บทที่ 9 รีสอร์ทริมโขง 1

979 คำ
รีสอร์ทนั้นอยู่ห่างจากตัวอำเภอเชียงแสนไปไม่ไกลมาก ตั้งอยู่บนเนินเขาติดกับถนนใหญ่ ด้านหลังเป็นภูเขาสูงตระหง่านเต็มไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม ด้านหน้าอีกฟากถนนติดริมแม่น้ำโขงอันทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา เมื่อมณีธาราและจันทรามาถึงรีสอร์ทก็เข้าไปนั่งรอพบเจ้าของ รีสอร์ทในห้องรับรอง โดยเลขาฯ ชื่อว่า ภัสสร หรือ ‘สร’ เสิร์ฟน้ำดื่มให้พร้อมกับบอกให้ทั้งสองคนรอเจ้านายของเธอสักครู่ สายตาของมณีธาราสังเกตรอบ ๆ รีสอร์ทตั้งแต่รถเข้ามาแล้ว สภาพของรีสอร์ทในตอนนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างที่ยังไม่แล้วเสร็จ บ้านพักแต่ละหลังถูกสร้างขึ้นเป็นหลังเล็ก ๆ ด้วยปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์ตามแนวเชิงเขา มีต้นไม้หลายชนิดขึ้นประปราย เท่าที่มณีธาราสังเกตดูที่นี่ก็ทำเสร็จไปกว่า 50% แล้ว เธอไม่เข้าใจว่า ทำไมสถาปนิกคนเก่าถึงไม่คุมงานให้แล้วเสร็จ ทำไมจะต้องจ้างบริษัทของเธอมาออกแบบทำส่วนที่เหลือต่อจากบริษัทอื่นด้วย? ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะสังเกตอะไรมากไปกว่านี้ เสียงเดินย่ำฝีเท้าหนัก ๆ ก็เข้ามา เธอจำต้องรีบกลับไปนั่งที่ให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมพบกับเจ้าของรีสอร์ท ไม่นานนักชายวัยกลางคนและเลขาสาวก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน “สวัสดีค่ะ” มณีธาราและจันทรายกมือไหว้ “สวัสดีครับ ผมดนัยครับ แล้วคุณชื่อ?” “ดิฉันมณีธารา เรียก ‘น้ำ’ ก็ได้ค่ะเป็นสถาปนิกในงานนี้ค่ะ นี่จันทราเป็นผู้ช่วยของดิฉันเองค่ะ” “เชิญนั่งตามสบายเลยนะครับ” ดนัยเป็นเจ้าของรีสอร์ทนี้ในวัยห้าสิบปี รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาวในแบบคนเมืองเหนือ ผู้คนส่วนใหญ่มักเรียกว่าเขาว่า ‘พ่อเลี้ยง’ และดนัยนั้นดูเป็นคนมีอัธยาศัยดี มีรอยยิ้มกว้างเป็นมิตรอยู่เสมอ “ผมดีใจมากเลยที่คุณทั้งสองรีบมาทำงานให้ พอดีผมอยากจะรีบเปิดรีสอร์ทนี้ให้ทันช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ นี่ก็กลางเดือนตุลาคมแล้ว ผมอยากให้ออกแบบตกแต่งภายในและสวนให้แล้วเสร็จกลางเดือนพฤศจิกายน หลังจากนั้นจะได้ตกแต่งตามแบบให้เสร็จทันช่วงเทศกาลปีใหม่ ว่าแต่จะเสร็จทันไหมครับ?” ดนัยอดที่จะกังวลไม่ได้ “น้ำจะพยายามนะคะ เท่าที่น้ำสังเกตดู รีสอร์ทนี้ก็ทำเสร็จไปแล้ว 50%...” ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบเขาก็สวนขึ้นมาทันที “ผมไม่ปิดบังนะครับ ที่จริงแล้วบริษัทของคุณเป็นบริษัทที่ 7 ที่ได้มาทำงานรีสอร์ทแห่งนี้ แล้วถ้าครั้งนี้คุณยังทำไม่สำเร็จอีกผมคงจะต้องยอมแพ้ถอดใจต้องยอมขายรีสอร์ทนี้ทิ้งครับ” “อ้าว!” “ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นหรือคะ?” คำพูดของดนัยนั้นก่อให้เกิดคำถามในใจขึ้นมากมาย “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ พอดีผมไม่ค่อยได้อยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่ผมจะดูแลโรงแรมที่เชียงใหม่เป็นหลัก ผมซื้อที่ดินและเริ่มสร้างที่นี่เมื่อ 2 ปีที่แล้วเพราะเห็นว่าตอนนั้นเศรษฐกิจบริเวณสามเหลี่ยมทองคำกำลังเจริญขึ้น นักท่องเที่ยวกำลังหลั่งไหลเข้ามาทั้งไทย จีน พม่า ลาว ผมเลยเลือกทำรีสอร์ทเพื่อรองรับการท่องเที่ยวแถบนี้ แล้วเชื่อไหมครับคุณ 2 ปีแล้วนะ ที่รีสอร์ทนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จสักที บริษัทที่มาแต่ละครั้ง ทำงานไม่นานก็มีอันต้องยกเลิกสัญญา จนรีสอร์ทมีสภาพเสร็จแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่างที่คุณเห็นนี่แหละ ผมหมดเงินกับที่นี่ไปมาก กลับสร้างไม่เสร็จสักที ถ้าครั้งนี้คุณสองคนยังทำไม่ได้อีกรอบนี้ผมคงต้องทุบทิ้งหรือไม่ก็ขายรีสอร์ทนี้จริง ๆ” ดนัยมีท่าทางท้อแท้ พร้อมกับฝากความหวังสุดท้ายไว้ที่มณีธารา หากคำพูดเป็นนัยของอีกฝ่ายนั้นกลับทำให้หญิงสาวยิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีก แล้วทำไมแต่ละบริษัทที่ว่าถึงทำงานที่นี่ได้ไม่นาน จะว่างานยากไป ก็ไม่น่าจะยากขนาดนั้น เพราะที่ผ่านมาเธอเคยเจองานที่ยากกว่านี้ด้วยซ้ำ แล้วมันเพราะอะไรกันเล่า? หญิงสาวได้แต่คิดแต่ไม่กล้าซักถามอะไรมากไปกว่าที่เจ้าของอยากให้รู้ “ระหว่างที่คุณอยู่ที่นี่ ผมจะให้คุณสรคอยช่วยดูแล คุณสรเป็นคนพื้นที่แถวนี้ ถ้ามีอะไรก็สอบถามได้เลย ส่วนผมจะไป ๆ มา ๆ ระหว่างเชียงใหม่และที่นี่” ภัสสรส่งยิ้มให้หญิงสาวทั้งสองอย่างยินดี “ได้ค่ะ” หลังจากพูดคุยรายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ดนัยและภัสสรพาทั้งคู่ไปเดินสำรวจดูตามห้องพักต่าง ๆ ภายในรีสอร์ทที่มีบ้านพักกว่า 20 หลัง พื้นที่ในรีสอร์ทถูกแบ่งสัดส่วนชัดเจน หลังใหญ่สำหรับมาพักเป็นครอบครัวหรือหมู่คณะ ส่วนหลังเล็กสำหรับพักแบบ 1 หรือ 2 คน มณีธาราเสนอไอเดียออกแบบโดยการนำวัสดุจากท้องถิ่นทางเหนือมาผสมเพื่อให้ออกมาได้กลิ่นอายของความเป็นเมืองเหนือผสมกับไม้เพื่อให้อารมณ์ออกมานุ่มนวลให้ความรู้สึกสบายตา ส่วนบรรยากาศรีสอร์ทเธอจะแบ่งบริเวณหนึ่งทำเป็นสวนดอกไม้แบบอังกฤษผสมกับวัสดุท้องถิ่นซึ่งดนัยชอบไอเดียของเธอมาก การสำรวจรายละเอียดงานในพื้นที่รีสอร์ทนั้นกินเวลานานกว่าที่คิด ทำให้ดนัยรีบขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระสำคัญต้องรีบกลับเชียงใหม่ โดยเขามอบให้ภัสสรเป็นผู้ดูแลต่อ จนกว่ามณีธาราจะสำรวจรายละเอียดต่าง ๆ แล้วเสร็จ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม