7
“ถ้าพี่ปล่อย ต้นหลิวสัญญาได้ไหมละว่าจะไม่ทำร้ายพี่อีก” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเข้ม เมื่อได้ใกล้ชิดกับคนที่มีใจให้ ความหวั่นไหวก็เกิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน แก้มใสแต้มสีเลือดฝาดทำให้เขาอยากสัมผัสกลิ่น ริมฝีปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อที่ขบเม้มอยู่ทำให้อยากจะลิ้มลองรส
“ไม่สัญญา…ไม่สัญญาอะไรทั้งนั้น ต้นหลิวอยู่เฉยๆ แต่พี่คมน์กลับร่วมมือกับคุณย่ามาทำร้ายจิตใจนะ ถ้าพี่คมน์ไม่ยอมรับปากว่าจะยกเลิกงานแต่งงานในครั้งนี้ ต้นหลิวจะหนีไปให้ไกลๆ ”
เธอพูดแบบไม่คิด ด้วยเพลิงโทสะพาไป ที่ตอนนี้ได้แต่เสียใจ และเริ่มจะขลาดกลัวกับสายตาคมดุของคมน์ที่มองมา
“ปะ...เปล่านะคะพี่คมน์ ต้นหลิวไม่ได้หมายความตามที่พูด” หญิงสาวรีบตอบปฏิเสธเสียงอ่อยและหาทางทำให้ชายหนุ่มเชื่อ เพราะกลัวชายหนุ่มจะนำเรื่องไปฟ้องคุณย่า แล้วเมื่อนั้น...เธอจะต้องถูกคุมจนไม่เป็นอิสระแน่ จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องคอยระมัดระวังอยู่ร่ำไป
“ถึงจะไม่ชอบใจยังไง แต่ต้นหลิวก็ไม่คิดทำให้คุณย่าต้องอับอายและเสื่อมเสียทั้งเกียรติยศและศักดิ์ศรีหรอกคะ พี่คมน์เชื่อต้นหลิวนะคะ” หญิงสาวเอ่ยบอกเสียงสั่นด้วยความกลัว
คมน์ไม่ได้ฟังสิ่งที่พรรณธรพูดออกมาเลยสักนิด ในสมองเขาตอนนี้มีแต่ภาพ...กลีบปากอิ่มสีชมพูระเรื่อขยับไปมา ที่เขาอยากรู้ว่า...หวานแค่ไหน
เมื่อหัวใจเรียกร้องและเขาก็ระงับเอาไว้ไม่ไหว คมน์สอดมือเข้าที่เอวเล็ก ดึงร่างบางเข้ามาใกล้อย่างไม่ทันจะรู้ตัว
“อุ้ย!! พี่คมน์ปล่อยต้นหลิวนะ” แม้มือจะถูกมัดอยู่ แต่ก็ยังใช้การได้ดี พรรณธรรีบยันฝ่ามือไปบนแผงอกกว้าง ปลายนิ้วเกี่ยวเข้ากับกระดุมเสื้อเชิ้ตจนได้สัมผัสกับแผงอกล่ำสันเต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ ยิ่งทำให้เธอหวั่นไหว หัวใจเต้นแรง ใบหน้านวลร้อนผ่าวจนเธอคิดว่ามันคงแดงอย่างกับผลตำลึงเบือนหน้าหนีสายตาคมวามวาว เพราะความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในหัวใจอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
“ถ้าพี่ไม่ปล่อยละ” คมน์ถามเสียงเบา นุ่มทุ้มและหวานหู เขาดึงร่างอรชรเข้าหาจนกายบอบบางแทบจะนั่งบนตักกว้าง พลางจับรั้งปลายคางมนให้ใบหน้าผุดผาดหันมา
เขามองลึกไปในดวงตากลมโตวามวาวเหมือนดวงตากวางน้อยราวกับจะสะกดจิตเธอ นิ้วยาวลากไล้ไปบนใบหน้าขาวนวล พวงแก้มสีชมพูระเรื่อนุ่มนิ่มเหมือนกับผิวก้นเด็ก ก่อนจะมาหยุดตรงริมฝีปากอวบอิ่ม
“ต้นหลิวน่ารักมากเลยรู้ไหม อย่าโกรธนะถ้าพี่อดใจไม่ไหว” ชายหนุ่มพูดเสียงนุ่ม โน้มใบหน้าลงไปอย่างเชื่องช้า จนได้สัมผัสกับเรียวปากนุ่ม
“อืม...ต้นหลิว”
ชายหนุ่มร้องครางในลำคอ เมื่อกดน้ำหนักลงไปบนเรียวปากนุ่มแล้วพรรณธรไม่ตอบสนองแต่ก็ไม่ขัดขืน มือใหญ่ขยับเคลื่อนไปกดตรึงท้ายทอยพร้อมเพิ่มน้ำหนักจุมพิตหนักหน่วง ปลายลิ้นสากระคายลากไล้ไปตามเรียวปากนุ่มและค่อยเปิดแย้มเรียวปากบางอย่างช้าๆ
“อือ...ไม่นะ” พรรณธรร้องห้ามแต่ก็เสียงเบาเกินกว่าคมน์จะได้ยิน สัมผัสที่เขามอบให้ก็ทำให้เธอตัวสั่น ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กอบกำเสื้อตัวใหญ่ พลางจิกปลายเท้าลงบนพรมนุ่ม
ตอนแรกเธอยื่นลิ้นออกมาเพื่อดุนดันสิ่งแปลกปลอมออกไป แต่กลับได้สัมผัสกับความหวานฉ่ำนุ่มทำให้เธอสนองตอบไปอย่างไม่ประสา
ลำตัวกลมกลึงเอนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ มือเล็กค่อยขยับเคลื่อนไปตามอกกว้าง ก่อนจะโอบรอบลำคอแกร่ง สอดนิ้วพัวพันกับเส้นผมหนานุ่ม
“ต้นหลิว” เธอตอบสนองเสียจนกายเขาร้อนผ่าว บดเบียดจุมพิตลงไปบนเรียวปากนุ่มอย่างหนักหน่างเร่าร้อน แม้เสื้อที่หญิงสาวใส่จะกระชับรูปร่างเพื่อให้เหมาะสมสำหรับเดินทาง แต่ก็ยังมีช่องว่างให้เขาสอดมือไปสัมผัสกับผิวกายเนียนนุ่ม
มือเขาเคลื่อนไปจนได้พบกับทรวงอกกลมกลึงที่กระเพื่อมไหวตามจังหวะการหายใจ คมน์รีบครอบครองทรวงอกอิ่มและนุ่มหยุ่นที่ถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะอย่างรวดเร็ว
“ไม่นะ!...พี่คมน์ปล่อยต้นหลิวนะ!” เธอควรห้ามเขา แต่เสียงที่ดังกลับแหบพร่าเหมือนจะกระตุ้นให้คมน์สัมผัสกายมากยิ่งขึ้น
จมูกโด่งเป็นสันแนบบนพวงแก้มนุ่มหอม พลางกวาดตามองกายอรชร ริมฝีปากหนาขบเม้มปลายติ่งหูพร้อมส่งเรียวลิ้นหยอกกระเซ้าช่องหูนุ่ม ในขณะที่มือก็ดึงเอาเสื้อตัวเล็กออกจากกายบางโดยความร่วมมือของพรรณธร
ใบหน้าคมซบซุกซอกคอระหง ก่อนเคลื่อนไปจนถึงปทุมถันอวบอิ่มซึ่งไหวกระเพื่อมตามแรงหายใจ คมน์ถึงกับกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ลมหายใจสะดุดเมื่อได้ยลกับความสวยงามราวกับประติมากรรมชั้นเลิศที่สวรรค์ประทานให้กับพรรณธร
แม้จะอยู่ในกรวยสีหวานสวยแต่ก็บางเบาจนปิดบังความสวยงามของบัวตูมเต่งตึงไม่ได้
ทรวงอกขาวนวลผ่องตั้งเด่นเป็นตระห่าน ปลายยอดถันสีชมพูเข้าดุนดันเนื้อผ้าลูกไม้สีฟ้าอ่อน ชวนให้จินตนาการยามลิ้มลอง
คมน์จับเอวคอดกิ่วดันให้ร่างเล็กบางนั่งบนโซฟา ในขณะที่เขาเคลื่อนร่างลงมาคุกเข่าแทรกระหว่างสองขาเรียว ก่อนที่ฝ่ามือจะเคลื่อนไปด้านหลังปลดปล่อยสองทรวงสล้างให้เป็นอิสระ
“สะ...สวย...สวยมากเลยต้นหลิว...” ชายหนุ่มเอ่ยพูดเหมือนกับละเมอ ขณะช้อนทรวงอกสล้างขึ้น ปลายนิ้วหยอกล้อกับผิวเนียนนุ่มขึ้นไปเรื่อยจนได้สัมผัสกับปลายยอดทรวงสีชมพูเข้ม
พรรณธรสะดุ้งเฮือก ขบเม้มริมฝีปากสะกดกลั้นเสียงที่ดังอยู่ในลำคอ ลมหายใจหอบพร่า นิ้วที่ยังหยอกล้อพัวพันกับเส้นผมหนานุ่มจิกลงไปบนลำคอแกร่ง พลางจิกนิ้วเท้าลงไปบนพรมหนานุ่ม ในท้องน้อยปั่นป่วนเพราะลูกไฟที่วิ่งวนไหลพล่านไปตามกระแสเลือด
“เอ่อ...พี่คมน์” เธอไม่ได้มานี่เพื่อให้เขารังแก แต่...พรรณธรกลับมองเฉย เธอไม่เข้าใจเหมือนกัน กับตฤณเคยขอจูบบ้าง เธอยังให้แค่หอมแก้ม แต่กับคมน์ เธอกลับยินยอมโดยไม่ขัดขืน และยังจะเรียกร้องให้เขาเร่งรีบมอบอะไรบางอย่างให้เสียด้วย
คมน์เงยหน้ามองพรรณธร ในดวงตากลมโตเป็นประกายหวานและซุกซ่อนความสงสัย หวั่นไหวและประหลาดใจเอาไว้ไม่มิด
“ขอพี่ชิมผลไม้ของต้นหลิวหน่อยนะคนดี” คมน์ขอเสียงหวานนุ่มแต่หนักแน่น ปลายนิ้วยาวไล้วนรอบๆ ป้านบัว ก่อนจะโน้มใบหน้าคมไปจนริมฝีปากอุ่นแนบปลายยอดทรวงสีชมพูเข้มทั้งที่ยังมองพรรณธร
“พะ...พี่คมน์!” พรรณธรเรียกเสียงเบา กายบอบบางแอ่นโค้งจนปทุมถันข้างที่ถูกดูดกลืนจมหายไปในอุ้งปากหนา นิ้วเรียวจิกทึ้งเส้นผมหนานุ่ม เธอตัวปล่อยใจไปกับไฟร้อนผ่าวที่สร้างความปั่นป่วนและสยิวซ่านที่ลามเลียจากกึ่งกลางเรือนกายแผ่ซ่านไปทั่วทั้งกายา
“ครับต้นหลิว” แม้จะยาก แต่เขารู้ว่าควรหยุด หากตอนนี้...
เขาหยอกเย้าทับทิมผลหวานนุ่ม เรียวลิ้นสากระคายตวัดไล้รอบป้านบัวรัวเร็วสลับเชื่องช้า ขณะปล่อยให้อีกข้างตกอยู่ในอุ้งมือใหญ่ที่เฝ้าฟอนเฟ้นจากเนินทรวงไปจนถึงปลายยอดสีเข้มหดเกร็ง
คมน์หลงใหลอยู่ในความหอมหวาน จนเกือบจะลืมตัว ปล่อยให้ความปรารถนาเป็นฝ่ายชนะ แต่สุดท้ายแม้จะต้องปวดร้าว เขาก็ต้องระงับความต้องการเอาไว้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลาของเขา
ชายหนุ่มเคลื่อนจุมพิตกลับไปซุกไซ้ซอกคอระหง พลางควานหาบราสีหวานมาสวมใส่ให้โดยพรรณธรแทบจะไม่รู้ตัว เขาจูบปากอิ่ม กดคลึงซอกซอนปลายลิ้นสากระคายไปในโพรงปากนุ่มหวาน ก่อนจะขยับกายออกห่าง พลางหยิบเสื้อตัวเล็กส่งคืนให้ผู้เป็นเจ้าของ
“บ้าที่สุด!”
พรรณธรรับเสื้อมาใส่มือไม้สั่นเพราะอาย เธอก้มลงมองพื้นห้อง ดวงตาร้อนผ่าวฉ่ำชื้นไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มอย่างรวดเร็ว ขบฟันลงบนกลีบปากด้วยละอายใจที่อยู่ดีไม่ว่าดีก็ดิ้นรนมาให้เขาเห็นเป็นของเล่น คมน์คงจะดูถูกเหยียดหยามเธอเป็นแน่แท้ มาอ้อนวอนขอร้องแกมบังคับให้เขายกเลิกงานแต่งงาน แต่พอเข้าใกล้กัน กลับเป็นเหมือนน้ำมันใกล้ไฟจนเผลอปล่อยตัวปล่อยไปกับความต้องการที่ร้อนเร่าอย่างไม่อาย