บ่ายวันต่อมา เอวางัวเงียตื่นขึ้นด้วยร่างกายที่แทบกระดุกกระดิกไม่ได้ ตากลมปรือขึ้นมองไปรอบๆเพื่อหาอีกคนที่คิดว่าเขายังอยู่ แต่มันกับว่างเปล่า
“เฮ้อ....ฮึกๆๆ ฮือๆๆๆ ฮือๆ”
พอรู้แล้วว่าตอนนี้ทั้งห้องมีเพียงแต่เธอ หญิงสาวถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้นเอาไว้ ตอนนี้เธอสูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปหมดแล้ว แม้กระทั่งความภูมิใจสุดท้ายก็หมดไปแล้ว เอวานอนร้องไห้จนกระทั่งบ่ายแก่ ก็พยุงร่างลุกขึ้นอาบน้ำอาบท่าเพื่อกลับไปยังที่ของเธอ หญิงสาวเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหลังอาบน้ำเสร็จเพราะเสื้อผ้าของเธอนั้นไม่สามารถใส่ต่อได้แล้วพบว่ามีหลายชุดให้เธอได้ยืมเอาไปใส่ก่อน หลังจากแต่งตัวเสร็จเธอก็เดินไปเก็บกระเป๋าและโทรศัพท์ก่อนจะพบว่าหน้าจอกำลังโชว์จำนวนเงินที่ถูกโอนเข้าและพบว่ามันมากกว่าที่ตกลงเอาไว้ถึงเท่าตัว ก่อนจะนึกไปถึงที่เขาบอกว่าจะเพิ่มให้ ลมหายใจหนักหน่วงก็ถูกปล่อยออกมา ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกดีใจกับเงินที่ได้มาเลยสักนิดทั้งๆที่มันสามารถปลดหนี้แถมยังเหลือไว้ใช้ได้อีกหลายปีเลยถ้าเธอใช้ให้ดีๆ
“จบสิ้นสักทีนะเอวา”
เธอพูดกับตัวเองอย่างพยายามให้กำลังใจ ต่อจากนี้ขอให้มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต ก่อนจะออกไปจากห้องที่ในชีวิตนี้เธอคงไม่กลับมาเยือนมันอีกแน่นอน
“เรียบร้อยแล้วครับนาย เธอกลับไปแล้ว”
เสียงทามเอ่ยรายงาน เมื่อบัสเตียนให้เขาส่งคนไปดูว่าหญิงสาวออกไปแล้วหรือยัง
“อืม ออกไปได้แล้ว”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนจะวางปากกาในมือลงอย่างเหน็ดเหนื่อย เมื่อคืนเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องการและตักตวงเอาจากเธอไม่หยุดไม่หย่อนขนาดนั้น ทุกครั้งที่เสร็จสมเขาก็ลุกเดินออกจากเธอทันทีเหมือนกับทุกครั้งที่เขามีอะไรกับคนอื่น แต่เพียงไม่นานเขาก็เดินกลับมาและร่วมรักกับเธออีกครั้งจนได้ เขาเป็นอย่างนี้ทั้งคืนจนเธอทนไม่ไหว หลับลงไปก่อนนั่งแหละเขาถึงได้หยุด
“เป็นบ้าอะไรของแก...ครูส...”
บัสเตียนเอ่ยขึ้นกับตัวเอง ปกติแล้วเขาจะเรียกตัวเองว่าครูสและคนสนิทมากๆเท่านั้นถึงจะเรียกเขาด้วยชื่อนี้ ซึ่งเป็นชื่อที่มารดาผู้ล่วงลับไปตั้งให้ ชายหนุ่มนั่งตั้งสติอยู่นานก่อนจะกลับมาเริ่มทำงานอีกครั้ง
“เอวา!!! เป็นยังไงบ้าง แกโอเคไหม!”
พอเดินเข้าไปในห้องพักเสียงวิวาราก็ดังขึ้น เมื่อเธอมารอเอวาตั้งแต่เช้าตรู่จนตอนนี้เย็นแล้วเพื่อนของเธอพึ่งจะกลับมา ความเป็นห่วงถูกถ่ายทอดออกมาพร้อมกับเดินเข้ามากอดร่างของเอวาเอาไว้ จากนั้นเอวาก็ปล่อยน้ำตาออกมาอีกรอบ สองสาวกอดกันร้องไห้จนพอใจก่อนจะเดินมานั่งลงข้างกันที่โซฟา
“แก...โอเคไหม”
เป็นวิวาราที่ถามออกมา ตอนนี้เธอรู้สึกสงสารเอวาเป็นที่สุด สูญเสียทุกคนในครอบครัวยังไม่พอต้องมาตามชดใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อถึงขนาดเอาตัวเข้าแลก ถ้าเธอมีเงินก็ดีไปจะได้ช่วยเพื่อนได้ แต่เธอก็ยังต้องขอเงินจากพี่สาวอยู่เลย เลยได้แต่ให้กำลังใจแทน
“อืม...ตอนนี้โอเคแล้ว อย่าไปพูดถึงมันอีกเลยนะ ทุกอย่างให้มันผ่านไปพร้อมกับหนี้สินบ้าๆนี่เถอะ เดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงฉันจะเอาเงินไปใช้หนี้ แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ”
เอวาบอกขึ้น วิวาราพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะมองตามหลังเพื่อนไปเมื่อเอวาเดินไปทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนอย่างหมดแรง เธอขอพักสักชั่วโมงก่อนจะเอาเงินไปใช้หนี้ตามที่นัดไว้
“ขอให้แกเจอแต่สิ่งดีๆนะ...เอวา หวังว่าทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี”
วิวาราที่นั่งมองเพื่อนอย่างแสนสงสารเอ่ยขึ้น เธออดรู้สึกผิดไม่ได้ที่แนะนำเพื่อนให้ไปทำงานแบบนั้น แต่เธอก็ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเอวาอยู่อย่างหวาดระแวงพวกทวงหนี้เหมือนกัน
“เธอเอาเงินไปใช้หนี้จริงๆครับนาย เห็นบอกว่าพ่อแม่ที่ตายไปก่อเอาไว้ พวกเจ้าหนี้เลยมาทวงกับเธอครับ”
ทามเอ่ยรายงานขึ้น เมื่อตอนนี้รถยนต์คันหรูกำลังจอดอยู่หน้าอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ที่พึ่งมีร่างเล็กของหญิงสาวทั้งสองเดินลับหายเข้าไป
บัสเตียนที่เอาแต่นึกถึงคำพูดและท่าทีของเอวาทนไม่ไหวให้ลูกน้องไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเธอมา ก่อนจะได้รู้ว่าที่จริงแล้วเธอเป็นแค่นักศึกษาปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีหนี้ท่วมหัวที่เป็นมรดกตกทอดมาจากบุพการี และตอนนี้ก็โดนทวงหนี้จนต้องยอมเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ก้อนนั้น
“แล้ว...กลับเลยไหมครับ”
“ยัง รอก่อน”
บัสเตียนเอ่ยออกมาพร้อมกับมองจ้องไปที่ประตูทางเข้าอย่างรอคอย ทำเอาทามที่เฝ้าสังเกตได้แต่มองเจ้านายหนุ่มอย่างรู้สึกแปลกใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่บัสเตียนเฝ้าติดตามผู้หญิงชั่วคราวที่จ้างมาปลดปล่อยความต้องการอย่างเอวา ปกติแล้วเจ้านายของตนไม่คิดสนใจใครเลยด้วยซ้ำ ขนาดชื่อยังไม่เคยถามหรือจดจำแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม ถึงขนาดให้ไปหาข้อมูลมาให้ แบบนี้มันผิดปกติชัดๆในความคิดของทาม
ทั้งสองหนุ่มนั่งรอเกือบๆหนึ่งชั่วโมงก่อนสองสาวที่เดินหายเข้าไปจะเดินออกมาหยุดยืนอยู่หน้าอาคารแล้วยกแขนขึ้นกอดกัน
“จบแล้วนะเอวา ต่อไปนี้แกไม่ต้องทนทุกข์กับมันแล้วนะ”
วิวาราเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกดีใจไม่แพ้กัน เมื่อเพื่อนของเธอจะได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กสาวทั่วไปสักที หลังจากเอาแต่ทำงานหนักมาตลอดเพื่อเอาเงินไปใช้หนี้ทั้งส่งตัวเองเรียนอีก
“ขอบใจมากนะ ถ้าไม่มีแกฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยนะวิว”
สองสาวกอดให้กำลังใจซึ่งกันและกันก่อนจะพากันเดินออกจากตรงนั้นไปโดยมีสายตาสองคู่มองตามอย่างไม่วางตา เมื่อเห็นเธอออกมาอย่างปลอดภัยแล้วบัสเตียนก็สั่งให้ทามขับรถกลับบริษัท เรื่องที่คาใจถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว ต่อไปนี้เขาจะได้ไม่ต้องนึกถึงเธอสักที
และพอกลับเข้าบริษัทชายหนุ่มก็ต้องปวดหัวขึ้นมาอีกรอบเมื่อไอรีนมานั่งรออยู่ในห้องทำงานของเขา
“มาแล้วเหรอคะบัสเตียน พอดีไอรีนมาถ่ายแบบที่นี่เลยแวะมาหา ไปไหนมาคะ”
ไอรีนรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปโอบกอดร่างใหญ่ที่เธอหลงใหลและต้องการเหลือเกิน พร้อมกับยกตัวขึ้นหวังได้รับจูบอันแสนหวานจากเขาบ้าง แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อบัสเตียนเบี่ยงหน้าหลบพร้อมกับเดินไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานอย่างไม่คิดสนใจเธอ
“ทำไมคุณทำอย่างนี้กับไอรีนคะ ไหนบอกว่าไอรีนเป็นคนที่จะแต่งงานด้วย”
“ผมไม่เคยพูด และผมก็บอกไปหลายครั้งแล้วว่าผมไม่ได้ตั้งใจ เลิกเอาเรื่องเข้าใจผิดไปทำให้คนอื่นคิดตามสักที ไอรีน”
เสียงกดต่ำบอกขึ้น ก่อนจะแกล้งสนใจงานตรงหน้า ทำเอาไอรีนที่อยากกรีดร้องได้แต่ยืนมองเขาอย่างโกรธเคือง
“แต่ไอรีนรักคุณ และไอรีนจะต้องเอาคุณมาเป็นของไอรีนให้ได้ คอยดูนะคะบัสเตียน!”
พูดจบก็เดินออกจากห้องทำงานของชายหนุ่มไปทันที บัสเตียนวางปากกาในมือลงพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย บางทีเขาก็อยากตัดความสัมพันธ์กับเธอให้ได้เหมือนคนอื่นๆถ้าไม่ติดตรงที่เธอเคยช่วยเหลือเขาเอาไว้ตอนที่เขาลำบากเขาคงทำได้ไปนานแล้ว