“ในห้องนอน กล้าไปหยิบไหม”
สายตาคมของพ่อเลี้ยงหนุ่มอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ต้นขาของเด็กสาวตรงหน้าอีกรอบ และย้ำอีกรอบเพื่อความแน่ใจ
เรียกได้ว่าน้ำลายของหนุ่มวัยกำลังตกมันส์สี่สิบอย่างเขานั้นไหนกรอออกมาเต็มปากไปหมดแล้ว
ทำไมเด็กสาวมันถึงได้น่ากินขึ้นทุกวันแบบนี้ ยิ่งพออายุครบสิบแปดก็ยิ่งน่ากินๆ จนเขาเกือบจะอดใจไม่ไหว
นี่ถ้าไม่ติดว่าเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่เกิด ช่วยจ่ายค่าเทอมไปก็ตั้งหลายหนกว่าจะจบมัธยมปลาย ดูแลมาเหมือนลูกคนหนึ่งแล้วล่ะก็ เกตุแก้วคงเป็นเมียเขาไปตั้งแต่วันที่เธออายุครบสิบแปดไปนานแล้ว หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พยายามอดใจมาตลอดเวลา
“สบายมาก หวังว่าของจะเยอะพอให้เสียเวลานะ”
เกตุแก้วที่ยังคงมีความแก่นแก้วเหมือนเด็กทั่วๆ ไปอยู่มากกว่าคำว่าแตกเนื้อสาวถึงกับยิ้มร่าเมื่อรู้ที่ซุกซ่อนของขนม
เธอนั้นรู้ดีว่าห้องนอนของภูเมฆไปทางไหนด้วยเขาเคยพาขึ้นไปหลายครั้งเพื่อให้ไปช่วยทำความสะอาดห้องนอนแลกค่าขนม
แต่มาระยะหลังที่เธอนั้นเรียนจบแล้วก็เมื่อต้นเดือนก่อนก็ไม่เคยได้เข้าไปอีก เพราะเธอไม่ได้ไปโรงเรียนแล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีค่าขนมติดตัว เลยไม่ได้มาขอเงินเขา
“เดี๋ยวก่อน”
การที่เขาจะให้ของกับใครนั้นไม่ง่ายโดยเฉพาะเด็กสาวที่มีกลิ่นเนื้ออ่อนๆ หอมฉุยแบบนี้
เขาเรียกตัวเธอเอาไว้เพื่อให้เขาได้มองสำรวจเรือนร่างของเธอทั้งตัว เอ๊ย! เพื่อพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนจะให้ของ
เป็นการแลกเปลี่ยนกันเล็กน้อย เพราะเขาไม่เคยให้ของใครฟรีเพราะเงินทุกบาททุกสตางค์นั้นหามายากนัก
“มีอะไรอีก จะรีบหยิบแล้วก็จะรีบกลับ เดี๋ยวยายตื่น”
สองมือบางของเด็กสาวจอมแก่นแก้วถึงกับยกขึ้นเท้าไปที่เอวบางๆ ที่มองก็รู้ว่าคอดกิ่วมากจนเห็นได้ชัดว่าสะโพกนั้นผายออกกว้างกว่าเป็นเท่าตัว
ชักเริ่มไม่พอใจเมื่ออีกฝ่าย หยิกหยักมากท่าเหลือเกินกว่าจะให้ขนมกับเธอ
ครั้งก่อนก็ให้เธอก้มๆ เงยๆ จัดของในบ้านให้เพื่อแลกขนม ครั้งนี้จะอะไรอีกล่ะต้องให้กวาดบ้านทั้งหลังเลยมั้งน่ะ
ไม่คิดเลยคนรวยจะงกแบบนี้ จะให้ขนมที่ซื้อมาจากเศษเงินสักชิ้นต้องมีข้อแลกเปลี่ยนมากมายเหลือเกิน
“พูดจาให้มันดีหน่อย ฉันเคยสอนไปแล้ว หัดจำเสียบ้างสิ”