เกือบจะหนึ่งเดือนแล้วแหละค่ะทุกคน ที่ฉันต้องไป-กลับจากโรงเรียนพร้อมกันกับแฟน แฟนที่แปลว่าคอยควบคุมทุกอย่างแม้กระทั่งไปนั่งกินสปายในคลับของพ่อเขา ใช่จ้ะ! มากสุดในตอนนี้ที่กินได้ก็มีแค่สปายกับฟูลมูนเท่านั้น! ยังไม่รวมบอดี้การ์ดที่คลับมาเฝ้าอยู่ข้างๆ ซึ่งนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดใจฉิบหายบอกตรงๆ !
เราจะไม่พูดถึงคุณนายโสนกันค่ะ เพราะรายนั้นดีใจนักหนาที่มีว่าที่ลูกเขยที่เป็นถึงลูกชายคนรวยคอยเอาใจใส่ลูกสาวของตัวเองเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าทั้งสองคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ยค่ะ ส่วนลูกนอกไส้อย่างฉันนั้นคงจะทำได้แค่ตีอกชกลมอยู่คนเดียว เพราะเจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ชิ!
"อั๋นลูก... วันนี้ติดงานที่คลับไหมแวะกินข้าวเป็นเพื่อนแม่กับเสน่ห์เขาก่อนสิ แม่ทำไว้เผื่ออั๋นด้วยนะลูก" นั่นไงนินทาไปไม่ทันขาดคำก็มาดักรอที่หน้ารั้วกันเลยทีเดียว
"ช่วงนี้ที่คลับเขายุ่งๆ ค่ะแม่" ฉันพยายามที่จะไล่ให้เขากลับไปไว ๆทางอ้อม ซึ่งมันก็ส่งผลให้แม่ตวัดหางตาเขียวปั๊ดเชิงอย่างไม่ต้องสงสัน
"เสน่ห์" แม่เสียงเข้มขนาดนี้อีเหน่คงต้องหุบปากอีกแล้วสินะ เออ! ก็ได้วะ 😒
"ด้วยความยินดีเลยละครับคุณแม่" อั๋นยักคิ้วให้ฉันก่อนจะเดินไปหยิบกระเช้ารังนกมาให้แม่
"ของฝากครับคุณแม่" เอาหน้า ชิ! ชะ! เชอะ!
"ต๊าย! พ่อคุณไม่เห็นต้องลำบาก แต่ยังไงก็ขอบใจนะลูกของโปรดแม่เลยจ้ะ"
"เสน่ห์ แม่เห็นนะ" ก่อนที่แม่หันมาเอ็ดฉันที่กำลังยืนทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่อั๋นอยู่
"หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะแม่ หนูว่า... หนูไปตั้งโต๊ะก่อนดีกว่าเนอะแม่เนอะ" ฉันทำเป็นไก๋ใส่แม่ก่อนจะเดินผิวปากเข้าไปในบ้านก่อนใครๆ
ฝ่ายโสนได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ ให้กับดีกรีแสบสันของลูกสาวตัวดี ที่ไม่เคยมีท่าทีว่าจะลดลงบ้างเลย
โรงเรียนธัญศิลาวิทยา
"เสน่ห์เพื่อนรัก~ ทำไมทำหน้าเหมือนเบื่อโลกขนาดนั้นละจ๊ะเพื่อน~" แนนซี่ที่กำลังพยายามอย่างหนักในการสกัดกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว่เสียจนตัวงอ ด้วยรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเพื่อนรักอย่างเสน่ห์นั้นเป็นอะไรไป เพียงแต่แค่อยากแกล้งกระเซ้าเพื่อนเล่นๆ
"ก็จะอะไรละเพื่อนแนนเอ๋ย เสน่ห์เพื่อนรักของเรากำลังจะลงแดงตายนะสิจ๊ะ" ซันนี่เองก็ได้ทีในการแอบตอกย้ำเพื่อนสาวพราวเสน่ห์มาแบบเนียนๆ
"พวกเพื่อนๆ พูดเรื่องอะไรกันเหรอคะ" ฟ้าใสที่รู้เท่าทันเพื่อนทั้งสามเสแสร้งแกล้งเป็นทำตาใส ประหนึ่งว่าตัวฉันนั้นอ่อนต่อโลกใบนี้เอาเสียเหลือเกิน
"แหมๆ เพื่อนๆ อย่าพูดกันอย่างนั้นซิคะ ไม่ดีเดี๋ยวหวานตีเลยน้า~ ก็ในเมื่อเพื่อนมันมีผัว ผัวก็เลยต้องเที่ยวตามคุมมันก็เรื่องธรรมดาใช่ไหมคะเพื่อนเหน่"
อีช้าง! อีห่าราก! มึงน่ะหนักกว่าใครเขาเลย ชิ!
"เออ! พอใจพวกมึงยัง ละถ้าพวกมึงจะไม่ว่าอะไรกูขอตัวไปหาข้าวแดกก่อน กูหิว" ฉันกระแทกกระเป๋าใส่หน้าพวกมันอย่างหงุดหงิดก่อนจะแยกตัวเดินออกมาอย่างไม่สบอารมณ์
"ว้า... พวกเรา เพื่อนเหน่หงุดหงิดอย่างนี้เราคงจะบอกที่เที่ยวใหม่ไม่ได้แล้วละสิ..." ซันนี่แกล้งพูดประโยคหนึ่งขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่ามันส่งผลให้ฉันหันขวับกลับไปแทบจะในทันที
"มึงว่าไงนะอีซัน!"
"ฮ่าๆๆ กูว่าแล้ว!" เท่านั้นแหละพวกมันก็พากันหัวเราะฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย อ่อ...มันกะจะแกล้งปั่นหัวฉันเล่นเฉยๆ สินะ ได้!
"เป็นเอามากนะมึง" ยัยซันนี่ก็ยังคงขำไม่หยุด และก็ยังไม่มีท่าที่ว่าจะยอมเลิกล้อเลียนฉันสักที!
"มึงจะบอกกูดีๆ หรือมึงจะบอกทั้งน้ำตาอีซัน เลือกเอา" ฉันก็เลยต้องใช้ไม้เด็ดซึ่งก็คือง้างกำหมัดเล็กๆ ที่แม้กระทั่งน้ำหวานที่ตัวใหญ่ยังกับช้างก็ยังกลัวขู่มันไว้กลางอากาศ
"โห...พวกมึงดู อีเหน่มึงแม่งโหดร้ายว่ะ กูยังไม่อยากใส่ฟันปลอมเหมือนอีอลิซนะ" ซันนี่มุ่ยปากอย่างไม่พอใจต่อสิ่งที่ฉันกำลังทำกับมันเป็นที่สุด
แต่ใครสนละ! วอนเอง!
"มึงยั่วโมโหกูเองนะอีซัน สรุปยังไงจะบอกดีๆ หรือจะแดกกำหมัดกู!"
"เออน่า...ก็จะบอกอยู่นี่แหละวะ วู้! ก็...ซันนี่ไบร์ท ผับพี่ซันแฟนกูเองแหละ พึ่งเปิดใหม่ได้สองวัน เอางี้ดีกว่าเดี๋ยวกูส่งโลเคชั่นไปให้ในกลุ่มละกัน" ซันนี่หยิบมือถือขึ้นมาจิ้มๆ ก่อนที่นาทีต่อมาโลเคชั่นที่ว่านั้นจะเด้งเข้ามาในไลน์กลุ่มของพวกเราทุกคน
"ก็แค่นี้... งั้น...อีแนนกูกลับกับมึงละกันนะ เพราะถ้ากลับกับอั๋นกูอดอีกแน่" ฉันยักคิ้วให้แนนซี่ที่ยักคิ้วตอบกลับมาอย่างคนที่รู้ใจกันดี
"ไปซื้อชุดด้วยปะ ถ้าไม่แวะบ้านมึงคงไม่มีชุด"
ยัยแนนมันคือเพื่อนที่รู้ใจฉันมากที่สุดแล้วละ!
"ซุปเปอร์กู" แนนซี่ที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ากลับมาให้ฉันเชิงรับรู้
"สี่ทุ่มเจอกัน" ซันนี่นัดแนะเวลาให้รับรู้โดยทั่วกันก่อนที่ทุกคนจะพากันลุกขึ้นและแยกย้ายกันกลับไปเตรียมตัว
"โอเคดีล"
เข็ดยัง จะเข็ดกี่โมง
ป.ล. ขอแก้ต่างให้น้องหน่อยน้า~ น้องพึ่งอายุ17 นะคะ มันก็เลยอาจจะมีบางเหตุการณ์ที่น้องจะดูงี่เง่าไปบ้างเพราะน้องยังไม่บรรลุนิติภาวะนั่นเองจ้า