“ตื่นเต้นมากไปแล้วเธอ ...ไม่เคยเจอโลกภายนอกหรือไง” เหยี่ยวผลักหัวนับไปทีนึงเพราะตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามหาลัยนี่มา ยัยเด็กนับมัวแต่ชี้นู่นนี่อย่างกับไม่เคยเห็น
“...” อยู่ๆนับก็หยุดเดินทำให้เหยี่ยวที่เดินตามมาชะงักไปด้วย แถมเธอยังยืนก้มหน้าอีกต่างหาก
...พูดอะไรผิดไปเหรอวะ?
“โกรธเหรอ โทษทีไม่ได้ตั้งใจ” น้ำเสียงแบบสำนึกผิดของเหยี่ยวทำให้ร่างบางที่ยืนก้มหน้าอมยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ จริงๆเธอไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอกแค่อยากแกล้งบ้างเท่านั้นเอง
...ชอบมาว่าเธอว่าเป็นเด็กกะโปโลไม่รู้จักโต
“...”
“อย่าเงียบดิ ...เดี๋ยวเลี้ยงหนม”
“เสียงหงอยเชียวเจ้านกน้อยย ฮ่าๆๆ ...หูยดูน่าสำนึกผิดนั่นดิ ว๊ายๆๆ อย่าตีหนู ฮ่าๆ” เหยี่ยวแทบอยากจะเตะปากนับถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงนะพ่อจะเตะให้ขาหักเลย
แล้วมาเกาคางเขาทำห่าอะไรวะคนแม่งมองเยอะแยะ
“ทะลึ่งหน้าละ ...เพื่อนเล่นเหรอไง”
“ไม่ได้อยากให้เป็นเพื่อน ...อยากให้เป็นแฟน” นับยืนอมยิ้มอยู่ข้างหน้าเหยี่ยวและไม่ยอมหลบตาเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเธอพูดจริงและเธอจริงจังมากด้วย!!!
“เพ้อเจ้อ ...อายุแค่นี้คิดเรื่องเรียนไปก่อนเหอะ” เหยี่ยวหัวเราะพรืดก่อนจะเอามือขยี้หัวเธอแล้วเดินนำไปทางตึกเรียน
พรึ่บ
“อะไรของเธอวะ ...เดี๋ยวเตะให้ล้มเลย” นับวิ่งมาดักหน้าเหยี่ยวก่อนจะเอาตัวดันไม่ให้ร่างสูงเดินเข้าไปข้างใน
“ฉันจริงจัง! ไม่สิ ...นับจริงจังมากด้วย ยังไงนับก็จะเอาเฮียมาเป็นแฟนให้ได้คอยดู” เหยี่ยวยิ้มมุมปากก่อนจะก้มหน้าลงมาจ้องตาคนตรงหน้า
“ฝัน ไป เถอะ ...บอกแล้วไงว่าฉันรักเดียวใจเดียว”
“ดีดหน้าผากหนูทำไมมันเจ็บนะ” คนตัวเล็กลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆก่อนจะวิ่งตามร่างสูงที่เดินนำลิ่วไปในคณะเรียบร้อยแล้ว
“หูย หล่อว่ะ ...เขามาสมัครเรียนเหรอ”
“แกงานดีเว่อร์อ่ะ ...นั่นใครน่ะ น้องสาวหรือแฟน”
เพราะแบบนี้แหละถึงไม่ค่อยอยากจะมาที่นี่เท่าไหร่ ผู้หญิงเยอะอย่างกับน้ำทะเลแต่ละคนฉีดน้ำหอมจนเหมือนกับตู้น้ำหอมเคลื่อนที่
...เวียนหัวจะตายห่า
“ไปไหนอ่ะ นั่งอยู่ตรงนี้นี่แหละเดี๋ยวสาวๆพวกนี้จะมาอ่อยเฮีย” ว่าแล้วก็เอามือเขาไปจับไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เหยี่ยวเองก็ไม่ได้จะขัดขืนหรือดึงมือออกเขายอมให้นับนั่งจับมือเอาไว้แบบนั้น
“สวัสดีครับคุณเหยี่ยว ...ไม่เจอกันนานสบายดีนะครับแล้วน้องคนนี้คือ” นับมองผู้ชายรุ่นพ่อที่ยกมือไหว้เหยี่ยวอย่างนอบน้อมก่อนจะส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรมาให้เธอ
“ยัยนี่คือ... แฟนค่ะ ตอนนี้ยังแต่อนาคตใช่ค่ะ” ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดเธอก็ฉวยโอกาสพูดเสียงดังข่มทุกคนที่อยู่แถวนั้นจนสาวๆพากันหน้าจ๋อยเพราะสุดหล่อที่พวกเธอหมายปองมีเจ้าของแล้ว
“แฟนเหรอครับ ...เอ ผมไม่เคยรู้เลยว่าคุณเหยี่ยวจะมีแฟนที่น่ารักแบบนี้”
“ไม่ใช่แฟนครับ ...นี่เด็กเก็บได้จากข้างทาง” เหยี่ยวพูดแล้วผลักหัวเธอไปทีเพราะทำตัวจุ้นจ้านจนเขาต้องด่างพร้อย
“เดี๋ยวก็ได้เป็น แบร่”
“เดี๋ยวจะตัดลิ้นทิ้ง”
“กลัวที่ไหนเล่า แบร่ๆ” ชายสูงวัยมองเด็กรุ่นลูกแกล้งกันไปมาอย่างเอ็นดู ถึงแม้เขาเองจะพอรู้มาบ้างว่าเจ้าของหัวใจตัวจริงของเหยี่ยวเป็นใครแต่เรื่องแบบนี้เงียบไว้น่าจะดีกว่า
...อย่างน้อยเขาก็จะได้เห็นเหยี่ยวในมุมผ่อนคลายแบบนี้บ้าง
“ฉันมาส่งแค่วันนี้นะ ...วันอื่นให้คนขับรถมาส่ง” หลังจากจัดการเอกสารทุกอย่างเสร็จเหยี่ยวเองก็คงต้องกลับไปช่วยงานของสิงห์เพราะตัวเองขาดงานหลายวันแถมวันนี้ก็มาทำธุระให้นับเกือบทั้งวันอีก
“แต่พี่รักบอกว่าให้เฮียมาส่ง”
“นี่ ฉันไม่รู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่และฉันว่าฉันก็พูดไปชัดเจนอยู่แล้วว่าไม่นอกใจแฟนเด็ดขาด ...แต่ถ้ายังจะรั้นก็แล้วแต่” เหยี่ยวพูดอย่างรำคาญเขาคิดว่ายัยเด็กนี่จะล้อเล่นเหมือนเมื่อเช้าแต่เปล่าเลย
แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่าจริงจัง
“หนูว่าหนูก็พูดชัดเจนมากกกก ...ว่านับอยากได้เฮียเป็นแฟน หนูน่ารักนะ นิสัยดี ทำกับข้าวเป็น แล้วก็อืมม ไม่เคยมีแฟนด้วย ...เฮียจะได้รับเกียรติเป็นแฟนคนแรกของนับเลยนะ”
“ขอบใจแต่ไม่ต้องการ”
“อีกหน่อยก็เปลี่ยนใจ ...ระวังถึงตอนนั้นแล้วนับไปรักคนอื่นแล้วไม่รู้ด้วยนะ” เหยี่ยวส่ายหน้าเมื่อเห็นความเป็นเด็กของนับที่แสดงออกมาชัดเจน ทั้งลอยหน้าลอยตาพูดใส่เขา ทั้งไอ้การเถียงแบบข้างๆคูๆ
...นึกถึงวันแรกที่เจอยัยนี่ชะมัด พูดก็น้อยแถมยังไม่ซนเป็นลิงแบบตอนนี้อีก
“เออ ไปชอบคนอื่นเลยก็ได้ ไปละ” นับยืนมองร่างสูงที่ขับรถออกไปจนลับตาก่อนจะเดินเข้าไปในตึกเรียนของตัวเองอย่างตื่นเต้น
เรียนกับคนเยอะๆมันน่าสนุกแบบนี้นี่เอง
ตึก
“ขอโทษค่ะนับไม่ได้ตั้งใจ” นับก้มหัวขอโทษเป็นการใหญ่เมื่อเธอมัวแต่ตื่นเต้นกับมหาลัยจนเดินไปชนกับคนอื่น
“ไม่เป็นไรค่ะ ...น้องสวยนะชื่ออะไรคะ” นับเงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้าก็ต้องอ้าปากค้างเพราะเธอโคตรจะสวยเลย แถมยังดูดีมากด้วย
“นะ นับค่ะ พี่สวยมากเลยค่ะ” นับพูดด้วยน้ำเสียงลอยๆเหมือนกับเธอกำลังหลงกับความสวยของรุ่นพี่ผู้หญิงตรงหน้า
“เฌอเราเจอว่าที่ดาวคณะแล้วว่ะ” ผู้หญิงที่สวยๆอีกคนเดินมายืนคู่ ยิ่งทำให้นับใจเต้นแรงเข้าไปอีก
“น้องดูตื่นเต้นนะคะ ...ไหวป่ะเนี่ย” นับพยักหน้าแต่ก็ยังไม่เลิกจ้องหน้าทั้งคู่ นี่คือความดีงามของการเรียนมหาลัยอย่างที่เธอฝันไว้จริงๆด้วย
“ไหวค่ะ หนูไหว ...งื้อ พี่สวยมากอ่ะ”
“อืม ขอบใจนะ ...คืองี้ช่วยอะไรพี่หน่อยได้มั้ย”
“อะไรเหรอคะ”
HAWK ON
“หายไปไหนวะไม่มาซะที” ผมยืนรอนับตั้งแต่สี่โมงกว่าจนตอนนี้เกือบหกโมงเย็นแล้วก็ยังไม่เห็นหัวยัยเด็กนั่นเลย ผมเดินไปรอบๆคณะพวกเด็กปีหนึ่งก็เริ่มทยอยกลับบ้านกันหมดแล้ว
“เธออยู่ที่ไหน” ผมเดินตามเสียงตะโกนเชียร์ไปทางด้านหลังก็เห้นกับยัยตัวปัญหาที่เขากำลังตามหาอยู่
“เดินแบบนี้เหรอคะ ...นับต้องใส่ส้นสูงด้วยเหรอพี่แตม” เหยี่ยวกอดอกยืนมองนับที่เดินเป๋ไปมาอยู่บนส้นสูงโดยมีแฝดนรกเฌอแตม
...ใช่พูดไม่ผิดหรอกครับ ฝาแฝดที่สอนให้นับเดินบนส้นแหลมๆนั่นคือรุ่นน้องของผมเอง แม่งโคตรแสบทั้งพี่ทั้งน้องเลยหน้าตาก็สวยแต่นิสัยไม่ไหวจริงๆ
“อ้าว เฮียมาทำไมอ่ะ ...มาส่องเด็กเหรอ” นั่นไงครับยังไม่ทันขาดคำแตมเดินมาตบไหล่ผมจากข้างหลัง ที่ผมรู้ก็เพราะว่าสองคนนี้มันจะพูดต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย
“เปล่า มารับเด็กคนที่พวกเธอจับยืนอยู่บนส้นเข็มนั่นไง”
“เลี้ยงต้อยเหรอ ...เดี๋ยวยัยแม่มดนั่นก็มาแหกอกเอาหรอก”
“พูดมากว่ะ ...ยัยนั่นก็พี่สาวเธอไม่ใช่เหรอไง”