บทที่ 5

1339 คำ
บทที่ 5 “อะเอ้อ…แล้วไม่เล่นด้วยกันเหรอคะ” ให้ตายสิ! เธอแทบคิดไม่ออกว่าจะรั้งเขาไว้ยังไง และถ้าขืนปล่อยเขากลับไปนั่งที่เดิม แผนที่วางไว้คงพังไม่เป็นท่า “ไม่ล่ะ ผมหนาว” คำตอบเขาทำเธออ้าปากค้าง รู้สึกเหมือนถูกเหน็บกลายๆ และถ้าจะมีคนหนาวก็ควรจะเป็นเธอนี่ หนาวจนปากสั่นขาชาไปหมดแล้วด้วย เอ้อ! แต่ตอนนี้คงต้องช่างเรื่องหนาวไปก่อน เพราะเขากำลังจะไปแล้ว “เดี๋ยวค่ะ ว้าย!” เธอพยายามจะรั้ง แต่เพราะรีบลุกเกินไป อีกทั้งพื้นหินด้านล่างมันก็ลื่น ทำให้เธอยืนไม่อยู่ แต่ก่อนที่เธอจะล้มหน้าคะมำ เขาก็หันมาคว้าตัวเธอได้ซะก่อน “…” ทุกอย่างพลันเงียบสงัดจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน มือของเขาที่ยังจับหมับอยู่ที่เอวคอด และตัวเธอที่ถูกรั้งเข้ามาจนแนบชิดอยู่กับตัวเขา พ่อเลี้ยงหนุ่มนิ่งขึงไปเพราะกลิ่นหอมจางๆ ที่ลอยมารบกวนจิตใจ ในขณะที่หญิงสาวก็กำลังกระวนกระวายใจกับแผนการที่เพื่อนฝากฝังเอาไว้ อีกทั้งสถานการณ์ตอนนี้มันก็เป็นใจให้แผนเริ่มได้สักที “อุ๊ย! เจ็บขาจังเลยค่ะ” เธอแสร้งทิ้งน้ำหนักไปที่เขาประหนึ่งว่าไม่สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ขณะที่สองตาก็แอบชำเลืองไปที่ตำแหน่งกล้องที่ตัวเองวางไว้ ครั้นเมื่อเห็นว่าตัวเองยืนอยู่ในจุดที่อาจทำให้ได้ภาพไม่ชัดเจน เธอจึงพยายามดันตัวเขาให้ขยับตาม กระทั่งได้จุดที่พอใจ เธอจึงเริ่มแผนการต่อ “หนาวจังเลยค่ะ พ่อเลี้ยงอย่าเพิ่งไปนะคะ ฉันกลัว” เธอว่าพลางยกแขนโอบรอบคอเขาแน่น ‘โอ๊ย! กลัวอะไรวะ ตอนนี้ที่น่ากลัวที่สุดก็ตัวฉันเนี่ยแหละ ฮือ…! ดูก็รู้ว่าไม่เนียน’ ในขณะที่เธอกำลังโอดครวญกับการแสดงห่วยแตกของตัวเองในใจ เขาเองก็กำลังสับสนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น “โอ๊ย! พ่อเลี้ยงคะฉันเจ็บขาจังเลยค่ะ อย่าเพิ่งไปนะคะ” เธอทั้งกอดทั้งซุกด้วยความมุ่งมาดว่าอีกฝ่ายจะหมดความอดทน ‘โอ๊ย! อาละวาดสักทีสิ หมดมุกจะยั่วแล้วเนี่ย ตะโกนออกมาสิ ตะโกนออกมา อี๋! นังชะนีน้อยออกไปไกลๆ อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ เนี่ยขอแค่นี้ แล้วฉันจะไม่ยุ่งกับคุณอีกเลย’ เธอโอดครวญในใจพลางเหลือบไปมองกล้องที่ตัวเองแอบติดไว้ ก่อนจะทิ้งไพ่ใบสุดท้าย ด้วยหวังให้ความอดทนของเขาสะบั้นลง เธอซุกหน้าไปที่ซอกคอ หวังทำให้อีกฝ่ายเปิดเผยธาตุแท้ออกมา แต่แล้วทุกอย่างดันกลับตาลปัตร นอกจากจะไม่อาละวาด เขายังโน้มใบหน้าลงมาหา “…” เธอชะงักค้างตาโตทันทีที่จมูกของเขาสัมผัสถูกต้นคอ ใช่! เธอกำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาจะทำแบบนี้ ในขณะที่เธอนิ่งอึ้งด้วยความตกใจ กลิ่นหอมจางๆ ที่เคยรบกวนจิตใจก็กำลังปลุกปั่นให้เขาอยากพิสูจน์ให้ลึกซึ้งมากกว่านี้ จมูกโด่งจึงซุกไซร้ลงไปที่ซอกคอ อา…! นี่มันกลิ่นอะไร ทำไมมันช่างมีอิทธิพลเหลือร้าย มันหอมกรุ่น ผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันมันก็กำลังปลุกเร้าความรู้สึกบางอย่างให้ลุกฮือขึ้นมา ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งหลงใหลจนควบคุมตัวเองไม่ได้ “คุณ!” เธออุทานตาโตพร้อมกับพยายามผลักไสด้วยความตกใจ แต่ดูเหมือนกลิ่นหอมๆ จากกายสาวจะทำให้เขาหลงมัวเมาจนไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่านได้ จากที่แค่ซุกไซร้ซอกคอ ก็เลื่อนมาจู่โจมตะโบมจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเอาแต่ใจ “อื้อ…! ไม่…อย่า…อื้อ…!” เธอพยายามเบี่ยงหน้าหลบสัมผัสจากเขา แต่เพราะสถานที่ที่ไม่เอื้ออำนวย กอปรกับเรี่ยวแรงที่ต่างกันลิบลับ เธอจึงเพลี่ยงพล้ำให้เขาขโมยจูบแรกไปได้อย่างง่ายดาย “อื้อ…!” เธอครางประท้วงอีก หลังถูกอีกฝ่ายจับตรึงต้นคอจนไม่สามารถส่ายหนีไปไหนได้ ดูเหมือนความหลงใหลของเขาจะยิ่งทวีคูณขึ้นเป็นเท่าตัวเพียงเพราะรับรู้ว่านี่เป็นจูบแรกของเธอ จากที่แค่อยากพิสูจน์จึงกลายเป็นความพลั้งเผลอ จากที่คิดว่าเพียงสัมผัสแผ่วๆ ก็กลายเป็นความดูดดื่ม อา…! ริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มน่าสัมผัสกำลังทำให้เขาแทบคลั่ง เช่นเดียวกับเธอที่กำลังเผลอไผลไปกับสัมผัสแปลกใหม่ที่เพิ่งพานพบเช่นกัน “…” จากดวงตากลมโตที่เบิกโพรงในคราแรกค่อยๆ หรี่ปรือด้วยความหวานล้ำที่กำลังแผ่ซ่านเข้ามา ความอ่อนโยนที่ได้รับกำลังกัดกินสติสัมปชัญญะของเธอทีละน้อยจนคล้อยตามในที่สุด จากที่เคยพยายามขัดขืนทีแรกก็กลายเป็นความอยากรู้อยากลองและสมยอมอย่างมิอาจหักห้าม ในขณะที่เขาละเลียดชิมริมฝีปากนุ่มนิ่มด้วยความหลงใหล เธอก็เริ่มจูบตอบด้วยความเงอะงะ และความเงอะงะนี่แหละที่กำลังปลุกสัญชาตญาณนักล่าในตัวเขาให้ฮึกเหิมขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “อืม!” ชายหนุ่มครางกระหึ่มในลำคอ หลังได้ลิ้มรสหวานจากริมฝีปากอวบอิ่มที่ดูจะหวานมากขึ้นในความรู้สึก เขาสอดลิ้นเกี่ยวกระหวัดสัมผัสลิ้นนุ่มราวคนหิวกระหาย เมื่อยิ่งสัมผัสก็ยิ่งต้องการ และความต้องการก็ทำให้ทุกอย่างยิ่งเร้าร้อนขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะเมื่อลิ้นร้อนดุนดันสัมผัสสอดรัด ราวกับจะดูดซับความหอมหวานทั้งหมดที่มีให้ตกต้องเป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีอีกแล้วความผะแผ่วเนิบนาบ มีเพียงความร้อนรุ่มตะกรุมตะกรามที่กำลังจู่โจมจนเธอหายใจแทบไม่ทัน สติสัมปชัญญะที่เคยหลุดลอยจึงค่อยๆ กลับมา เธอเริ่มดิ้นขลุกขลักอย่างพยายามจะต่อต้านสัมผัสนั้น “อื้อ!” พริมรตาพยายามเบี่ยงหน้าหลบ แต่ก็ยังถูกอีกฝ่ายรุกไร้ไล่ตามไม่ยอมห่าง ราวกับว่าติดอกติดใจสัมผัสหอมหวานที่เพิ่งลิ้มลอง กอปรกับสถานที่ที่ไม่เอื้ออำนวยให้เธอหลบเลี่ยง จึงเปิดโอกาสให้เขาจู่โจมตะโบมจูบลึกซึ้งมากขึ้น อีกครั้งที่เธอเพลี่ยงพล้ำ เมื่อมันช่างวาบหวาม วูบไหว ชวนให้สะท้านจนบอกไม่ถูก กระทั่งเผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาฉวยโอกาสตามใจชอบ และเพราะความพลั้งเผลอของเธอมันก็ทำให้ความเป็นชายของเขาฮึกเหิมแรงกล้า มือที่เคยประคองอยู่ที่ท้ายทอยสาวจึงค่อยๆ เลื่อนลงมาลูบไล้ตามเนื้อตัว “อืม…!” เขาครางกระหึ่มอีกครั้ง เมื่อการต่อต้านในคราแรกเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นคล้อยตาม ถึงแม้จะไม่ประสีประสา แต่มันกลับยิ่งกระตุ้นให้เขากระสันซ่านจนลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง รับรู้เพียงความกำหนัดที่กำลังพลุ่งพล่าน ถ้านี่คือการล่อลวง เธอก็คงตกลงไปในหลุมพรางเสน่หาของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะเมื่อเขายังขุดหลุมพรางนั้นให้ลึกลงไปเรื่อยๆ มือไม้ที่ขยับลูบไล้ไปตามนวลเนื้อค่อยๆ เลื่อนต่ำลงมา กระทั่งสัมผัสกับสะโพกผายดีดเด้ง เขาไม่รอช้าที่จะบีบขยำและลูบไล้มันด้วยความปรารถนา กอปรกับเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เธอสวมอยู่ ครั้นพอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เนื้อผ้าบางเบาก็ยิ่งแนบเนื้อเผยส่วนสัดครัดเคร่งให้เขาสัมผัสลึกซึ้งมากขึ้น ใบหน้าคมค่อยๆ เลื่อนลงมาซุกไซร้ที่ลำคอระหงอีกครั้ง อา…! กลิ่นนี้อีกแล้ว กลิ่นกรุ่นๆ จากกายสาวมันทำให้เขารู้สึกตื่นตัวราวตกอยู่ในภวังค์ มันเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่เขากลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ให้ตายสิ! มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รู้แค่ว่าเขากำลังหลงใหลกลิ่นหอมเย้ายวนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น และความหลงใหลก็ทำให้เขาซุกไซร้ดอมดมประหนึ่งกำลังคลั่งไคล้อีกครั้ง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม