ปองขวัญเสร็จงานเมื่อตอนบ่ายๆ ที่สตูดิโอแถวรัชดาซึ่งรถตู้ของทางทีมงานบริษัทโฆษณา
เป็นคนมารับตัวไปพร้อมกับนักแสดงตัวประกอบของบริษัทอีกสองสามคน
ได้รับบทเด่นมีบทพูดโฆษณาลูกอม ที่เคยคุ้นติดตาผ่านทางจากทีวี
และปองขวัญกลับมาที่บริษัทอีกครั้ง นี่เพียงแค่งานซ้อม อีกสามวันถึงจะถ่ายจริง แต่ก็ได้ค่าตัวพร้อมกับเพื่อนดาราตัวประกอบ
"เดี๋ยวนะปอง เมื่อทางช่องเขารับปองแล้ว จะต้องมีการเซ็นสัญญากับพี่อีกที แล้วปองจะต้องเรียนแอคติ้งโค้ชที่ทางช่องเขาจะมีครูฝึกให้ หนูต้องเป็นทุกอย่างนะ เท่าที่ดูแล้วหน่วยก้านหนูมี เรียนรู้เร็ว พอที่จะพัฒนาการได้ หากในอนาคตหนูมีชื่อเสียง จะเติบโตในวงการนี้ได้มากทีเดียว"
เท่าที่คุณเค้กหรือจันทิมาเอ่ยพูดคำชมของเธอ แทบทำให้ฉันตัวลอยไปเลยค่ะ แต่ก็เก็บไว้ในใจลึกๆ
ไม่กล้าแสดงนอกหน้า จะหาว่าเห่อ อีกทั้งเพราะไม่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร ยังใหม่ในวงการ ยังเป็นเด็กอยู่ ก็เรียนรู้ตามผู้ใหญ่
"พ่อกับแม่ครับผมกลับมาแล้ว"
เสียงดังมาจากหน้าประตูเต็มไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้างและคุณพ่อคุณแม่มายืนรออยู่ตรงประตู
ท่านรับทราบทั้งหมดแล้วน้องสาวเป็นคนบอก
วันนี้เอริณีไปโรงเรียน ท่านทั้งสองรับรู้แล้ว
พบเจอทั้งพ่อและแม่ ท่านไม่ได้นิ่งเฉยหรือเงียบ แต่ริมฝีปากของท่านทั้งสองขยับออกแย้มเหมือนยินดีด้วย
แรกก็หน้าเหลอพอสมควร เพราะนึกถึงความผิดที่โกหกท่าน ไม่ได้บอกความจริงว่าจะไปประกวด
"พ่อกับแม่ดูแล้วลูก ดูทางหน้าจอทีวี ลุ้นกับลูกอยู่"
นนเงยหน้าขึ้นมอง
"งั้น นนไม่มีอะไรจะปิดพ่อกับแม่แล้วครับ ที่นนทำอย่างนี้เพื่ออยากหาเงินสักก้อนมาให้แม่ในการรักษาผ่าตัด"
"นนรู้หรือลูก” คุณอิสรีถามลูกชาย
"นนเห็นพ่อกับแม่คุยกันในวันนั้น ขอโทษนะครับนนไม่ได้ตั้งใจเพียงแต่นนจะเดินเข้าห้องน้ำ แม่ไม่ได้บอกกับลูกๆของแม่ทุกคนเลยว่าแม่ต้องใช้เงินอย่างมากเพื่อรักษาตัวเอง"
พูดกับแม่ด้วยน้ำตา ทั้งพ่อและแม่หยุดแล้วมองหน้ากัน สุดท้าย พ่อเดินเข้ามาหา โอบกอดตัวนนไว้
"ลูกทำดีที่สุดแล้วล่ะ ดีใจนะที่ทำได้"
"พ่อไม่โกรธผมเหรอ"
"จะโกรธได้ยังไงในเมื่อลูกพ่อทำสิ่งดี"
"แต่พ่อก็แอนตี้ผมตลอดเรื่องเข้าวงการ จนผมไม่ได้เคยนึกถึงเรื่องนี้เลย"
"ไม่เป็นไรลูกมันผ่านไปแล้ว คิดว่ายุคของลูกกับพ่อมันต่างกันเมื่อก่อนนี้ลำบากมาก แต่สมัยนี้เห็นว่าดีขึ้นแล้ว"
ความเป็นจริงที่ได้ฟังจากปาก ทำให้เข้าใจว่าท่านไม่ได้คล้อยตามทั้งหมด ท่านรับฟังเหตุผล และท่านก็ไม่ได้ห้ามเสียทั้งหมด
"พ่อมาจากอาชีพนี้เหมือนกัน พ่อคงไม่โกรธและเกลียดอาชีพนี้หรอก ทุกวันนี้ที่พ่อมีทุกอย่างเพราะอาชีพนี้"
"แต่พ่อไม่เคยหวนกลับเข้าไปในวงการเลย"
"คนไม่มีพรรคไม่มีพวกน่ะลูก เข้ายากเหมือนกัน"
พ่อพูดให้ฟังเข้าใจแบบง่าย นนไม่พูดอะไรอีก
ทีนี้เดินไปหาแม่ แม่กอดอีกครั้งแม่น้ำตาไหลด้วยตื้นตัน แม่คงเห็นชัด ในภาพการถ่ายทอดทางทีวี ถึงรางวัลที่ลูกชายได้รับเช็คเงินสดมูลค่าล้านกว่า กับรถเก๋งที่ได้รับมอบพร้อมกุญแจ
ซึ่งนนขับมาด้วยแต่ไปจอดไว้ที่คาร์แคร์ให้เด็กในร้านดูแลอย่างดี เป็นเพราะบ้านของเราไม่มีที่จอดรถ ถ้าจะเอารถมาจอดอีกคัน
ได้รับเช็คอย่างเรียบร้อยแล้ว จากผู้ใหญ่ทางช่อง และถ้วยรางวัลที่นนเดินถือมาด้วย ไอ้เดิร์ฟมาส่ง อยู่หน้าบ้านไม่ได้เข้ามาด้วย เพราะรีบจะกลับบ้าน
คงอยากให้เพื่อน อยู่กับพ่อแม่ตามลำพังมากกว่า เพราะนนอาจถูกตำหนิดุ แต่กลับตรงกันข้าม
เลยบอกแม่
"นนได้รางวัลชนะเลิศแม่ ได้เช็คเงินสดที่จะจ่ายค่าผ่าตัดของแม่ได้สบายเลย ส่วนนี่คือกุญแจรถผมเองรถเก๋งไปจอดไว้ที่ร้านเราให้เด็กมันดูเพราะบ้านเรายังไม่มีที่จอด"
"แค่นี้แม่ก็ปลื้มใจมากแล้วลูกเอ๊ย"
แม่กอดตอบเขาเหมือนจะร้องไห้ออกมา
"ต่อไป นนจะทำงานในวงการบันเทิง พรุ่งนี้ผู้ใหญ่ของช่องเรียกตัวนนเข้าไปอีกครับ ดูเหมือนจะฝึกแอคติ้งโค้ช พ่อกับแม่อย่าห่วงนะ นนจะรีบกลับ"
บอกให้พ่อกับแม่ทราบด้วย ว่ากิจกรรมของทางช่องที่ได้รับนั้นจะต้องทำอย่างไร
แลจะต้องออกรายการสดของทางทีวี ช่วงข่าว เพื่อแนะนำดารารุ่นใหม่ที่ได้รับการประกวดชนะเลิศมีทั้งนนและเพื่อนอีกสองคน ก็คือ เข้ม ธันวา กับ สนุ้ก นาวายศ เพราะพวกเราเป็นสตาร์ท๊อปออฟไทยแลนด์
พ่อที่คุ้นชินกับวงการบันเทิงมาก่อนพยักหน้า
"เข้ามาถึงแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าล้างตาอาบน้ำก่อนสิลูก” คุณกัมปนาทบอกลูกชาย
"ครับพ่อ เดี๋ยว นนลงมา"
"มีอะไรกินมั้ยครับ นนหิว"
"แกงเขียวหวานไก่ไงกับทอดมันกุ้งอยู่ในครัวเดี๋ยวแม่ ใส่จานให้ลูก"
คุณอิสรีบอกลูกชายคนกลาง ที่จับพลัดจับผลูเข้ามาในวงการแล้วโดยไม่คาดฝัน และไม่ได้ใช้เส้นสายของผู้เป็นพ่อ เขาใช้ความสามารถด้วยตัวเอง
"ครับแม่ แป้บ นะ นนเข้าอาบน้ำก่อนแล้วจะลงมา วันนี้เหนื่อยมากเลย กว่าจะเสร็จสิ้นการประกวด นี่ไงแม่สัญญาของทางช่อง"
หยิบกระดาษสัญญาของทางบริษัทช่องทีวีที่มีลายเซ็นของตัวเองให้แม่ไปอ่านดู เงื่อนไขต่างๆที่ทางบริษัทให้มาและนนต้องปฏิบัติตาม พ่อรับไปอ่านและพิจารณาเพราะพ่อรู้ดีกว่าแม่
"ดีแล้วคุณ สัญญาไม่เอาเปรียบ ดี ดูเหมือนเขาแฟร์กับนักแสดงพอสมควร"
"พรุ่งนี้ ปลุกนนตื่นเช้าด้วยนะแม่ ตีสี่นนต้องไปที่สถานี แล้ว รายการข่าวบันเทิง จะสัมภาษณ์นนกับเพื่อนอีกสองคน"
"แล้วจะไปยังไงล่ะลูก ให้พ่อไปส่งมั๊ย”
คุณอิสรีห่วงลูกชาย
"ครับให้พ่อไปส่ง"
นนผลุบหายเข้าไปในห้องของตัวเองอาบน้ำแล้วแต่งตัวตามสบายกางเกงขาสั้นฮาวายกับเสื้อคอกลมสีดำทีชอบ
แล้วมานั่งทานอาหารที่แม่จัดให้อย่างเอร็ดอร่อยเพราะหิวมาก
"ค่อยกินสิลูก" คุณอิสรีเฝ้าลูกชายอยู่ตรงนั้น
"แม่เช็คนี้สามารถขึ้นเงินสดได้วันอังคารนะครับ เขาระบุวันไว้ด้วย"
บอกแม่อีกครั้งเพราะต้องจัดการเรื่องนี้ในการไปขึ้นเงินสดเพื่อนำมาใช้จ่าย เตรียมไว้แล้วว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะยกให้แม่ เขาขอติดตัวไว้สักห้าหมื่น เผื่อฉุกเฉินจะต้องใช้อะไร ไม่ต้องขอพ่อกับแม่
"เอาไปแค่ห้าหมื่นเหรอลูก พอเหรอ"
"พอสิครับแม่ แค่นี้พอ นนไม่ได้ใช้ทำอะไรมาก นอกจากจำเป็นจริงๆ" และเขาไว้ค่าน้ำมันรถกับค่ากิน
"ส่วนรถของลูกพ่อว่าจะต่อโรงรถบ้านเราเพิ่มอีก รถของนนจะได้จอดไงลูก ทำกันสาดเพิ่ม หลังคาเมทัลชีทจะได้กันฝนกันแดดดี เดี๋ยวพ่อจะให้ช่างทำเลย"
"ครับพ่อ"
อิ่มอาหารแล้วยิ้มออกมา แม่บอกว่า
"ไว้นั้นล่ะเดี๋ยวแม่ให้เด็กจัดการเอง" ลูบที่พุงของตัวเอง
"นนต้องผอมลงกว่านี้อีกหน่อยครับแม่ ดูเถอะ ดีะที่นนออกกำลังกายแทบทุกวัน ทำให้ดูลีนขึ้น"
ใช่ส่วนสัดร่างกายดูลีน และสมาร์ทบวกกับความสูงโปร่งใบหน้าคมคายแบบไทยแท้
ทั้งจมูกโด่งเป็นสันไม่แหลมเหมาะเจาะพอดี ริมฝีปากได้รูปหยักสวยอมชมพู มีคนชมว่าปากนน เหมือนผู้หญิงนัยน์ตามีเสน่ห์ ใครๆมักชอบมองแล้วก็หลง
ตื่นแต่เช้าตั้งแต่ตีสี่คุณแม่ปลุกครับอาบน้ำแต่งตัวที่ถือว่าดีที่สุด แล้วก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง
ที่ทางรายการของช่องทีวีจัดให้
อาจจะเป็นเสื้อสูท ส่วนเสื้อผ้า นนเตรียมมาเสร็จสรรพแล้วมีการแต่งหน้าก่อนออกรายการและมีการเตรียมการหรือเตี๊ยมบทพูดในสคริปต์ ว่านนต้องพูดยังไงบ้าง ประมาณนี้
แค่คร่าวๆ ช่วงไหนที่เพื่อนให้สัมภาษณ์และช่วงไหนที่ผู้ดำเนินรายการพูดหรือแม้แต่ เข้ม หรือสนุ้กก็มีบทของตัวเอง
ก้าวแรกที่ได้ทำงานในวงการบันเทิงจริง มันไม่ได้หวานหมู หรือปอกกล้วยเข้าปากอย่างที่ใครคิดสักนิด
เพราะเขากับเพื่อนจะต้องเรียนหลายอย่าง