เพล้ง !
ถาดอาหารร่วงลงจากมือเธอไปกระทบกับโต๊ะทันที โดยสัญชาตญาณ ชายคนนั้นพร้อมทั้งสาวสวยสองคนที่เกาะกอดอยู่ด้านละข้างรีบลุกขึ้นเพราะกลัวว่าอาหารจะกระเด็นใส่
“ อะไรกันเนี่ย ทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้ ”
หนึ่งในพีอาร์สาวสวยพึมพำเบา ๆ พี่เพลินรีบระล่ำระลักขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“ กราบขอประทานโทษทุกท่านด้วยนะคะ พอดีวันนี้น้องเด็กเสิร์ฟมาทำงานใหม่ อาจจะตื่นเต้นไปบ้าง เดี๋ยวดิฉันจะอบรมน้องให้ระมัดระวังมากกว่านี้ค่ะ หนูนา ขอโทษลูกค้าสิ ”
“ ขอประทานโทษจริง ๆ ค่ะคุณผู้ชาย ” นารากล่าวเสียงสั่นพลางก้มหน้าเก็บกวาดภาชนะและเศษอาหารใส่ถาด
“ ออกไปก่อน ไปสงบสติอารมณ์ เดี๋ยวที่เหลือพี่จะเรียกแม่บ้านมาจัดการเอง ใจเย็น ๆ ” พี่เพลินเอียงตัวมากระซิบบอกเธอเบา ๆ เมื่อเห็นว่ามือไม้ของเธอสั่นเทาเหลือเกิน
“ ขอบคุณค่ะ ” เธอพึมพำตอบก่อนจะรีบถือถาดนั้นไว้แล้วสาวเท้าฉับ ๆ ออกมาจากห้องนั้นทันที
เธอเลี้ยวไปที่ห้องพักสำหรับพนักงานที่ไม่มีใครอยู่ในนั้นก่อนเพื่อจะสงบสติอารมณ์อย่างที่พี่เพลินบอก
หัวใจเธอเต้นแรง ในสมองสับสนเหลือเกิน
คุณหมอธารเมฆา หรือหมอเมฆ ทันตแพทย์ที่ทำให้หัวใจของเธอสั่นคลอน มาทำอะไรที่นี่ เวลานี้
แน่นอนว่าเวลาที่ทำฟันคุณหมอจะสวมหน้ากากอนามัยไว้ตลอด แต่เธอรู้ชื่อนามสกุลของเขาจากหน้าห้องนี่นา มีหรือที่จะไม่อยากรู้ข้อมูลของคนที่ตัวเองแอบชอบ เธอจึงนำไปทำการสืบค้นในโซเชียลและเห็นหน้าค่าตา รู้ไปถึงประวัติของคุณหมอ ด้วยซ้ำ
เขาหล่อเหลาและยังโสด เขาเกิดมาในตระกูลที่ดี ร่ำรวย แถมยังมีพี่ชายเป็นคุณหมอเหมือนกันแต่คนละสาขาชื่อคุณหมอดุจตะวัน
แน่นอนว่าหมอเมฆก็เป็นผู้ชายและโสดทั้งแท่ง ไม่แปลกที่เขาจะไปเที่ยวหาความสำราญตามประสาหนุ่มโสด แต่ภาพที่นาราวาดไว้คือเขาเป็นทันตแพทย์หนุ่มรูปหล่ออบอุ่น ไม่เคยคิดว่าจะมาพบเจอเขาในสถานที่อโคจรยามค่ำคืนและมีผู้หญิงนมทะลักสองคนนั่งเอานมเบียดแขนแข็งแกร่งซ้ายขวาแบบนี้ !
ขอบตาเธอร้อนผ่าว เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน
ผิดหวัง เสียใจ หึง หวง เพราะเห็นเขาคลอเคลียอยู่กับผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ ?
เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะรู้สึกเช่นนั้นล่ะนารา เธอก็แค่แอบคลั่งไคล้เขาเป็นวรรคเป็นเวรอยู่ฝ่ายเดียว แต่สำหรับเขาแล้ว เธอก็แค่ลูกค้า แค่คนไข้คนหนึ่ง เขาอาจจะจำเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ
พอ สงบสติอารมณ์ พอแล้ว !
นาราบอกตัวเอง
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก้มลงจะยกถาดที่ตนเองเก็บทั้งภาชนะและข้าวของจากในห้องนั้นออกมาลวก ๆ อย่างเร่งรีบ หากสายตาไปปะทะกับบางสิ่งที่ดูผิดแปลกและไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับอาหารที่เธอยกเข้าไปเสิร์ฟก่อนหน้านั้น
สิ่ง ๆ นั้นคือกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ ที่ไม่มีภาษาไทยบนกล่อง มีเพียงภาษาอังกฤษตัวเล็ก ๆ เขียนไว้ว่า
‘ Sassy super max 60 mm condoms ’
เธอไม่เคยเห็นมันมาก่อน ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็ไม่ได้โง่เสียจนแปลไม่ออกว่าคำว่า Condoms แปลว่า ‘ ถุงยางอนามัย ’
“ ว้าย ! ”
เธอตกใจแล้วปล่อยเจ้ากล่องนั้นให้หลุดมือตกลงบนพื้น
“ อะไรของแก ยัยนา โวยวายอะไร !? ”
พี่เพลินที่เดินออกมาจากห้องนั้นพอดีและได้ยินเสียงโวยวายของเธอจึงรีบเข้ามาดู ก่อนสายตาจะตวัดไปที่พื้นเห็นสิ่งที่นาราทำหล่น จึงก้มลงจะหยิบมันขึ้นมาดู แต่นาราร้องเรียกเอาไว้
“ พี่เพลิน อย่าไปจับ ! ”
“ ทำไมวะ ”
“ มันเป็น อี๋ ! ” เธอว่าพลางทำสีหน้าขยะแขยง
“ มันเป็นอะไร ”
“ ถุงยางพี่เพลิน ถุงยางอนามัย ! ”
คำตอบนั้นทำให้พี่เพลินหัวเราะลั่นออกมา
“ กะอีแค่ถุงยางอนามัย ทำไมแกต้องทำหน้าทำตาตกอกตกใจอย่างกับเห็นเอเลี่ยน ใคร ๆ เขาก็ใช้กันป่ะว่ะ ใช้ถุงยางน่ะสิดี ปลอดภัยไร้กังวล แล้วไปเอามาจากไหนเนี่ย ” พี่เพลินว่าพลางก้มหยิบมันขึ้นมาไว้ในมือ
“ ตอนกำลังชุลมุนที่หนูทำถาดหล่น หนูลนลานก็เลยหยิบอะไรมั่ว ๆ ใส่ถาดแล้วรีบออกมา นี่คงจะเป็นของลูกค้าค่ะ ”
“ ว้าว ! ” พี่เพลินร้องออกมาอย่าประหลาดใจพลางทำตาโต
“ ลูกค้าคนนี้แม่งไม่ธรรมดาว่ะเฮ้ย เห็นถุงยางแล้วอยากเห็นหน้า ”
“ ทำไมคะ ”
“ ก็นี่มันถุงยางชนิดยาวใหญ่ไซส์พิเศษแถมบางแจ๋ว ในไทยไม่มีขายน่ะเซ้ บ้านเราจะมีไซส์ใหญ่ก็ 56mm แต่นี่มัน 60 เลยนะเว้ย จุก ๆ ” พี่เพลินพูดพลางหัวเราะคิกคัก ในขณะที่นาราหน้าแดงก่ำ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดขึ้น
“ ต้องเอาไปคืน ”
“ อะไรนะคะ ” นาราถามพลางทำตาโตอย่างตกใจ
“ แกต้องเอาไปคืนเขา ”
“ ทำไมล่ะคะพี่ ให้เขาไปซื้อใหม่สิ ”
“ ฉันไม่ได้พึ่งบอกแกหรือไงว่ามันเป็นถุงยางไซส์พิเศษที่ไทยไม่มีขาย คำว่าไม่มีขายคือไม่สามารถหาได้ตามมินิมาร์ททั่วไป จะต้องสั่งมาเป็นพิเศษ แล้วถ้าแกเอาของเขามาแบบนี้ คืนนี้เขาจะเอาที่ไหนใช้เล่า ยัยบื้อ ! ” พี่เพลินแกล้งดุเด็กน้อยใบหน้าหวานตรงหน้าที่กำลังมีสีหน้าเจื่อนซีด
“ หนู... หนูไม่อยากเข้าไปในนั้นอีก ”
พี่เพลินยืนจ้องเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยกมือไปตบไหล่ของเธอเบา ๆ
“ เอาน่า ไม่ต้องตกอกตกใจไปหรอก ใครบ้างไม่เคยมีเรื่องผิดพลาด เราก็เอาเรื่องพวกนี้มาเป็นประสบการณ์เพื่อจะได้ระมัดระวังมากขึ้น ส่วนถุงยางเนี่ยเดี๋ยวพี่เอาไปคืนเอง น่าจะเป็นของคุณหมอเมฆ เพราะเป็นผู้ชายคนเดียวที่ลุกขึ้นยืน อาจจะร่วงหล่นจากกระเป๋าอะไรทำนองนั้น ”
คำว่าคุณหมอเมฆ เล่นเอาหัวใจของนารากระตุกวาบขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง แต่เธอก็รีบเรียกสติให้กลับมา รีบยกมือขึ้นกระพุ่มไหว้พี่เพลินทันที
“ ขอบคุณพี่มากที่ใจดีกับหนู และขอโทษมากจริง ๆ นะคะพี่เพลิน ต่อไปหนูสัญญาจะระมัดระวังให้มากขึ้น ”
“ จ้า แล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรเลยนะ แขกไม่ได้โกรธ พวกเขาเข้าใจดี แถมคุณหมอเมฆยังฝากทิปมาเป็นกำลังใจให้พนักงานเสิร์ฟคนใหม่ตั้งหนึ่งพันแน่ะ ” พี่เพลินหยิบธนบัตรสีเทาในกระเป๋ามายัดใส่มือให้นาราที่อ้าปากหวออย่างงง ๆ
“ พี่จะเอาของไปคืนแขก เธอเอาของไปเก็บแล้วกลับบ้านไปก่อนเลย วันนี้คงจะใจคอไม่ดีแล้ว ”
“ มันจะดีเหรอพี่ ”
“ เออ ไปเหอะ คุณรันเจ้าของที่นี่เป็นคนอนุญาต คุณเขาบอกกับพี่เอง เมื่อกี้คุณก็อยู่ในห้องนั้นด้วย ”
“ ถ้าอย่างนั้นหนูก็ฝากขอบพระคุณคุณรันด้วยนะคะ งั้นหนูลาพี่เพลินตรงนี้เลยนะ ”
“ อืม กลับดี ๆ ล่ะ มีจ้างวินให้มารับอยู่แล้วใช่ไหม ”
“ ใช่ค่ะ ”
“ ไว้ใจได้นะ ”
“ ได้ค่ะพี่ โตมาด้วยกัน ”
“ โอเค โชคดี พรุ่งนี้เจอกันนะ ”
“ ค่ะพี่เพลิน ”
หญิงสาวทั้งคู่ร่ำลากัน จากนั้นนาราก็โทรหาให้พี่อุเทน มารับไปส่งที่บ้านก่อนเวลา
“ เป็นไงบ้างวันแรก ” พี่อุเทนถามทันทีที่เจอหน้ากัน
“ ดีมากเลยพี่ ได้ทิปมาตั้งสองพันกว่าบาทแน่ะ ”
“ เออ พี่ดีใจด้วย เห็นหน้าเจื่อน ๆ ก็นึกว่าเป็นอะไร ”
“ เปล่าพี่ ”
นาราตอบก่อนจะขึ้นนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ของอุเทน เพื่อกลับบ้าน
เธอจัดการกับตัวเอง อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้วไปเอนกายลงบนที่นอน คืนนี้เหนื่อยพอควรแต่ข่มตาลงอย่างไรก็ไม่หลับ
ในหัวของเธอมันมีแต่ภาพของคุณหมอเมฆ ภาพที่เขามีหญิงสาวสองคนขนาบข้าง เอนพิงอกอุ่นที่เธอใฝ่ฝันหามาเสมอมันบาดใจเหลือเกิน น้ำอุ่น ๆ มันไหลออกจากตาโดยไม่รู้ตัว
เธอหลับไปทั้งน้ำตาแบบนั้น อาการเหมือนคนอกหัก ทั้งที่เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันแม้แต่นิด