ตอนที่ 3 เฟรนด์ลี่
รถเก๋งสีดำคันใหญ่ที่คุณเพชรกล้าซื้อให้ฉันขับและบอกว่าเป็นรถประจำตำแหน่งถูกจอดที่บริเวณที่ตั้งของกองถ่ายก่อนเวลา 11 โมงเช้าอย่างฉิวเฉียด ฉันได้แต่ถอนหายใจโล่งอกออกมายาว ๆ ก็ผู้กำกับเรื่องนี้ขึ้นชื่อว่าดุและตรงเวลามาก หากสายแม้แต่นิดเดียวละก็ ชีิวิตของฉันคงจะมืดมนไปอีกหลายวัน
"คุณเพชรกล้า มาแล้วเหรอคะ ตรงเวลาเหมือนเดิมเลยนะคะ มาค่ะ มาแต่งหน้าทำผมตรงนี้ค่ะ"
เสียงช่างแต่งหน้าทำผมประจำกองพูดกับพ่อดาราเบอร์หนึ่งตั้งแต่ยังไม่ก้าวขาลงจากรถดีด้วยซ้ำ ตรงเวลางั้นเหรอ ฉันนี่คนที่ตรงเวลา ไม่ใช่อิตาคุณเพชรกล้านั่น
"วันนี้ก็รบกวนด้วยนะครับ แต่งให้หล่อ ๆ เหมือนเดิมนะครับ"
"อย่างคุณเพชรกล้า ไม่ต้องแต่งก็หล่อค่า"
แหม..ถนัดนักล่ะไอ้เรื่องโปรยเสน่ห์ใส่สาวแท้สาวเทียมเนี่ย
ฉันออกมานั่งรอคุณเพชรกล้าที่โต๊ะม้านั่งที่ทางกองจัดไว้ให้ วันนี้ฉันจะต้องอยู่เฝ้าเขาจนกว่าจะถ่ายทำฉากของวันนี้เสร็จ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพระเอกสุดหล่อจะหนีกลับกลางคันอีก ฉันล่ะไม่่แน่ใจว่าเขาใช้ชีวิตอยู่ในวงการบันเทิงมานานขนาดนี้ได้ยังไง เขาหล่่อน่ะใช่ การแสดงก็สมบทบาทอันนี้ก็ไม่เถียง โดยเฉพาะฉากเลิฟซีนที่เป็นบทถนัดที่สุด แต่ไอ้นิสัยส่วนตัวที่โคตรจะเอาแต่ใจนี่สิ
"เจ้าขา เป็นไงบ้าง เฮียหล่อรึยัง"
ร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเดินมายืนอยู่ข้างหน้าฉันหมุนตัวไปมาพร้อมกับถามขึ้นมาเบา ๆ แค่พอได้ยินกันสองคน
"ก็เหมือนเดิม ทุกวันก็หน้าแบบนี้ไม่ใช่รึไงคะคุณเพชกล้า"
คำตอบของฉันทำเอาเขาหน้ายู่ลงเล็กน้อย
"เจ้าขา จะชมเฮียสักครั้งไม่ได้รึไงคะ"
"คนชมเยอะแล้ว รับฟังความจริงบ้างก็ดีนะคะคุณเพชรกล้า"
พอได้ฟังคำตอบของฉันเสร็จคนตัวโตก็ยิ่งทำหน้ายู่เข้าไปใหญ่ก่อนที่จะเดินไปเข้าฉากที่ทีมงานและนางเอกสุดสวยรออยู่ แต่ก็ยังไม่วายหันมาทำหน้าเง้างอนใส่ฉันอีกครั้ง เฮ้อ..นี่เขาอายุ 28 ปีจริงรึเปล่าเนี่ย
////////
เมื่อผู้กำกับสั่งแอคชั่น ดารามากฝีมืออย่างเพชรกล้าก็เริ่มเล่นตามบททันที ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นฉากที่พระนางต้องเข้าด้ายเข้าเข็มและนางเอกที่เล่นคู่กันจะเป็นมือใหม่ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเพราะเพชรกล้าสามารถดึงอารมณ์ของนักแสดงที่กำลังแสดงร่วมกันได้เป็นอย่างดี
"คัท!! พัก 20 นาทีครับ"
เสียงผู้กำกับสั่งคัท และให้ทีมงานทุกคนพักได้เมื่อฉากแรกของวันถ่ายทำเสร็จภายในเทคเดียวเท่านั้น
"เฮียเก่งใช่มั้ย ดูสิเทคเดียวผ่านเลย"
เมื่อผู้กำกับสั่งให้พักได้คุณเพชรกล้าก็เดินมานั่งลงข้าง ๆ ฉัน แล้วก็ถามคำถามแบบเดิมทุกวัน
"ฉันไม่รู้หรอกค่ะ คุณเพชรกล้าอยากจะรู้ก็ไปถามผู้กำกับนู่น"
ฉันตอบออกไปตามความจริง จริง ๆ แล้วก่อนหน้าที่ฉันจะมาเป็นผู้จัดการของเขา ฉันเป็นสแตนอินมาก่อน แต่ดันมีเหตุการณ์ฉุกละหุกขึ้นมา ทำให้จับพลัดจับผลูต้องกลายมาเป็นผู้จัดการของเขาไปโดยปริยาย
"พี่เพชรกล้าขา ฟีฟ่าขอนั่งตรงนี้ด้วยได้มั้ยคะ พอดีฟีฟ่าอยากจะถามเรื่องบทหน่อยค่ะ"
เสียงจากน้องฟีฟ่านางเอกหน้าใหม่พูดขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ พระเอกที่เล่นคู่เธอโดยไม่ต้องรอคำอนุญาต ตามจริงเวลาพักแบบนี้คุณเพชรกล้าไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย แต่สำหรับแม่นางเอกที่ทำเหมือนจะไร้เดียงสาคนนี้พึ่งจะร่วมงานกันครั้งแรกก็เลยคงยังไม่รู้
"เอ่อ ได้สิครับ เชิญครับ"
ก็นั่งลงไปแล้วจะทำไงได้ พ่อพระเอกสุดหล่อก็เลยได้แต่ตามน้ำไป แต่สายตาที่กำลังมองยัยน้องฟีฟ่าอะไรนั่น แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
"พี่เพชรกล้าเก่งจังเลยนะคะ ช่วยดึงอารมณ์ของฟีฟ่าได้มากเลยล่ะค่ะ"
แหม..ยัยนี่ก็อีกคน พูดกับผู้ชายละเสียง 2 เสียง 3 เมื่อกี้ฉันเห็นคุยกับช่างทำผมละทำท่าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อเขา
"เพราะน้องฟีฟ่าสวยขนาดนี้ไงครับ พี่เลยดึงอารมณ์ตัวเองออกมาได้"
นายเทพบุตรนี่ก็ใช่ย่อย เห็นผู้หญิงสวย ๆ หน่อยไม่ได้ ปากหวานซะ ฉันนี่อยากจะกรอกตาให้หมุนสัก 480 องศา
ฉันเขยิบตัวเองให้ออกมานั่งห่างจากสองคนนั้นเพราะไม่อยากฟังเวลาที่คุณเพชรกล้าตะล่อมยัยนางเอกนั่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังได้ยินว่าทั้งสองคนเหมือนจะแลกช่องทางติดต่อกันเรียบร้อย ระหว่างที่คุณเพชรกล้ากับยัยน้องฟีฟ่าคุยกระหนุงกระหนิงกันอยู่ผู้กำกับก็เรียกตัวแม่นางเอกหน้าใหม่ไปเข้าฉากพอดี ทำให้ฉันไม่ต้องทนฟังอะไรเทือกนั้นต่อ
"ทำไมทำหน้าบึ้งขนาดนี้ หึงเฮียเหรอคะ"
เมื่อว่างจากการถูกฉอเลาะก็หันมาพูดจาชวนขนลุกใส่ฉันแทน
"ขอโทษนะคะคุณเพชรกล้า ฉันว่าคุณคงเข้าใจอะไรผิดแล้วล่ะค่ะ ฉันจะไปหึงคุณทำไมคะ เราเป็นแค่เจ้านายกับลูกจ้างกันแค่นั้นนะคะ"
"แต่ถ้าเจ้าขาอยากจะเป็นมากกว่านั้นเฮียก็ยินดีมากเลยนะ เฮียพร้อมสำหรับเจ้าขาเสมอ"
ฉันล่ะอยากจะจับเขาทุ่มซะตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด คนอะไรหลงตัวเองเป็นที่หนึ่ง คิดว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกใบนี้จะต้องหลงชอบตัวเองหมดทุกคนเลยรึไง นี่ถ้าไม่ติดว่าเซ็นสัญญาไปสามปีฉันจะลาออกซะวันนี้พรุ่งนี้เลย
"เพลา ๆ ลงบ้างเถอะค่ะคุณเพชรกล้าเรื่องผู้หญิงน่ะ อย่าเจ้าชู้ให้มันมากนัก ฉันเหนื่อยเวลาที่ต้องวิ่งจัดการเรื่องผู้หญิงให้คุณแล้วนะคะ แล้วแต่ละคนก็ฤทธิ์เยอะกันทั้งนั้น"
ฉันบ่นออกไปตามความรู้สึกจริง ๆ ก็เขาน่ะหิ้วผู้หญิงแทบไม่ซ้ำหน้าในแต่ละครั้ง บางคนไม่เรื่องมากก็จบแค่บนเตียง แต่บางคนนี่สิ ตามติดเป็นเจ้ากรรมนายเวรเลยก็มี ลำบากฉันที่ต้องไปพูดไปจัดการให้
"แบบเฮียเขาไม่เรียกเจ้าชู้สักหน่อย เขาเรียกว่าเฟรนด์ลี่ต่างหากล่ะคะ"
นี่ก็ลอยหน้าลอยตาพูดได้หน้าตาเฉย ฉันก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะไม่ปวดหัวตายไปก่อนครบสัญญาสามปีรึเปล่า
////////
ตื้ด ตื้ด ตื้ด!! หลังจากถ่ายทำฉากสุดท้ายเสร็จโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น
/ว่าไงครับเฮีย คิดถึงผมเหรอครับ/
ผมกรอกเสียงไปตามสายเมื่อเห็นชื่อคนที่โทรมาเป็นเฮียรชา
/คืนนี้ว่างรึเปล่า มากินเหล้าด้วยกันหน่อยสิ/
/ว่างครับเฮีย ผมเสร็จงานพอดี เดี๋ยวให้เจ้าขาไปส่ง แล้วเจอกันครับ/
ผมวางสายเสร็จก็หันไปยิ้มให้กับผู้จัดการคนสวยที่กำลังยืนจ้องหน้าผมอยู่
"เจ้าขา ไปส่งเฮียที่คลับนะ เดี๋ยวขากลับเฮียเรียกให้ลูกน้องมารับกลับบ้านเอง"
ผมพูดกับเจ้าขาเมื่อรถออกตัวมาได้สักพัก ได้ยินแบบนั้นคนตัวเล็กที่ทำหน้าที่คนขับก็เหยียบคันเร่งเร็วขึ้นจนทำเอาผมแทบหงาย
"พรุ่งนี้มีงานตอนเช้า ฉันจะเข้าไปรับคุณเวลาเดิม กรุณาตรงต่อเวลาด้วยนะคะคุณเพชรกล้า"
น้ำเสียงราบเรียบจนน่าขนลุกพูดขึ้นระหว่างที่สายตาก็จดจ่ออยู่บนท้องถนน ส่วนผมก็ได้แค่รับปากแต่โดยดี ส่วนจะทำได้มั้ยนั้น..ก็อีกเรื่องหนึ่ง
/////////