไหนภายในพระตำหนักบูรพาจะรับสั่งทักทายอย่างเป็นกันเอง พระนางจะให้นางกำนัลส่วนพระองค์หรือองครักษ์ที่ติดตามเสด็จ นำข้าวของหรืออาหารมาให้ทหารยามตลอดจนถึงขันทีและนางกำนัลแจกจ่ายกันอย่างทั่วถึงภายในพระตำหนักบูรพา นอกจากพระทัยงามแล้วยังทรงมีพระสิริโฉมงดงามมากยิ่งนักด้วยพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีรับใช้รายงานละเอียดยิบ
พระหัตถ์ยกขึ้นเท้าคางทันทีเมื่อทรงได้ยินเช่นนั้น
“ยังมีเชื้อพระวงศ์ที่ไม่แบ่งแยกฐานันดรศักดิ์และให้ความเป็นกันเองกับผู้ที่ต่ำต้อยกว่าหลงเหลืออยู่อีกอย่างนั้นหรอกรึ! ข้ามิเคยพบว่าวังหลังจะมีสตรีใดกระทำการเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นนี้คือเหตุผลที่เจ้าแอบยืนชื่นชมองค์หญิงผู้นั้นสาเหตุเพราะมีน้ำใจงาม... อ่อ... รวมไปถึงนางงดงามมากด้วยใช่หรือไม่”
“ชะ...ใช่พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีรับใช้กราบทูลตอบกลับไป
จอมมารหนุ่มส่ายพระพักตร์ไปมาเมื่อได้ยินคำตอบ
“เป็นเรื่องปกติของบุรุษที่ต้องชื่นชมครั้นได้พานพบสตรีงาม แม้เจ้าจะเป็นขันทีแต่ก็คือบุรุษเช่นกัน... เอาเถอะเจ้าไปพักผ่อนซะ! ใกล้เช้าแล้วไม่ต้องอยู่คอยรับใช้ข้า อีกไม่นานข้าก็จะกลับตำหนักเช่นกัน” รับสั่งไล่ขันทีคนดังกล่าวพร้อมยกพระหัตถ์สะบัดไปมาไล่ให้ขันทีรับใช้กลับไป
“พ่ะย่ะค่ะ... ถ้าเช่นนั้นกระหม่อมขอทูลลา” ขันทีรับใช้กล่าวพร้อมล่าถอยออกไปจากศาลากลางน้ำ
“เดี๋ยว!” สุรเสียงรับสั่งรั้งร่างไว้ให้รอ
ขันทีคนดังกล่าวหยุดชะงักทันทีพร้อมสุรเสียงจอมมารรับสั่งดังแทรกขึ้น
“ในเมื่อเจ้าเฝ้าสังเกตการณ์องค์หญิงแคว้นฉู่อยู่ตลอดเวลา ก็จะต้องล่วงรู้ว่านางจะมาที่ศาลากลางน้ำเวลาใดใช่ไหม” รับสั่งถามด้วยความอยากรู้
“พ่ะย่ะค่ะ... องค์หญิงจะเสด็จมาประทับที่ศาลากลางน้ำยามเว่ย และจะเสด็จกลับในยามโหย่วก่อนจะถึงยามซวี่เพราะองค์รัชทายาทจะเสด็จมาหาพระนางเช้า กลางวัน เย็น แม้กระทั่งก่อนที่จะทรงเข้าบรรทมพระองค์จะต้องเสด็จมาพบองค์หญิงก่อนทุกวัน เป็นเช่นนี้ตั้งแต่ทรงได้พบกับพระนางครั้งแรกเลยพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีรับใช้กราบทูลรายงานละเอียดยิบ
พระโอษฐ์คลี่ยิ้มออกมาบางๆ ครั้นทรงได้ยินเช่นนั้น
“แสดงว่ารัชทายาทผู้นั้นได้พบสตรีที่พึงใจเข้าให้แล้ว มิฉะนั้นจะเทียวไปเทียวมาเช้าถึงเย็นถึงเช่นนี้ได้อย่างไร” จอมมารรำพึงอยู่ในพระทัย
“ไม่มีอะไรแล้ว...ไปได้” รับสั่งพลางทอดพระเนตรตรงไปที่ตำหนักรับรองพลางครุ่นคิดอยู่ภายในพระทัย
ตัวหมากค่อยๆ วางลงบนกระดานพร้อมรอยแสยะยิ้มเหยียดอย่างพึงพอพระทัย เมื่อทรงวางกลหมากดักทางและจงใจเป็นฝ่ายเปิดเกมท้าประลองการเดินหมากล้อมกับองค์หญิงแคว้นฉู่อย่างตรงไปตรงมา
“หมากกระดานนี้ข้าอยากรู้ยิ่งนักว่าเจ้ายังจะสามารถแก้ได้อีกหรือไม่องค์หญิง!” พระเนตรฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาโดยพลันก่อนจะเปล่งเสียงพระสรวลอยู่ในพระศอพร้อมลุกประทับพระดำเนินกลับตำหนักด้วยพระอารมณ์ครึกครื้นยิ่งนัก