10

1573 คำ
“มาเร็วอาหมอ คุณตารออยู่ โอ๊ย...” พูดไม่ทันจบประโยค เด็กน้อยก็กลิ้งหลุนๆลงไปตามขั้นบันใดโดยมีเสียงหญิงสาวร้องอย่างตกใจ “น้องจ๋า!” อาจารีตกบันไดลงมาห้าขึ้นร่างนั้นหยุดนิ่งตรงชานพัก หญิงสาวพยายามเรียกแต่เด็กหญิงกลับไม่รู้สึกตัวที่ศีรษะมีแผลและเลือดซึมออกมาเธอจึงห้ามเลือดและให้บิดาช่วยขับรถไปส่งที่โรงพยาบาล ร่างเล็กที่มีเลือดเปรอะเปื้อนตามตัวถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินทันที หญิงสาวร้องไห้ด้วยความตกใจเมื่อก่อนเธอเคยเห็นคนไข้ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลก็มาแต่พอเจอกับตัวเองเธอก็ไม่สามารถคุมสติได้ “เกิดอะไรขึ้นหรือตุ๊ก น้องจ๋าเป็นอะไรอีก” หมอวิวัฒน์ซึ่งอยู่เวรห้องฉุกเฉินพอดีถูกตามตัวมาช่วยเด็กหญิง “แกตกบันไดค่ะ พี่หมอช่วยด้วยนะ ตุ๊กนี่แย่จริงๆ มัวแต่คุยกับแกไม่ทันระวัง” “ใจเย็นๆ สิ ไม่ต้องห่วงหรอกพี่จะดูให้เองไม่ต้องห่วงนะ” “เชื่อมือหมอสิตุ๊ก พี่หมอจะดูแลน้องจ๋าเอง” อุมาพรปลอบใจเพื่อนสนิท ในขณะที่หมอวิวัฒน์ทำการดูแลเด็กหญิงอยู่ ครูต่อมาคุณหมอก็เดินออกมา “เป็นยังไงบ้างคะพี่หมอ” “ยังไม่ค่อยดี คงต้องให้ส่วนประกอบของเลือดจะขอดูผลเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองอีกครั้ง ผมว่าแกอาจต้องผ่าตัดสมอง ควรให้คุณปฏิภาณมาเซ็นยินยอมจะดีกว่า” “ขนาดนั้นเลยหรือคะ” “ใช่อาการที่ตรวจเบื้องต้นรูม่านตาขยายไม่เท่ากันและจากโรคประจำตัวของแก พี่คิดว่าคงมีเลือดในสมอง ซึ่งการผ่าตัดคนไข้ในกรณีนี้มีความเสี่ยงสูงมาก ญาติต้องเป็นคนเซ็นเอง” “ก็ได้ งั้นตุ๊กโทร.หาเขาเอง” หญิงสาวคอยโทรศัพท์อยู่นานกว่าจะมีเสียงตอบรับหลังจากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คนรับโทรศัพท์ฟังคนรับโทรศัพท์คงจะเป็นลูกศิษย์วัดอาสาไปตามปฏิภาณให้มารับสาย “ผมเอง มีอะไรหรือครับตุ๊ก” “คุณโป้งหรือคะ คือว่าตอนนี้น้องจ๋าอยู่โรงพยาบาล”หญิงสาวเล่าเรื่องราวให้เขาฟังอีกคน ชายหนุ่มหน้าเผือดลงเรื่อยๆ มือเย็นเฉียบความรักความห่วงใยทำให้หัวใจเขาหนักอึ้ง ตุลยาคือญาติคนเดียวและเป็นหลานที่เขารักแต่ตอนนี้มัจจุราชจะเอาตัวแกไป “รออยู่ที่นั่นนะตุ๊ก ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” “ใจเย็น ๆ นะคะคุณโป้ง อย่าขับรถเร็วนะคะมันอันตราย” เธอบอกไม่ทันจบเขาก็รีบวางสายไปก่อน เธอภาวนาให้เขาที่ใจร้อนขับรถให้เร็วน้อยกว่ารถไฟเหาะด้วยเถอะ “คุณจะรีบไปไหนหรือ”วิโรจน์ซึ่งเดินตามเข้ามาเอ่ยถามเมื่อเห็นเขารีบหยิบกุญแจรอจากในกระเป๋าออกมา “หลานผมตกบันได ผมต้องรีบเข้ากรุงเทพฯ “แต่คุณยังนั่งสมาธิอยู่นะคุณปฏิภาณ จะไปแบบนี้ได้ไง” “ผมไม่สนแล้ว หลานผมกำลังจะตายได้ยินไหมผมเหลือหลานอยู่คนเดียวแกคือทุกสิ่งทุกอย่างของผมถ้าผมจะกลับเข้าร่างไม่ได้เพราะแบบนี้ผมก็ยอม”วิโรจน์น่าสลด รับรู้ถึงความร้อนรนในน้ำเสียงนั้นเขาเป็นฝ่ายดึงกุญแจไปจากมือชายหนุ่ม “เอามาให้ผมดีกว่า ผมจะไปกับคุณด้วย ขึ้นคุณขับรถไม่รู้ว่าจะถึงหรือเปล่า” “คุณจะไปทำไม” “ผมก็จะไปช่วยเซ็นชื่อให้หลานคุณผ่าตัดไง หรือคุณคิดว่านายวิโรจน์จะเป็นแทนได้คงตลกตายล่ะไปเถอะผมจะขับรถให้ ผมไม่ไว้ใจคุณ” วิโรจน์ที่อยู่ในร่างของปฏิภาณเอ่ยขึ้น เขาเพิ่งนึกได้ หลายวันที่ผ่านมาเขาเพิ่งจะรู้ว่าในชีวิตนี้เขายังมีเพื่อนอีกคน และคนนั้นก็คือวิโรจน์ “ขอบใจนะ ผมจะไม่ลืมบุญคุณเลย” “ไม่ต้องขอบคุณหรอก และไม่ต้องมองผมซึ้ง ๆแบบนั้นด้วย” สองหนุ่มหัวเราะให้กันโดยไม่รู้ว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะมีเรื่องประหลาดรอเขาอยู่บนถนนสองเลนมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ “เร็ว ๆ หน่อยไม่ได้หรือคุณ” “ผมก็ขับเร็วมากแล้ว ใจเย็นหน่อยสิคุณ” “กลัวไหม” “กลัวสิ ผมยังมีห่วง” ปฏิภาณตอบตรงๆ “ผมก็เหมือนกันแต่นึกๆดูแล้วทุกคนต่างก็มีเส้นทางของตัวเอง แต่ละคนย่อมมีกรรมของตัวเอง จริงไหม”ปฏิภาณพยักหน้า “ใช่ ถ้าไม่มีผม น้องจ๋าก็ยังมีคุณตุ๊กแกเป็นเด็กน่ารักเรื่องเงินคงไม่ต้องห่วงเพราะสมบัติผมมีเยอะ ผมว่าคุณค่อย ๆ ขับไปดีกว่า อย่ารีบเลย" วิโรจน์พยักหน้า หันมามองเขาแว่บหนึ่งเห็นว่าสีหน้าของชายหนุ่มสงบขึ้นและตอนที่หันกลับมานั่นเองจู่ๆ ก็มีรถกระบะคันหนึ่งก็แล่นทะยานมาจากอีกฟากของถนน ไฟฟ้าจากรถส่องจ้าเข้าตา ตามด้วยเสียงเบรกยาวเหยียดก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่งลง คำพูดสุดท้ายของหลวงพ่อดังแว่วมา “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา “ป่านนี้คุณปฏิภาณยังมาไม่ถึงอีกหรือ”หมอวิวัฒน์เอ่ยขึ้น “พี่หมอคะไม่ต้องรอแล้วล่ะค่ะรีบพาน้องจ๋าไปผ่าตัดเถอะ ตุ๊กจะรออยู่ข้างนอก” “อย่าห่วงเลยตุ๊ก ผมจะทำอย่างเต็มที่ น้องจ๋าจะต้องไม่เป็นไร” “ขอบคุณค่ะพี่หมอ” หญิงสาวมองตามร่างสูงที่เดินเข้าไปในห้อง แล้วหันไปสบตาบิดา ตรัยดึงลูกสาวมากอดเพื่อปลอบใจ ขณะนั้นเองมีเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นหญิงสาวกดรับสายใบหน้าซีดลงเรื่อยๆ ก่อนน้ำตาจะรินไหลด้วยความตกใจ “มีอะไรหรือตุ๊ก ใครโทรมา” “คุณปฏิภาณค่ะ รถที่คุณปฏิภาณกับคุณวิโรจน์นั่งมาถูกชนค่ะ" ใบหน้าหมอสาวซีดเซียวยิ่งกว่าเก่าหลายเท่าตัว เธอต้องดูแลคนเจ็บถึงสามคน คนแรกคือน้องจ๋า ซึ่งหลังจากได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกอาการก็ดีขึ้นตามลำดับส่วนอีกสองคนมาถูกชนค่ะ” ใบหน้าหมอสาวซีดเซียวยิ่งกว่าเก่าหลายเท่าตัวจากได้รับการผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออกอาการก็ดีขึ้นตามลำดับส่วนอีกสองคน คือปฏิภาณกับวิโรจน์ซึ่งประสบอุบัติเหตุไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นักทั้งคู่ถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาลตามคำขอของวิโรจน์ก่อนที่เขาจะหมดสติไปแต่ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่ฟื้น หญิงสาวให้ทั้งคู่อยู่ห้องเดียวกันเพื่อที่จะได้ดูแลได้อย่างใกล้ชิด ตุลยาไม่ได้กลับบ้านเธอนอนที่โรงพยาบาลและดูแลคนป่วยทั้งสองเป็นอย่างดี บางครั้งก็แวะเวียนไปที่ห้องของเด็กหญิงอาจารีบ้างเธอสบายใจที่น้องจ๋าดีขึ้นจึงกลับมาเฝ้าสองหนุ่มอีกครั้ง “หมอ....ตึก...” เสียงเรียกดังขึ้น เขาสองคนเริ่มรู้สึกตัว เมื่อเห็นร่างคุ้นตาก็ร้องเรียก “พื้นแล้วหรือคะ” “นี่ผมอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น” ดุลยาเดินไปที่เตียงของวิโรจน์ เธอพยักหน้าและยิ้มให้ “อยู่โรงพยาบาลค่ะ คุณสองคนประสบอุบัติเหตุตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ส่วนน้องจ๋าก็ปลอดภัยแล้วเหมือนกัน” ทั้งคู่นิ่งมองหน้ากันสลับไปมาก่อนจะยิ้มสดใส พวกเข่าระเบิดเสียงหัวเราะออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อม ๆ กันราวกับนัดไว้ “ผมขอกระจก” หญิงสาวยิ้มและรู้สึกแปลกใจที่พวกเขาชอบส่องกระจกกัน เมื่อสองหนุ่มได้อยู่กันตามลำพังปฏิภาณก็บอกวิโรจน์ว่า “ผมอยากจะขอความร่วมมือกับคุณสักหน่อยนะ” “เรื่องอะไรอีกล่ะ” “ผมขอปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนอย่าเพิ่งบอกหมอตุ๊กว่าอยู่ในร่างของตัวเองได้แล้ว” “นี่คุณจะลองใจอะไรเธออีกล่ะ เท่าที่ผ่านมาผมว่าเธอรักคุณเหมือนกันนะไม่งั้นไม่อาสาดูแลหลานสาวแล้วยังมานั่งเฝ้าคุณอย่างนี้หรอก” “ผมรู้ ผมเองก็รักเธอเหมือนกัน เถอะน่ะผมก็แค่อยากพิสูจน์เท่านั้นเอง” “เอาเถอะคุณจะทำอะไรก็ทำไป ผมจะกลับไปทำงานต่อล่ะ" “ขอบคุณนะที่ให้ความร่วมมือ" เขายิ้มกับเพื่อนใหม่ที่ร่วมชะตากรรมมาด้วยกัน น้องจ๋ากลับไปอยู่กับอาหนุ่มแล้วทำให้บ้านของตุลยาเงียบไปถนัดเพราะไม่มีเสียงแจ้วๆ ของเด็กหญิงจอมซนนั้นเองส่วนปฏิภาณนั้นเขาเข้าไปสะสานงานในบริษัทมีหลายอย่างที่เขาต้องสะสางให้เรียบร้อย ตลอดเวลาสองเดือนเขาต้องทำงานหนักเอาการธีรพันธ์ช่วยเขาได้มากทีเดียวระหว่างที่เขาป่วย แต่เมื่ออุษณีย์มาหาเขาที่บริษัทหล่อนแกล้งบีบน้ำตาเสมือนว่าดีใจที่เขาหายเสียทีจำประจำเลยค่ะ” “ณีย์นะคะเป็นห่วงคุณแทบแย่ นี่นะคะก็ไปดูแลน้อง “อุษณีย์ ผมว่าคุณเลิกเล่นละครได้แล้ว อย่าต้องให้ผมพูดอะไรให้มากเลยนะ ว่าคุณทำอะไรไว้บ้างระหว่างที่ผมนอนอยู่โรงพยาบาล เชิญคุณออกไปจากบริษัทผมได้แล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม