ตอนที่ 2
ดื่มนม(สด) ก่อนนอน 100%
ตลอดระยะเวลาสามวันที่ผ่านมา ธีร์ธวัชงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลากลับบ้าน ชายหนุ่มขลุกอยู่ไร่ตลอดเวลา คอยสังเกตความความผิดปกติที่กำลังเกิดขึ้นภายในไร่ และอีกนัยหนึ่งที่เขาไม่อยากกลับบ้านเพราะไม่อยากเจอหน้าใครบางคน แต่ไม่รู้ว่าทำไมใจเขามันทรยศเหลือเกิน คอยสั่งให้ไปหาแต่เธอเรื่อยไป นี่หรอกหรือที่เขาเรียกว่า ‘ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว’
ยิ่งยามอยู่ตามลำพังคนเดียวบอกเลยว่าหัวใจมันร่ำร้องหนักขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้านวลงามคอยเข้ามารบกวน ไหนจะกลิ่นหอมเย้ายวนของแม่สาวแรกดรุณีลอยมาแตะจมูก ทั้งยังรสจูบหวานละมุนจากกลีบปากเรียวรูปกระจับนั่น ยังตราตรึง! ให้ตายเถอะ! เขากระหายหนักขนาดนั้นเชียวหรือ? พยายามตีตัวออกห่าง ยิ่งเธอโตขึ้นเขายิ่งไม่อยากอยู่ใกล้ และเขาเองก็รู้สึกไม่ชอบใจทุกครั้งที่มีผู้ชายคนอื่นเข้ามาอยู่ใกล้เธอ นายหัวหนุ่มผู้ผ่านเรื่องราวมาพอควรไม่เข้าใจตนเองเช่นกัน เขาได้แต่ครุ่นคิดด้วยความสับสน และหลังเลิกงานวันนี้ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป รีบนำโฟร์วิลคันโก้ออกจากไร่ แล้วตรงดิ่งไปยังเรือนใหญ่ ทั้งยังประมาณเวลาเอาไว้พอดีกับที่ ‘เด็กซุ่มซ่าม’ มาจากมหาวิทยาลัย
รวดเร็ว ว่องไว เหมือนดังใจสั่ง ธีร์ธวัชขับรถมาถึงเรือนใหญ่ภายในเวลาไม่กี่นาที ด้านคุณหญิงเดือนแขพอได้ยินเสียงรถบุตรชาย รีบออกมาต้อนรับ พร้อมเอ่ยเรียกเจ้าของร่างสูงใหญ่ลงมาจากรถและกำลังเดินตรงมายังเชิงบันไดบ้าน
“ตาธีร์”
“สวัสดีครับคุณแม่” ยกมือขึ้นไหว้ คุณหญิงเดือนแขคลี่ยิ้มบางๆ ส่งให้ ก่อนจะเอ่ยกับบุตรชายอย่างที่ตนเองกำลังเป็นอยู่
“หนีเข้าไร่ซะหลายวัน รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วง” ตีหน้างอใส่พ่อลูกชายตัวดี ที่แอบหนีไปขลุกอยู่ไร่นานหลายวัน นางรู้ทันหรอกว่าหนีหายไปอย่างนี้ก็เพราะไม่อยากข้องแวะกับนิลรดา จากเงื่อนไขที่ระบุไว้ตามพินัยกรรม แต่ว่าวันนี้ไม่รู้อะไรดลใจให้พ่อคนหัวแข็งยอมกลับมาบ้านช่อง
ด้านคนรู้ว่ามารดางอนใส่ รีบขยับเคลื่อนกายทรงพลังเข้ามาใกล้ สวมวงแขนแกร่งโอบเอวอวบตามวัยของผู้เป็นมารดาพลางทอดเสียงทุ้มติดจะอ้อนนิดๆ เอาใจ
“รู้ครับ ว่าแต่ไปไหนกันหมดครับ ทำไมบ้านถึงเงียบๆ” กวาดสายตามองรอบๆ แต่ไม่ยักจะเห็นใคร และเป็นจังหวะที่คุณหญิงถอนกายออกจากอ้อมแขนของลูกชาย พร้อมเอ่ยบอก
“ตาครามไปทำงาน อีกหน่อยก็คงกลับ” ไม่ทันจะเอ่ยต่อ เสียงเข้มของนายหัวหนุ่มหล่อพลันเอ่ยแทรกทันควัน
“แล้ว” ฉุกคิดได้ พ่อคนมีแผนฝังสมองรีบเงียบเสียงเก็บเอาไว้
“นิลรดาน่ะเหรอ เห็นพะยอมบอกว่าไปสอบตั้งแต่เช้าแล้ว มีอะไรหรือเปล่าลูก” ธีร์ธวัชเป่าปากแล้วบอกปัดเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เชื่อไหมว่าข้างในใจนั้นอยากจะเจอ ‘คนไปสอบ’ สุดๆ
“ช่างเถอะครับ”
แต่ไม่ทันที่จะเดินเข้าบ้าน วอลโว่สีดำวาววิ่งผ่านเข้ามาอาณาเขตมหาดิเรกพงศ์พันธ์
“อ้าว นั่นไง! รถตาครามวิ่งเข้ามาพอดี” คุณหญิงเดือนแขบอก ก่อนจะเอ่ยชวนคนตัวใหญ่ข้างกาย “ป่ะ! เข้าไปนั่งรอน้องเขาอยู่ข้างในดีกว่า แม่มีเรื่องจะคุยกับเราทั้งสองคนพอดี”
ไม่แม้แต่ขยับท่อนขา เสียงเข้มของธีร์ธวัชพลันเอ่ยขึ้น
“รออยู่นี่ล่ะครับ” ขณะเดียวกันทอดสายตาคมกริบสีสนิมมองน้องชายและยัยเด็กซุ่มซ่ามที่กำลังเดินเคียงคู่กันเข้ามายังตัวบ้าน คุณหญิงจึงเอ่ยทักท้วง
“อ้าว เป็นไงมาไง ถึงได้มาพร้อมกันล่ะ”
“พอดีผมขับรถผ่านหน้ามหาวิทยาลัยของนิลพอดีน่ะครับ ไม่มีอะไร” คามินทร์เอ่ยตอบผู้เป็นมารดา ทว่านิลรดากลับนิ่งเงียบและก้มหน้าหลุบเปลือกตามองต่ำ
ส่วนธีร์ธวัชนั้นทอดสายตาจ้องมองเด็กสาวอย่างเอาเรื่องและมีจังหวะหนึ่งที่นิลรดาเผลอแวบมอง พลันทำให้เธอโดนเขาตวัดสายตาดุๆ ส่งให้ พลันตกใจกลัวจนตัวสั่นระริก แต่ทว่าคุณหญิงเดือนแขและคามินทร์ไม่ทันจับสังเกต
“อืม... ป่ะๆ เข้าบ้านกันเถอะ มัวแต่ยืนคุยกันอยู่นี่” ได้โอกาสนั้น นิลรดารีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปข้างในบ้าน พร้อมๆ กับทุกคน ก่อนจะเบี่ยงวิถีเท้าไปยังห้องพักของตน ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับห้องครัว
ส่วนพ่อคนมีแผนการฝังหัวสมองก็ทำตัวเป็นปกติสุข พร้อมกับหย่อนสะโพกลงโซฟาห้องรับแขก คุยกับมารดาและน้องชาย
ประเด็นเด็ดหนีไม่พ้นเรื่องการแต่งงานของเขากับยัยเด็กซุ่มซ่ามนิลรดา! แต่อย่างว่าเจรจาไปก็เปลืองน้ำลายทิ้งเสียเปล่า ในเมื่อพ่อคนดื้อด้านหัวแข็งยังยืนยันคำเดิมว่าไม่แต่ง! เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่แต่งเด็ดขาด! หนำซ้ำพ่อคุณยังมีการประชดใส่น้องชายกรายๆ ว่า ใครที่สนิทสนมและเข้ากันได้ดีก็ให้ตบแต่งกันไปเสีย... ร้อนถึงคนหวงความโสดยิ่งชีพที่ต้องรีบโต้แย้ง และนำพาตนเองหนีออกไปจากสถานการณ์ดังกล่าว
ตลอดเวลาที่รับประทานอาหาร ธีร์ธวัชไม่เข้าใจตนเองว่าทำไมต้องสอดส่องสายตาหาเด็กซุ่มซ่ามจอมปัญหานั่น! แต่จนแล้วจนรอดก็มองหาไม่เจอ ไม่รู้แม่คุณหายไปไหน จึงพลอยทำให้การเจริญอาหารของเขาในค่ำวันนี้ไม่อิ่มหนำเท่าที่ควร แม้นอาหารจะวางเรียงจนเต็มโต๊ะ ทว่าธีร์ธวัชทานลงไปไม่กี่คำก็รวบช้อนไว้ด้วยกัน แล้วขอตัวขึ้นไปพัก โดยอ้างกับมารดาว่าตนเหนื่อยต้องการจะพักผ่อน ส่วนพ่อคนโสดสุดหล่ออย่างคามินทร์ไม่ได้ลงมาร่วมรับประทานอาหารเช่นทุกวัน หากแต่เขาออกไปข้างนอกตั้งแต่หัวค่ำ เนื่องจากมีนัดทานข้าวกับลูกค้าคนสำคัญ
พอขึ้นมานอนพักได้ไม่ถึงห้านาที แผ่นหลังกว้างที่แนบติดพื้นเตียงนุ่มเคลื่อนขยับทางซ้ายทีขวาที พลันทำให้หงุดหงิดล้มตัวลงนอนก็ไม่สุข ไม่รู้ว่าร่างกายของเขามันจะอะไรนักหนา ภาพเหตุการณ์หลายวันก่อนเคลื่อนเข้ามาในสมอง พลอยทำให้ธีร์ธวัชต้องเด้งกายลุกจากที่นอน และตัดสินใจลงไปข้างล่างเผื่อว่าจะเจอใครบางคน ให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยว่าร่างกายเขามันต้องการเด็กซุ่มซ่ามนั่นจริงๆ หรือไม่
แม้นว่าภายในบ้านจะดับไฟหมดแล้วแต่ชายหนุ่มอาศัยความเคยชินเดินลงมาจากบันได เลียบฝีเท้ามายังห้องครัวและมันก็เป็นดังที่คาดการณ์เอาไว้จริงๆ แม่คนคิดจะหลบหน้าและไม่แม้นแต่จะมาร่วมโต๊ะทานข้าวมื้อเย็นนั้น แอบเป็นแมวขโมยเปิดตู้เย็นค้นหาอาหารยัดลงกระเพาะ
“นั่นเธอทำอะไร” เสียงเข้มห้วนโพล่งถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้คนกำลังเก็บกระปุกแยมเข้าที่สะดุ้งตื่นตกใจ และรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพโดยเร็ว
“อะ เอ่อ เปล่าค่ะ” เอ่ยตอบเสียงสั่น พลันทำให้เจ้าของเสียงเข้มห้วนหรี่หางตามอง แล้วกระตุกกลีบปากหยักลึกขึ้นเอ่ย
“เปล่าแล้วอะไรอยู่ในมือ” นัยน์ตาคู่งามไหวระริกด้วยความหวาดกลัว กลัวโดนเขาดุ เนื่องจากว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว แต่เธอยังแอบเข้ามาทำเสียงดังในครัว พลอยรบกวนคนในบ้าน แต่จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ ก็คนมันหิวนี่นา! ไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เที่ยงแล้วนี่!
“คือว่า” เจ้าของดวงหน้ามนครุ่นคิดหาคำมาโต้ตอบ แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก กอรปกับคิดสงสัยในใจอย่างเงียบๆว่าร้อยวันพันปีเขาไม่เคยลงมาครัวตอนดึกดื่น อย่าว่าแต่ลงมาครัวเลย แม้แต่โซนฝั่งครัว เขายังไม่คิดจะเขยื้อนกายผ่าน แต่ไฉนวันนี้ถึงลงมาล่ะ อะไรมันบ้าดลใจให้เขาทำเช่นนี้หนอ...
“ขโมยก้นครัว” ตวาดว่าเสียงดังฟังชัด เมื่อยัยเด็กซุ่มซ่ามครุ่นคิดหาคำแก้ตัวไม่ทัน ก็แหงล่ะ! แม่คุณเข้ามาหาขโมยกินในครัวนี่!
จังหวะเดียวกัน ธีร์ธวัชเดินต้อนร่างบางให้ออกมาจากมุมโต๊ะรับประทานอาหารขนาดเล็กภายในห้องครัว นิลรดาเริ่มเห็นเค้าลางไม่ดี สาวเจ้ารีบปฏิเสธ พร้อมขยับถอยห่าง
“ไม่ใช่นะคะ” พูดจบรีบกัดกินขนมปังทาแยมสตรอเบอรี่ในมือให้หมดในเวลาพริบตา พร้อมกับจะยกนมอุ่นๆ ขึ้นดื่ม ทว่าธีร์ธวัชเห็นแล้วชักมันเขี้ยว
“ปากแข็ง!”
สิ้นคำบริภาษ ขยับร่างสูงเข้ามาใกล้ แล้วแย่งแก้วนมอุ่นๆ ในมือบาง พลันทำให้นิลรดาชักสีหน้าพร้อมขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่พอใจระคนสงสัย
“คุณธีร์จะกินนมหรือคะ” น้ำเสียงสะสั่นนั่น! ธีร์ธวัชได้ยินแล้วรู้สึกดีเป็นบ้าแฮะ! แต่หารู้ไหมว่าคำถามของแม่คุณมันไม่ได้ไปกระตุ้นก้านสมองของเขาให้โต้ตอบ เพราะมัวแต่สนใจ ‘อีกสิ่ง’ แทน
“อือ”
ได้ยินคำตอบแบบผ่านๆ นิลรดาก็รับคำสั่งอย่างใสซื่อไม่ทันแผนการคนตัวใหญ่ “เดี๋ยวนิลชงให้ใหม่นะคะ รอสักครู่”
ทว่า ธีร์ธวัชไม่ยอมฟังพร้อมยังดันแผ่นหลังบางให้ชิดผนังห้องครัวแล้วเอ่ยบอกเสียงดัง
“ไม่! ฉันจะกินเดี๋ยวนี้” พูดจบวางแก้วนมไว้บนโต๊ะ พร้อมรุกหน้าอย่างตั้งใจ มือใหญ่ผลักร่างบอบบางเข้ากับซอกผนังแล้วยืนขวางกั้น รวบข้อมือเรียวบางทั้งคู่ไว้เหนือศีรษะ นิลรดาตกตื่นพลันร้องวี้ดว้าย
“วะ ว้าย อุ๊บ!” ใช้มือร้อนอีกข้างปิดเรียวปากสวย แล้วโน้มหน้าก้มลงกระซาบเสียงแหบพร่าข้างใบหูผ่อง
“อย่าร้องเสียงดัง” ไม่ขู่แค่คำพูด หากแต่ใช้สายตาคมกริบสำทับอีก ทำให้นิลรดาที่หวาดกลัวเป็นทุนเดิมต้องจำยอมตามบัญชา ทว่าอดคัดค้านไม่ไหว
“แต่ว่า”
“หรืออยากจะเล่น ‘หนังสด’ โชว์ล่ะฮึ! เอาให้คนเขาแตกตื่นแล้วแห่กันมาดูทั้งบ้านเลยเป็นไรล่ะ” สิ้นคำขู่ ธีร์ธวัชฝังหน้าเข้ากับหลังซอกคอผ่อง จากนั้นไล้เลียลิ้นร้อนชื้นตามลาดไหล่เกลี้ยงเนียน ฟันคมขบเม้มเบาๆ เย้าให้สาวเจ้าได้สะดุ้งกายระคนซ่านสยิว
“อ๊ะ มะ ไม่”
“ไม่ก็เงียบ!” สิ้นเสียงเข้มคราวนี้ พ่อคนช่ำชองใช้อุ้งมือร้อนเลิกปลายเสื้อยืดตัวเล็กกองไว้บนเนินอกอิ่ม เผยดอกบัวตูมคู่แฝดให้เห็นชัดเจนเป็นครั้งแรก จอมหื่นถึงกับครางกระหึ่มพอใจในลำคอ แต่นิลรดานี่สิ! เหงื่อไหลซิกๆ ด้วยความหวาดกลัว ทั้งยังขยับเรียวปากสวยเอ่ยห้ามคนกระทำอุกอาจเสียงกระเส่า
“อย่าทำนิลนะคะ อ๊ะ อุ๊ย!” ไม่เพียงพูดเปล่า หากแต่แม่คุณดิ้นพยศไม่หยุด จนทำให้คนตัวโตที่กำลังหลงระเริงเจ้าดอกบัวคู่แฝดปรามเสียงเข้ม
“อยู่นิ่งๆ”
กระนั้นนิลรดาพยายามทำใจดีสู้เสือ(เจ้าเล่ห์) “คุณธีร์หิวนมไม่ใช่หรือคะ ทำไมไม่กิน...”
“กำลัง ‘กิน’ อยู่นี่ไง” พูดจบฝังเสี้ยวหน้าคมลงกลางร่องอวบอัดที่ถูกชั้นในตัวเล็กบีบรัดเข้าหากัน กอรปกับที่มันใหญ่เป็นทุนเดิม พลันทำให้ธีร์ธวัชแทบกระชากบราเซียร์เจ้าปัญหานี่ออกไปให้พ้นทาง ด้านนิลรดาตกใจสุดขีดไม่คิดว่าเขาจะกระทำกับเธอเช่นนี้
“มะ หมายความว่าอย่างไรหรือคะ อ๊ะ!” หลุดเสียงครางกระเส่า เมื่อปลายลิ้นร้อนชื้นเย้าแหย่ร่องอวบอัด ระหว่างนั้นคนกระหายจัดยังคอยเอ่ยบอก
“ก็กิน ‘นมสด’ จากเต้าเธอไง!” ไล้มือร้อนตามสีข้างเว้า แล้ววนกลับขึ้นด้านบน เพื่อปลดตะขอบราเซียร์ตัวเล็กและด้วยความที่เขาชำนาญอยู่แล้วจึงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เผยเต้าอวบอัดทั้งสองให้เป็นอิสระ
นัยน์ตาคู่คมลุกวาวราวกับเห็นว่ามันคือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และหื่นตัวพ่อไม่รีรอให้เสียเวลา โน้มเสี้ยวหน้าคมเกลือกกลั้ว ละเลงปลายลิ้นร้อนชื้นเชยชิม ปาดไล้เต้าเต่งซ้ายที ขวาที สลับสับเปลี่ยนกับมือร้อนที่นวดเน้นเคล้นคลึงอย่างเมามันส์
อุ้งปากร้อนร้ายอ้าอมเม็ดบัวหวาน ดูดจนแก้มสองข้างตอบเข้าหากันเสียงดังจ๊วบๆ
นิลรดาร้อนวูบวาบราวกระแสไฟฟ้าแรงสูงเคลื่อนผ่านนับหมื่นโวลต์
“อ๊ะ อู๊ย ซี้ดส์” บิดกายเกลียวด้วยความเสียวซ่าน กลีบปากสวยห่อครางกระเส่าธีร์ธวัชเห็นแล้วค่อนข้างพึงพอใจ
ละเลงปากหยักดูดกลืนกิน ‘นมสด’ จากเต้าอย่างหวามหวาน มือร้อนบีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มนิ่ม ราวจะให้มันบุบสลายในพริบตา แต่ว่าคนช่ำชองเหนือกว่ายังประคองสติไม่ให้เตลิดเพริศตามไปไกล พอได้ดื่มด่ำทรวงหยุ่นจนหนำใจ ก็กดเสียงห้วนกร้าวเอ่ยสั่ง
“ถ้าไม่อยากให้ฉัน ‘ทำ’ มากกว่านี้ ก็ ‘ยกเลิก’ งานแต่งบ้าบอนั่นซะ!” ผละออกห่าง ทิ้งให้นิลรดาอ้าปากค้างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากระทำเช่นนี้เพราะต้องการให้เธอยกเลิกงานแต่ง เขาจะบ้าหรือไง เธอจะไปมีสิทธิ์อะไรกัน!
สติที่พอดึงกลับคืนมาทำให้หญิงสาวเริ่มรู้สึกตัว มือเรียวเล็กเลื่อนบราเซียร์ให้ปิดเต้าเต่งและติดตะขอ ซึ่งจวบเหมาะกับจังหวะที่คุณหญิงเดือนแขเข้ามาเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันพอดี และสภาพของคนโดนรังแกเห็นจะไม่สมบูรณ์เท่าไรนัก!
“เห็นจะไม่ได้นะ ตาธีร์” เสียงเรียบที่เคลือบแฝงไปด้วยความโกรธจัด เรียกให้สองหนุ่มสาวต้องหันไปมอง และอุทานออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ
“คุณแม่!/คุณหญิง!”
นิลรดาอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดไว้ที่ไหน สาวเจ้าได้แต่รีบจัดการร่างกายให้เรียบร้อย ด้านคุณหญิงปรายหางตามองแวบหนึ่งแล้วจึงหันมาเอ่ยกับพ่อลูกชายตัวดีอย่างเอาเรื่อง!
“แม่คงต้องเลื่อนการจัดงานครั้งนี้เข้ามาเร็ววันแล้วล่ะ พรุ่งนี้หมั้น สัปดาห์หน้าแต่ง!”
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่! เพราะว่าพวกเธอทั้งสองคนทำอะไรที่มันเกินงามจนไม่น่าอภัย!” เห็นหนทางจะไม่รอดพ้นจากการเป็นเจ้าบ่าว ‘จับแต่ง’ ธีร์ธวัชก็รีบเอ่ยโต้แย้งทันควัน
“ไม่นะครับคุณแม่! คุณแม่จะให้ผมหมั้นแล้วก็แต่งงานกับคนที่ผมไม่รักได้อย่างไร!” วาจาที่หลุดออกมาจากปากหยักนั้น ช่างทำร้ายคนที่รับฟังอย่างเงียบๆ เหลือเกิน
‘ไม่ได้รัก’ แต่งงานกันไปคงไม่พ้น ‘หย่าร้าง’
ด้านคุณหญิงเดือนแขไม่พอใจสุดๆ ลูกชายนะลูกชายไม่ได้ใจเธอเลย! นอกจากจะไม่เอาความแล้วพ่อคุณยัง ต่อต้านมิยอมหยุด น่านัก!
“แต่เธอทั้งสองคนทำบัดสีบัดเถลิงจนเกินงาม! พรุ่งนี้เช้า เวลา 07.09 น. หมั้นหมาย” เว้นจังหวะหายใจพร้อมปรายสายตามองหนุ่มสาว “เตรียมตัวให้พร้อม...ทั้งคู่” พูดจบเดินออกไป ทิ้งธีร์ธวัชกับนิลรดาให้อยู่ตามลำพัง
ลับหลังมารดาชายหนุ่มโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่พอใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ และเขาก็ไม่นึกโทษตนเองที่รนลงมาหาเหาใส่หัว ทว่ากลับไปโทษอีกคนที่เอาแต่นั่งก้มหน้านิ่งเงียบ
“เป็นเพราะเธอ เพราะเธอคนเดียว นิลรดา!” อารมณ์พิศวาสเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาหายวับไปกับตา มีเพียงความพิโรธโกธาเข้ามาแทนที่
จากนั้นคนเอาแต่ใจเดินกระแทกส้นเท้าดังปังๆ ออกไป ทำให้ในห้องครัวเหลือเพียงนิลรดา สาวเจ้าลู่กายลงกับผนังห้องครัว แล้วนั่งคู้เข่าซบหน้าเข้ากับฝ่ามือบางปลดปล่อยหยดน้ำตาไหลบ่าออกมา พลันนึกน้อยใจในวาสนาของตนเอง ไม่รู้กรรมเวรแต่ปางใดที่ทำให้เธอตกทุกข์ในเวลานี้ อยากจะแหงนหน้าขึ้นฟ้าแล้วถามเทวดาบนนั้นเหลือเกินว่าเธอทำอะไรผิดหรือ? ทำไมถึงได้พากันกลั่นแกล้งเธอเช่นนี้...