ตอนที่ 1 เจ้าของฟาร์มกับเรื่องในอดีต

1621 คำ
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในที่สุดฉันก็ขยายฟาร์มจนเวลตันได้แล้ว แถมยังชนะได้ที่หนึ่งในการแข่งขันรอบนี้อีกด้วย โอ้โห..รางวัลเพียบเลย ไหนดูซิจะมีกิจกรรมอะไรมาใหม่อีกนะ" เสียงหัวเราะด้วยความสะใจดังลั่นไปทั่วห้องเพนท์เฮ้าส์บนคอนโดมิเนียมหรูกลางกรุงที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งราคาของห้องนี้อยู่ในตัวเลขเก้าหลักเลยทีเดียว ส่วนคนที่หัวเราะสะใจอยู่นั้นเป็นหญิงวัยห้าสิบปีคนหนึ่ง   ดวงดาวหรือดาว เป็นหญิงวัยกลางคนอายุ 55 ปี เธออาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งนี้กับผู้ช่วยและแม่บ้านอย่างละหนึ่งคน ดาวเป็นบุตรสาวคนเดียวของอดีตเศรษฐีที่ดินในกรุงเทพ แต่เมื่อตอนพิษเศรษฐกิจเมื่อปี 40 ครอบครัวของเธอก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ตอนนั้นเธอมีอายุเพียง 23 ปี พึ่งเรียนจบปริญญาโทในต่างประเทศและมีความคิดที่จะต่อปริญญาเอกแต่พอที่บ้านประสบปัญหาเรื่องเงินหมุนเวียน เธอก็เดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อช่วยเหลือครอบครัว และยังเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ทางบ้านอีกด้วย   เธอใช้ความรู้และประสบการณ์ที่ได้มาจากการเรียนและการใช้ชีวิตในต่างประเทศค่อยๆ ประคับประคองสถานการณ์ของทางบ้านจนอยู่ตัว หลังจากนั้นสามปีพอเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัว เธอก็เริ่มกิจการโรงแรมขึ้นบนที่ดินที่เหลืออยู่ของครอบครัว   ตอนที่เปิดโรงแรมแรกๆ เธอต้องช่วยทำงานทุกอย่าง แม่บ้านขาดเธอไปช่วย แม่ครัวขาดเธอไปช่วย ตำแหน่งผู้จัดการไม่มีเธอก็เข้าไปทำ และยังต้องกลับมาวางแผนงานต่างๆ ใช้เวลากว่าสามปี ทุกอย่างถึงอยู่ตัวและเธอก็ค่อยๆ พัฒนาโรงแรมที่แต่เดิมมีแค่ห้าสิบห้องพัก กลายเป็นโรงแรมใหญ่ที่มีมากถึงหนึ่งพันห้องพักและมีพนักงานกว่าสามร้อยคน   ในระหว่างสามปีนั้นเธอก็ได้เจอกับสามีซึ่งเป็นครูประจำโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ทั้งสองตกลงคบหาและแต่งงานกัน หลังจากแต่งงานหนึ่งปีเธอก็คลอดลูกชายคนแรก แต่ด้วยงานของเธอที่ต้องดูแลมีมากมาย สามีจึงลาออกจากงานมาคอยเลี้ยงลูก หลังจากนั้นสองปีเธอก็คลอดลูกสาวอีกคน ซึ่งตอนนั้นโรงแรมของเธอเริ่มใหญ่โตและมีชื่อเสียงแล้ว งานที่เธอต้องดูแลจึงมีมากตามไปด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก็เริ่มห่างเหิน จนในที่สุดทั้งคู่ก็ตกลงแยกกันอยู่ หลังจากลูกสาวคนเล็กมีอายุครบหกปีแต่ทั้งสองไม่ได้จดทะเบียนหย่าขาดกัน   โดยลูกทั้งสองคนสามีจะเป็นคนเลี้ยงดู เธอทำเพียงโอนเงินค่าเล่าเรียนกับค่าใช้จ่ายของลูกให้สามีเท่านั้น ส่วนตัวสามีก็กลับไปทำงานเป็นอาจารย์สอนในมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง เพราะระหว่างที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกอีกฝ่ายก็เรียนต่อปริญญาโทไปด้วย เธอกับสามีแยกทางกันด้วยดี ดูแลลูกทั้งสองคนในฐานะพ่อและแม่เป็นอย่างดี จนเมื่อลูกชายคนโตเรียนจบปริญญาตรีก็เริ่มเข้ามาเรียนรู้การดูแลกิจการ ส่วนตอนนี้อีกฝ่ายเรียนจบปริญญาโทและเข้ามาทำงานแทนเธออย่างเต็มตัวแล้ว   โชคดีที่เธอทำธุรกิจด้วยความไม่ประมาทเมื่อตอนช่วงปี 61 ที่เริ่มมีโรคระบาดเกิดขึ้น กิจการทุกอย่างทั่วโลกหยุดชะงัก ด้วยเคยมีประสบการณ์เมื่อตอนปี 40 เธอจึงสามารถประคับประคองกิจการของตนเองจนผ่านมันมาได้จนถึงตอนนี้กว่าห้าปีทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติดีแล้ว   เมื่อเธอไม่ต้องไปทำงานแล้วเวลาว่างนอกจากไปพบปะสังสรรค์กับเหล่าเพื่อนฝูง เธอจึงใช้เวลาเล่นเกมที่มีเพื่อนสนิทแนะนำมาไว้ให้เล่นคลายเหงา ตอนแรกๆ เธอก็เล่นมันคลายเหงาสลับกับอ่านนิยายที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยมีเวลาอ่านพวกมันเลย แต่พอนานวันเข้าความเบื่อและความเหงาก็ทำให้เธอมุ่งมั่นไปกับการเล่นเกมมากขึ้น   ระหว่างที่เธอกำลังหัวเราะเสียงดังอยู่นั้น อยู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บที่บริเวณหน้าอก เธอเองเมื่อสมัยยังสาวไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองมากนัก ตอนเริ่มกิจการก็ทำทุกอย่างแม้กระทั่งแบกหามก็เคยทำ ยิ่งช่วงหลังคลอดลูกชายคนโตตอนนั้นเรียกได้ว่าเธอต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำเลยทีเดียว พอมาตอนคลอดลูกสาวถึงแม้กิจการจะเริ่มอยู่ตัวแล้ว แต่ก็ต้องออกงานไปดื่มสังสรรค์หาคอนเนคชั่นอยู่บ่อยๆ เรียกได้ว่าเธอใช้ร่างกายและสมองของตนเองอย่างหนัก พอตอนนี้อายุมากขึ้นอาการต่างๆ มันก็พร้อมใจกันแสดงออกมาให้เห็น   ทุกวันนี้ถ้าไม่ได้เล่นเกม อ่านหนังสือนิยาย หรือออกไปพบปะเพื่อนฝูง เธอก็กลายเป็นหญิงวัยใกล้ชราที่ต้องอยู่คนเดียว คอนโดห้องใหญ่โตกว้างขวางมีเธออาศัยอยู่เพียงลำพัง ถึงแม้จะมีผู้ช่วยและแม่บ้านแต่ทั้งสองคนก็จะมาให้เธอเห็นเฉพาะเวลาทำงานหรือเวลาที่เธอเรียกหาเท่านั้น   ดวงดาวที่รู้สึกเจ็บที่บริเวณหน้าอกมากขึ้นจนมือไม่มีแรงแม้แต่จะยกขึ้นเพื่อเคาะกระดิ่งเรียกแม่บ้าน จึงได้แต่นอนเหม่อมองบนโซฟาตัวโปรดไปรอบๆ ห้อง และสายตาเธอก็ไปตกอยู่ตรงกำแพงห้องที่มีรูปครอบครัวสี่คนที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อนเมื่อตอนวันงานรับปริญญาตรีของลูกสาว   ตั้งแต่ดวงดาวอายุ 15 ปีและไปเรียนที่เมืองนอกเธอก็ทุ่มเทให้กับการเรียน พอกลับมาก็ทุ่มเทให้กับการทำงาน จนละเลยคนรอบๆ ตัวไป ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่เธอก็ทำเพียงส่งคนไปดูแลพวกท่านให้อยู่สุขสบายในบั้นปลายของชีวิต แต่กลับไม่เคยไปดูแลพวกท่านด้วยตนเองเลยสักครั้ง กับสามีเขาก็เป็นผู้ชายที่ดีแม้ทั้งสองจะแยกกันอยู่เขาก็ไม่เคยไปมีใครอื่น ได้แต่ตั้งใจทำงานและเลี้ยงดูลูก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังเป็นเช่นนี้มาตลอด กับเธอเขาก็ยังคงดูแลห่วงใยเหมือนเช่นเคย ส่วนลูกๆ ถึงแม้เธอจะเป็นแม่แต่ความรู้สึกผูกพันกลับมีน้อยเหลือเกินพวกเขาจะมาหาเธอพร้อมกับผู้เป็นพ่อในเทศกาลต่างๆ เท่านั้น มีโทรศัพท์พูดคุยกันบ้างแต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องงานหรือเรื่องเรียนเท่านั้น นับได้ว่าชีวิตของเธอชาตินี้มีพร้อมทุกอย่างครบยกเว้นเพียงครอบครัวเท่านั้นที่เธอไม่สามารถรักษามันเอาไว้ได้   ไม่นานอาการเจ็บที่หัวใจก็ค่อยๆ บรรเทาลงมือเท้ากลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง สายตาของเธอมองไปรอบๆ ห้อง สุดท้ายสายตาก็ไปตกอยู่ที่หน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดเกมฟาร์มของเธอค้างเอาไว้ เกมที่ยังคงเปิดให้เห็นการผลิตของตามคำสั่งอยู่ และจำนวนเพชรที่เธอพึ่งเติมเข้าไปยังนับได้จำนวนมากถึงแปดหลักทีเดียว   เมื่อเห็นเช่นนั้นเธอจึงเอื้อมมือไปหยิบไอแพดขึ้นมากดเล่นเกมต่อโดยจัดการปลูกผัก ปลูกต้นผลไม้ กดเก็บนม ไข่ เนื้อหมู น้ำผึ้ง กดสั่งผลิตของต่างๆ ทั้งเนย น้ำตาล หมอน ผ้าห่ม อาหารแปรรูป อาหารสำเร็จอื่นๆ ตามแต่ที่เครื่องจะมีจนครบทุกอย่าง และทุกเครื่องเธอยังได้กดขยายช่องการผลิตจนเต็มอีกด้วย คลังเก็บของ พื้นที่ในฟาร์มก็ขยายจนเต็ม แม้แต่เครื่องผลิตแร่เธอก็กดผลิตทองแท่งเอาไว้จนเต็ม เพราะวันนี้เธอขุดมาได้แต่แร่ทองจนเธอโมโหขณะที่กดคำสั่งต่างๆ อยู่จนครบถ้วนอาการเจ็บที่หัวใจก็กลับมาอีกครั้ง   หมอเคยบอกให้เธออย่าเครียดหรือมีอารมณ์ที่รุนแรงเกินไป เมื่อครู่เธอดีใจมากไปอาการเลยกำเริบ ความจริงอาการโรคหัวใจของเธอมันหนักขึ้นมากแต่ตอนนี้เธอไม่มีห่วงอะไรอีก ลูกๆ ก็โตกันหมดแล้ว กิจการหรือทรัพย์สินใดๆ เธอก็ยกให้ลูกทั้งสองไปหมด เหลือแค่คอนโดนี้ที่เธอทำพินัยกรรมยกให้สามี   ส่วนเงินค่าใช้จ่ายรายเดือนและค่าจ้างผู้ช่วยกับแม่บ้าน ลูกชายจะเป็นคนจัดการโอนมาให้ในทุกเดือน แต่ตัวเธอเองก็มีเงินเก็บของตนเองอยู่หลายล้านบาทที่เอาไว้ใช้ซื้อของที่อยากได้ ซึ่งมันก็หมดไปกับการเติมเพชรและซื้อนิยายแค่นั้น   ครั้งนี้อาการเจ็บหน้าอกรุนแรงกว่าครั้งก่อน เธอเริ่มหายใจหอบ วิงเวียนศีรษะ ตัวแข็งเกร็งและในความคิดห้วงสุดท้ายได้แต่หวังว่าถ้ามีโอกาสได้เกิดชาติหน้า เธอจะให้ความสำคัญกับครอบครัวและคนรอบข้างก่อนสิ่งอื่นใด เธออยากจะมีครอบครัวอบอุ่น มีพ่อแม่ มีสามี มีลูกหลานอยู่รอบๆ กาย ไม่ต้องอยู่คนเดียวและตายลงเพียงลำพังเช่นนี้ สายตาและสมองรับรู้ของเธอค่อยๆ ดับลง แต่อยู่ๆ จอภาพเกมก็ค่อยๆ สั่นไหวและจอก็ค่อยมืดลงจนดับไป แต่กลับมีดวงไฟลอยออกมาจากจอแทนและมันก็พุ่งเข้าไปที่หัวของร่างที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนโซฟา และแสงนั้นก็หายไปพร้อมกับลมหายใจสุดท้ายของดวงดาวที่หลุดลอยและจากโลกนี้ไปตลอดกาล.. ************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม