คำพูดไร้สาระของนางร้าย

1392 คำ
“อย่าหลงระเริงนักเลย มัสลินก็แค่อยากประชดฉันเท่านั้นแหละ ผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางรักใครจริงนอกจากตัวเอง” “คุณเลยนอกใจเธอเหรอครับ...” “ลูกพีชไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ นะคะพี่สมชาย” หญิงสาวตอบแทนด้วยท่าทีร้อนรน น้ำตาที่เอ่อที่ดวงตาไม่ได้ทำให้สมชายรู้สึกมีอารมณ์ร่วมมากนัก ยิ่งเปรียบเทียบกับน้ำตาหยดเดียวของมัสลินยิ่งเทียบกันไม่ได้สักนิด ผู้หญิงที่ไม่เคยร้องไห้อย่างมัสลินกลับอ่อนไหวจนร้องไห้ออกมาตรงหน้าเขา สมชายเม้มปากแน่นมองพิชชาค่อย ๆ สอดมือเข้าในท่อนแขนขององศาราวกับลูกนกโผเข้าหาที่พักพิง “จะไม่เชื่อก็ตามใจ เพราะจากนี้ผู้หญิงคนนั้นคงแสดงออกว่าชอบนายมากจนอยากจะแต่งงานกับนาย แต่ก็แค่เห็นนายเป็นของเล่นแก้เบื่อเท่านั้นแหละ สุดท้ายนายก็ตกนรกทั้งเป็นเหมือนฉัน เด็กกำพร้าอย่างนายคงดีใจจนตัวสั่นสินะที่มัสลินทำท่าสนใจ” เขาหยิบบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงมาคาบไว้ แล้วมองสมชายด้วยสายตาเหยียดหยามพร้อมคำพูดสาดโครมใส่เลขาหนุ่ม “แต่อย่าได้ใจไปหน่อยเลย ถ้าฉันไม่หึงวันหนึ่งมัสลินก็เลิกเล่นกับนายไปเอง” “ผมไม่เข้าใจว่าคุณองศากำลังพูดอะไรครับ” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างเอื่อยเฉื่อยพลางหันหน้าหนี “แต่ถ้าเป็นผู้ชายที่ขายตัวให้กับศตวรรษเวชไปแล้วอย่างนาย ก็คงอดทนได้เกินปีอยู่หรอกมั้ง ใครจะไปทนอยู่กับผู้หญิงอย่างมัสลินถ้าไม่มีเงิน” พลั่ก!!! “ห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่ราชการครับ” “กรี๊ดดดพี่องศา...” “ไอ้เหี้ยนี่! มึง!!!” ร่างที่ถูกหมัดหนักกระแทกจนเซไปชนกับประตูกระจก หันกลับมามองสมชายด้วยสายตาวาวโรจน์ ก่อนจะถลาเข้าใส่เลขาหนุ่มหมายจะเอาคืน ทำให้คนที่เข้าไปล้างมือในห้องน้ำรีบสืบเท้าออกมาขวางหน้าเขาไว้ ไม่ให้เข้าใกล้เลขาของเธอไปมากกว่านี้ “ถอยไปนะองศา” “ไอ้ขี้ข้านี่มัน...” “นี่คุณมีความสุขจนสติหลุดแล้วรึไง เอาหน้ามากระแทกหมัดเลขาฉันทำไมคะ ถ้ามือสวย ๆ ของสมชายเป็นแผลขึ้นมาคุณจะรับผิดชอบเหรอ” มัสลินแสร้งพูดเฉไฉก่อนจะรวบมือใหญ่ของสมชายขึ้นมาถู ๆ แล้วเป่าราวกับว่าเขากำลังเจ็บ ถ้าเธอไม่กวนประสาทเขาตอนนี้องศาไม่มีทางปล่อยเลขาเธอแน่ “เอาหน้าไปกระแทกหมัด...คุณหาเหยื่อใหม่ได้เร็วดีนี่ ดูท่ามันจะหน้าโง่ด้วย” “แล้วทำไมคะ อยากเป็นเหยื่อฉันต่อเหรอ แต่ฉันไม่เอาคุณเพราะคุณหน้าโง่กว่าเขา” “ที่เราต้องจบแบบนี้ มันเพราะคุณทั้งนั้นมัสลิน” “เฮ้อออ ไอ้ลูกหมานี่ยังไม่หยุดอีก อยากโดนฉันแตะด้วยคริสติยองลูบูแตงใช่ไหม!!! ไม่ต้องมาพูดเรื่องหมิ่นประมาทซึ่งหน้าบ้าบอนะคะ เพราะฉันจะเตะคุณด้วยค่ะคุณทนาย” มัสลินเหวี่ยงเท้าก่อนจะยืนกอดอกมองสามีเก่าที่เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปพร้อมกับพิชชาและทนาย ไม่วายหันมาอาฆาตแค้นเธออีก “มัสลิน!!! ถ้าผมไม่รังเกียจคุณจนไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดกับคุณ ผมไม่ยอมจบแค่นี้แน่” “เป็นพระคุณอย่างสูงเลยค่ะคุณอดีตสามี ไปผุดไปเกิดเลยนะคะ” “แล้วคุณจะต้องเสียใจ” “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม” มัสลินเหลือบมองคนข้างกายที่เอาแต่ยืนนิ่ง เขาดึงมือของตัวเองกลับไปไม่พูดไม่จา เธอเองก็ไม่คิดเอ่ยตำหนิหรือถามเรื่องที่เขาไปต่อยองศา แต่ร่างสูงกลับทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ “ทำอะไรน่ะ ถึงฉันจะดูเท่มาก แต่เรานอนด้วยกันสักครั้งแล้วค่อยขอฉันแต่งงานก็ได้นะ” คนบนพื้นเหลือบตามองคนพูดอย่างเฉยชา สายตาไร้ความรู้สึกของเขาซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใน ก่อนน้ำเสียงไม่ยินดียินร้ายจะบอกกับเธอ “รองเท้าคุณหลุดแล้วครับ แล้วกระโปรงของคุณก็ไม่เหมาะที่จะก้มในตอนนี้ จับไหล่ผมไว้สิครับ” “อ๋อ...ขอบคุณนะ” “แล้วตอนนี้คุณองศาก็ไม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำเป็นเหมือนชอบผมประชดเขาหรอกครับ” เขาพูดพลางสวมรองเท้าคืนให้เธอแล้ววางลงเท้าเธอลงกับพื้น “ฉันจะประชดคนพันธุ์นั้นไปทำไม ที่ฉันบอกว่ารักแรกพบน่ะจริง ๆ นะ ถ้าไม่เชื่อเราไปนอนแก้ผ้าคุยกะ...อื้ออ” ลูกอมถูกล้วงออกมาจากกระเป๋าสูทก่อนที่สมชายจะยัดเข้าไปในริมฝีปากเล็ก ๆ ของมัสลิน กลิ่นสตรอว์เบอร์รีคละคลุ้งแทรกเข้ามาตามนิ้วเขา ความนุ่มและเปียกชื้นทำให้ชายหนุ่มรีบชักมือออก ก่อนจะก้าวถอยหลังออกห่างมัสลินสองก้าว “พูดจาไร้สาระอีกแล้วนะครับ” “นี่! เอามือที่จับเท้าฉันมาโดนลิ้นฉันได้ยังไงยะ!” “ขอโทษครับเดี๋ยวผมไปล้างมือ” นั่นมันหมายความว่ายังไงกัน มัสลินถลึงตาอ้าปากค้างอยากจะกรี๊ด แต่ลูกอมที่กลิ้งเกลือกอยู่บนลิ้นกลับทำให้อารมณ์ขุ่นมัวหายเป็นปลิดทิ้ง “จะบอกว่าน้ำลายฉันสกปรกรึไง แต่ยังไงตอนจูบกันก็ต้องกินน้ำลายกันอยู่แล้วนะ” “ถ้าคุณยังเอาแต่พูดจาไร้สาระอยู่ ผมจะไปรอที่รถนะครับ” สมชายแสร้งถอนหายใจเฮือกใหญ่จงใจให้เธอได้ยิน ก่อนจะเดินนำหน้าเธอไปที่รถไม่เหลียวหลังมามองเธอแม้เสี้ยววิ “ทำไมชอบเดินหนีนักนะ” ชายหนุ่มเผลอขยับแว่นที่ไม่ได้สวม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นลูบใบหน้าที่กำลังแดงก่ำของตัวเอง เมื่อมันร้อนผ่าวเพราะคำพูดของเธอ ทั้งที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยสนใจเขาสักนิด พอมาตอนนี้กลับเอาแต่เกี้ยวเขา เห็นหน้ากันมาห้าปีกลับบอกว่ารักแรกพบ เขาจะเชื่อได้ยังไงหรือเธอจะบอกว่ารักแรกพบกับเขา ทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้นเธอยังไล่ตามองศาราวกับคนเสียสติเพื่อให้ได้เขามาครอบครอง นั่นคือชอบเขางั้นเหรอ เลขาหนุ่มขมวดคิ้วตัดสินใจว่าเขาจะไม่เชื่อลมปากมัสลินอีก มัสลินยักไหล่ไม่สนใจท่าทีเย็นชา ก็เขาดันน่ารักถูกใจเธอตอนโดนแกล้งทำไมล่ะ ห้าปีที่ผ่านมาเธอจำหน้าเขาไม่ได้เลย เหมือนทุกอย่างจะดำมืดราวกับเขาคือตัวละครที่ซ่อนตัวอยู่ในเงาไม่มีแสงไฟ ไร้หน้าตา เธอรู้ว่าเขาใส่แว่นและมักสวมสูท หากแต่ไม่เคยเห็นเขาชัด ๆ ในความทรงจำของเธอสักครั้งจนกระทั่งวันนี้ สมชายนั้นเลือนรางราวกับกำลังจะหายไป ตอนนั้นเลขาของเธอใช่เขารึเปล่านะ มัสลินมองไปยังร่างสูงก่อนจะเบิกตากว้าง ไม่ใช่! ตอนที่เธอจ้างคนไปฆ่าพิชชาเพราะความริษยา ไม่ใช่สมชายที่อยู่ข้างเธอ ใช่แล้วเขาลาออกไปก่อนที่เธอจะยอมหย่ากับองศาในคราวแรกนี่ จำได้ว่าเธอขว้างแจกันใส่หัวเขาแตก เพราะสมชายเอาดอกลิลลี่ดอกไม้ที่องศามอบให้พิชชามาตั้งในห้องทำงานเธอ เธอเลยไล่เขาออกไป เขามีบทอยู่แค่ไม่กี่หน้าแรกและมีเพียงสองสามบรรทัดด้วยซ้ำ ประโยคคำพูดก็มีเพียง ‘ครับ’ ‘ครับคุณมัสลิน’ ตัวละครที่ควรจะหายไปยังปรากฏอยู่ หมายความว่าการกระทำของเธอกำลังเปลี่ยนเนื้อเรื่อง งั้นเธอก็แต่งงานและมีลูกกับสมชายได้น่ะสิ ว่าแต่นักเขียนคิดยังไงถึงตั้งชื่อสมชายว่าสมชายเนี่ย!!! “โอ๊ยยยหงุดหงิด! แต่ตอนเรียกคุณสมชายก็น่ารักดีนะ คุณสมชาย!!! มาแต่งงานกันเถอะ” ปัง! สิ้นประโยคประตูรถราคาแพงของมัสลินก็กระแทกปิดท่ามกลางสีหน้างอง้ำของนางร้ายที่ทำได้แต่เข่นเขี้ยวเขาในใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม