ฉันไม่ไป

2110 คำ
"ควินต์มีอะไรหรือเปล่า" หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น อิงเดือนก็พยายามลืมมันให้หมดและปิดปากเงียบไม่บอกใคร และเข้าเรียนที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในคณะบริหารที่เธอพอจะเรียนได้และไม่ต้องสอบเข้า เพราะเธอนั้นไม่เคยมีเวลาอ่านหนังสือเรียนเหมือนเพื่อนๆ คนอื่นๆ ด้วยเวลาทั้งหมดต้องเอาไปดูแลแม่ เงินสิบล้านก็เลยถูกเอามาใช้อีกส่วนหนึ่งและค่อนข้างมากเสียด้วย เธอเสียดายแต่ก็ไม่มีทางเลือกเพราะการเรียนจะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้แม่ของเธอฮึดสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ และในมหาลัยเธอก็ได้เจอเพื่อนดีๆ อีกสองคนที่คอยช่วยเหลือเธอในทุกเรื่อง นับว่าเป็นโชคดีของเธอถึงแม้ว่าเพื่อนชายคนหนึ่งจะคิดกับเธอเกินเพื่อนและยืนมองหน้าเธอนานมากเกินไปแล้วด้วย "วันนี้ให้เราไปส่งไหม" ควินต์หนุ่มลูกครึ่งดีกรีเดือนของคณะบริหารของมหาลัยเอกชนชื่อดังกำลังขอไปส่งเพื่อนที่เขานั้นคิดกับเธอมากเกินกว่าเพื่อนตั้งแต่แรกเจอ ด้วยเธอนั้นเรียกได้ว่าทั้งสวย ทั้งน่ารัก สะดุดหัวใจเขาตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน "เรากลับเองดีกว่า ใกล้แค่นี้เอง" อิงเดือนตอบออกไปเหมือนเดิมทุกครั้งพร้อมกับกระชับกระเป๋าผ้าใส่หนังสือในมือให้แน่นขึ้นเพื่อเตรียมจะออกไปขึ้นรถโดยสารที่หน้ามหาลัยกับเพื่อนสาวอีกคน เธอรู้ดีว่าควินต์คิดกับเธอแบบไหนเลยพยายามเว้นระยะห่างแบบนี้มาตลอด ด้วยเธอไม่ใช่คนดีอะไร ออกจะทำผิดมามากมายด้วยซ้ำไป เธอเลยไม่คิดจะมีความรักใดๆ แม้ผู้ชายตรงหน้าจะดีและหล่อจนสาวกรี๊ดกันทั้งมหาลัยก็ตาม เพราะกลัวว่าวันหนึ่งความลับเกี่ยวกับเรื่องนั้นมันแดงขึ้นมา เธอจะเป็นฝ่ายที่เจ็บปวดที่สุด "อดไปส่งสาวสวยของคณะอีกแล้ว" ควินต์ตัดพ้อออกมาอย่างปลงๆ แต่ไม่มียอมแพ้ วันนี้เธอไม่ใจอ่อนพรุ่งนี้เขาก็จะอาสาพาเธอไปส่งกลับคอนโดใหม่ จะมาชวนเธอทุกวันแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะใจอ่อน "ไว้คราวหน้านะ จะให้ไปส่งและไปเลี้ยงหมูกระทะด้วย จะกินให้ควินต์ไม่มีตังจ่ายเลย" อิงเดือนพูดติดตลกทิ้งท้ายไปเพื่อรักษาความเป็นเพื่อนเอาไว้ เพราะตั้งแต่มาเข้าเรียนที่นี่ได้เธอก็มีเพื่อนแค่สองคนเท่านั้นเอง เธอเลยไม่อยากเสียเพื่อนคนไหนไป เพราะแค่นี้ก็มีน้อยเหลือเกินแล้ว "ฉันไปด้วยคนสิ" ดารัญหรือหวานรีบพูดแทรกขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่าของกินได้ ทั้งที่ในมือของเธอนั้นก็กำลังถือของกินอยู่เต็มสองมือ โดยที่เอาหนังสือเรียนใส่เป้สะพายหลังแบกเอาไว้แบบเด็กมัธยมปลาย "ตะกละ" ควินต์หันไปว่าหญิงสาวที่ทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตในความคิดเขาเสียงดัง กับผู้หญิงคนนี้เขาไม่เคยมีคำว่ามารยาทหรือสุภาพบุรุษให้เลยแม้แต่นิด เพราะดูเธอทำตัวเข้ามันไม่เหมาะสมที่จะได้รับอะไรดีๆ กลับไป "ไอ้ควินต์" ดารัญที่ตัวเล็กแต่บ้าพลังพอสมควรทั้งท่าวิ่ง แล้วเธอก็พุ่งตัวเข้าไปหาควินต์ผู้ชายที่เธอเกลียดปากเขา "หวานอย่า" อิงเดือนรีบเข้ามาขวางทางเพื่อนสาวของเธอเอาไว้ ก่อนที่ดารัญนั้นจะเข้าไปทำร้ายควินต์เหมือนอย่างที่เคย และเขาก็จะสู้กับเพื่อนสาวของเธอด้วยการอุ้มไปทุ่มในพุ่มไม้อีกตามเคย "เดือนห้ามไว้หรอกนะ ไม่งั้นหน้าแหกแน่ไอ้ควินต์" ดารัญที่ถูกเพื่อนอย่างอิงเดือนรั้งตัวเอาไว้พอจะตั้งสติหยุดตัวเองได้ไม่เข้าไปหาฝรั่งลูกครึ่งร่างยักษ์นั้น เพราะเข้าไปหาทีไรเธอก็แพ้เขาทุกทีแถมเจ็บตัวเจ็บก้นหนามทิ่มอีกตั้งหาก โชคดีแล้วที่อิงเดือนเข้ามาห้ามไว้จนเกิดสติคิดขึ้นมาได้เสียก่อน "หวานอย่าไปยั่วเขาสิ" อิงเดือนเห็นเพื่อนยังเสียงดังอยู่ก็ยิ่งพยายามห้าม ถ้าเกิดเพื่อนสาวและเพื่อนชายเธอตัวเท่ากันสักนิดเธอคงปล่อยให้ทะเลาะกันตามอำเภอใจไปเลย ไม่มาห้ามทัพให้เหนื่อยและเริ่มจะเป็นจุดสนใจของนักศึกษาที่ผ่านไปผ่านมาแบบนี้หรอก มันเหนื่อย "มาเฟียที่ไหนน่ะ" ดารัญทำท่าทำทางยอมสงบลงเพราะมีอิงเดือนเข้ามาห้าม แต่ยังคงทำหน้าตาดุๆ ใส่ควินต์ไปอย่างไม่ยอม แล้วสายตาหวานก็หันไปเห็นกลุ่มชายใส่สูทดำสี่ห้าคนเข้าพอดี ทำเอานักศึกษาที่เกือบจะเรียบร้อยอย่างเธอตกใจตาพอง เพราะที่นี่ไม่เคยมีพวกเหมือนมาเฟียเข้ามาได้ถึงภายในแบบนี้มาก่อน "มาถึงในมหาลัยทำไมกัน" ควินต์หันไปมองตามเสียงของดารัญแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อเขานั้นรู้จักกลุ่มคนที่เดินมาเป็นอย่างดีว่าคือใคร ถึงแม้จะไม่ได้รู้ละเอียดนักว่าเป็นลูกน้องของใคร เพราะเคยเห็นแค่ผ่านๆ ตาตอนไปเที่ยวผับเท่านั้น แล้วลูกน้องมาเฟียนั้นมาถึงภายในมหาลัยทำไมกัน มีใครหน้าไหนไปมีเรื่องกับพวกมีอิทธิพลล้นมือแบบนี้กัน "บ่นอะไร" ดารัญหันมาจับผิดคนที่เธอไม่ชอบขี้หน้าต่อแทนการมองคนไม่รู้จัก เพราะเธอไม่ไว้ใจเขา ด้วยคิดเสมอว่าเขานั้นคิดไม่ดีกับอิงเดือนเพื่อนของเธอ "เรื่องส่วนตัว" ควินต์เบะปากใส่คนที่ชอบถามมากพูดมากอย่างดารัญไปหนึ่งที "เดือนรู้จักคนพวกนั้นเหรอ" ดารัญหันหน้าไปหาเพื่อนอย่างอิงเดือนแล้วชวนพูดคุยเมื่อเห็นว่าเพื่อนมองคนพวกนั้นตาไม่กะพริบ แทนการคุยกับคนปากหมาหน้าตาขี้เหร่อย่างควินต์ "ไม่รู้จัก เรากลับบ้านกันเถอะ" อิงเดือนรีบหันหลังให้กลุ่มชายใส่สูทสีดำที่กำลังเดินมาทางเธอ ด้วยกลุ่มคนพวกนั้นเธอคุ้นหน้าเขามากจนคิดไปในทางที่ดีไม่ได้เลย "น่าแปลก คนพวกนั้นมาทำไมกัน เดินตรงมาทางนี้เสียด้วย" ดารัญเองก็รีบหันหน้าตามเพื่อนเพราะชักจะเริ่มกลัวแล้วเหมือนกัน คนพวกนั้นทำไมดูอิทธิพล ดูมีอำนาจ จนน่ากลัวไปหมดก็ไม่รู้ "อย่าไปสนใจเลยหวาน ควินต์เรากลับก่อนนะ" อิงเดือนรีบลากเพื่อนสาวที่พักอยู่ทางเดียวกันไปขึ้นรถโดยสารทันที ถ้าคนพวกนั้นเป็นลูกน้องของพ่อค้ายาเสพติดที่เธอเคยไปขายตัวให้กับเขาความซวยต้องมาเยือนเธอแน่ๆ แผลเก่าเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนที่เกิดเหตุบนรถยังไม่หายดี เธอไม่อยากกลับไปหาเขาอีก สู้หนีเอาแบบนี้จะดีกว่า "พรุ่งนี้เจอกัน" ควินต์โบกมือลาสาวๆ แล้วก็เดินไปขึ้นคร่อมรถบิกไบค์คันโตของตัวเอง ไม่ได้สนใจกลุ่มชายใส่สูทดำนั้นต่อเพราะไม่น่าสนใจอะไร เพราะคนพวกนั้นคงมาตามใครสักคน เดี๋ยวคงกลับออกไปเอง "คุณอิงเดือนเชิญไปขึ้นรถครับ" ลาซมือขวาของธาราเอ่ยเรียกหญิงสาวที่กำลังหันหลังเดินหนี "คุณอิงเดือนเชิญไปขึ้นรถครับ" และเมื่อเธอยังไม่สนใจ เขาก็เรียกซ้ำอีกครั้ง "เดือน เขาเรียกเธอนะ" ดารัญสะกิดแขนเพื่อนเบาๆ พร้อมกับหยุดเดิน ด้วยเธอกลัวคนที่อยู่ด้านหลังชักปืนออกมายิงถ้ายังไม่หยุดเดิน "มีอะไรกันหรือเปล่า" ควินต์ลงรถจากรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่วิ่งมาหาสองสาวในทันทีเมื่อได้ยินเสียงสนทนา ร่างหนาของเขาเข้าบังหญิงสาวทั้งสองคนจากพวกลูกน้องของมาเฟียพวกนั้น "คุณอิงเดือนรถจอดอยู่ทางด้านนู้นครับ" ลาซบอกหญิงสาวที่ยังคงคิดหนีอีกครั้งอย่างสุภาพ เพื่อให้เธอนั้นยอมรับฟังเขาและทำตาม ก่อนที่เขาจะต้องใช้กำลังบังคับเธอให้ไปขึ้นรถ "ผมขอแนะนำว่าให้คุณไปขึ้นรถ เพราะมันจะดีกับตัวคุณมากกว่าการที่จะเดินหนีไป" แต่หญิงสาวยังคงคิดหนีด้วยการขยับเท้าก้าวถอยหลัง เขาเลยจำต้องเตือนสติเธออีกครั้งให้เธอนั้นหยุดการกระทำเสีย "ฉันไม่ไปไหนกับพวกคุณทั้งนั้น" อิงเดือนหันมาแหวใส่ลูกน้องของมาเฟียหนุ่มอย่างนึกอารมณ์เสีย เธอแค่คิดหนีนิดหนีหน่อยทำมาเป็นพูดเยอะข่มขู่เธอ ทำนิสัยเสียเหมือนเจ้านายจอมซาดิสนั้นเสียไม่มีเลย "ผมให้เวลาคุณอิงเดือนคิดใหม่" ลาซยังคงให้โอกาสกับหญิงสาวอีกครั้งโดยไม่เข้าไปจับตัวเธอเพื่อไปขึ้นรถ เขาอยากให้เธอเดินไปเองจะได้ไม่เจ็บตัว และไม่เป็นการบังคับจิตใจกันมากจนเกินไป "หวานกลับไปก่อนนะ" อิงเดือนที่รู้ว่าหนีไปไหนไม่ได้แล้วเลยหันไปลาเพื่อน เธอจำต้องไปตามที่คนพวกนั้นบอกเพราะหนีไปก็คงไม่พ้น "เดือนไปกับเรา ไม่ต้องไปกับพวกมันหรอก" ควินต์พยายามหาทางช่วยหญิงสาวที่เขามีใจให้เต็มที่ ยอมเอาตัวเข้าเสี่ยงกับพวกมาเฟียโดยที่ไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงต้องการตัวเธอ "ฝากพาหวานกลับบ้านด้วยนะควินต์ ขอบใจนะที่รับปาก" อิงเดือนรีบเดินไปขึ้นรถทันทีโดยที่ไม่พูดอะไรมาก เธอพยายามเลี่ยงที่จะไม่ให้เพื่อนๆ สงสัยอะไรมากนัก เพราะมันเสี่ยงที่เรื่องของเธอจะแดงขึ้นมา และความลับก็จะไม่มีในโลกนี้อีกต่อไป เดี๋ยวเธอกลับมาค่อยมาอธิบายแบบโกหกให้สองคนนี้ฟังก็ยังทัน ยังดีกว่าฝืนที่จะหนีจนเรื่องของเธอมันดังไปทั้งมหาลัย "เดือน" ดารัญและควินต์ผสานเสียงเรียกเพื่อนที่ถูกกลุ่มลูกน้องของมาเฟียพาไปขึ้นรถ โดยที่ไม่อาจจะเข้าไปช่วยอะไรได้เพราะคนทั้งสองก็เป็นแค่นักศึกษา ไม่มีทั้งอาวุธหรืออำนาจใดๆ "ฉันจะนั่งข้างหน้า" เดินมาถึงรถหญิงสาวก็คิดหาทางรอดในทันที อย่างแรกเธอจะไม่ไปนั่งข้างคนซาดิสอย่างเขา เพราะมันอาจเกิดเรื่องบ้าแบบในวันนั้นที่ในรถได้อีก "เจ้านายไม่ได้มาด้วยเชิญคุณนั่งข้างหลังได้ตามสบาย" แล้วก็ต้องหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บเมื่อเขาไม่ได้นั่งอยู่ในรถ แล้วทำไมถึงไม่มีใครบอกเธอก่อนก็ไม่รู้ต้องให้เธอออกตัวล้อฟรีอยู่เรื่อย "อยากคุยกับฉันแล้วทำไมถึงไม่มาคุยให้มันจบๆไปล่ะ จะทำตัวลึกลับไปถึงไหนกัน" ร่างบางขึ้นไปนั่งด้านหลังรถหรูได้ก็บ่นพึมพำว่าเจ้าของรถมากมาย ราวกับคนเก็บกดที่อยู่ต่อหน้าเขาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว "ออกรถ" ลาซและแกริดไม่ได้สนใจในคำพูดของหญิงสาวแต่กลับตั้งใจทำงานที่เจ้านายสั่งมา "ฉันจะไปไม่ไกลเกินระยะห้ากิโลจากมหาลัย บอกคนบ้านั้นด้วยว่าถ้าอยากคุยกับฉันก็ออกมาพบกลางทาง ถ้าเรื่องมากนักฉันจะโทรแจ้งตำรวจข้อหาพรากผู้เยาว์" อิงเดือนเห็นท่าทีของทั้งสองคนก็เลยนึกหมั่นไส้เลยตั้งแง่เล่นตัวขึ้นมาบ้าง ทำตามคำสั่งคนร้ายๆ แบบนั้นดีนักเจองานยากเข้าหน่อยเป็นไง "คุณอายุสิบแปดแล้วตำรวจคงไม่รับแจ้งความ" ลาซเอ่ยบอกหญิงสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบเผื่อเธออาจลืมอายุตัวเอง แล้วเขาก็เงียบไปเหมือนแกริดที่เงียบและตั้งใจขับรถ "ฉัน ฉันจะทำอะไรสักอย่างให้คนบ้านั้นติดคุก" อิงเดือนถอนหายใจพรืดยาวด้วยความลำบากใจ เธอจะไม่มีทางใดชนะเจ้าของเงินสิบล้านที่เธอใช้จนเกือบจะหมดได้แล้วเหรอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม