Chapter 10 ช้านม่ายมาวววว

1123 คำ
Chapter 10 ช้านม่ายมาวววว “เกรงใจจัง แต่ขอเยอะๆ เลยนะคะ หิวจนแสบท้องไปหมดแล้ว” บัวบูชาทำหน้าละห้อย กะพริบตาปริบๆ อย่างออดอ้อน ร่างที่บัวบูชาอาศัยอยู่เป็นเซียนที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามเหนือหล้า พอมาทำแก้มป่อง กะพริบตาโตอย่างโลกที่เธอเพิ่งจากมากำลังนิยม จึงทำให้นางกำนัลถึงกับยืนเคลิ้ม “พะ...พระชายาทำหน้าน่ารักเหลือเกิน ถ้าองค์รัชทายาทมาเห็นต้องรักหลงมากเป็นแน่เพคะ” “ถ้าอย่างนั้นขออาหารแบบจัดหนักเลยนะคะ” พูดพลางขยิบตา ส่งจูบ แล้วนอนเอกเขนก มือข้างหนึ่งลูบพุงไปมาอย่างรอคอย “เพคะพระชายา” ไม่กี่อึดใจต่อมาอาหารมากมายก็ถูกจัดเรียงละลานตา บัวบูชาน้ำตาปริ่ม ยกมือขึ้นทาบอก ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปปิดปากที่สั่นระริกด้วยความตื้นตันใจ “แม่จะแดกไม่ยั้งเลยคอยดู!” หญิงสาวประกาศเจตนารมณ์อันมุ่งมั่น ก่อนจะยื่นมือไปจับไก่ทั้งตัวขึ้นมากัดกินด้วยความหิวโหย “อื้อหืม...” หลับตาพริ้ม ทำหน้าเคลิ้ม เมื่ออาหารรสชาติถูกปาก จนทำให้ไก่ทั้งตัวหายลงท้องในชั่วพริบตา แต่ยังไม่พอ! เธอคว้าตะเกียบคีบเนื้อปลาที่ราดด้วยน้ำซุปเหนียวข้นโรยด้วยขิงและผักอีกหลายชนิดที่เธอไม่รู้จัก จากนั้นจึงหันไปซัดหมั่นโถวอีกสองลูก และยัง! เธอหันไปมองหม้อตุ๋นทางฝั่งซ้ายด้วยประกายตาระยับ คีบเนื้อที่ตุ๋นจนเปื่อยเข้าปากอย่างไม่รีรอ “โอ๊ย! สวรรค์ชัดๆ นุ่มจนแทบละลายในปากโดยไม่ต้องเคี้ยว นี่เนื้ออะไรเหรอคะอร่อยจังเลย” นางกำนัลที่ยืนตะลีตะลานด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเห็นพระชายาผู้เย่อหยิ่ง ตะกละตะกลามสวาปามอาหารเข้าปากดั่งยาจกเข็ญใจเช่นนี้มาก่อน ปกติแล้วท่านเซียนไป๋เหลียนมักกินเพียงผลไม้ไม่กี่ผล อีกทั้งยังไม่นิยมกินอาหารคาวครั้งละมากๆ เช่นนี้ “อะ...เอ่อ เนื้อแกะภูเขาตุ๋นเหล้าท้อเพคะพระชายา เมนูนี้ทานน้อยๆ น่าจะดีกว่านะเพคะ เพราะใส่เหล้าในปริมาณมาก” “อร่อยมากฉันชอบบบ” ดูเหมือนบัวบูชาจะไม่ได้ยินคำเตือน จึงยกหม้อซดจนน้ำซุปที่เข้มข้นหวานละมุนหมดหม้อ ก่อนจะสะอึกแรงจนตัวโยน อีกทั้งยังเกือบจะเรอออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก หัวเราะแหะๆ ด้วยความอาย “โถวอีบัว... กินจนลืมอาย กินแบบนี้เขาก็รู้กันพอดีว่าเรายาจก” เมื่ออิ่มแล้วจึงเห็นว่าอาหารมากมายบนโต๊ะอันตรธานหายไปแทบไม่เหลือซาก กินประหนึ่งปอบลงก็ไม่ปาน ก็แหม...เกิดมาไม่เคยกินอาหารหรู รสชาติอร่อยเหาะแบบนี้มาก่อน บุญปากของอีบัวจริงๆ บัวบูชาพยายามสะบัดหน้าแรงๆ รู้สึกมึนเวียนศีรษะแปลกๆ หรืออาจเป็นเพราะเธอยัดอาหารเข้ากระเพาะมากไป ร่างกายที่แสนบอบบางของเซียนท่านนี้คงต้านทานการกินราวกับผีปอบไม่ไหว จึงประท้วงด้วยการวิงเวียนมึนงง คล้ายคนเมาชอบกล “ล้างมือก่อนเถอะเพคะพระชายา” นางกำนัลถืออ่างไม้ลอยด้วยกลีบดอกกุหลาบและมะนาวฝานบางๆ เพื่อลดกลิ่นคาวของอาหารเข้ามา “อยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกันนะ อาหารอร่อย มีคนคอยดูแล อยากได้อะไรก็แค่บอก ชีวิตดี๊ดี” บัวบูชาหัวเราะหน้าระรื่น เมื่อล้างมือเสร็จนางกำนัลอีกคนก็รีบนำผ้าสีขาวสะอาดมาซับมือให้ทันที เอิ๊ก! เอิ๊ก! เอิ๊ก! บัวบูชาสะอึกรัวๆ จนนิ่วหน้า ปกติเธอจะสะอึกแบบนี้เมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่นี่ก็แค่ซัดไก่ ปลา แกะ ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์เลยสักอึก ‘นี่สินะ! ผลกรรมจากความตะกละตะกลาม กินไม่บันยะบันยัง’ หญิงสาวส่ายหน้า ความคิดมากมายที่วิ่งวุ่นอยู่ในสมองขี้เลื่อยเริ่มเลือนหาย เหล้าท้อทั้งหม้อที่เธอกระดกลงท้องเริ่มแผลงฤทธิ์ บัวบูชาเริ่มหัวเราะอย่างเสียสติ แค่แมลงบินผ่านยังชี้ชวนให้นางกำนัลดู แก้มแดงปลั่งราวกับแก้มเด็ก ดวงตายิ้มหยีเดินโซซัดโซเซไปทั่วห้อง “พื้นห้องมันเอียงแปลกๆ พวกเธอเล่นมายากลอะไรอีก บอกมานะ!” บัวบูชาโวยวาย เดินแอ่นหน้าแอ่นหลังสภาพน่าเอน็จอนาถใจ นางกำนัลทำได้เพียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตั้งแต่เช้าจวบจนเพลานี้ท่านเซียนไป๋เหลียนดูทีคล้ายวิกลจริต พูดจาไม่รู้เรื่อง แถมยังมีท่าทางแปลกๆ ชอบพูดกับตนเองด้วยภาษาที่ฟังเข้าใจยาก แล้วยังดื่มเหล้าท้อจนเมามาย เช่นนี้พวกนางรับมือไม่ไหวแน่ “เจ้ารีบไปกราบเรียนองค์รัชทายาทให้รีบมาดูอาการพระชายาเถิด เดี๋ยวทางนี้ข้าจะคอยรับมือ ประวิงเวลาไปก่อน” “ได้ ข้าฝากเจ้าด้วย” หลานหลินรับคำพลางมองหน้าเหม่ยเหมยอย่างเห็นอกเห็นใจก่อนจะรีบสาวเท้าออกจากตำหนักมู่ชิงไปอย่างรวดเร็ว เหม่ยเหมยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก รวบรวมความกล้าปราดเข้าไปคว้าแขนเซียนไป๋เหลียนเอาไว้ “พระชายาเพคะ ท่านเมามากแล้ว นอนพักสักตื่นเถิดเพคะจะได้สร่างเมา” “มาว มาวอะไรกาน ช้านม่ายได้กินเหล้าช้านจะเมาได้ยางงาย เอิ๊ก! เอิ๊ก!” พูดไปสะอึกไปแล้วปัดมือนางกำนัลอย่างไม่ยี่หระ “ถ้าอย่างนั้นเช็ดหน้าเช็ดตาเสียหน่อยเถิดเพคะ จะได้รู้สึกดีขึ้น” เหม่ยเหมยไม่ละความพยายาม รีบนำน้ำใส่ถังไม้ปราดเข้ามา จุ่มผ้าแพรสีขาวลงไปแล้วบิดหมาด วิ่งไล่ต้อนพระชายารอบห้อง “ม่ายเช็ด ม่ายเช็ด” บัวบูชาขึ้นชื่อเรื่องคออ่อนที่สุดในซอย สมัยเพิ่งแตกเนื้อสาวเธอเคยลิ้มลองสุรากับเหล่าเด็กวัดรุ่นก่อนที่พวกเขาจะแยกย้ายออกจากวัดไปมีครอบครัวกันหมดแล้ว แค่ได้จิบไม่ถึงครึ่งแก้ว ก็อาละวาดโวยวาย เพราะโดนล้อเลียนว่าเป็นแก้วหน้าม้า จึงโมโหหน้ามืดไล่เตะเด็กวัดจนวงแตก เสียงดังเอะอะมะเทิ่ง จนเจ้าอาวาสจับได้ว่ามาแอบซ่องสุมดื่มน้ำเมากันหลังป่าช้า กลายเป็นว่าเด็กวัดทั้งกลุ่มโดนไม้เรียวฟาดก้นเรียงตัว เว้นบัวบูชาที่เจ้าอาวาสละไว้เพราะเป็นผู้หญิง แต่ท่านก็เทศน์ตักเตือนไปยกใหญ่ เรียกได้ว่าโดนเทศน์จนขี้หูเต้นระบำเลยทีเดียว ‘เป็นผู้หญิงอย่าริลองน้ำเมา เพราะมันจะนำภัยมาสู่ตนเองนะโยมบัว อาตมาขอเตือนด้วยความหวังดี’
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม