แฟนเก่า - ข้อแลกเปลี่ยน

1493 คำ
"ก่อนผมจะตัดสินใจ ผมขอพูดคุยกับหัวหน้าทีมทุกทีมเป็นการส่วนตัว" หัวหน้าทีมทั้งสามยืดตัวขึ้น ส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้ผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรง ไม่ว่าลูกค้าต้องการอะไร คนที่หวังว่าจะถูกว่าจ้างย่อมทำให้ได้ทั้งนั้น ต่างจากมนตราที่ทำสีหน้าเหมือนกำลังถูกบังคับให้กินยาขม แค่ต้องมาขายงานให้ 'แฟนเก่า' แค่นี้มันก็กระอักกระอ่วนมากอยู่แล้ว ถ้าถึงขั้นต้องคุยเป็นการส่วนตัวสองต่อสอง... "เชิญทุกคนที่ห้องรับรอง ผมขอคุยกับคุณบีก่อน" หญิงสาวถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอไม่ใช่คนแรกที่ต้องพูดคุยกับชานนท์ มนตราเก็บข้าวของและก้าวออกจากห้องไปพร้อมลูกทีมอีกสามคน "เราจะได้งานนี้ไหมพี่มน" หวาน หนึ่งในลูกทีมถามด้วยความเป็นกังวล งานนี้เป็นงานใหญ่ระดับประเทศ แต่บริษัทใหญ่ยักษ์กลับให้โอกาสบริษัทเล็ก ๆ ได้ขึ้นมาเสนองาน การแข่งขันอันดุเดือดเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว หลายสิบบริษัทถูกคัดออกไปเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงแค่สี่บริษัท และหนึ่งในนั้นคือบริษัทออแกไนซ์เล็ก ๆ ของมนตรา ถ้าจะให้เทียบกับอีกสามบริษัท มันก็เหมือนมดเทียบกับช้าง ถึงจะมั่นใจว่าผลงานตัวเองดีไม่แพ้ใคร แต่ถ้าเทียบเรื่องชื่อเสียงและความเป็นที่รู้จักแล้ว บริษัทของมนตราคงหดขนาดจากมดกลายเป็นแค่ละอองฝุ่น "ถ้าได้ บริษัทเราคงดังระเบิด" "งานก็จะเข้ามาเยอะ ๆ เราจะได้ไม่ว่างแบบนี้" "นั่นสิ ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี บริษัทเล็ก ๆ อย่างเรางานน้อยจนแทบจะต้องตบยุงเล่น อยากทำงานจะแย่" มนตรามองลูกน้องที่พูดคุยกัน เธอเองก็อยากได้งานนี้ ไม่อย่างนั้นคงไม่อดหลับอดนอนเป็นเดือนเพื่อให้ผลงานออกมาดีจนได้กลายเป็นสี่ตัวเลือกสุดท้าย และได้เจอกับบอสใหญ่ที่จะเป็นผู้ชี้ชะตาทุกอย่าง แต่โลกมันกลมเกินไป จู่ ๆ คนที่พยายามหนีมาตลอดห้าปีกลับมาอยู่ตรงหน้า และเป็นคนสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเพียงแค่เอ่ยออกมาคำเดียว มันสำคัญกับทั้งตัวเธอ บริษัท และลูกน้องอีกสามคน ชานนท์ แฟนเก่าสมัยมหาวิทยาลัยที่เลิกรากันไปเมื่อห้าปีก่อน เขาคือคน ๆ นั้น "อย่าเพิ่งคิดมากเลย พี่มนเครียดแล้ว" เสียงของต้นชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวร้องเตือน มนตราหันไปยิ้มให้ลูกน้องทุกคนบาง ๆ ท่าทางเหนื่อยอ่อนของทุกคนทำให้เธอมีแรงฮึดขึ้นมา "พี่จะพยายาม...เอางานนี้มาให้ได้" . . "นั่งลงสิ" เสียงทุ้มสั่งเรียบ ๆ เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ เอาแต่สนใจแฟ้มตรงหน้า งานของมนตราถูกใจเขาที่สุด ที่จริงเขาเลือกได้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ที่ต้องอ้างว่าจะคุยกับหัวหน้าทีมอีกครั้ง เพราะเขาอยากอยู่กับมนตราตามลำพัง "สบายดีไหม" ชานนท์วางแฟ้มงานลง แล้วสบตากับดวงตาเรียวมีเสน่ห์ของอดีตคนรัก "ดิฉันสบายดี แล้วคุณชานนท์อยากพูดคุยอะไรเพิ่มเติมคะ" มนตราตอบอย่างเป็นทางการ เว้นระยะห่างจนชานนท์รู้สึกหงุดหงิดในใจ "พึ่งรู้ว่ามนเปิดบริษัทเอง" แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมละความพยายาม "เก่งมากเลยนะ เหมือนเมื่อก่อนเลย" "รบกวนคุยเรื่องงานด้วยค่ะ" มนตราตัดบท พลางหลบสายตาของอดีตคนรัก หัวใจเธอกำลังเต้นผิดจังหวะ แม้จะพยายามควบคุมแต่ก็ไม่เป็นผล "โอเค คุยเรื่องงานก็เรื่องงาน" ชานนท์ถอนหายใจ เขาพับโครงการชวนมนตราคุยนอกเรื่อง แล้วกลับมาคุยเรื่องงานอย่างจริงจัง "ตัวงานผมชอบของคุณนะ มีกลิ่นอายเก่า ๆ ผสมกับสมัยนิยมอย่างลงตัว คุณดูรู้ตลาดดีว่าสมัยนี้คนชอบอะไรที่มันย้อนยุค ชุดเก่า ๆ บรรยากาศเก่า ๆ แต่มีความทันสมัยปะปนอยู่ งบที่ยื่นมาแม้จะสูงแต่ก็เหมาะสม ของที่ใช้ในงาน หรือรูปแบบก็วางไว้ได้น่าสนใจ ไม่เก่าไปจนคนรุ่นใหม่เข้าไม่ถึง และไม่ใหม่ไปจนคนรุ่นเก่าไม่ชิน รสนิยมของคุณดีมาก" "ขอบคุณค่ะ" แววตาใสเป็นประกาย ความหวังว่างานชิ้นนี้จะถูกเลือกสูงขึ้น ชานนท์ลอบมองสีหน้าอดีตคนรัก เธอดูดีใจและคาดหวัง และเขาเองก็อยากให้เธอสมหวัง แต่ถ้าเธอสมหวังเมื่อไหร่ เธอก็คงตีตัวออกห่างเขาเหมือนห้าปีที่ผ่านมา พยายามหลบหน้า และตัดทุกหนทางที่เราจะติดต่อกันได้ทิ้ง ห้าปี... มันควรพอได้แล้ว ชานนท์เบื่อเกมวิ่งไล่จับแบบนี้เต็มทน วันนี้เขาอาจจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อยื้อเธอไว้ "แต่ผมคงเลือกงานของคุณไม่ได้" "ทำไมคะ" "ผู้ถือหุ้นเขาชอบงานของคุณบีมากกว่า" แววตาสดใสหม่นหมองลงทันที มนตรารู้สึกใจหาย แค่คิดภาพว่าต้องออกไปบอกลูกน้องว่าไม่ได้งานหัวใจเธอก็เจ็บหน่วงไปหมด ทุกคนคาดหวังไว้มาก เธอเองก็เช่นกัน "แต่ผมมีวิธีคุยกับพวกเขานะ" "จริงหรือคะ!?" คล้ายความหวังถูกจุดประกายขึ้นอีกครั้ง มนตราเผลอยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่ชานนท์คิดถึงมาตลอดทำให้หัวใจแกร่งกระตุกวูบ อยากได้รอยยิ้มนี้กลับมา รอยยิ้มที่ทำให้เขาตกหลุมรักผู้หญิงที่ชื่อมนตราซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีเบื่อ "แต่ทุกอย่างมันต้องมีของแลกเปลี่ยน" มนตราหุบยิ้มทันที "หมายความว่ายังไง" "ถ้าคุณยอมตาามใจผม ผมจะเลือกงานของคุณ และให้คุณเป็นคนดูแลทั้งงานนี้ และอีกสองงานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ มากกว่าเงิน คุณจะได้ชื่อเสียงและคอนเนคชั่นมากมาย สนใจไหม?" "ตามใจ?" "อือหึ" ชานนท์ลุกขึ้นยืน เขาเดินอ้อมไปด้านหลังของมนตรา ก่อนจะก้มลงกระซิบข้างหูขาวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "ผมต้องการคุณ" "คุณ!" หญิงสาวผละออกห่าง แต่ไหล่กลับถูกมือใหญ่กดไว้กับที่ "ลองคิดดูให้ดี เราเองก็ใช่คนอื่นไกล" "ฉันไม่เอาตัวแลกงาน!" "ผมรู้ รู้ดีว่ามนของผมมีศักดิ์ศรีมากแค่ไหน" คำว่า 'มนของผม' ทำให้มนตราโกรธยิ่งกว่าเดิม เขาทำให้เธอเสียใจขนาดนั้น ยังมีหน้ามาบอกว่าเธอเป็นของเขาอีก "ลองไม่คิดถึงเรื่องงานสิ คิดแค่ว่าเราแลกเปลี่ยนความสุขให้กัน มันก็วินวินทั้งคู่ไม่ใช่หรือไง" "..." "มนไม่คิดถึงผมเลยหรือ" ชานนท์จงใจปาดจมูกเข้ากับพวงแก้มหอมกรุ่น "แต่นนคิดถึงมนนะ คิดถึงที่สุดเลย" . . มนตราเดินออกมาจากห้องประชุมด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก ลูกน้องทั้งสามคนเห็นแบบนั้นก็ไม่กล้าเซ้าซี้ ต่างก้มหน้ายอมรับว่าชวดงานใหญ่ไปแล้ว แล้วพากันเข้าไปปลอบเจ้านายที่เป็นเหมือนพี่สาวแท้ ๆ "พี่มน ไม่เป็นไรหรอกนะ งานนี้ไม่ได้ก็คงมีสักงานที่เราจะได้" "ใช่ครับ พี่มนเก่งขนาดนี้ สักวันต้องมีคนเห็นถึงความสามารถของพี่" "เดี๋ยววันนี้หนูเลี้ยงข้าวเย็นเอง ปลอบใจที่ไม่ได้งาน" มนตรามองหน้าสองสาวและหนึ่งหนุ่มที่ดูจะกังวลว่าเธอจะเสียใจมากกว่าไม่ได้งานด้วยซ้ำ ทั้งสามคนเป็นยิ่งกว่าลูกน้อง เรียกว่าน้องแท้ ๆ ยังได้ เพราะแบบนี้เธอจึงไม่อยากให้น้อง ๆ ต้องผิดหวัง "ใครบอกว่าเราไม่ได้งาน" "เอ๊ะ?" "หมายความว่ายังไงครับพี่?" มนตรายิ้มกว้าง ก่อนจะรวบน้องทั้งสามคนเข้ามากอดเท่าที่แขนเล็ก ๆ จะกอดไหว "เราได้งานนี้แล้วนะ" "พี่ไม่ได้โกหกใช่ไหม!" "ไม่เลย" "เราได้งานนี้จริง ๆ หรือครับ!" "จริงร้อยเปอร์เซนต์" "ฮืออออออ หนูจะร้องไห้" เสียงเจี้ยวจ้าวเพราะความดีใจดังก้องไปทั้งชั้น ชานนท์ที่เพิ่งออกมาจากห้องประชุมหยุดชะงัก เขาสบตากับอดีตคนรัก ก่อนจะส่งยิ้มไปให้ ทว่าไม่มีรอยยิ้มตอบกลับมา ชานนท์ยักไหล่ ก่อนจะเดินจากไปอีกทาง เขาหยิบมือถือขึ้นมา ค้นหารายชื่อติดต่อที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาใหม่ ก่อนจะส่งข้อความไปสั้น ๆ ว่า "คืนนี้เจอกัน ที่คอนโด xxx" หวังว่ารักเราจะไม่เก่าเกินจะรื้อฟื้นมันขึ้นมา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม