บทที่ 3 จำใจขอความช่วยเหลือ

1700 คำ
“ฉันจะไม่มีวันลืม” หญิงสาวกัดฟันพูดอ่อนมาอย่างแผ่วเบา แต่ผสมไปด้วยความคับแค้นใจ “ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องกลายเป็นคนมีอำนาจ…เหมือนนายหญิงหอจิ้งฮวานั่นไง” หลันถังไม่ได้ตอบโต้อะไรเพียงพยักหน้ารับเบา ๆ ในใจนั้นคิดว่า ตนเองจะกลายเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจนั้นแน่นอน ไม่ว่าหนทางนี้จะเต็มไปด้วยขวากหนามอะไรก็ตาม เธอจะต้องก้าวข้ามมันไปให้ได้ “จริงสิ คุณเป็นคู่หมั้นของคุณชายน้อยจ้าว? เขาก็เป็นตำรวจทำไมไม่ลองใช้อำนาจตรงนี้ดูบ้างล่ะ” หมอกู้เหมือนจะนึกอะไรได้ก่อนจะเอ่ยเป็นนัยขึ้นมา “...” หลันถังได้ยินอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เพราะไม่ต้องการเกี่ยวดองกับตระกูลนั้น “ถึงยังไงมันก็เป็นอำนาจที่นายท่านหลันพยายามไขว่คว้ามาให้คุณ คุณหนูก็ใช้มันเพื่อตัวเองและแก้แค้นให้นายท่านหลันสักหน่อยสิ ผมคิดว่าคุณทำได้นะ” หมอกู้มองหญิงสาวก่อนกางร่มสีดำในมือ และเดินออกจากบ้านสกุลหลัน ส่วนหลันถังยืนคิดและทบทวนอยู่ตรงนั้นสักพัก ก่อนจะหยิบร่มสีแดงออกมากาง ก้าวเท้ายาว ๆ ออกจากบ้านเพื่อไปยังบ้านสกุลจ้าวอีกหลังหนึ่ง เธอจำใจต้องหมั้นหมายกับตระกูลจ้าวนี้ทั้งที่เป็นศัตรูฆ่าพ่อแม่ เพียงแค่บังเอิญปู่ต้องการบางคนที่สามารถปกป้องชีวิตสองปู่หลานได้ และตัดสินใจเลือกหัวหน้าจ้าวเพียงเพราะลูกชายคนเล็กของเขาชอบเธอ แต่น่าเสียดายที่มันช่วยชีวิตของปู่เอาไว้ไม่ได้ เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ของพวกตำรวจแล้ว หลันถังคิดว่านายตำรวจที่มาวันนี้ทำเรื่องเสียมารยาทไปมาก ที่กล้าบุกมาทำร้ายคนที่เป็นคู่หมั้นของลูกชายหัวหน้าจ้าว ฝ่ายหัวหน้าจ้าวคงอารมณ์เสียกับเรื่องนี้ไม่น้อย นั่นคงเพราะรู้สึกเหมือนโดนหยามหน้า ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจไปขอร้องให้เขาช่วย อย่างไรหัวหน้าจ้าวคนนี้ก็ต้องช่วยจัดการกับตำรวจฝ่ายนั้นไม่มากก็น้อยเพื่อไม่ให้ตัวเองเสียหน้า “ฉันมาพบ หัวหน้าจ้าว” หลันถังบอกกับคนเฝ้าประตู ทันทีที่เธอเดินทางมาถึง หน้าบ้านนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ย่อมมียามเฝ้าประตู คนพวกนี้สร้างศัตรูเอาไว้ทั่ว แม้ชาวบ้านจะไม่ตอบโต้ แต่ยังมีกลุ่มคนที่พร้อมตอบโต้ตลอดเวลาเช่นกัน จึงทำให้ต้องระแวงหลังแต่ถ้าสิ่งเหล่านี้แลกมากับอำนาจที่ล้นมือ คนบางคนก็พร้อมจะเสี่ยงกับเรื่องนี้เหมือนกัน “เชิญ” คนเฝ้าประตูมองหญิงสาวถักเปียในชุดจวงถังแบบผู้ชายเพื่อปกปิดทรวดทรงของหญิงสาว เขาย่อมเดาได้ว่าตรงหน้าคือว่าที่คู่หมั้นที่โด่งดังของคุณชายน้อย หลันถังเข้ามาด้านในอย่างราบรื่น โดยมีสาวใช้คนหนึ่งนำทางคุณนายจ้าวไม่คิดจะมาต้อนรับเธอด้วยซ้ำ เพราะไม่พอใจที่ลูกชายต้องหมั้นหมายกับหญิงสาวจากตระกูลต่ำชั้นอย่างเธอเป็นทุนเดิม อีกทั้งเวลานี้ตระกูลหลันสิ้นเนื้อประดาตัว เธอจึงไม่คิดจะเดินมาต้อนรับหรือต้องมานั่งปั้นหน้ายิ้มให้หญิงสาวที่เธอไม่ชอบ ไม่นานคนรับใช้ก็พามาหลันถังถึงห้องทำงานของนายท่านจ้าว เมื่อเดินเข้าไปด้านในก็พบว่าเขาอยู่เพียงลำพังและกำลังนอนสูบซิการ์อย่างสบายใจ เมื่อเห็นชุดตำรวจที่เขาสวมใส่เหมือนกับพวกที่เข้าไปทำร้ายตนเองถึงบ้าน นี่ทำให้หลันถังตัวสั่นเล็กน้อยด้วยความโกรธแค้นในใจ แต่พยายามข่มเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยถึงจุดประสงค์ของเธอทันที “หัวหน้าจ้าว ได้โปรดแก้แค้นให้ปู่ด้วย” “แก้แค้นให้ปู่ของเธอ ฉันจะได้อะไร?” หัวหน้าจ้าวเป็นคนเจ้าเล่ห์ เลยยกคิ้วเล็กน้อย เขามองหญิงสาวที่ลูกชายคนเล็กและภรรยาบ่นว่าอยากถอนหมั้นด้วยความปวดหัว ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาวุ่นวายมากที่ต้องรับหน้าภรรยาและเจ้าลูกชายตัวดีที่เอาแต่สร้างปัญหาเพื่อขอยกเลิกหมั้นหมายกับหญิงขี้เหร่คนนี้ แต่เขาจะยอมปล่อยเธอไปได้ยังไง ในเมื่อสกุลหลันมีความลับบางอย่างที่ทางการต้องการ และเขาเองก็หวังว่าจะสามารถแทรกซึมเข้าไปล้วงความลับนั้นได้ง่าย ๆ ถึงอย่างนั้นตอนนี้หัวหน้าจ้าวเปลี่ยนใจแล้ว เมื่อพบว่าลูกน้องไม่ได้อะไรจากการกระทำในครั้งนี้เลย อีกทั้งคนพวกนั้นก็ค้นบ้านสกุลหลันทั่วหมดแล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องสละลูกชายที่มีอนาคตให้ต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้อีก “ฉันเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของคุณ แต่กลับโดนบุกไปหาเรื่องถึงบ้านจนเสียปู่ไป แบบนี้ไม่เท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติคุณเหรอคะ” “เธอฉลาดดี! เอาล่ะฉันจะจัดการเรื่องนี้ แต่แลกเปลี่ยนกับการที่เธอต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงเรื่องการหมั้นหมายของตระกูลเรา” “...” หลันถังได้ยินอย่างนั้นก็ตาเป็นประกาย เนื่องจากเธอหวังว่าการเปลี่ยนแปลงที่ชายวัยกลางคนตรงหน้าพูดถึงมันจะหมายถึงยกเลิกงานหมั้น “ถ้าเธอยอมรับปาก ฉันจะทำให้ตำรวจที่ฆ่าปู่เธอต้องรับโทษที่เขาสมควรจะได้รับ แต่ถ้าไม่...” หัวหน้าจ้าวคิดว่าตนเองถือไพ่เหนือกว่า “ฉันรับปาก” หลันถังสวนกลับทันที เธอมีอะไรให้ต้องลังเลอีก ชายชั่วคนนี้เป็นตำรวจแท้ ๆ แต่ก็จับพ่อแม่ของเธอเพื่อเอาผลงานอย่างหน้าด้าน ๆ ทั้งที่พวกท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ไม่รู้ กลับทำตัวเยี่ยงโจรยัดข้อหาให้ เพียงเพราะมันเกี่ยวข้องกับงานของพวกท่านเท่านั้นเอง ความแค้นที่คนพวกนี้มีส่วนรู้เห็นกับการฆ่าบิดามารดาของเธอ แต่หลันถังกลับต้องแต่งงานกับลูกชายของมัน แค่คิดถึงวันแต่งงานก็แทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว “ดี! ฉันจะบอกเงื่อนไขอีกที ขอฉันคุยกับครอบครัวก่อน เธอไปได้” เมื่อเห็นว่าหลันถังตอบรับข้อเสนอที่เขายังไม่ทันบอกเงื่อนไขอย่างว่าง่าย ใบหน้าของชายวัยกลางคนฉายแววความพอใจออกมา ส่วนหลันถังทำเพียงพยักหน้าและเดินออกมาโดยไม่คิดจะบอกลา เธอไม่คิดมีมารยาทกับคนชั่วที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเอง เพราะคนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทด้วย เมื่อก้าวออกจากห้องมาก็พบว่าชายหนุ่มหน้าตาคุ้นเคยรออยู่ ซึ่งเขาก็คือจ้าวปิงฉือ คู่หมั้นของเธอนั่นเอง ชายหนุ่มยังสวมชุดตำรวจ ดำเนินรอยตามบิดาที่เป็นตำรวจทุกประการ อีกทั้งยังชั่วช้ากว่าพ่อด้วยซ้ำ ในกรณีที่จ้าวปิงฉือมักใช้อำนาจตำรวจเพื่อฉุดคร่าหญิงสาวประจำ เป็นที่เลื่องลือในความเจ้าชู้มักมาก “เธอมาหาพ่อฉันมีอะไรอีก จำไว้ว่าฉันจะต้องทำให้พ่อมีคำสั่งให้ฉันถอนหมั้นกับเธอให้ได้” ตอนแรกเป็นเขาที่ต้องการหมั้นหมายกับหลันถัง แต่เวลานี้จ้าวปิงฉือกลับบอกว่าอยากถอนหมั้น แถมยังกลั่นแกล้งทำให้อับอายเวลาเจอกัน ขอถามหน่อยเถอะใครจะอยากแต่งงานกับไอ้ชั่วแบบนี้? หลันถังอยากจะตะโกนให้ดังลั่นเสียเหลือเกิน เมื่อเห็นว่าหลันถังไม่โต้ตอบ ชายหนุ่มจึงถือดีพูดจาทับทนและข่มขู่หญิงสาวต่อ “แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พอเธอมาเป็นสมบัติของฉันเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้รู้ว่าอย่ากล้าสะเออะมาเป็นเมียฉัน ทั้งที่ตนเองไม่สิ่งไหนที่เหมาะสมกับฉันเลย แถมสภาพดูไม่ได้ยังกล้าใฝ่สูงอีก จำไว้ว่าถ้าเธอไม่เจียมตัวฉันจะจัดการเธอแน่นอน” หลันถังกอดอกยืนมองอย่างอยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างไร “จัดการฉันอย่างไรเหรอ?” พูดจบก็อาศัยจังหวะที่อีกฝ่ายเผลอ เตะเข้าตรงกลางหว่างขาจนโดนกล่องดวงใจของอีกฝ่ายแบบเต็มแรง ทำให้อีกฝ่ายแทบครองสติไม่อยู่ “แน่นอนว่า อุ๊ก!” ชายหนุ่มตัวงอราวกับกุ้ง เมื่อโดนเข่าเข้าเต็ม ๆ หว่างขา เท่านั้นยังไม่พอ หญิงสาวที่เหมือนจะถอยห่างกลับยังเดินเข้ามาขัดขาและทุ่มเขาไปด้านหลังอย่างแรงอีกครั้ง ก่อนจะพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จ้าวปิงฉือ จำไว้ว่าตอนนี้นายกับฉันยังไม่แต่งงานกัน หรือต่อให้เราทั้งสองจะแต่งงานกันแล้วก็ตาม นายก็ระวังไอ้ของที่ไร้สมรรถภาพอันนั้นของนายไว้ให้ดี เพราะมันจะโดนฉันจับเฉือนทิ้งตอนนายเผลอ หรือเมื่อไหร่ที่นายรังแกฉัน วางแผนชั่วทำร้ายฉันเพราะคนอย่างหลันถังไม่ยอมถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวแน่นอน” ว่าแล้วก็กระทืบเท้าลงตรงกลางหว่างขาของเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ดูจะรุนแรงกว่าครั้งที่แล้ว ปึง แกร่ก เสียงกระเบื้องแตกทำให้จ้าวปิงฉือสะดุ้ง ก้มมองด้วยดวงตาเบิกโพลง ตาตี่เล็กของเขากว้างขึ้นจนเหมือนไข่ห่าน “ฮ๊ากกก นังสารเลว อึก ฉัน…” จ้าวปิงฉือเงยหน้าขึ้นด่าคน แต่พบว่าเธอมองมาอย่างเย็นชาแล้วยังยกเท้าขึ้นวางบนส่วนลับของเขา พร้อมกระทืบลงมาได้ทุกเมื่อ “ไปเสีย เธอไปเสียเถอะ ฉันจะไม่แตะต้องหรือคิดจะทำอะไรเธออีกแล้ว” “จำคำของนายเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน” พูดจบหลันถังเดินออกจากบ้านสกุลจ้าวทันที โชคดีที่บ้านของหัวหน้าจ้าวคนนี้ใหญ่โตมากพอ ที่จะไม่มีใครเห็นตอนเธอรังแกลูกชายของเขา ไม่เช่นนั้นหญิงสาวคงออกจากบ้านจ้าวง่าย ๆ และไร้รอยขีดข่วนแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม