“น้ำเปล่าคุณอิฐ ไม่มีเหรอ?”
“อย่ามาขึ้นเสียงใส่ฉัน!” ฉันเงียบเม้มปากสนิท จนได้ยินแต่เสียงไวน์ที่ติดตามผมตามหน้ามันหยดลงน้ำ ‘ติ๋ง ติ๋ง’
“...”
“เธอมันผู้หญิงหน้าไหว้หลังหลอก คิดเหรอว่าได้มาเหยียบบ้านฉันและมีพ่อฉันคุ้มกะลาหัว เธอจะปลอดภัย? คนอย่างฉันจะกำจัดเธอวิธีไหนก็ได้!”
ฉันเงียบทำตาละห้อย รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวและกลัวกับน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกของเขา
สายตาวันแรกที่เจอกันฉันว่ามันน่ากลัวแล้วนะ แต่วันนี้มันน่ากลัวยิ่งกว่าอีก เหมือนในหนังโรคจิตฆาตกรต่อเนื่องที่ฉันเคยดูเลย ถ้าถือมีดกับเลื่อยนี่เป๊ะมาก!
“ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ คุณคิดว่าฉันอยากแต่งงานกับคนแก่รุ่นพ่อรึไงคะ”
“แต่สุดท้ายก็แต่ง เหอะ! ฉันไม่สนหรอกว่าเหตุผลเธอมันจะน้ำเน่าสกปรกแค่ไหน แต่ฉันจะไม่ยอมเห็นหน้าเธอในบ้านหลังนี้อีก!”
การเจรจากับคุณอิฐมันยากกว่าที่คิดจริง ๆ
ว่าแต่พี่หลินกับพี่ชะเอมไปไหน ไปตามลุงอัฐใช่ไหม! โปรดเรียกลุงอัฐมาช่วยฉันด่วน!
“แล้วจะให้ฉันไปอยู่ที่ไหน จะเช่าบ้านหลังใหม่ให้ฉันอยู่เหรอ?”
“อย่าสำคัญตัว ผู้หญิงอย่างเธอควรไปนอนข้างถนน!”
แรงอีกแล้ว! คนบ้า คนผีทะเล ผีขนุน ไอ้บ้านเวอร์วังอลังการเนี่ย! คิดว่าฉันอยากอยู่นักรึไง ไม่เป็นส่วนตัวเลยสักนิด!
“ฉันอยู่ที่นี่ไม่นานเดี๋ยวฉันก็ไป ฉันสัญญาไม่เกินสามเดือนเรียนจบฉันไปแน่นอน”
“สามเดือนเหรอ? เธอนี่มันแถจนวินาทีสุดท้ายจริง ๆ ฉันไม่โง่ให้เธอหลอกเป็นครั้งที่สองหรอกจำไว้!”
อยู่ใกล้กันแค่นี้พูดดี ๆ ไม่เป็นรึไง หูฉันจะแตกอยู่แล้ว!
“จำก็จำ แต่อย่าตะคอกได้ไหมเค้ากลัว”
“อย่ามาทำตัวปัญญาอ่อน!”
“พอได้แล้วอิฐ!”
เสียงสวรรค์! เมื่อได้ยินเสียงลุงอัฐตะโกนเข้ามาในห้องน้ำ ฉันก็รีบคว้าขอบอ่างหยัดตัวลุกทันที ก่อนที่จะกุลุกุจอบังคับเท้าลื่น ๆ เหยียบพื้นที่มีฟองฟู่ฟ่องเดินไปหา
“ลุงอัฐช่วยพิงค์ด้วย... ฮือ ๆ”
เมื่อฉันพูดและเรียกน้ำตาออกมา พี่ชะเอมกับพี่หลินก็เดินมาหิ้วปีกฉันสองข้างออกไปหาลุงอัฐ แค่ถูกจับโยนลงอ่าง และโดนสาดไวน์ใส่หน้าทำไมฉันหมดสภาพแบบนี้เนี่ย
เหมือนนังขี้เมาและตกถังขี้เลย
หรือฉันเสียพลังไปมากกับการถกเถียง?
“ยังไงอิฐ ทำน้องแบบนี้ได้ไง?”
“พ่ออย่าพูดดีกว่า แม่ง... ทำอะไรไม่เห็นหัวผมเลย ออกไปให้หมดเลยนะ! พาผู้หญิงของพ่อไปด้วย!” ลุงอัฐหันมามองฉันแว๊บนึงแล้วถอนหายใจ ก่อนสุดท้ายจะยกมือใหญ่ลูบหัวฉันเบา ๆ
“ไม่เป็นไรนะ มีอะไรพิงค์บอกลุง ไม่มีใครทำอะไรพิงค์ได้หรอก”
นี่คือ ไม่มีใครทำอะไรฉันได้เหรอ?
“แทนตัวเองว่าลุง เหอะ ถ้าสุดท้ายไปจบลงบนเตียงนี่โคตรทุเรศเลยนะพ่อ”
ลุงอัฐเงียบไปครู่นึง แต่ท่านไม่ได้ดูโกรธลูกชายที่พูดจาแบบนั้นเลย
“แกอย่าทำตัวเป็นเด็กอิฐ ต่อไปนี้แกต้องให้เกียรติพิงค์ เหมือนเขาเป็นสมาชิกคนนึงในบ้าน และแกไม่มีสิทธิ์ทำกับน้องแบบนี้”
น้องเหรอ?
ดูคุณอิฐจะสะอิดสะเอียนกับสรรพนามที่ลุงอัฐให้เรียกฉันมาก เขาถึงกับหันหน้าไปอีกฝั่งและกลอกตามองบน
“โคตรทุเรศเลยว่ะพ่อ”
“ทุเรศยังไง?”
“ให้ผมเรียกยัยนี่ว่าน้อง ทั้งที่พ่อจะจับทำเมียเนี่ยนะ! โคตรทุเรศ พ่อพาออกไปเถอะ ผมแม่งรับไม่ได้ว่ะ”
น้ำเสียงคุณอิฐตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว จะว่าโกรธก็ไม่ใช่เสียใจก็ไม่เชิง มันครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่ฉันแอบรู้สึกได้ว่ามันอ่อนลงจากก่อนหน้ามาก จนฉันแอบคิดไปไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าคุณอิฐ
เขากำลังตัดพ้อน้อยใจพ่ออยู่
“ทำไมบอกว่ารับไม่ได้ ในเมื่อแกเองก็เที่ยวเล่นสนุกกับผู้หญิงทุกวัน!”
“...” คุณอิฐเงียบ มีแค่เสียงถอนหายใจตอบมาเท่านั้น จนลุงอัฐหันมาลูบหัวฉันอีกครั้งและบอกว่า...
“ไปเถอะหนูพิงค์ไปอาบน้ำอาบท่า จะได้ลงไปกินข้าว”
ฉันพยักหน้าหงึก ๆ และหันมองคุณอิฐแว๊บนึง แต่เมื่อเจอสายตาที่เขาขึงใส่ ก็รีบหันหลังเดินออกไปจากห้องนั้นทันที
และแล้วก็มาถึงห้องนอนฉัน ห้องที่เหมือนห้องคุณอิฐทุกอย่าง โต๊ะเตียงฟอร์นิเจอร์ผ้าม่าน จะต่างก็มีแค่ผ้าปูที่นอนผ้าห่มเท่านั้นที่คนละสีกัน
เอ๊ะไม่สิ ห้องนี้มีชั้นวางกระเป๋าและโต๊ะเครื่องสำอางด้วย
“คุณอัฐนี่ก็แปลกนะคะ รู้ว่าคุณอิฐเป็นยังไงก็ยังให้คุณพิงค์มาอยู่ใกล้อีก”
พี่หลินพูดไปเช็ดผมให้ฉันไป ตอนนี้ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว เหลือก็แค่แต่งองทรงเครื่องไปฟัดกับคุณอิฐบนโต๊ะอาหาร
แต่ที่พี่หลินพูดก็น่าสงสัยเหมือนกัน บ้านใหญ่ราวกับคฤหาสน์ ทำไมลุงอัฐต้องให้ฉันมาอยู่ห้องติดกับคุณอิฐด้วย
หรืออยากให้ฉันสนิทกับเขามากขึ้น?
สงสัยลุงอัฐจะคิดแบบนั้น แต่คงคิดผิดมหันต์ ดูลูกลุงอัฐจะไม่มีเมตาปรานีกับสตรีเพศแม่อย่างฉันเลย
แล้วคืนนี้ฉันจะหลับลงได้ยังไง? ห้องก็ใกล้กัน!ทำอะไรนิดหน่อยก็คงดังไปถึงห้องเขา!
“อ่อพี่หลิน พี่ชะเอมคะ คุณอิฐเคยพูดดี ๆ กับใครไหมพิงค์น่ะ โดนตะคอกใส่ทุกประโยคเลยค่ะ จนตอนนี้เริ่มหลอน กลัวว่าเขาจะปีนระเบียงเข้ามาฆ่าพิงค์”
“ไม่หรอกค่ะ ตกดึกคุณอิฐออกเที่ยวและออกตรวจงานทุกคืน กว่ากลับมาก็เช้า คุณพิงค์ไม่ต้องกลัวนะคะ”
อ้าว! อย่างนี้นี่เอง ดีเลยถ้าเขาออกไปดึก ๆ กลับมาเช้า แสดงว่ากลางวันเขาต้องนอน! และแน่นอนมันจะมีโอกาสน้อยมากที่ฉันจะเจอเขา
อีกอย่างถ้าวันไหนฉันมีคลาส โอกาสเจอคือศูนย์ ฉันออกแต่เช้ากลับมาก็สองทุ่ม อาบน้ำกินข้าวนอนเร็ว ๆ ก็ไม่เจอคุณอิฐแล้ว!!
เยี่ยมยอดไปเล้ย!
“เอ่อ... แล้วมื้อค่ำนี้ เขาจะลงไปร่วมโต๊ะกับพิงค์มั้ยคะ?”
แล้วพี่หลินกับพี่ชะเอมก็ส่ายหน้าพร้อมกัน
“ไม่แน่นอนค่ะ อารมณ์แบบนั้น สงสัยจะสั่งแม่บ้านยกกับข้าวไปตั้งบนห้องแล้ว”
ดีเลยจะได้หายใจหายคอได้หน่อย
พูดจบพี่ ๆ ทั้งสองก็จัดการทำผมให้ฉัน ทำผมที่ว่าไม่ใช่ตีกะบังออกงานนะ แค่รวบ ๆ สูง ๆ ง่าย ๆ เข้ากับชุดอยู่บ้านสบาย ๆ เดรสสีชมพูที่ฉันใส่
ฉันน่ะชอบสีชมพูมาก... กิ๊บยางมัดผมเคสโทรศัพท์ทุกอย่างล้วนเป็นสีชมพู เอ้อ! กางเกงในตัวจิ๋วกับบราเซียด้วยนะ ไม่อยากจะโม้ว่า คอลเลคชั่นไหนมีสีชมพูฉันไปสอยมาหมด
“เรียบร้อยค่ะคุณพิงค์ ไปกันเถอะค่ะ คุณอัฐรอที่โต๊ะอาหารแล้ว” ฉันยิ้มขอบคุณผ่านกระจกเงาและลุกขึ้นยืน จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะออกมาจากห้อง
ซึ่งระหว่างทางผ่านห้องคุณอิฐ ฉันก็เดินช้า ๆ ด้อม ๆ มอง ๆ หวั่นว่าเขาจะเปิดประตูออกมาบ้างล่ะ หวั่นว่าเขาจะเอาหมาฉันไป
เอ๊ะ? หมา ใช่มู่ทู่หายไปไหน?
ฉันไม่ได้ยินเสียงกระดิ่งลูกฉันเลย
“พี่หลินพี่ชะเอม มู่ทู่ล่ะคะ?” ฉันหันขวับกลับไปถามพี่ ๆ สองคนตกใจ ขณะที่ก้าวขาลงบันไดไปด้วย
“อ๋อแม่บ้านพาไปเดินเล่นค่ะ เพราะตอนคุณพิงค์อาบน้ำ มู่ทู่ก็ไปนั่งข่วนประตูห้องคุณอิฐอีก ทางเราเลยไม่อยากให้มีปัญหากันค่ะ เลย...”
แล้วพี่ทั้งสองก็เว้นช่วงก้มหน้าลงสำนึกผิด ที่พาหมาฉันออกไปเล่นโดยภาระการ
เฮ้อ... ฉันล่ะสงสัยจริง ๆ ทำไมมู่ทู่อยากเข้าห้องคนที่ทำร้ายตัวเองนัก ชอบเขาเหรอ? หรือจะไปอึใส่หมอนอึใส่ผ้าห่มแก้แค้นเขา?
“ไม่เป็นไรค่ะดีแล้ว ฝากดูแลด้วยนะคะ มู่ทู่คงยังไม่ชินน่ะค่ะ”
“ทางเรายินดีค่ะ ขอแค่คุณพิงค์สั่ง” พี่ชะเอมพูดยิ้ม ๆ จนพี่หลินพยักหน้าเห็นด้วยอีกคน
“ใช่ค่ะ ๆ อยากได้อะไรและให้เราทำอะไร คุณพิงค์สั่งมาได้เลย”
“ขอบคุณนะคะ มีพี่สองคนดูแล แค่นี้พิงค์ก็อุ่นใจแล้ว”
พอพี่ ๆ ทั้งสองยิ้มรับคำขอบคุณ พวกเธอก็เดินตามหลังฉันมาส่งที่โต๊ะอาหาร ซึ่งโต๊ะอาหารใหญ่มาก! ถ้าบอกว่าทั้งใหญ่และยาวจะน่าเกลียดมั้ย เพราะมันใหญ่จริง ๆ ลุงอัฐนั่งหัวโต๊ะอีกฝั่ง ฉันนั่งอีกฝั่ง ซึ่งห่างจากฉันไกลมาก แถมจะคุยอะไรกันสักคำก็ต้องขยับหลบแจกันใหญ่ ๆ ที่ตั้งกลางโต๊ะอีก
“กับข้าวถูกปากมั้ยหนูพิงค์ ไม่ชอบอะไร ขาดเหลืออะไรสั่งได้นะ”
ฉันก้มมองกับข้าวสิบอย่างบนโต๊ะ ที่มันเป็นของฉันคนเดียวทันที
เอ่อ... แค่ดมฉันก็จุกถึงคอแล้ว
“ได้ค่ะกำลังดีเลย เอ่อลุงอัฐคะ คุณอิฐล่ะคะ ไม่ทานเหรอ?”
พอเห็นว่ามีจานและสำรับสองชุด ฉันจึงแกล้งถามตามมารยาท
“เดี๋ยวคงไปหากินข้างนอกเอง ต่อไปพิงค์ไม่ต้องเรียกอิฐเขาว่าคุณนะ เรียกพี่อิฐก็พอ คุณมันห่างเหินไป”
ฉันละจากจานข้าว เงยขึ้นมองลุงอัฐทันที ก่อนที่จะเห็นคนใช้และลูกน้องหันมองกันให้ควั่ก
ก็แหง ทุกคนคงแปลกใจเหมือนฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อแต่งงานเป็นภรรยาลุงอัฐนะ แต่ทำไมลุงอัฐให้ฉันเรียกคุณอิฐว่าพี่ล่ะ?
“อ๋อ ได้ค่ะ แต่ถ้าพิงค์เรียกคุณอิฐว่าพี่ เขาจะไม่โกรธพิงค์ใช่ไหมคะ?”
ลุงอัฐส่ายหน้าเบา ๆ แล้วอมยิ้ม และหลังจากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่ออีก จนฉันเองไม่กล้าเซ้าซี้ท่าน ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ