บนสวรรค์ชั้นฟ้าที่มักจะสงบอยู่เสมอ แต่ยามนี้กลับเกิดเรื่องราววุ่นๆขึ้นเมื่อองค์ชายน้อยผู้เป็นบุตรบุญธรรมวัยห้าพันปี ขององค์เง็กเซียนผู้เป็นใหญ่กว่าผู้ใด ได้เล่นซนจนเผลอไปเด็ดเอาหน่อของต้นท้อสวรรค์ ที่กำลังจะแตกหน่อและผุดขึ้นมาจนเสียหายนับร้อยต้น ทำให้เทพผู้ดูแลสวนท้อสวรรค์ ต้องเข้ามาฟ้องร้องเอาผิดต่อองค์ชายน้อยผู้นี้ ที่ทำให้เขาถูกเหล่าเทพชั้นผู้ใหญ่ลงโทษที่ดูแลต้นท้อไม่ดี ยามนี้เหล่าเทพทั้งหลายจึงพากันมารวมตัวกันอยู่ที่ท้องพระโรงใหญ่ในตำหนักฟ้าประทาน เพื่อร่วมกันตัดสินโทษแก่องค์ชายน้อย
“ทูลท่านเง็กเซียน องค์ชายน้อยถึงจะยังทรงพระเยาว์แต่ก็ถือว่ามีความผิดจริง จึงจะต้องได้รับการลงโทษนะพะย่ะค่ะ”
“ใช่พะย่ะค่ะ”
“เห็นด้วยพะย่ะค่ะ”
เสียงของเหล่าเทพชั้นผู้ใหญ่ที่เห็นด้วยกับการที่ต้องลงโทษองค์ชายน้อยนั้นดังระงมขึ้นมา จนผู้เป็นใหญ่ที่ถึงจะรักและเมตตาบุตรบุญธรรมของตนมากแค่ไหน แต่กฏก็ต้องเป็นกฏ ดังนั้นพระองค์จึงได้ยกมือขึ้นเป็นสัญญานให้เทพทุกองค์เงียบเสียงลงก่อนจะตรัสขึ้นมา
“เอาล่ะ โทษขององค์ชายน้อยซู่เหิง เเม้จะยังเล็กนักแต่ก็ต้องรับโทษ เราขอตัดสินให้ลงไปเวียนว่ายตายเกิดในภพมนุษย์สามร้อยชาติ เมื่อครบสามร้อยชาติก็ให้กลับคืนสู่ฐานะเดิมได้อีกครั้ง”
“ทูลท่านพ่อ ลูกขอแบ่งร่างลงไปจุติเพื่อทำหน้าที่บิดาในโลกมนุษย์ให้แก่น้องเล็กเองพะย่ะค่ะ ซู่เหิงแม้จะมีอายุขัยเพียงห้าพันปี แต่บารมีที่เขาได้รับมาจากเสด็จลุงนับว่ามากมายเกินกว่าที่จะมีมนุษย์ผู้ใดที่จะรับได้ไหว ดังนั้นลูกขออาสาไปดูแลน้องนะพะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทแห่งสวรรค์ลุกขึ้นประสานมือกล่าวกับผู้เป็นบิดา ครานี้นับว่าอนุชาน้อยๆที่อาภัพของพระองค์ทรงเคราะห์ร้ายนัก จึงได้ถูกเหล่าเทพที่ยังมีอคติต่อบิดาที่แท้จริงของเขาร่วมกันกดดันเช่นนี้ เขาจึงจำเป็นที่จะต้องออกหน้าช่วยเหลือ
“ตามใจเจ้าเถิด ถ้าอย่างนั้นเราก็คงจะต้องหามารดาให้เขาด้วยสินะ เจ้าหมายตาที่จะให้ผู้ใดลงไปจุติเป็นมารดาของเขายังงั้นหรือ” สิ้นรับสั่งของผู้เป็นใหญ่ เหล่าเทพหญิงทั้งหลายรีบพากันก้มหน้าก้มตาหลบหนีกันจ้าละหวั่นด้วยเกรงว่าตนจะเป็นเทพผู้โชคร้ายที่ถูกเลือกให้ลงไปลำบากอยู่ในโลกมนุษย์กับองค์ชายน้อย
“กระหม่อมมีคนผู้นั้นไว้ในใจแล้วพะย่ะค่ะ” เมื่อทรงทอดพระเนตรเห็นนัยน์ตาสีทองขององค์รัชทายาทมีแววเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาอย่างบางเบา องค์เง็กเซียนก็ได้แต่ฉงนพระทัยในความคิดของโอรสแห่งพระองค์
“ทูลองค์เง็กเซียน ‘พระพี่เลี้ยง’ขององค์ชายน้อยขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ” เสียงทหารสวรรค์กราบทูลรายงานก่อนจะเบิกผู้ที่มาขอเฝ้าเมื่อได้รับอนุญาต
“หม่อมฉันเหม่ยถิงพระพี่เลี้ยงขอถวายพระพรต่อองค์เง็กเซียน องค์รัชทายาทและองค์เทพชั้นสูงทุกๆท่าน” ร่างบางอรชรอ้อนแอ้นมีใบหน้างามล้ำราวกับภาพวาด ทั้งผิวพรรณยังขาวผ่องเปล่งประกาย บ่งบอกถึงตบะอันบริสุทธิ์ที่ได้บำเพ็ญเพียรจนแก่กล้า ก้าวมาย่อกายถวายความเคารพต่อผู้เป็นใหญ่
“ท่านแม่!” องค์ชายน้อยร้องเรียกหาพระพี่เลี้ยงของตน ก่อนจะวิ่งลงจากพระแท่นที่นั่งอยู่ กระโจนเข้าสู่อ้อมกอดของผู้ที่อุ้มชูตนมาตั้งแต่จำความได้ แต่คำเรียกขานนั้นทำให้เหล่าเทพผู้เคร่งครัดทั้งหลายชักสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที
‘หึ!องค์ชายน้อยผู้นี้ช่างไม่รู้ความใดๆเสียเลย ทั้งที่ทรงมีบุญได้เป็นถึงบุตรบุญธรรมของผู้เป็นใหญ่เหนือใครในสวรรค์แท้ๆ กลับมาเรียกขานหญิงรับใช้ผู้หนึ่งเป็นมารดา ช่างน่าหัวร่อยิ่งนัก!’
ไม่ว่าเทพองค์ใดก็มีความคิดเห็นตรงกันเช่นนั้น เพียงแต่ยังไม่มีใครที่จะกล้าพอหัวร่อออกมาจริงๆเสียที
“องค์ชาย ทรงเป็นเช่นไรบ้างเพคะ ให้พี่ดูหน่อยเถิด” ถ้อยคำอ่อนหวานที่ดังออกมาเรียกรอยยิ้มน้อยๆผุดขึ้นมา จากใบหน้าหล่อเหลาของผู้ที่กำลังทอดสายตาจับจ้องตั้งแต่วินาทีที่พระพี่เลี้ยงสาวเยื้องย่างเข้ามา ก่อนจะเลือนหายไป
“ทูลองค์เง็กเซียน ขอทรงอย่าเสียเวลาเลยนะพะย่ะค่ะ เร่งดำเนินการลงโทษเสียเถิด หาไม่แล้วกำลังใจของเทพผู้น้อยที่ถูกรังแกก็คงจะไม่คลายความเจ็บปวดแน่ๆพะย่ะค่ะ” เสียงของเทพแห่งพายุผู้ชื่นชอบการดื่มสุราจากผลท้อเอ่ยขึ้นมาด้วยความหมั่นไส้เมื่อเห็นภาพความรักใคร่ขององค์ชายน้อยและพระพี่เลี้ยงสาว
“ทูลองค์เง็กเซียน เป็นเพราะหม่อมฉันละเลยจึงทำให้องค์ชายน้อยเผลอไปล่วงเกินเทพองค์อื่นเข้า ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอเป็นผู้รับผิดแทน หากโทษทัณฑ์ใดๆที่องค์ชายจะต้องได้รับ ขอให้ลงมาที่หม่อมฉันเถิดนะเพคะ” ครั้งนี้ร่างบางคุกเข่าลงถวายความเคารพผู้เป็นใหญ่อย่างเต็มพิธีอย่างไม่ถือยศถือศักดิ์ใดๆของตนอีก
“ทูลเสด็จพ่อ ถ้าเป็นเช่นนั้นลูกก็ขอเสนอให้เทพธิดาเหม่ยถิงลงไปจุติเป็นมารดาของน้องเล็กด้วยเถิดพะย่ะค่ะ” องค์รัชทายาทรีบกล่าวออกมาราวกับว่าจะทรงรอช่วงจังหวะนี้อยู่นานแล้ว ดังนั้นเมื่อพระบิดาทรงมีพระบัญชาตามที่ทรงร้องขอ พระองค์จึงก้าวออกจากท้องพระโรงในทันที เพื่อที่จะเตรียมแบ่งดวงจิตลงไปจุติ
“แล้วพบกันข้างล่างนะ เหม่ยเหม่ย” ร่างบางหันไปมองพระวรกายแกร่งขององค์รัชทายาทแห่งสวรรค์ก้าวจากไปอย่างสงสัยในคำกล่าวนั้น ก่อนจะละความสนใจเมื่อได้ยินเสียงพูดขึ้นมาอีกครั้งจากเทพแห่งพายุผู้ที่ผูกใจเจ็บกับพวกนางสองพี่น้อง
“กระหม่อมขอเสนอให้ทรงลงทัณฑ์สายฟ้าก่อนที่จะส่งองค์ชายน้อยลงไปจุติพะย่ะค่ะ”