มัสลินเท้าเอวมองคนงานปลดรูปแต่งงานออก ภาพที่ตั้งใจใส่มันลงในกรอบที่สั่งทำมาอย่างดี ภาพที่เคยภาคภูมิใจตอนนี้เธอขยะแขยงที่อยากจะเห็นมัน
ยังไงแล้วบ้านหลังนี้เธอเป็นคนหาทำเล เลือกแบบบ้าน และเลือกเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด ถึงจะเป็นบ้านหลังไม่ใหญ่มาก แต่วิวทิวทัศน์ของทะเลสาบที่อยู่เยื้องออกไปต่างหากที่ทำให้เธอรักที่นี่ แม้ทั้งหมดจะเป็นเงินขององศาแต่ก็เธอก็รักบ้านหลังนี้อยู่ดี
ที่จริงมันจะเป็นบ้านที่องศาและลูกพีชมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขในบั้นปลายชีวิต
แต่เรื่องอะไรเธอต้องให้พวกเขากัน เธอจะนอนกกสามีคนใหม่อยู่ในบ้านหรือนอนกลิ้งกันใต้ต้นไม้ข้างทะเลสาบยามออกไปปิกนิกก็ดีไม่น้อย
“ทิ้งทั้งรูปทั้งกรอบเลยค่ะ เผาทิ้งไปเลยก็ได้”
“คุณหนูจะเผาหมดเลยเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ มัสไม่อยากเก็บไว้”
“คุณหนูไม่เสียใจแน่เหรอคะ เก็บไว้ก่อนดีไหมคะ ป้าไม่อยากให้คุณหนูมาเสียใจภายหลัง”
“ทิ้งไปเถอะค่ะ มัสไม่เสียใจหรอกค่ะ” อาจจะเพราะเธอทำใจได้นานแล้วล่ะมั้ง มีบ้างที่รู้สึกเสียใจเพราะเธอเคยรักผู้ชายคนนั้นมาก แต่ตอนนี้ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว
“โถ่คุณหนูของป้า”
“เย็นนี้ไม่ต้องทำกับข้าวนะคะป้า เดี๋ยวมัสจะไปทานข้าวที่บ้านใหญ่” มัสลินเปิดอัลบั้มดูรูปแต่งงาน ก่อนปล่อยมือทิ้งอัลบั้มรูปลงถังขยะ พร้อมทั้งหันไปคว้ากระเป๋าจากมือเด็กรับใช้
“คุณหนูจะกลับมาบ้านหลังนี้ใช่ไหมคะ ป้าไม่อยากอยู่คนเดียวน่ะค่ะ” ฤดีเอ่ยอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ อารมณ์ของมัสลินขึ้นลงไม่มีใครคาดเดาได้ แต่บ้านหลังนี้หลังจากองศาย้ายออก มัสลินก็เลิกจ้างคนรับใช้เหลือไว้แค่คนหลัก ๆ นางเองก็กลัวว่าหญิงสาวจะทิ้งที่นี่และนางไว้
“มัสแค่ไปทานข้าวค่ะ ถ้าไม่เมาก็จะกลับมานอนบ้าน ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะดูแลบ้านดี ๆ ก็พอ”
“ค่ะคุณหนู รีบกลับมานะคะ”
“ถ้ากลัวมัสไม่กลับไปด้วยกันเลยไหมคะ”
“ไม่ค่ะ ๆ ป้าจะอยู่ดูแลบ้านตามที่คุณหนูสั่งนะคะ คุณหนูอย่าขับรถเร็วนักนะคะ” ฤดียิ้มกว้าง มองเด็กสาวรุ่นลูกรุ่นหลานที่พยักหน้ารับพลางหมุนตัวแล้วก้าวฉับออกไป เธอไม่อ่อนหวาน คำพูดห้วนสั้นจนคนฟังกระดาก แต่สำหรับคนที่ดูแลมัสลินมาหลายปีอย่างฤดี เมื่อเห็นสีหน้าของคุณหนูของนางสดใสมากกว่าตอนที่อยู่กับองศา นางกลับดีใจที่ได้ยินเสียงสั่งงานของเธอซะอีก
“คุณปู่ คุณพ่อ มัสมาแล้วค่ะไปไหนกันหมดคะเนี่ย” มัสลินผลักประตูห้องทำงานที่เป็นเหมือนเรือนกระจกสำหรับปลูกต้นไม้เข้าไปด้านใน
แสงแดดรำไรจากด้านนอกส่องกระทบกับชายวัยห้าสิบห้ากำลังตั้งใจอ่านเอกสาร ครั้งก่อนเธอทำให้ความพยายามทั้งหมดของบิดาละลายไปกับความรักจอมปลอม คราวนี้เธอจะปกป้องมันไว้ไม่ให้หลุดกระเด็นไปแม้แต่เสี้ยวเดียว
“อ้าวมัสมาแล้วเหรอลูก คุณปู่ของลูกไปขลุกอยู่ที่ชมรมหมากล้อมนู่น ส่วนเจ้าเมฆก็คงอยู่ที่บริษัท เมธัสก็ช่างหัวมันเถอะ ทั้งบ้านก็มีแต่พ่อเนี่ยแหละที่อยู่ติดบ้าน”
มัสลินหัวเราะเสียงบ่นของบิดาก่อนจะหยิบแฟ้มเอกสารที่ถูกเปิดค้างไว้ขึ้นมาดู “นี่โรงแรมที่ไหนอีกคะเนี่ย คุณพ่อดูดี ๆ นะคะ คราวก่อนที่ซื้อมาก็ขาดทุนกว่าจะฟื้นคืนกำไรทำเอามัสหอบกิน”
“ตกลงนี่มาบ่นพ่อเหรอ แล้ว...เรื่องหย่าเรียบร้อยดีไหม”
“ค่ะ คุณป้าให้ค่าทำขวัญในการหย่าเป็นหุ้นของลูกพีชมาด้วยนะคะ แต่มัสไม่คืนคุณพ่อหรอกค่ะ”
“สรุปป้าลูกเกี่ยวกับเรื่องนี้สินะ พ่ออุตส่าห์ตั้งใจให้ลูกพีช” สีหน้าหนักใจของพาดาทำให้มัสลินไหวไหล่
“คงคิดว่าเสียเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วไปเกาะองศาที่เป้าหมายใหญ่กว่าหุ้นแค่สองเปอร์เซ็นต์มั้งคะ พี่สาวคุณพ่อก็เจ้าแผนการอยู่แล้วนี่นา”
“มัสของพ่อก็เก่งไม่แพ้กันหรอก ไม่เป็นไรก็ดีแล้วลูก พ่อนึกว่าลูกจะเสียใจเรื่ององศามากกว่านี้ซะอีก”
น้ำเสียงเป็นห่วงและกังวลของคนเป็นพ่อทำเอามัสลินยิ้มพราย ถ้านี่เป็นครั้งแรกคงใช่ เธอร้องไห้โวยวายอยู่ที่พื้นราวกับคนเสียสติ ตำหนิผู้เป็นพ่อที่ไม่ช่วยรั้งองศาไว้ ตอนรู้ว่าเสียองศาให้กับญาติผู้น้องของตัวเอง เธอยอมตัดขาดกับทุกคน ทะเลาะกับผู้เป็นพ่อจนทำให้คนในบ้านเดือดร้อน
แต่วันนี้ไม่มีแล้วมัสลินคนนั้น
หญิงสาวส่ายหัวก่อนจะเดินไปหย่อนสะโพกที่พนักพิงเก้าอี้ของคนเป็นพ่อ ก่อนจะออเซาะเสียงหวาน “มัสจะเสียใจให้ผู้ชายแบบนั้นไปทำไมล่ะคะพ่อ”
“ดีแล้วลูก” พาดาลูบศีรษะเล็กไปมา “สักวันต้องมีคนเห็นความน่ารักของลูกพ่อแน่”
“จริงค่ะก็มัสน่ารักได้คุณแม่มานี่นา ว่าแต่คุณพ่อคะ...ทำไมเอาถึงเอาสมชายมาเป็นเลขามัสล่ะคะ”
“ทำไมล่ะ สมชายทำอะไรให้ลูกไม่พอใจรึเปล่า เขาก็ทำงานเก่งแล้วก็ขยันถูกใจลูกไม่ใช่หรือไง” พาดาทำหน้าหนักใจ คงไม่ได้มาบอกให้เขาไล่สมชายออกตอนนี้หรอกนะ ทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งอ้อนวอนชายหนุ่มให้อยู่กับมัสลินอีกหนึ่งปี
“ก็เขาทั้งหล่อ หน้าตาดี ตาสวย ขนตายาว ทำงานเก่ง ใส่ใจในรายละเอียดก็ดี จะทำอาหารก็อร่อย”
“เอ่อ...” เขาหาจังหวะจะแทรกแต่ดูเหมือนริมฝีปากเล็ก ๆ จะบรรยายคุณสมบัติของสมชายออกมาไม่ขาดสายเลย
“ชงกาแฟก็ใส่ใจทุกขั้นตอน สั่งแบบไหนได้แบบนั้น ไม่เคยทำงานผิดพลาดเลยสักนิด แถมยังควบคุมอารมณ์และสีหน้าเก่ง ตอนเขินก็น่ารักสุด ๆ เลยค่ะ แถมยังทำขนมไทยได้อีกนะคะ”
“แล้วมันผิดตรงไหน ผู้ชายจะทำอาหารก็ได้นี่ลูก”
“ก็มัสอยากได้เขาเป็นสามีไม่ได้อยากได้เป็นเลขานี่คะ คุณพ่อควรจะให้เขาแต่งงานกับมัสแทนไอ้ลูกหมานั่น”
“ลูกก็เอาเขาเป็นสามีซะละ...เลย เมื่อกี้ลูกพูดอะไรนะ พ่อฟังไม่ทัน”
“มัสอยากแต่งงานกับเขา มีลูกที่หน้าตาน่ารักเหมือนสมชายค่ะ”
สามี...พาดาเบิกตากว้างอย่างไม่เข้าใจ
มัสลินกำลังพูดเรื่องอะไรกัน
ตั้งแต่เขารับสมชายมาดูแล หลังจากเขาเสียพ่อแม่ไปในอุบัติเหตุทางรถยนต์ มัสลินไม่เคยสนใจสมชายเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนกระทั่งสมชายมาเป็นเลขาให้มัสลินห้าปี ชื่อของสมชายก็ไม่เคยออกจากปากของลูกสาวสักครั้ง
“แล้วสมชายเขาชอบลูกเหรอ” ทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้กัน อีกทั้งสมชายเพิ่งบอกเขาว่าไม่สนิทกับมัสลินสักนิดเดียว
“เปล่าหรอกค่ะดูเหมือนเขาจะรำคาญ ๆ นะคะ แต่มัสชอบเขานี่คะ” เธอใส่ใจที่ไหนกัน
“แต่ลูกเพิ่งหย่านะ”
“ตั้งสองวันแล้วนะคะพ่อ”
“สองวัน” พาดาจะเป็นลม
ทำไมไม่รอสักสามวันเลยเล่า!
“ถ้าสมชายยอมลูกสักครั้ง มัสว่าจะแต่งพรุ่งนี้เลยก็ได้ คุณพ่อเอาคุณสมชายมาให้มัสหน่อยสิคะ มัสอยากได้เขาจริง ๆ นะคะ”
“เดี๋ยวนะมัสลิน พ่อว่าเรื่องนี้เราต้องคุยกันละเอียดสักหน่อย สมชายไม่ใช่สิ่งของนะลูก จะเอาก็เอาไม่ได้”
“มัสเลยกำลังตามจีบอยู่นี่ไงคะ คุณพ่อช่วยมัสหน่อยไม่ได้เหรอคะ ลูกสาวคุณพ่ออยากได้เขา”
“เรื่องแบบนี้จะบังคับสมชายไม่ได้นะลูก”
“มัสไม่ได้ให้คุณพ่อไปบังคับเขานะคะ คุณพ่อลองคุยเรื่องสินสอดกับสมชายก่อนได้ไหมคะ ว่าถ้าแต่งกับมัสจะให้บริษัทเดิมคุณพ่อเขาแล้วก็หุ้นของพาดากรุป แล้วก็เอาโรงแรมในส่วนของมัสไปด้วยก็ได้ค่ะ”
“แต่พ่อว่า...”
“อีกไม่กี่เดือนมัสจะสามสิบแล้วนะคะ”
“ทำไมรีบแบบนี้ล่ะลูก ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้สามสิบไม่ได้แก่เลย”
มัสลินยิ้มเศร้าแต่ไม่ถึงเสี้ยววิก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะเบา ๆ “มัสเคยฝันว่าตัวเองแท้ง เลยอยากรู้ว่าลูกจะหน้าตาเป็นแบบไหน ถ้าหลานตาโตเหมือนมัสแต่มีสีน้ำตาลอ่อนแบบสมชายต้องน่ารักมาก ๆ แน่เลยค่ะ”
“ลูกไม่ได้มีอะไรที่ไม่ได้บอกพ่อใช่ไหม”
หญิงสาวส่ายหน้า “มัสไปขอร้องคุณปู่ดีกว่าคุณพ่ออย่ามาเฉไฉสิคะ มัสไปก่อนนะคะ”
“มัสลูก! มัสลิน...นี่ฉันเลี้ยงลูกมาตามใจเกินไปรึเปล่าเนี่ย ต้องโทรหาคุณพ่อเดี๋ยวนี้เลย” หนุ่มวัยกลางถอดแว่นสายตาออกแล้วเอนกายพิงพนักพิง แต่เสี้ยววิก็ต้องเด้งตัวขึ้นมาควานหาโทรศัพท์ติดต่อหาปู่ของมัสลิน