ตอนที่ 3 รอยรักที่เธอฝากไว้

1148 คำ
เสียงนาฬิกาหัวเตียงดังขึ้นในช่วงรุ่งสาง เจ้าของรีบกดปิดชันกายลุกนั่งถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ สะบัดผ้าห่มก้าวเข้าห้องน้ำจัดการธุระส่วนตัว วันนี้เธอมีถ่ายแบบริมทะเล เลยต้องรีบไปเพื่อให้ทันแสงแดด จัดการสวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาวสวมแว่นตาพรางใบหน้า หยิบกระเป๋าสะพายเปิดประตูก้าวลงบันไดอย่างรวดเร็ว ดารณีชำเลืองมองบุตรสาว เห็นท่าทีรีบร้อนอยากให้ทานอาหารเช้าเสียก่อน เพราะลูกไม่เคยทานอะไรตรงเวลากลัวจะไม่สบายเสียก่อน “กั้งมากินข้าวก่อนไหมลูก”ดารณีถามบุตรสาว ขณะที่กังสดาลกำลังเดินลงมาจากชั้นบน “คงไม่ทันแล้วค่ะแม่ กั้งไปก่อนนะคะ”เธอบอกแม่เร่งฝีเท้าเปิดประตูออกจากรั้วบ้าน กรกาญจ์ชะเง้อมองพี่สาวผ่านหน้าต่างห้องนอน ความจริงอยากเดินทางออกไปพร้อมกัน แต่เธอตื่นไม่ทันเพราะเมื่อคืนกลับค่อนข้างดึก ลงจากชั้นล่างเพื่อเดินทางไปมหาวิทยาลัย วันนี้มีกีฬาสียกเรียวแขนดูนาฬิกาข้อมือเกือบหกโมงแล้ว “แม่คะ กุ้งไปก่อนนะคะ”กรกาญจ์บอกมารดาขณะใส่รองเท้าอยู่หน้าบ้าน “ไม่กินข้าวก่อนเหรอลูก” “ไม่ทันแล้วค่ะแม่ เดี๋ยววันนี้หนูกลับมากินนะคะ”เข้าไปหอมแก้มมารดาหนึ่งฟอด ก่อนสาวเท้าเดินเปิดประตูออกนอกรั้วบ้าน ถึงมหาวิทยาลัยเจ็ดโมงเพื่อนนักศึกษารีบพาดรัมเมเยอร์ไปแต่งหน้าทันที ได้ยินเสียบ่นเรื่องมาสายกันเสียยกใหญ่ เร่งมือกันพักหนึ่งจึงเสร็จเรียบร้อย เจ้าของร่างบางลุกยืนหันกายมาทางเพื่อน ทุกคนจ้องมองแววตาเป็นประกาย “กุ้งสวยมากเลย”ปันนายิ้มไม่หุบ “ไม่ต้องมาชมเลย เห็นว่าปีนี้ใกล้จบแล้วถึงได้ยอมหรอกนะ” “จ้าๆ”ปันนาคล้องแขนรีบประจบ เดินออกมาจากห้องแต่งตัวมองดูนักศึกษาชั้นปีหนึ่งที่ทำหน้าที่กองเชียร์บนสแตนด์ ก่อนเห็นชัยวัฒน์กวักมือเรียกเพื่อให้ดรัมเมเยอร์สาวเตรียมทำหน้าที่ “ไปกันเถอะกุ้ง ขบวนตั้งแล้ว” สองสาวเร่งฝีเท้าเพื่อเตรียมเข้าขบวน เพราะชุดที่ใส่ทำให้กรกาญจ์เสียความมั่นใจ กระโปรงก็สั้นรองเท้าสูงเสียอีก เลยทำให้ลำบากต่อการเคลื่อนที่ทางเท้าแตกหักทำให้สะดุดจนร่างบางเซ “ว้าย!”หลับตาร้องด้วยความตกใจ แต่ร่างกายกลับไม่ได้กระแทกพื้น ลืมตาขึ้นเห็นสายตาคู่หนึ่งมองมา ใบหน้าเรียวคม ดวงตาคมกริบ ริมฝีปากแดง จมูกโด่งเป็นสัน ทุกสัดส่วนบนใบหน้าสร้างดึงดูดความสนใจเพศตรงข้ามได้อย่างดี แววตากรุ่มกริ่มกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำให้คนเผลอตัว รีบดันกายออกห่าง แต่กลับถูกกอดรัดไว้แน่นเหมือนต้องการแกล้ง ไอ้หมอนี่เธอรู้จักดีเพราะเป็นเดือนคณะปีเดียวกับเธอ “ปล่อยนะนายเต!”หญิงสาวบอกเสียงดุ เตชิษฎ์มองหน้าสาวดาวมหาลัย ยิ้มยั่วกวาดสายตาดู ไม่อยากเชื่อว่ากรกาญจ์จะยอมเป็นดรัมเมเยอร์ให้สีเขียว น่าแปลก “คิดว่าฉันอยากจะจับเธอเหรอ!”เตชิษฎ์ย้อนเสียงแข็งแล้วปล่อยร่างบางเป็นอิสระ ใบหน้าเรียวสวยงอลง รู้สึกหมั้นไส้ ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้าโดนหมอนี่หาเรื่องตลอด ตกลงจงใจจะประกาศสงครามกันใช่ไหม ปันนามองดูสองคนด้วยความอยากรู้ท่าทางราวกับคู่รักทะเลาะกันก็ไม่ปาน “ไปเถอะปัน ฉันไม่อยากโดนหมากัด!”จับข้อมือปันนาเดินห่างออกมา เตชิษฏ์หันมองตามแผ่นหลังอมยิ้มเล็กๆ ใช่... เธอสวย น่ารัก จนเขาแทบอดใจไม่ไหวถือว่าวันนี้ได้กำไร ยังจำสัมผัสเมื่อครู่ไม่จาง ร่างนุ่มนิ่มสีหน้าไม่พอใจ หัวใจพาลเต้นตึกตักไม่หาย “โห! วันนี้กุ้งสวยเป็นบ้าเลยว่ะ”เพื่อนในกลุ่มตบไหล่เตชิษฏ์มองตามสาวเจ้าดวงตาทอประกาย “ไม่เห็นจะสวย เหมือนจับกระดานมาแต่งตัว!”เตชิษฎ์แย้งด้วยความหงุดหงิด ไม่ชอบเลยเวลากรกาญจ์ถูกผู้ชายคนอื่นชื่นชมแบบนี้ นักศึกษาตั้งขบวนพาเหรดแปดโมงครึ่งวงดุริยางค์มหาวิทยาลัยเริ่มบรรเลง ดรัมเมเยอร์แต่ละสีทำหน้าที่ตนเอง กรกาญจ์ใช้การฝึกฝนในหลายวันจดจำท่าทางและพยายามทำให้ดีที่สุด จบการเดินเพื่อนและบรรดานักศึกษาจากคณะอื่นต่างพากันมาขอถ่ายรูป แม้เธอจะเหนื่อยก็จำต้องฉีกยิ้มจนเมื่อย จบการแข่งขันร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ปันนาหยิบน้ำผลไม้ส่งให้เพื่อนเพื่อคลายความร้อน วันนี้เพื่อนเป็นดาวเด่นที่สุดในงานเลยทีเดียว “ขอบใจนะปัน” “จ้า” “กุ้งวันนี้กลุ่มเราจะไปเลี้ยงกันที่ผับแกไปไหม ไปฉลองด้วยกัน”ปันนาชวน “ไม่หรอก ฉันไม่ชอบเสียงดัง”ส่ายศีรษะ อีกอย่างเธอเหนื่อยมากแล้วด้วย “งั้นก็ไม่เป็นไร ถ้ากุ้งไม่อยากไป” ปันนามองเพื่อนตาละห้อย อยากไปมากแต่เพราะสังขารไม่อำนวย จะพึ่งพาใครก็เกรงใจไม่ได้สนิทสนมเหมือนกรกาญจ์สักคน “เป็นอะไรหรือเปล่าปัน มองหน้ากุ้งแบบนี้ บอกตรงๆ เลยก็ได้นะ?”คิ้วขมวด “กุ้งไปเป็นเพื่อนหน่อยไม่ได้เหรอ ปันอยากไปแต่ว่าขาเจ็บน่ะ ไม่กล้าจะขอร้องให้คนอื่นช่วยมีแต่กุ้งนี่แหละที่ปันสนิทใจที่สุด”บอกตามจริงหลุบตามองพื้น เมื่อถูกขอร้องกรกาญจ์ถอนใจเฮือกใหญ่ รู้ดีว่าปันนาชอบเที่ยวผับแค่ไหน เพราะเคยชวนเธอหลายครั้ง ภายนอกเพื่อนคนนี้ดูเปรี้ยวๆ แรงๆ แต่สำหรับเธอแล้วปันนาพูดตรงและจริงใจที่สุด ในเมื่อเป็นงานเลี้ยงส่งท้ายคงต้องไปสักครั้ง “ก็ได้ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ” ย่านทองหล่อสถานที่ตังผับยอดนิยมของนักท่องราตรี กระจกสีดำด้านนอกกับการ์ดยืนเฝ้าหน้าประตูเพื่อตรวจสอบอายุของผู้เข้า นักศึกษากลุ่มเพื่อนพากันเดินไปหยุดยืนหน้าร้าน การ์ดใช้มือกันเพื่อตรวจบัตรทุกคนผ่านเข้ามาได้ พนักงานจัดเตรียมที่นั่งให้ แสงสีด้านในกับเสียงเพลงดังก้องจนคุยแทบไม่ได้ยินเสียงกันสร้างความรำคาญให้กรกาญจ์จนแทบอยากจะลุกหนีเสียเดี๋ยวนี้ แต่เพราะเพื่อนตัวดีดันมีความสุขเสียเหลือเกิน น้ำสีอำพันถูกวางตามด้วยน้ำแข็งโซดา กรกาญจ์คิ้วขมวดมองหน้าเพื่อนชายในกลุ่ม เธอไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็ยังดีที่พวกมันพาแฟนตัวเองมาด้วย ไม่อย่างนั้นหากเมาขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ชัยวัฒน์ชำเลืองมองใบหน้ากรกาญจ์ดรัมเมเยอร์คนสวยทำให้สีเขียวชนะขบวนพาเหรด “เป็นไรอะกุ้ง เบื่อเหรอ”ชัยวัฒน์เลิ่กคิ้วถาม “อืม มันหนวกหูน่ะ กินหมูกระทะยังจะดีกว่าเลย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม