ตอนที่ 3 เจ้าของฟาร์มกับเกมฟาร์มที่รัก

2135 คำ
ดวงดาวหรือตอนนี้ก็คือเด็กน้อยลี่อินหลังจากที่นอนคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดจนเผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งรอบๆ ตัวก็มืดหมดแล้ว ในห้องมีเทียนเล่มเล็กจุดเอาไว้ หันไปมองด้านข้างที่นอนก็เห็นชายหนุ่มอายุน่าจะไม่เกินสามสิบปี ผิวขาวหน้าตาหล่อเหลานั่งอยู่ข้างเตียงกำลังมองมาที่เธอและพออีกฝ่ายเห็นว่าเธอตื่นขึ้นมาแล้วก็รีบเข้ามาช่วยพยุงเธอให้นั่งพิงผนังอย่างทะนุถนอม "อาอินของพ่อตื่นแล้ว เป็นอย่างไรบ้างนอนไปหลายวัน รู้สึกไม่สบายตัวที่ตรงไหนบ้างหรือไม่" ชายหนุ่มหรือก็คือพ่อของลี่อินเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มดีใจที่เห็นเธอตื่นขึ้นมา คงเพราะเป็นการยืนยันได้ว่าบุตรสาวของตนได้ฟื้นขึ้นมาแล้วจริงๆ ในเรื่องราวที่เห็นเธอรับรู้ได้ว่าพ่อของลี่อินรักบุตรสาวคนนี้มากทีเดียว หลังจากได้เงินค่าแรงมาเขาจะนำไปซื้อยาบำรุงกลับมาต้มให้ลี่อินกินทุกครั้ง แต่ถึงแม้มันจะเป็นยาบำรุงแต่ก็เป็นเพียงยาบำรุงราคาต่ำ คุณภาพของยามันไม่เพียงพอที่จะบำรุงร่างกายของลี่อินได้ ร่างกายนี้มันต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอด้วย เพราะจากที่เธอดูแล้วลี่อินหรือจะบอกว่าทั้งครอบครัวของลี่อินเป็นโรคขาดสารอาหาร ทุกคนผอมแห้งจนหนังแทบจะติดกระดูก ถึงจะมีผิวที่ขาวแต่ก็เป็นขาวเหลืองและออกซีด ความยากจนทำให้ทั้งครอบครัวไม่ได้กินอิ่มจึงทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอไปด้วย พี่ชาย ตัวของลี่อินและน้องชายทั้งสองจึงมีร่างกายที่เล็กกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ถึงแม้เธอยังไม่เห็นเด็กคนอื่นๆ ในที่นี้ แต่เธอก็พอจะจำได้จากชาติก่อนว่าทั้งสี่คนมีร่างกายที่เล็กกว่ามาตรฐานมากทีเดียว และถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่รู้ว่าทั้งสี่จะมีชีวิตรอดจนเติบโตได้หรือไม่ โดยเฉพาะร่างนี้ของเธอที่อ่อนแอและเจ็บป่วยมานาน "คิดอะไรอยู่ลูก แม่เจ้ากำลังต้มยาให้อยู่ ไม่ต้องกังวลนะ พ่อจะขยันทำงานหาเงินมาซื้อยาเพื่อให้อาอินแข็งแรงขึ้นให้ได้" ตงไห่เอ่ยบอกบุตรสาวตัวน้อยของตนด้วยสายตารักใคร่ ความจริงที่ร่างกายของบุตรสาวอ่อนแอเช่นนี้เรียกได้ว่ามันเป็นความผิดของเขาเอง ตอนนั้นลี่ถิงภรรยาของเขาพึ่งคลอดลูกชายฝาแฝดทั้งสอง จึงไม่สามารถดูแลบุตรชายคนโตและบุตรสาวคนรองได้ เขาจึงเป็นคนดูแลทั้งสองแทน วันนั้นหิมะตกแต่เขาอยากออกไปดูที่ดักปลาเผื่อมีปลามาติดจะได้เอากลับมาต้มน้ำแกงให้ภรรยากินบำรุง แต่ใครจะรู้ว่าลี่อินที่ตอนนั้นพึ่งจะสามขวบกลับเดินตามเขาไปด้วย และพอไปถึงริมน้ำลี่อินคงเดินสะดุดทำให้ผลัดตกน้ำ เขาได้ยินเสียงน้ำแตกกระจายจึงเดินไปดูถึงเห็นว่าบุตรสาวตกน้ำ จึงรีบช่วยขึ้นมาแต่อากาศในตอนนั้นก็หนาวเย็นมาก ส่วนน้ำในลำธารก็เย็นจนเกือบจะเป็นน้ำแข็ง ชุดที่บุตรสาวสวมอยู่แต่เดิมก็ไม่ได้หนาพอที่จะช่วยป้องกันความหนาวได้อยู่แล้ว ตั้งแต่นั้นบุตรสาวก็กลายเป็นเด็กที่มีร่างกายอ่อนแอ หนาวไม่ได้ เปียกไม่ได้ ร้อนจัดไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงรักบุตรสาวของตนไม่เปลี่ยน สิ่งใดที่ทำให้ได้เขาไม่เคยลังเลที่จะทำ เงินค่าจ้างออกเมื่อใดก็จะไปซื้อยาบำรุงมาต้มให้บุตรสาวกิน หวังเพียงให้นางแข็งแรงขึ้นบ้างแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดี ดวงดาวไม่รู้ว่าบิดาของลี่อินกำลังคิดสิ่งใดอยู่ ถ้าเธอได้รู้คงรู้สึกซาบซึ้งและดีใจที่ได้มาอยู่ในร่างนี้เป็นแน่ ในยุคนี้จะมีกี่ครอบครัวกันที่รักบุตรสาวมากกว่าบุตรชาย และยิ่งบุตรสาวที่เรียกได้ว่าเป็นตัวภาระให้กับครอบครัวยิ่งไม่ต้องคิดเลยว่าจะมีเช่นนี้เป็นครอบครัวที่สอง "อาอินหิวแล้วหรือยัง วันนี้พ่อได้ปลามาด้วย แม่เจ้าทำข้าวต้มปลาไว้รอประเดี๋ยวพ่อจะไปตักมาให้" พ่อของลี่อินพูดจบก็ลุกออกไปด้านนอกห้อง รอไม่นานอีกฝ่ายก็กลับมาพร้อมกับชามเล็กๆ สองใบ ชามหนึ่งเป็นน้ำอุ่น อีกชามเป็นน้ำสีขาวเห็นเม็ดข้าวและเนื้อปลาชิ้นเล็กๆ ลอยอยู่ด้วย พ่อของลี่อินนำน้ำอุ่นมาป้อนให้เธอกินก่อนครึ่งชาม แล้วจึงนำข้าวต้มมาป้อนให้เธอเมื่อข้าวต้มปลาหมดก็ป้อนน้ำให้เธออีกเล็กน้อย ไม่นานแม่ของลี่อินก็เดินเข้ามาพร้อมชามใบเล็กอีกใบแต่ทันทีที่เธอได้กลิ่นก็ต้องเบ้หน้า น้ำสีดำกลิ่นขมฉุนชัดเจนเช่นนี้คงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากยาบำรุง แต่เมื่อเห็นสายตาห่วงใยจากคนทั้งสองเธอจึงกลั้นใจรับชามยามากรอกลงปากไปให้หมดในครั้งเดียว ขืนให้ป้อนทีละช้อนเธอคงได้ตายอีกรอบเป็นแน่ ซึ่งทั้งสองก็ดูตกใจกับการกระทำนี้ของเธอ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยขัดและยังช่วยเธอประคองชามยาอีกด้วย เมื่อกินข้าวกินยาเรียบร้อยพ่อของลี่อินก็นำชามทั้งหมดออกไปและยกอ่างน้ำเข้ามา แม่ของลี่อินรับอ่างน้ำมาก็ลุกไปหยิบผ้ามาเพื่อเช็ดตัวให้กับเธอ ส่วนพ่อของลี่อินเมื่อนำอ่างน้ำเข้ามาเรียบร้อยก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้แม่ของลี่อินจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเธอ ตอนแรกเธอก็รู้สึกขัดเขินอยู่มิน้อยแต่พอเห็นร่างเล็กๆ ของตนเองความอายที่มีก็เลยกลายเป็นความรู้สึกอนาถใจแทน ร่างนี้ทั้งผอมและตัวเล็กมากยังดีที่เธอรู้สึกว่าร่างกายไม่ได้อ่อนแอมากเหมือนตอนที่พึ่งฟื้นขึ้นมา นอกจากลี่อินที่คิดเช่นนี้ ลี่ถิงผู้เป็นแม่ก็คิดเช่นเดียวกัน หลังจากที่บุตรสาวฟื้นขึ้นมาครั้งนี้ ร่างกายของอีกฝ่ายดูมีกำลังมากขึ้น การหายใจก็ไม่มีอาการหอบเหนื่อยเช่นทุกครั้ง แม้แต่มือเท้าก็ดูมีเรี่ยวแรงสามารถขยับหรือยกของได้ด้วยตนเอง ข้าวต้มหรือยาก็สามารถกินได้มากกว่าแต่ก่อน ดวงตาที่เคยหม่นหมองก็ดูสดใสขึ้น อีกทั้งยังมีรอยยิ้มเล็กๆ ติดบนใบหน้าตลอดเวลา ไม่ดูเศร้าสร้อยเช่นแต่ก่อน เห็นเช่นนี้ผู้เป็นแม่ก็รู้สึกดีใจอยู่มิน้อย ดูท่าสวรรค์คงรับฟังคำขอของนางและคนในครอบครัว หลังจากบุตรสาวฟื้นไข้ครั้งนี้ร่างกายจึงดูแข็งแรงขึ้น "เอาละนั่งพักพอแล้วเจ้านอนต่อเถอะ ถ้าพรุ่งนี้เจ้ายังแข็งแรงเช่นวันนี้ แม่จะพาออกไปนั่งเล่นนอกบ้านดีหรือไม่" ลี่ถิงเอ่ยบอกบุตรสาวเมื่อก่อนลี่อินชอบให้นางพาไปนั่งเล่นด้านนอกมาก แต่ติดที่อีกฝ่ายร่างกายอ่อนแอมากต้องคอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลาจึงไม่ค่อยได้ออกไปบ่อยนัก แต่วันนี้ดูท่าทางและอาการของบุตรสาวดีขึ้นมาก ถ้าพรุ่งนี้ยังเป็นเช่นนี้อีกนางจะพาออกไปนั่งเล่นอย่างที่บุตรสาวชื่นชอบ เอื้อมมือไปห่มผ้าให้บุตรสาวแล้วจึงดับเทียนลุกออกจากห้องไป ดวงดาวที่ยังคงนอนมองเพดานอย่างเหม่อลอยพร้อมกับคิดถึงหนทางที่จะทำอย่างไรให้ครอบครัวนี้มีอาหารกินเพียงพอ ขึ้นเขา เข้าป่า เหมือนในนิยายเรื่องอื่นๆ เธอก็ไม่รู้ว่าบ้านที่เธออยู่นี้อยู่หมู่บ้านอะไร อยู่เมืองไหน และมีพื้นที่รอบๆ เป็นอย่างไร ร่างนี้ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง และจากสภาพร่างกายตอนนี้อาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่ร่างนี้จะสามารถลุกออกไปทำอะไรด้วยตนเองได้ แต่ถ้าอย่างนั้นเธอจะทำเช่นไรดี คิดไปคิดมาก็นึกถึงเกมฟาร์มของตนถ้าเอามาเปิดและเอาของในนั้นออกมาใช้ได้เหมือนในนิยายที่เคยอ่านมาก็คงดี ในนั้นมีของกินของใช้จำเป็นแทบทุกอย่างที่เธอสามารถเอามาใช้งานได้จริง ระหว่างที่เธอกำลังเหม่อลอยอยู่นั้นแต่พอกะพริบตา เธอก็เห็นหน้าจอของเกมขนาดเท่ากับจอบนไอแพดของเธอลอยอยู่ตรงหน้า ด้วยความไม่แน่ใจจึงกะพริบตาอีกสองสามครั้งจอนั้นก็ยังอยู่ไม่หายไปไหน ดวงดาวเอื้อมมือไปสัมผัสกับจอภาพนั้น และเธอก็สามารถสัมผัสมันได้จริง จอเกมฟาร์มแสนรักของเธอตอนนี้มันอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว เธอเลื่อนจอไปมาเพื่อสำรวจว่ามีสิ่งใดอยู่บ้าง และเธอก็ต้องดีใจที่ทุกอย่างในฟาร์มของเธอมันมีมาครบทุกอย่าง ทั้งเครื่องผลิตของ แปรรูปของต่างๆ คอกหมู คอกไก่ คอกวัว ต้นน้ำผึ้ง แปลงผัก ต้นผลไม้แม้กระทั่งเพชรที่เธอเติมเอาไว้และเหรียญทองก็มีมาด้วย "อ้าวเลื่อนจอไปมาได้ แต่กดคำสั่งอะไรไม่ได้ แล้วอย่างนี่จะเปิดคลังดูของยังไงล่ะ อย่าบอกนะว่ามาให้ดูแค่นั้น" ดวงดาวที่พยายามทำทุกอย่างที่คิดได้ แต่ก็ไม่สามารถแตะคำสั่งตามปกติของเกมได้เลย จึงอดอุทานออกมาไม่ได้ แต่พอหลังจากเธอพูดจบ หน้าจอก็เกิดการเปลี่ยนแปลง มีคำถามปรากฏขึ้นที่หน้าจอ [คุณต้องการเปิดคลัง? (ตกลง) (ยกเลิก) ] "ตกลง" พอเธอตอบคลังเก็บของขนาดใหญ่ของเธอก็ปรากฏขึ้น เธอเลื่อนมือสำรวจของต่างๆ ที่มี มันเป็นของที่เธอผลิตเอาไว้ก่อนจะตายนั้นเอง และตอนนี้เธอก็เห็นสิ่งที่เธอต้องการแล้ว แต่ว่าเธอจะทำอะไรกับพวกมันได้บ้าง "มีของให้เห็นแต่จะเอาออกมาได้ไหมนะ" พอเธอพูดจบหน้าจอก็เกิดคำถามขึ้นอีกครั้ง [คุณต้องการนำสินค้าออกจากคลัง? (ตกลง) (ยกเลิก) ] ดวงดาวเห็นจอเกมขึ้นคำถามนี้มาจึงพอเข้าใจได้ทันทีว่าเธอไม่สามารถแตะคำสั่งไปที่จอเกมได้โดยตรงแต่สามารถนำของออกมาได้ด้วยคำพูดสินะ เมื่อไม่แน่ใจก็ต้องลองดู "ตกลง อืม..เอานมสด 6 ขวด ขนมปัง 5 ก้อน" สิ้นเสียงทุกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมคำถามบนจอภาพยังมาหายไปอีกด้วย "อ้าว ทำไมไม่มีอะไรออกมาล่ะ" ดวงดาวเอ่ยออกมาด้วยความสงสัยแต่พอเธอพูดจบคำถามเดิมก็ขึ้นมาบนจออีกครั้ง ครั้งนี้ดวงดาวพอจะเข้าใจบางอย่างได้แล้วจึงเอ่ยคำสั่งออกมาอีกครั้ง "นำขนมปัง 5 ก้อน นมสด 6 ขวดออกมา" และครั้งนี้มันได้ผลหลังจากที่เธอเอ่ยจบ ก็มีนมในขวดแก้วเหมือนอย่างในเกมและขนมปังในถาดไม้ออกมาจริงๆ และของที่เธอสั่งตอนนี้มันวางอยู่ตรงหน้าของเธอแล้ว ดวงดาวดีใจมากจึงคิดอยากลองคำสั่งอื่นๆ อีก "ขอผ้าห่มและหมอนขนเป็ดออกมาอย่างละหกใบ" เมื่อสิ้นคำสั่งของที่เธอเอ่ยก็ออกมากองกันอยู่บนเตียง ผ้าห่มในเกมแต่เดิมเป็นสีเหลืองแต่ที่ออกมาเป็นสีน้ำตาลเรียกว่ารอบคอบดีทีเดียว ดวงดาวอยากจะลองเอาของอย่างอื่นออกมาอีกแต่ก็ต้องตกใจที่อยู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างของพ่อแม่ของลี่อินที่เดินเข้ามาพร้อมกับเทียนให้แสงสว่างในมือ "อาอินเจ้าอยากได้อะไรอย่างนั้นรึ ทำไมถึงยังไม่นอน หือ! ของพวกนี้มันคืออะไร?" เสียงของพ่อลี่อินเอ่ยถามด้วยความห่วงใย แต่พอเห็นข้าวของที่วางอยู่บนเตียงของบุตรสาวก็ร้องออกมาด้วยความตกใจและแปลกใจ *********
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม