ตอนที่4 เหลือไปถอนทุนคืน
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...
พรลภัสควรจะใช้ชีวิตตามปกติแต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น คนที่เอาเงินให้เธอสามแสนหายวับไปราวกับไม่เคยตกลงอะไรกันไว้ เขาอาจจะตามหาเธออยู่ หรือไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเธออยู่ที่ไหน...คนที่รู้สึกติดค้างอย่างเธอกลับไม่ได้สบายใจ แต่ก็ไม่ได้พร้อมเจอในเวลาเดียวกัน
“อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย”
“ก็ณัฐบอกว่าแผลมันหายแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับพี่สาวท่าทางเหมือนรำคาญ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เขาแค่ไม่อยากให้พี่สาวเป็นห่วงเกินเหตุ
“ณัฐพูดแล้วว่าอยู่ได้ส่วนเราต้องไปทำงานนะคะไม่งั้นอดตายค่ะคุณน้องภัส” นาราที่ยืนกอดอกรอข้างแท็กซี่เร่งเพื่อนอีกแรงเพราะดูเหมือนพรลภัสจะยังอิดออดอีกสักพัก งานที่พวกเธอทำหายหน้าไปนานไม่ได้เพราะมีคนแทนที่แล้วกลับมายาก สุดท้ายนาราทนไม่ไหวต้องไปดึงข้อมือเพื่อนให้มาขึ้นรถเสียที
ปึง!
“ณัฐมีแฟนมั้ยอะภัส”
“หยุดจ้ะ น้องเรา ๆ หวง”
“หวงอะไรแค่จะขอชิมเอง”
“มีให้ชิมเป็นกองน่ะชิมหมดหรือยัง” พรลภัสตอกกลับให้เพื่อนสนิทก่อนจะพากันงีบเอาแรงบนรถเพราะครั้งนี้งานจัดอยู่ที่อีกจังหวัดหนึ่ง
.....
สนามแข่งรถขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยคนอัดแน่นจนแทบไม่มีที่นั่งว่าง เหล่าพริตตี้สาวสวยที่ถูกจ้างมานับร้อยคนร่วมพูดคุยกับทีมงานอย่างพร้อมเพรียงถึงหน้าที่ของพวกเธอ พรลภัสกับนาราไม่ใช่ตัวเด่นที่ต้องลงในสนาม งานแค่เดินให้บรรดาหนุ่ม ๆ ร่วมถ่ายรูป และเป็นอาหารตาให้ผู้เข้าชมเท่านั้น
“เธอสวยกว่านนนี่อีกนะ น่าจะได้ลงไปถือป้ายค่าตัวแพงด้วย”
“เงียบไปเถอะน่า เดี๋ยวก็โดนยำหรอก” หญิงสาวกระซิบพูดกับเพื่อนระหว่างที่แต่งหน้าทำผมกันอยู่สองคน นาราชอบยุให้เธอตะเกียกตะกายอัปตัวเองขึ้นอีกหน่อยเพราะเห็นว่ามันไปได้อยู่แล้ว...แต่เธอเหนื่อยถ้าต้องมีปัญหากับตัวท็อป ‘ไม่ดังก็ดับเลย’
.....
ชนะวินทร์สวมแว่นกันแดดแบรนดังนั่งกอดอกมองลงไปในสนามที่รถกับกำลังแย่งกันเข้าเส้นชัย ชายหนุ่มถูกพิธานเพื่อนตัวดีลากมาด้วยทั้งที่บอกว่างานยุ่งมากแต่ก็ลากเขามาจนสำเร็จ
เฮ้!!!
“ไอ้น็อตชนะว่ะ ฮ่า ๆ ไอ้วินทร์คนของเราชนะโว๊ย” ชนะวินทร์ยังคงหน้านิ่งออกจะรำคาญด้วยซ้ำที่เพื่อนเอาแต่แหกปากใกล้ ๆ หู
“มึงไม่ดีใจเลยเหรอวะ”
“คนของมึงลงแข่งหมดหรือยังกูจะกลับกรุงเทพฯ”
“ไอ้หมอเพื่อนมึงหงุดหงิดอะไรวะ” พิธานหันไปถามนพดลที่นั่งข้างกันอย่างงุนงง แต่หมอนพดลไม่ได้งง
“มันไม่มีอารมณ์มาดูมึงก็ยังจะเอามันมา”
“แล้วต้องทำไงมึงถึงจะมีอารมณ์” ชายหนุ่มปรายตามองพิธานอย่างรำคาญแม้จะสวมแว่นปิดบังสายตาแต่ก็มองออกจากเรียวคิ้วที่ชนกันแน่น และเมื่อพิธานทำท่าก้มมองเขาก็เบี่ยงหน้าหลบอย่างหงุดหงิด
กึก
หญิงสาวชุดเปิดโชว์ผิวขาว ๆ และขายาว ๆ ของเธอดึงสายตาของเขาไว้ได้อยู่หมัด เส้นผมยาวสยายถึงสะโพกปล่อยเล่นลมเบา ๆ กับการแต่งหน้าที่ค่อนข้างจัดเต็มทำให้เขาไม่แปลกใจที่พวกนักแข่งพากันไปรุมถ่ายรูปกับเธอ
“นี่นามบัตรพี่ น้องภัสติดต่อมานะ” ชายหนุ่มตรงหน้าก็เป็นหนึ่งในผู้แข่งขันมองเธออย่างสื่อความหมาย พรลภัสเป็นที่พูดถึงในวงสนทนาของพวกเขาระดับหนึ่ง ว่าเธอคือผู้หญิงที่น่านอนด้วย และน่าเลี้ยงไว้ดูเล่นที่สุด
“น้องภัสติดต่อไปวันหลังนะคะถ้าไม่ทำนามบัตรคุณหายซะก่อน”
“อย่าทำหายสิครับ”
“เตรียมตัวได้แล้ว!”
“พี่ไปก่อนอย่าลืมติดต่อมานะ” ก่อนจะไปยังจับไหล่ทั้งสองของเธอแล้วบีบอย่างมันเขี้ยวส่งท้ายแล้วแยกไปในสนามอย่างเสียดาย
ปึก
“ขอโทษค่ะคุณน้องภัสไม่ได้ตั้งใจ” เมื่อเงยหน้าขึ้นพรลภัสก็ชะงัก คนที่เธอชนสวมแว่นสีดำเลื่อมปิดบังดวงตา แต่ว่าคุ้นหน้าเขาอยู่ไม่น้อย...เสียงก็คุ้น
“ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่นะ”
“คุณ…”
“วินทร์” หญิงสาวรู้สึกแปลก ๆ ที่ได้เจอกันในสภาพที่เธอเป็นพริตตี้ ตั้งแต่วันที่ตกลงกันก็ไม่ได้เจอเขาอีก ‘จนนึกว่าเขาคงไม่ต้องการเธอแล้ว’
“คะ..คุณวินทร์มาเที่ยวไกลนะคะ”
“เพื่อนฉันเป็นเจ้าของงาน” พรลภัสรู้สึกประหม่าจนหายใจไม่ทั่วท้อง ขนาดไม่รู้ว่าภายใต้แว่นตาอันหรูนั้นเขากำลังพิจารณาเนื้อตัวของเธออยู่
“น้องภัส ขอถ่ายรูปด้วยหน่อย” หญิงสาวถูกดึงไปทางอื่นต่อหน้าต่อตาด้วยฝีมือชายคนหนึ่งซึ่งเขาก็ปล่อยให้เธอไปแต่ยังมองตามไปจนหายจากสายตา
“มึงคงไม่หงุดหงิดแล้วใช่ป้ะ”
“...” ชนะวินทร์ถอนหายใจแรง ๆ เมื่อเพื่อนหน้ามึนตามมาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ตัว หันไปมองนพดลเพื่อนคนนั้นก็แอบยิ้มมุมปากเพราะมันรู้ดีว่าเขาดีลพรลภัสไว้เหลือแค่ไปถอนทุนคืนจากเธอ