บทที่ 5 แผนการณ์เปลี่ยนตัว

1809 คำ
ส่วนตำรวจหนุ่มทั้งกลุ่มชะงักไปและไม่เข้าใจสถานการณ์ ก่อนรีบหันไปตวาดหมอกู้ทันที เมื่อเห็นว่าหลันถังเป็นลมล้มลงไปแล้ว “ยังไม่รีบช่วยชีวิตคนอีก อย่าให้นังบ้านี่ตายเด็ดขาดเลยนะ” พวกมันไม่อยากเข้าคุกตามลูกพี่ไปด้วยจึงตวาดลั่นงาน ทำให้ชาวบ้านลือกันไปมากกว่าเดิม บ้างก็ว่าทหารข่มขู่หลานสาวตระกูลหลันจนเป็นลม บ้างก็ว่ายังมีฆาตกรลอยนวลอยู่อีกทำให้วิญญาณเฒ่าหลันไม่พอใจ สุดท้ายตำรวจทั้งกลุ่มนั้นจึงต้องถูกทัณฑ์บนเช่นเดียวกัน พวกมันล้วนโกรธแค้นสกุลหลันที่เป็นเจ้าแห่งความโชคร้ายของพวกตน โดยที่หลันถังเมื่อถูกหมอกู้ให้คนพาเข้ามาพักในห้องด้านในแล้ว กลับลืมตาตื่นขึ้นมา ทำให้หมอกู้รู้ว่านี่เป็นแผนซ้อนแผน เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เธอต้องการ “แต่ถึงขนาดคาดเดาได้ว่าคนรอบข้างจะทำอะไรบ้าง…คุณหนูหลันคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ ไม่แน่อาจเพราะได้ความสามารถของทุกคนในครอบครัวมา เฮ้อ... แต่น่าเสียดายชะตาอาภัพจึงต้องพลัดพรากจากครอบครัว น่าเสียดาย” หมอกู้พึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนที่จะก้าวเท้าออกจากบ้านไป ท้องฟ้าเริ่มมืดมิด บ่งบอกถึงเวลาค่ำคืน ผู้คนที่มางานศพของนายท่านหลันต่างทยอยเดินทางกลับ เหลือเพียงเขาคนเดียวที่ยังคงอยู่ หากเขายังดื้อดึงที่จะอยู่ต่ออาจถูกครหา ด้วยเหตุผลนี้ หมอกู้จึงตัดสินใจลาจากบ้านสกุลหลัน มุ่งหน้ากลับไปยังที่พักของเขา ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด ตำรวจกลุ่มใหม่ได้เดินเข้ามาในงานศพอย่างเงียบๆ หลันถังสังเกตเห็นว่าเหล่าแขกเหรื่อทั่วไปได้เดินทางกลับกันหมดแล้ว จึงรีบออกไปต้อนรับตำรวจกลุ่มนี้ที่หน้าประตู หลันถังตั้งใจกีดกันไม่ให้พวกเขาเข้ามาในเขตบ้านของตนอีก “พวกคุณมีอะไร” “คุณหนูหลัน พวกเราคงมาช้าเกินไป คิดจะมากราบไหว้ป้ายวิญญาณของนายท่านหลันสักหน่อย” นายตำรวจยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ซึ่งทำให้หลันถังหวาดระแวงมากขึ้น ไม่รู้ว่าคนกลุ่มนี้วางแผนอะไรอีกหรือไม่เพื่อกำจัดเธอ ทายาทคนสุดท้ายของตระกูลหลัน “คุณหนูหลัน ต่อไปนี้ก็ไม่มีปู่คุ้มกะลาหัวแล้ว ส่งของที่ซ่อนไว้ออกมา แล้วแต่งงานไปกับตระกูลจ้าวอย่างสงบเถอะ ถึงตอนนั้นเจ้านายของเราอาจจะเมตตาคุณหนูมากขึ้น ความเป็นอยู่ในบ้านสกุลจ้าวก็อาจดีขึ้นก็เป็นได้” หญิงสาวได้ยินอย่างนั้นก็มีสีหน้าขยะแขยง การแต่งงานระหว่างเธอกับสกุลจ้าวเป็นสิ่งที่เธออยากยุติมากที่สุด แม้จะมีสมบัติอะไรที่ว่านั่น แล้วจะเอาไปให้คนอื่นทำไมกันล่ะ? แต่ปัญหาคือหลันถังไม่รู้ว่ามีสมบัติอะไรนั่นอยู่จริงรึเปล่าด้วยซ้ำนะสิ เพราะเรื่องนี้ไม่มีใครเคยเอ่ยถึงหรือบอกกับเธอเลย “ตระกูลหลันของฉันไม่เหลืออะไรแล้ว กลับไปบอกนายท่านจ้าวเถอะ แม้จะแต่งฉันเข้าไปแล้วต่อให้เฆี่ยนตีจนตายก็ไม่มีอะไรที่เขาตามหาหรอก เพราะฉันยังไม่รู้เลยว่าสิ่งนั้นที่พวกเขาตามหาคืออะไร” “หึ! ปากดีสมกับที่เป็นหลานตาแก่หลันเสียจริง ถ้าอย่างนั้นทางเราก็จะขอนำคำพูดของคุณหนูไปถ่ายทอดให้แก่นายท่านทราบ อ้อ…แล้วอย่าหวังว่าจะได้อยู่อย่างสงบในตระกูลจ้าวเลย ขอเตือนไว้ด้วยความปรารถนาดี” “...” หลันถังมองตามหลังตำรวจกลุ่มใหม่ไป คนพวกนี้น่าจะเป็นคนของสกุลจ้าว เธอยังจำหน้าชายคนนั้นที่จับพ่อแม่ของตนเองไปได้ดี ตอนนี้พวกมันอยู่ดีกินดีเสียเหลือ เธอไม่เคยคิดที่จะอิจฉา แต่เพราะมันเป็นการแลกกับชีวิตของผู้ปกครองของเด็กหลาย ๆ คนในปักกิ่งนี่สิที่เธอไม่อยากจะยอม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเธอ หลันถังหวังว่าคนชั่วช้าพวกนี้จะตายใน “ไม่เป็นไรหลันถัง เธอยังต้องเจอเรื่องไม่ดีอีกเยอะ แค่นี้ทำไมจะอดทนไม่ได้” หญิงสาวลูบเอาตัวเองเบาๆ พยายามปลอบใจให้ตัวเองไม่คิดมากอีกต่อไป ทว่าน่าเสียดายที่เวลานี้เมื่อฟ้ามืดแล้ว ทุกอย่างก็เงียบสงบลง ความพยายามที่แล้วมาสูญเปล่า ความอ่อนแอที่เคยกดข่มเอาไว้ไหลทะลักออกมาในคราวเดียว น้ำตาไหลอาบใบหน้างามเป็นสาย “ตระกูลจ้าว พวกตำรวจ พวกเขามุ่งเป้าไปที่คนไร้ทางสู้ และคนที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ คนพวกนี้…ฉันจดจำไว้แล้ว” หญิงสาวโกรธแค้นและตั้งใจว่าจะต้องแก้แค้นคนที่ทำลายครอบครัวตัวเองให้ได้ในสักวันหนึ่ง แต่ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการเอาชีวิตรอดโดยที่เธอจะต้องมีชีวิตต่อไปให้ได้ หลันถังรู้ดีว่าด้วยความสามารถและสองมือของตัวเองตอนนี้ไม่อาจสู้ชายร่างใหญ่ที่ถืออาวุธและกองทัพได้ ดังนั้นมีทางเดียวที่พอทำได้คือการรอคอยเวลาและทำทุกทางเพื่อขวนขวายอำนาจมาไว้ในมือ หลันถังไม่อยากแต่งงานกับลูกชายของศัตรูเลยเพราะรู้สึกอัปยศและรังเกียจจนอยากจะตาย แต่ก็ตายตอนนี้ไม่ได้ เธอยังจดจำคำสอนของปู่ได้ดี แก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย เธอรอที่จะแก้แค้นคนพวกนั้นได้เสมอ ขอเวลาอีกไม่นาน!! กลับมาทางด้านตำรวจลูกน้องของหัวหน้าจ้าว พวกเขาเดินออกจากบ้านสกุลหลันด้วยความหงุดหงิดใจ ไม่คิดว่าหญิงสาวที่ดื้อรั้นคนนั้น สุดท้ายก็จะกลายมาเป็นหนึ่งในเจ้านายของตนเอง “นั่นมันพวกที่โดนทัณฑ์บนนี่ครับรองหัวหน้า” ตำรวจคนหนึ่งชี้ไปด้านหน้า เมื่อเห็นว่ามีร้านสุราเปิดอยู่ และกลุ่มชายฉกรรจ์ที่เพิ่งโดนถอดออกจากเครื่องแบบชั่วคราว มารวมตัวกันอยู่ด้วยความโมโห “ไม่เข้าไปทักทายหน่อยคงไม่ได้ อย่างไรก็มีศัตรูร่วมกัน” “แต่อีกไม่นานคุณหนูหลันก็…” ตำรวจหนุ่มต้องการทักท้วงรองหัวหน้าว่า ต่อไปคุณหนูศัตรูที่ว่าคือคนที่จะมาเป็นนายหญิงน้อยในครอบครัวหัวหน้าตน จะดีหรือที่เรียกเธอว่าอย่างนั้น “ไร้สาระ พวกแกไม่รู้อะไร” รองหัวหน้าตำรวจคนนั้นหยุดยืนอยู่หน้าร้าน ก่อนสั่งสอนลูกน้องให้รู้จักสังเกตคลื่นลม “แกไม่รู้อะไร นายน้อยจ้าวเบื่อง่ายออกปานนั้น ผู้หญิงคนนั้นแต่งตัวก็เชย หน้าตาก็พอดูได้จะมัดใจคุณชายน้อยเราได้อย่างไรกัน” “นั่นสิ แต่ถึงยังไงก็เป็นว่าที่นายหญิงน้อย...” “นายหญิงน้อยที่เป็นลูกของสายลับน่ะเหรอ ฮ่า ๆ ๆ ฝันไปเถอะ อย่างมากก็แค่ของเล่นแก้เบื่อไม่นานเท่านั้นแหละ” ว่าแล้วแทนที่จะเดินเข้าร้าน รองหัวหน้าตำรวจกลับเดินออกจากร้านไปโดยไม่หันกลับมามอง กลุ่มชายฉกรรจ์ที่เพิ่งโดนถอดออกจากราชการ เพียงเพราะมีเรื่องกับหญิงสาวต่อหน้าประชาชนในงานศพสกุลหลัน ได้ยินอย่างนั้นก็หยิบหัวข้อขึ้นมาพูดต่อทันที “ลูกพี่ รู้รึเปล่าว่าหัวหน้าอยากได้อะไรจากสกุลหลันนักหนา” เรื่องนี้ไม่ว่าเจ้าหน้าที่คนไหนล้วนสงสัยทั้งนั้นว่าทำไมถึงต้องเล่นงานสกุลหลันจนไม่เหลืออะไรเลยแบบนี้ “ไม่รู้สิ เท่าที่รู้คือพวกเขาชวดมันไปแล้ว สกุลหลันไม่มีของนั่นอยู่จริง ๆ เลย สกุลจ้าวจะยังอยากแต่งงานกับคนตัวเปล่าพรรค์นั้นไปทำไมกันล่ะ” ชายคนนั้นยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปาก กล่าวอย่างเมามัน “ตระกูลจ้าวตอนแรกก็คิดว่าฉลาดที่เลือกแต่งงานกับหลันถังเพื่อรับสมบัติที่แอบซ่อนไว้ ที่ไหนได้สกุลหลันตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว พวกเขาคงปฏิบัติกับเธอไม่ดีแล้วใช่ไหมลูกพี่” “คุณชายน้อยจ้าวเป็นตำรวจรุ่นใหม่อนาคตไกล มีหรือนายท่านจ้าวจะยอมให้แต่งงานกับหลันถังหญิงแบบนั้นที่มีแต่ตัว คอยดูต่อเถอะ การแต่งงานครั้งนี้ไม่แน่อาจมีการเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าว” “ถ้าเป็นแบบนั้น พวกเราก็ยังไปแก้แค้นหล่อนไม่ได้อยู่ดี ถึงเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวก็ต้องเป็นคนสกุลจ้าว ถ้าไปยุ่งหัวหน้าจ้าวได้จับเข้าคุกแน่” ลูกน้องส่ายหน้า รู้สึกเศร้าใจที่ไม่สามารถแก้แค้นคนที่ทำให้พวกมันตกงานได้ “ไอ้เจ้าพวกนี้โง่กันจริงๆ คิดว่านายท่านจ้าวสนใจคุณชายใหญ่จอมเกียจคร้านคนนั้นงั้นเหรอ ทุกวันนี้เขาจะไปโดนตำรวจถิ่นไหนทำร้ายยังไง ถ้าไม่หนักเกินไปจนทำให้เขาเสียหน้า นายท่านจ้าวก็ไม่สนใจหรอก” นี่เป็นอีกเรื่องที่เหล่าบรรดาตำรวจทั้งหลายต่างรู้ดีว่าคุณชายใหญ่ของสกุลจ้าวนั้นเกียจคร้านขนาดไหน วัน ๆ ไม่ทำอะไร หาเรื่องต่อยตีกับคนไปทั่ว มีเพียงคุณชายน้อยจ้าวเท่านั้นที่มีหน้าที่การงานที่ดี และตามรอยนายท่านจ้าว “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มีโอกาสแก้แค้นแล้ว!” นายตำรวจคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจและชอบใจที่คิดว่าหากสกุลจ้าวเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวขึ้นมาจริง ๆ ไม่แน่ว่าคนที่ต้องแต่งงานคงเป็นคุณชายใหญ่ที่สกุลจ้าวไม่ต้องการคนนั้น “คอยดูเถอะ นังคุณหนูหลันถัง แล้วแกจะได้เห็นดีกัน!” ด้านสกุลจ้าว ตอนนี้นายท่านจ้าวก็ปวดหัวไม่น้อยเกี่ยวกับคำร้องขอของภรรยา แม้จะคิดวางแผนเอาไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อมีคนมาเรียกร้องมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เดิมหากสกุลหลันมีของสิ่งนั้นอยู่จริง ๆ การให้หลันถังแต่งงานกับจ้าวปิงฉือก็เป็นกำไร อีกทั้งยังอาจสามารถรวบรวมข่าวของสายลับและได้ผลงานเพิ่ม แต่ตอนนี้สิ่งที่คิดไว้ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริงๆ เมื่อโดนภรรยาเป่าหูด้วยคำว่า ‘เมื่อเทียบกับสมบัติที่ไม่รู้ว่ามีอยู่จริงรึเปล่าของสกุลหลัน ถ้าให้ลูกชายที่เป็นสมบัติมีอนาคตไกลของเราแต่งงานกับหล่อนจะดีหรือคะ’ นั่นทำให้นายท่านจ้าวตัดสินใจเด็ดขาด “ดูเหมือนครั้งนี้คงต้องเปลี่ยนเจ้าบ่าวจริง ๆ เทียนซวี่วัน ๆ ไม่ทำการทำงาน อยู่แต่บ้านทั้งวัน อีกทั้งหัวยังแข็งจนไม่ยอมทำงานกับฉัน ถ้าอย่างนั้นก็ให้พวกมันไปคู่กันแล้วกัน คนหนึ่งเป็นลูกคนทรยศ อีกคนก็เป็นตัวขี้เกียจ หึ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม