ชมพูพิงค์ | พังยับไปกับตา

1489 คำ
“เธอคิดว่าฉันโง่รึไง? นี่คือวิธีที่เธอจะเชิดเงินสี่สิบล้าน และหนีไปสินะ!” ฉันเสียดายน้ำตาที่ไหลถึงปลายคางนั่นจริงๆ รางวัลออสการ์ รางวัลเอวี่ติงก็ต้องยกมือไหว้ฉัน แต่ทำไมเขายังไม่เชื่อล่ะ แถมยังหาเรื่องจับผิดฉันอีก! ใจเย็น ๆ ชมพูพิงค์ เขาอาจจะแค่เป็นคนหยาบกระด้าง เธอต้องใช้ความพยายามอีกหน่อย ยังไงผู้ชายทุกคน ก็มีความโง่งมฝังอยู่ในซีรีบรัม! “ไม่ใช่นะคะคุณอิฐ เรื่องหนี้คุณหญิงแม่ชดใช้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฉันตั้งใจ คือฉัน ไม่อยากให้คุณหญิงแม่จับฉันใส่ตะกร้าล้างน้ำแต่งงานกับพ่อของคุณ ตอนนี้ฉันเรียนมหาลัยปีสี่ อีกสามเดือนก็เรียนจบแล้ว จบไปฉันอาจจะทำงานหาเงินจ่ายดอกช่วยคุณหญิงแม่ได้” “...” เขาเงียบและขมวดคิ้วใส่ฉัน ท่าทางไม่เชื่อ ที่ฉันจะหาเงินจ่ายดอก “เอ่อ... ถ้าพ่อคุณปฏิเสธข้อเสนอคุณหญิงแม่ ฉันเชื่อว่ายังไงๆท่านก็ต้องหาวิธีอื่น ไม่จับฉันแต่งกับใครอีก ท่านก็ต้องยอมเสียบ้านหลังนี้ไป” “...” เขาเงียบ ไม่พูดไม่แสดงความเห็น เอาแต่ใช้สายตาคมกริบนั่นจ้องจับผิด แต่ฉันไม่หลบตาเขาหรอก ฉันพยายามมีสติและคิด ถ้าเราโกหกมาถึงขนาดนี้แล้ว ต้องเดินหน้าต่อให้ถึงที่สุด “เชื่อฉันเถอะค่ะ มันดีกับคุณและเข้าทางคุณเลย อีกอย่างฉันไม่อยากแต่งงานกับพ่อคุณอยู่แล้ว เราต้องร่วมมือกันนะคะ ฉันไม่หลอกคุณหรอกค่ะ” “ฉันจะรู้ได้ไง ว่าเธอจะไม่ทำตามข้อเสนอแม่เธอ? หึ ขนาดทำเรื่อง ต่ำ ๆ บำเรอพ่อบุญธรรม เธอยังยอมทำมาแล้วเลย” ฉันชะงักไปครู่นึง แต่ก็ไม่ได้หลบตาเลิ่กลั่กจนเขาสงสัย ก่อนจะรีบคิดหาวิธีรอดตาย โดยการป้ายสีคนอื่น ที่อยู่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลโข “คือฉันบอกไปแล้ว ว่าถูกบังคับ และฉันก็ถูกพ่อบุญธรรมขืนใจ ฉันไม่ได้เต็มใจจริง ๆ ฉันทรมานมาก ๆ คุณเชื่อฉันเถอะ” คำตอบฉัน ทำคุณอิฐเงียบและนิ่งไป จนฉันแอบเห็นสายตาแข็งทื่อที่จ้องมา ค่อย ๆ อ่อนลงช้า ๆ แต่ไม่ทันไรที่ฉันเผลอสบตา เขาก็รีบหันหลบและตะโกนสั่งลูกน้องตัวเองทันที “เอาป้าคนใช้นั่นมา!” ป้าคนใช้? คนไหน? แม่เหรอ? เขาจะทำอะไรอีก? ไม่เชื่อที่ฉันพูดรึไง! ฉันเนียนที่สุดแล้วนะ! เรื่องป้ายสีความผิด จริง ๆ แล้วมันอาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่ฉันเคยโดนกระทำอย่างนั้นจริง ๆ พ่อบุญธรรมพยายามถึงเนื้อถึงตัวฉันทุกครั้งที่คุณหญิงแม่เผลอ แต่ฉันก็หนีรอดออกมาได้ หลัง ๆ ท่านกลับมาทีไร ฉันก็ขอคุณหญิงแม่ไปทำรายงานกับพู่กันตลอด จะขืนใจ จะล่วงเกินด้วยมือและสายตาอะไรก็ช่าง มันก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ ท่านไม่เคยหวังดีและมองฉันเป็นลูกที่อุปการะเลย “คะ คุณหนูคะ” ฉันหลุดจากภวังค์สะดุ้งโหย่ง ก่อนจะหันขวับไปเห็นลูกน้องเขาฉุดกระชากลากดึง แม่ฉันออกมาจากตัวบ้าน! “อย่าทำอะไรแม่ฉันนะ!” สัญชาตญาณความเป็นลูกทำให้ฉันเผลอพูดและวิ่งไปหาแม่อัตโนมัติ ก่อนจะโดนคุณอิฐเขากระตุกข้อมือกลับ และบีบแน่น จะฆ่าฉันรึไง ทำไมบีบแน่นแบบนี้ ฉันเจ็บนะ! “จะไปไหน? แม่เหรอ? อ๋อ แม่แท้ ๆ อยู่นี่เอง นึกว่าถูกเก็บมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า” คำพูดคำจาที่ยียวนประสาท ทำฉันเดือดดาลขึ้นทันตา และจากสายตาเศร้าสลดตอนนี้ฉันจ้องเขาเขม็ง ก็มาดิ จะด่าทอ จะเอาปืนจ่อหัวฉัน จะทำอะไรก็ทำ! แต่อย่ายุ่งกับแม่ฉัน! “ปล่อยแม่ฉัน! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่นะ มันเป็นเรื่องของคุณหญิงผกาต่างหาก!” “คุณหนูคะ อย่าตวาดคุณอิฐแบบนั้นเลยค่ะ นมขอ ฮึก ๆ” ฉันหันขวับไปมองแม่ทันที อะไรนะ? ทำไมแม่ต้องทำตาละห้อยขอร้องฉันแบบนั้น ทำอย่างกับรู้จักผู้ชายคนนี้ดี “ก็เขาวุ่นวายกับแม่ หนูไม่ยอมหรอก! ทำไมคุณหญิงผกาต้องทำให้แม่เดือดร้อนอีกคน แค่หนูคนเดียวไม่พอรึไง!” “แหกปากเก่งฉิบหาย” ฉันเงียบกริบหันมองเสียงทุ้มต่ำที่กัดฟันพูดใกล้ ๆ ก่อนเขาจะปล่อยมือที่จับฉันไว้ และผลักฉันออกห่าง! “หึ! ทั้งแม่เธอและเธอ ฉันไม่อยากยุ่งกับใครทั้งนั้น และเรื่องที่ตกลงกัน ถ้าฉันรู้ว่าเธอยังยืนยันจะแต่งงานกับพ่อฉันอีกล่ะก็... แม่เธอไม่รอดแน่” ฉันลูบข้อมือที่ถูกบีบเป็นรอยแดง มองเขาอย่างไม่เข้าใจ เขาพูดกำกวมเกินกว่าสมองน้อย ๆ ของฉันจะประมวลผลได้ เขาจะไปบอกเรื่องฉันกับลุงอัฐ ให้ลุงอัฐไม่รับข้อเสนอของคุณหญิงแม่ใช่มั้ย? “เฮ้ยพวกมึง กลับ!” “เดี๋ยวค่ะ ๆ” พอนึกได้ ฉันก็ลืมตัววิ่งไปคว้าหมับที่ท่อนแขนใหญ่ ก่อนเขาจะก้มมองแขนที่ฉันจับไว้ และสะบัดออกด้วยสีหน้ารังเกียจ “อย่ามายุ่งกับฉัน!” ใครอยากยุ่ง ฉันแค่อยากถามให้แน่ใจต่างหาก เอะอะตะคอก ฉันอยากดึงปากเขาจริง ๆ ไอ้คนหล่อนิสัยไม่ดี ไอ้คนไม่มีใครรัก! “ฉันมีเรื่องจะถามค่ะ ที่คุณพูดเมื่อกี้ คือคุณ...” “หึ! มันจะเป็นอย่างที่เธอและฉันต้องการ แต่ถ้าเธอไม่ทำตามข้อตกลง วันนี้เธออาจจะได้เห็นหน้าแม่เธอเป็นครั้งสุดท้าย” “แต่ฉันไม่รับปากเรื่องเงินสี่สิบล้านนะคะ ฉันไม่สามารถทำงานตัวเป็นเกลียวหาเงินใช้หนี้แทนใครได้” เขายักไหล่ แล้วเงยขึ้นมองความใหญ่โตของบ้าน มองสวน มองโรงรถ ก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปากและหยุด มองฉันเหยียด ๆ “หึ ฉันก็จะยึดบ้านหลังนี้ และเฉดหัวคุณหญิงแม่ของเธอ กับผัวเอกอัครราชทูตนั่นออกไป” แม่ฉันส่ายหน้ารัวและเดินมาหยุดข้าง ๆ ฉัน ก่อนจะรีบคล้องแขนดึงฉันถอยกลับ และพูดเสียงสั่น ๆ ว่า... “ยะ อย่า อย่ารับปากอะไรกับเขาเลยค่ะคุณหนู ไม่ได้นะคะ” ฉันไม่สนใจเสียงคนข้าง ๆ และถึงตัวจะถูกดึงให้ออกห่าง ฉันก็ยังจ้องมองเขาอยู่ ใช่ ยังไง ๆ ฉันก็ไม่มีวันแต่ง และแน่นอนถ้าลุงอัฐพ่อเขารู้เรื่อง ท่านไม่รับข้อเสนอนี้แน่ ผู้หญิงเน่าเฟะมือแปดกับเงินสี่สิบล้านใครจะยอมแลก? และมันก็ถูกแล้วที่เขาจะยึดบ้านคุณหญิงแม่แทนฉันแต่งงาน “คุณหนูฟังนมรึเปล่าคะ อย่านะคะคุณหนู” “ค่ะ ไม่มีวันที่ฉันจะแต่งงานกับพ่อคุณแน่นอน!” เมื่อฉันรับปาก ร่างสูงก็ไม่ตอบ เขาหันหลังเดินไปขึ้นรถที่ลูกน้องเปิดรอทันที ก่อนที่รถคันนั้นจะบึ่งออกไป ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับแม่ที่ยืนตัวสั่นร้องไห้ แม่มองเหม่อตามท้ายรถตู้ที่พ้นประตูบ้านไป ก่อนจะหยุดปาดน้ำตาที่ไหล และหันขวับ! มาจับข้อมือฉันสุดแรง “ทำแบบนี้ทำไมคะ? นมได้ยินนะคะว่าคุณหนูโกหกคุณอิฐ คุณหนูไม่สงสารคุณหญิงเหรอ? ท่านมีบุญคุณกับเรานะคะ” สงสาร? อะไรกันฉันกับแม่ต่างหากที่น่าสงสาร! “ทำไมแม่พูดแบบนี้? เรานะที่ซวยรับกรรมที่ไม่ได้ก่อ! อย่าพูดถึงบุญคุณเลยค่ะหนูได้ยินแล้วมันขมคอ ยังไง ๆ เรียนจบหนูก็จะพาแม่หนี เราไปเปิดร้านข้าวแกงริมถนน ไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่หนูชอบก็ได้ บ้านหลังนี้ไม่น่าอยู่” “คุณหนูคะ บ้านไม่น่าอยู่ที่คุณหนูพูดถึง เจ้าของบ้านเป็นคนส่งเสียชุบเลี้ยงคุณหนูจนเรียนจบ แถมให้หยิบยืมเงินรักษาพ่อไม่รู้กี่ครั้ง อย่าลืมบุญคุณคนเลยนะคะ มันไม่ดี ฮึก ๆ” ฉันยืนนิ่ง มองแม่ที่เริ่มสะอื้นตัวสั่น ฉันไม่สามารถปลอบและกอดใครได้ทั้งนั้น เหมือนทุกอย่างที่ฉันคิดและทำ กำลังพังพินาศไปกับตา “แม่ ที่หนูทำ ก็เพื่อเรา เราไปอยู่ที่อื่นกันนะ” “นมไม่ไปไหนทั้งนั้นค่ะคุณหนู นมรักที่นี่ รักบ้านหลังนี้! และนมขอร้องได้ไหมคะ เลิกเรียกนมว่าแม่สักที นมไม่ใช่แม่คุณหนู คุณหญิงผกาคือแม่คุณหนูค่ะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม