เช้าของวันใหม่ บริเวณโซนห้องนั่งเล่นของบ้านหลังโตอันโอ่อ่า ชายหนุ่มรุ่นใหญ่ กำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ภายใต้การใช้ความคิด เมื่อชีวิตของเขาจะต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน ชายหนุ่มเริ่มอยากวางมือ เขาอยากมีชีวิตที่เป็นส่วนตัวบ้าง แต่เอเดนไม่รู้ว่าหญิงสาวที่นอนอยู่บนห้องนั้น จะอยากใช้ชีวิตร่วมกันกับเขาหรือไม่
"เมื่อคืนป้าเห็นนะคะ นายเก่งพาใครเข้ามาในบ้าน เด็กผู้หญิงคนนั้นบรรลุนิติหรือยัง ที่ป้าถามเพราะเป็นห่วง" หญิงสูงวัยอายุล่วงเลยใกล้แตะเลขเจ็ดแล้ว แต่เธอก็ยังคงแข็งแรงดี ได้นั่งลงที่โซฟาตรงข้ามกับเอเดน เพราะป้าจันทร์เป็นดั่งแม่นมที่เลี้ยงดูเอาใจใส่ชายหนุ่มมาตั้งแต่เขาแบเบาะ ทุกคนในบ้านจึงให้ความยำเกรงนางไม่ต่างจากเอเดน เมื่อเจ้าของบ้านให้ความเคารพป้าจันทร์เหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งเช่นกัน
"เธอชื่อพลอยชมพูอายุยี่สิบปี พ่อของเธอขายให้กับผม ไม่สิ...นายชัยชนะเสียพนันแล้วไม่มีเงินจ่าย ก็เลยเสนอลูกสาวแทนชิปที่เสียไป ผมกลัวว่าจะมีคนซื้อตัดหน้าเลยตัดสินใจ ซื้อเธอมาในราคาสิบล้าน"
"ฮ๋า! แถมยังพากลับมาบ้าน แสดงว่าเธอต้องพิเศษมาก เพราะป้าไม่เคยเห็นคุณพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านเลย ตั้งแต่คุณพราวออกไป..."
"ป้าอย่าเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนี้ให้ผมได้ยินอีก! " ชายหนุ่มตะคอกออกมาเสียงดัง ซึ่งไม่บ่อยนักที่เขาจะขึ้นเสียงกับหญิงสูงวัย เมื่อพราวเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ที่เขาให้หล่อนเชิดหน้าชูตาภายในบ้านหลังนี้ในตำแหน่งภรรยา แต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะสวมเขาให้เขาคบชู้สู่ชาย จากนั้นมาเอเดนก็ได้กลับกลายเป็นคนละคน
"เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วเป็นสิบปี ทำไมคุณเอเดนยังจะผูกใจเจ็บอยู่ละค่ะ" ป้าจันทร์เอ่ยถามชายหนุ่มออกไปด้วยความนุ่มนวล เมื่อนางไม่ต้องการให้เอเดนจมปลักอยู่กับเรื่องในอดีต
"เพราะเธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงแพศยา ที่ไม่รู้จักพอ ความต้องการของเธอ ผมถมยังไงก็ไม่เคยเต็มสักที ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองหรือความรัก เธอกลับมักมากคงคิดว่าผมจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน" เอเดนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ดวงตาคมฉายแววดุดันออกมาด้วยความโกรธอย่างพยาบาท อาฆาตแค้นฝังลึกไปในเส้นเลือดใหญ่ แม้ครั้งหนึ่งเขาจะเคยรักเธอจนหมดหัวใจ
"ยังไงป้าก็อายุมากแล้ว ก่อนตายก็อยากเห็นคุณเอเดนมีครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝากับเขาสักที ป้าอยากอุ้มหลานแล้วนะคะ” ป้าจันทร์พูดออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อนางได้แต่หวังว่าจะได้เห็นเอเดนมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เพราะเขาเองก็มีทุกอย่างเพียบพร้อม แต่สิ่งที่ขาดหายมีเพียงแค่ใครสักคนที่รักเขาจนหมดหัวใจ โดยที่ไม่หวังทรัพย์สมบัติจากเขาเพียงแค่อย่างเดียว เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเอเดน
"ป้าได้เลี้ยงหลานสมใจแน่ เมื่อผมได้เลือกแม่พันธุ์ชั้นดีมาแล้ว รับรองว่าพลอยชมพูต้องตั้งท้อง ก่อนสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน" ชายหนุ่มพูดออกมาพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ดวงตาของเขาฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างกับเสือหนุ่มที่กำลังมีจุดมุ่งหมาย พร้อมออกล่ากระต่ายน้อยอย่างพลอยชมพู
"คุณเอเดนพูดจาน่าเกลียด หนูพลอยชมพูมีชีวิตมีจิตใจ ถ้าเธอได้ยินประโยคเมื่อสักครู่ จะรู้สึกเช่นไร คุณเห็นเธอเป็นเพียงแค่แม่พันธุ์เท่านั้นจริง ๆ เหรอคะ" แม้ว่าป้าจันทร์จะยังไม่ได้เห็นหน้าพลอยชมพู แต่นางก็เชื่อว่าเด็กสาวคนนี้ต้องมีดีพอตัว ถึงทำให้เอเดนคิดจะมอบตำแหน่งแม่ของลูกให้กับเธอได้
"ใช่! ถ้าเธอตั้งท้องแล้วคลอดลูกเมื่อไหร่ ผมยินดีที่จะคืนอิสรภาพให้กับพลอยชมพู"
คำพูดของชายหนุ่ม เป็นเหมือนใบมีดที่ปักลงกลางใจของหญิงสาว เมื่อพลอยชมพูยืนอยู่ตรงมุมของห้อง แล้วได้ยินทุกถ้อยคำที่เอเดนพูดออกมา แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงแค่สินค้า เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจให้เธอตั้งครรภ์ แถมยังคิดจะเอาอิสรภาพมาแลกกับความเป็นแม่ลูกที่ผูกพัน ผู้ชายคนนี้ช่างไร้หัวใจจริงๆ นั่นคือสิ่งที่พลอยชมพูกำลังเข้าใจว่าเอเดนเป็นผู้ชายแบบไหน เขาช่างเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้ ก็สมควรแล้วที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่เดียวดายแบบนี้
"ป้าชักอยากจะเห็นหน้าเธอแล้วสิ คงจะสวยและน่ารักมาก ถึงทำให้คุณเอเดนของป้าอยากมีลูกกับเธอได้ แต่ป้าก็ยังคงแปลกใจอยู่ดี เพิ่งรู้จักเธอเพียงแค่คืนเดียว อะไรทำให้คุณมั่นใจ ถึงขนาดยอมใจอ่อนให้เธอเป็นแม่ของลูกได้"
เนื่องจากป้าจันทร์ทราบดีว่าผู้ชายอย่างเอเดนนั้น ไม่ชอบเด็ก เพราะชายหนุ่มเกลียดความรู้สึกตอนเป็นเด็กมาก ตั้งแต่มารดาทิ้งเขาไปอยู่กับชายชู้ ผู้เป็นบิดาก็เมามายทุกวันทิ้งเขาไว้กับป้าจันทร์จนเติบใหญ่ แม้แต่พราวเอเดนยังไม่เคยมีความคิดที่จะมีลูกกับเธอ แต่เขากลับอยากมีลูกกับพลอยชมพู หญิงสาวที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบปี
"เธออยู่ที่บ้านหลังนี้ยังไงป้าก็เจอได้เจอกับพลอยชมพูแน่ ผมหิวแล้วไปทานมื้อเช้ากันเถอะ ป้าให้เด็กขึ้นไปเรียกพลอยชมพูมาทานมื้อเช้าด้วยกันสิ ทำไมยังไม่ตื่น มาวันแรกก็นอนกินบ้านกินเมืองซะแล้ว"
"หิวแล้วก็ลุกสิคะ ป่านนี้มะลิคงเตรียมมื้อเช้าเสร็จแล้ว เดี๋ยวป้าจะเรียกเธอให้ไปตามคุณพลอยชมพูมาทานมื้อเช้าด้วยกัน วันนี้คุณไม่ออกไปไหนเหรอคะ" ป้าจันทร์ได้เอ่ยถามชายหนุ่มออกไป เพราะปกติแล้วเขาไม่ค่อยอยู่บ้าน ส่วนมากเขาจะรับประทานแค่มื้อเช้าจากนั้นก็กลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ ทุกคืน
"วันนี้ผมคิดว่าจะพาพลอยชมพูไปซื้อชุด แล้วก็ของใช้ส่วนตัว ตอนบ่ายถึงจะเข้าบริษัท" เขาหมายถึงบริษัทส่งออกเครื่องประดับ
"โอเคค่ะ มะลิขึ้นไปเรียกคุณพลอยชมพูมาทานมื้อเช้าสิ"
เมื่อป้าจันทร์และเอเดนนั่งลงที่โต๊ะอาหารเรียบร้อย หญิงสูงวัยจึงเอ่ยขึ้น ซึ่งปกติแล้วนางก็จะรับประทานอาหารร่วมกับเอเดนเป็นประจำ จะมีก็แค่ช่วงระยะเวลาที่พราวมาอยู่ที่นี่ หล่อนไม่ยินดีที่จะให้ป้าจันทร์ร่วมโต๊ะด้วย แม้ว่าหญิงสาวจะไม่พูดตรง ๆ หญิงสูงวัยก็เลือกที่จะเลี่ยงไปรับประทานคนเดียว เพื่อไม่ให้เอเดนลำบากใจ แต่หลังจากที่พราวออกจากบ้านหลังนี้ไป เอเดนก็ขอร้องให้ป้าจันทร์ทานข้าวกับเขาทุกวัน เพราะนางเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว ซึ่งเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ที่เขาหลงเหลืออยู่ในชีวิต
"คุณพลอยชมพู ผู้หญิงสวย ๆ น่ารักผิวขาวแถมยังพูดจาไพเราะ เธอทานมื้อเช้าในครัวเรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ที่สำคัญอาหารพวกนี้เธอก็เป็นคนทำมะลิแค่เป็นลูกมือให้เท่านั้น"
"อะไรนะ! ..." เอเดนถึงกับอุทานออกมา ในขณะที่ป้าจันทร์เองก็ทำหน้าแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าพลอยชมพูจะเป็นคนลงมือทำอาหารเช้าเอง ทั้งป้าจันทร์และเอเดนต่างก็เชื่อว่าผู้หญิงหลายคน ถ้าได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ในฐานะผู้หญิงของเอเดน พวกหล่อนคงนั่งทำหน้าเชิดเป็นนางพญาแล้วชี้นี้สั่งทุกคนในบ้าน เพื่อทำโน่นนี่นั่นให้กับเธอ แต่พลอยชมพูหญิงสาววัยสิบเก้า กลับทำให้เอเดนกำลังประทับใจในตัวของเธอ
"รสชาติจะเป็นยังไง กินได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังไงเธอก็ไม่ควรทานมื้อเช้าก่อนเจ้าของบ้าน ผมทานเสร็จคงต้องขึ้นไปอบรมเธอสักหน่อยแล้ว" เอเดนพูดพร้อมกับตักข้าวต้มขึ้นมาเป่า ก่อนจะค่อย ๆ บรรจง ชิมรสชาติที่แสนอร่อย ชายหนุ่มชิมไปแค่คำเดียวก็ทำให้เขาถึงกับแอบยกยิ้มที่มุมปาก
"ข้าวต้มทรงเครื่อง อร่อยมากเลยนะคะ ฝีมือทำอาหารของคุณพลอยชมพูไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แถมยังทำตัวน่ารักด้วย มาวันแรกก็เข้าครัว ผู้หญิงแบบนี้แหละที่ป้าชอบ รีบมีตัวเล็กเร็ว ๆ นะ"
แค่ก! แค่ก! แค่ก! คำพูดของป้าจันทร์ทำให้เอเดน ถึงกับสำลักที่เขาบอกจะมีลูกกับพลอยชมพูก่อนสิ้นปี ก็อีกตั้งหลายเดือน ไม่ใช่ตอนนี้สักหน่อย
"ป้าจันทร์อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ได้ไหมครับ ผมขอทานมื้อเช้าให้มันอร่อยหน่อย ที่ผมบอกจะมีลูกกับเธอ ผมอาจเปลี่ยนใจก็ได้ใครจะไปรู้" ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายประโยคเอาไว้ ด้วยความรู้สึกที่ลังเลใจ ซึ่งผิดกับที่เขาพูดกับหญิงสูงวัยในห้องนั่งเล่น นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าเอเดนยังไม่ได้ฟันธงหรือตัดสินใจ อยากจะมีลูกดั่งที่เขารับปากกับป้าจันทร์เอาไว้