3
1752 คำ
ล่าแต้มโรงบุปผาทองคำ
หลิวลั่วอี้ต้องการให้ได้หนึ่งร้อยแต้มอย่างเร็วไว เพื่อที่นางจะไปจากโรงบุปผาทองคำ ซึ่งภารกิจของนางไม่มีสิ่งใดยุ่งยาก ก็แค่กระโดดขึ้นเตียงปั๋วอ๋องให้ได้เร็วที่สุด จากนั้นทำอย่างไรก็ได้ให้บุรุษผู้เย็นชา เผด็จการ บ้าอำนาจ เสียน้ำอุ่นขาวข้นให้หมดตัว กระทั่งจุดจบฉากสุดท้ายเขาก็คือตายคาอกตูมๆ ของนาง
และเป็นตอนนั้น ที่เห็นว่ามีบุรุษห้าคนที่ผิวขาว เรือนร่างก็สะโอดสะองอยู่สักหน่อย ก้าวออกมา ยืนต่อหน้าพวกนาง ทุกคนมีหน้ากากปิดใบหน้าส่วนปกไว้ เห็นเพียงแค่ดวงตา ส่วนด้านล่างมีผ้าเตี่ยวปกปิดของสงวนไว้ กระนั้นด้วยความเป็นบุรุษทั้งยังมีเรือนกายแตกต่างจากสตรี พวกเขาจึงทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ และใช้กัวซาเล่นซุกซนกับตน ถึงขั้นร้อนอบอ้าวในจุดหวานฉ่ำมากกว่าเดิม
แต่เมื่อพิศพวกเขาให้ดี ก็เกิดเสียงซุบซิบ
“นั่นมันขันทีมิใช่หรือ”
มามาโจวอมยิ้มในสีหน้า ตอบว่า “ถูกต้อง เพราะเป็นพวกที่ตอนแล้ว ถึงจะแก้ผ้าให้พวกเจ้าทุกคนยลโฉม และสำรวจเรือนร่างได้ พวกเขามีทุกอย่างเหมือนบุรุษ เพียงแต่บางส่วน อาจบกพร่องอยู่สักหน่อย”
ดวงตากลมโตของหลิวลั่วอี้จ้องไปยังขันทีผู้หนึ่ง เขานับว่ารูปร่างดี เรือนกายสมส่วน สูงกว่าทุกคน ทั้งมีกล้ามเนื้อชวนให้ใจสั่นได้อยู่มิน้อย ผิดแต่พอคิดว่าใต้ผ้าเตี่ยวผืนบางไร้ขาที่สาม หลิวลั่วอี้ อดใจหายและส่งสารเขามิได้ นางเคยผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน นิยายแนวผู้ชายที่พึงใจเพศเดียวกันก็เคยเขียน แถมยังนำมาแสดงแบบเป็นคลิปลับๆ ให้ได้ดูในช่องทางพิเศษด้วย
ยามนั้น หลิวลั่วอี้ หวนคิดถึงภาพชวนสยิวเพื่อให้นางได้เข้าถึงจุดหวามล้ำ และล่าแต้มในโรงบุปผาทองคำ
แน่นอน นางไม่ต้องการคะแนนหลักหลักสิบ อย่างน้อยการลงแรงในครั้งนี้ ต้องได้สามหลักขึ้นไป
“กัวซาหัวเห็ด แทนเครื่องเคราของบุรุษ ยามนี้ พวกเจ้าจงใช้มันกับกลีบของตน ขณะเดียวกัน ก็เข้ามาทดสอบ ขันทีเหล่านี้ จงหาวิธีทำให้พวกเขา พบความสุขถึงขั้นสุดยอด!” ได้ยินมามาโจว ออกคำสั่ง เหล่าหญิงสาวที่ต่างกำกัวซาไว้ในมือ ต่างหันไปถามไถ่กัน ก่อนหัวเราะเสียงกระซี้กระซิก
“ชายถูกตอน จะมีอารมณ์ได้เช่นไรเจ้าคะ”
ในที่สุดก็มีคนถาม
“ขันทีทั้งห้าคนนี้ เป็นองครักษ์ฝ่ายใน ดังนั้นพวกเขาถูกตอนเพียงครึ่งเดียว และกระทำเมื่ออยู่ในวัยเจริญพันธ์ จึงยังมีความรู้สึกกับสตรีได้บ้าง ขึ้นอยู่กับว่า พวกเจ้าสามารถปลุกเร้าให้พวกเขาตื่นได้หรือไม่!”
ให้ตายเถิด ความท้าทายแสนบ้าบอเกิดขึ้นแล้ว หลิวลั่วอี้คิดอยู่ในใจ พลางหมายตาขันทีหนุ่มที่ดูหน่วยก้านดีที่สุด แขนขายาว หน้าท้องแบนราบ อย่างน้อยๆ การได้ลูบไล้ ฝ่ายนั้นคงพอให้นางได้เกิดความรู้สึกซ่านสยิวใจบ้าง
หลิวลั่วอี้ไม่ได้บุ่มบ่ามเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย นางปล่อยให้สตรีที่เหล่านั้นวี้ดว้าย และลูบไล้เนื้อตัวขันที อย่างพึงพอใจ บางคนก็หอมแก้ม บางคนบีบบั้นท้าย คนที่ทะลึ่งและลามกสักหน่อย ถึงขั้นดูดและเลียน่าอกตั้งชันของขันทีหนุ่ม ยิ่งกว่านั้นสตรีใจกล้าบางคน เลียรักแร้ ขบ ดูดลำคอจนขันทีครางเสียงสูงๆ ต่ำๆ
ภาพเบื้องหน้าที่หลิวลั่วอี้ประจักษ์ต่อสายตา เรียกได้ว่าน่าขันอยู่มิน้อย แต่นางต้องเป็นคนพิเศษกว่าใคร ดังนั้นจึงเลือกขึ้นไปนอนบนตั่งกว้างๆ ซึ่งอยู่กลางโถงโล่ง แล้วใช้กัวซาหัวเห็ดกับเรือนร่างของตนเย้ายั่วขันที เรียกร้องให้พวกเขา คลานเข่าเข้ามาหา
“อ๊ะ อี้ อื้มมม” เรียวลิ้นเล็กๆ เป็นสีชมพู ชกชิม ไล้เลียปลายหัวกัวซา พร้อมส่งเสียงจุ๊บจั๊บ ชวนสยิวใจ
สิ่งที่นางรู้ แม้พวกเขาจะถูกตอนปลายหัวแก่นกาย แต่ยังมีอัณฑะคู่งาม และมันย่อมสามารถสร้างความต้องการขั้นพื้นฐานของผู้ชายได้ หลังจากใช้ลิ้นไล้เลียกัวซาไปสองสามอึดใจ นางก็พามันมาเย้าหยอกกับยอดหน้าอกตน ภาพดังกล่าวราวกับจะหยุดทุกสายตาให้หันมามองหลิวลั่วอี้ โดยเฉพาะขันทีซึ่งนางหมายตาเอาไว้
คนผู้นั้นอยู่ในวัยหนุ่มแน่น อายุเขาปีนี้ยี่สิบเอ็ดพอดี รูปลักษณ์ภายนอกคือบุรุษสง่า มีความรู้ทั้งวิชายุทธ์ และด้านกวี ทั้งงานละครร่ายรำ ผิดแต่ถูกส่งตัวมารับโทษแทนครอบครัว จึงยอมรับการตอนอย่างไม่เป็นธรรมเมื่อหลายปีก่อน
ซีเกอ พยายามสลัดความคิดเลื่อนเปื้อนออกจากหัว แต่เขาได้รับทั้งธูปกำหนัด และยังถูกบังคับให้ดื่มนารีสังวาสไปหลายจอก ดังนั้น ขายาวๆ จึงก้าวไปเบื้องหน้า หมายใจจะกระทำบางสิ่งกับเรือนร่างอรชร ที่แสดงให้เห็นถึงความงามของสตรีซึ่งไร้ขีดจำกัด
ฝ่ายหลิวลั่วอี้ ที่มองซีเกอก็ขยับริมฝีปากอวบอิ่ม และเชิญชวนอีกฝ่ายด้วยสายตา พร้อมสื่อสารด้วยท่าทาง รวมถึงขันทีคนอื่นๆ ที่เคลื่อนตัวมาหานางจากมุมห้องด้านอื่น
นางอวดนูนเนื้องดงามของตนที่ไร้อาภรณ์ใดปกปิด กลีบดอกไม้แรกแย้มเป็นสีขาวอมชมพู ไร้เส้นไหมปกคลุม มันคือภาพที่ชายใดเห็นแล้ว ยากสลัดทิ้งไปได้ง่ายๆ
“มาสิ พวกเจ้า อยากหลั่งใส่ที่ใดของข้าบ้าง” คำพูดที่หลิวลั่วอี้กล่าว สร้างความตื่นตะลึงแก่สตรีทุกคนในโถงฝึกสอน
แต่หาได้มีใครห้ามปรามนาง เนื่องจากกำลังเคลิ้มไปกับการหลอกล่อของสตรีแซ่หลิว ซึ่งเรียกได้ว่าเหนือชั้นยิ่งนัก
“อย่าได้เขินอาย... เปลื้องผ้าของพวกเจ้าออก ให้ข้าเห็นส่วนตรงนั้นด้วย”
โดยปกติ ขันทีย่อมไม่อาจเปิดเผยส่วนลับและของสงวนซึ่งถูกตอนแล้วให้ผู้อื่นชื่นชม ด้วยมีความอับอาย ทว่ายามนี้ทั้งห้าคนต่างสลัดผ้าเตี่ยวทิ้ง และภาพที่ประจักษ์ตรงหน้าหลิวลั่วอี้ ไม่ได้ดูแย่ หรือชวนให้สยองใจพวกเขายังเป็นบุรุษ แบบพิเศษอยู่สักหน่อย และนางมั่นใจว่า สามารถทำให้ขันทีเหล่านี้ ขึ้นสวรรค์ได้แน่นอน
ปิ๊งป่อง...
จอภาพปรากฏ และมีคะแนนไหลมาเริ่มจาก 1... 5 ... 10 ก่อนจะหยุดที่ตัวเลข 150 !
ซีเกอมาอยู่ตรงปลายเท้าหลิวลั่วอี้ และไม่ผิดไปจากที่นางตั้งใจ เขาเริ่มทำการดูดหัวนิ้วโป้งเท้า แน่นอนมันจั๊กจี้ จนขนหลังต้นคอนางลุกซู่ๆ
“เจ้าทำได้ดีกว่านี้ ลูกหมาน้อยของแม่!”
หลิวลั่วอี้ออกคำสั่ง และซีเกอ ต้องการตอบสนองความต้องการนาง ทว่าเขากลับช้าไปสักนิด เพราะเป็นขันทีอีกคนที่ตัวหอมจัด และมีลิ้นสีชมพูเล็กๆ โผล่เข้ามาคว้าฝ่าเท้าอีกข้างของนางไป
“ชะ อุ้ย นี่มันลูกแมวหลงทาง แสนน่ารัก มานี่มา เลียให้หนำใจเจ้าเถิด”
หลิวลั่วอี้ ทำให้ทุกคนตะลึงไปอีกรอบ แต่นางหรือจะสนใจ
คนที่หน้าขาว และยอดหน้าอกแข็งขัน เลียฝ่าเท้าของหลิวลั่วอี้ใหญ่ และนางไม่อาจกลั้นเสียงหวาน สลับการครางอย่างซ่านสยิวได้ เสียงนางดังอยู่มาก และทำให้ คะแนนไต่ระดับขึ้นไปอีก
ข้อแนะนำ
‘หากทำให้ขันที เสร็จ มีโบนัสพิเศษ 200 คะแนน’
คนที่ปรารถนาจะไปจากสถานที่แห่งนี้ให้เร็ว เพื่อพบลาสบอส (ปั๋วอ๋อง) ย่อมต้องคิดแผนชั่วช้า นางรู้ว่าหนุ่มๆ พวกนี้ถูกตอน การจะปลุกปล้ำขาที่สามของพวกเขาให้ลุกขึ้นสู้ ย่อมยากไปสักหน่อย และจะให้ ขันทีมาแนบเนื้อกับนาง ด้วยการใช้งวงที่ถูกกุดไปครึ่งลำ กลับกลีบงามๆ ก็ไม่เหมาะสม ดังนั้นหลิวลั่วอี้จึงเอ่ยกับซีเกอว่า
“บั้นท้ายเจ้ากลมดีเหลือเกิน...” หญิงสาวพูดจบจึงเห็นแก้มเขาแดงระเรื่อ ให้ตายเถิด ยามบุรุษขวยเขินหน้ามองเป็นบ้า
“หันหลังให้ข้าสักหน่อยเป็นเช่นไร”
เขาอยากปฏิเสธหลิวลั่วอี้ แต่นางเหมือนมีอำนาจอยู่ในมือ
“หากเจ้าทำได้ดี ข้าผู้เป็นลูกสาวอมาตย์ขั้นที่สอง ไฉนจะไม่พาเจ้าไปรับใช้อย่างใกล้ชิด”
เมื่อหลิวลั่วอี้กล่าวเช่นนั้น ซีเกอจึงไม่อยากขัด กระทั่งเขาอยู่ในท่าสุนัขจึงทำให้หญิงสาวนึกสนุก ทั้งยังชอบเหลือเกินที่จะได้เป็นคนควบคุมผู้อื่น โดยเฉพาะชายหนุ่มวัยกลัดมัน
“อ่าส์... คุณหนู... ท่านประสงค์สิ่งใด”
“สอนให้เจ้ารับใช้ข้า เยี่ยงไรเล่า!”
หลิวลั่วอี้นั่งอยู่บนลำตัวชายหนุ่ม มือหนึ่งส่งเข้าปากเขา แล้วสั่งให้เลียนิ้ว สลับการดูด อีกมือนางเอื้อมไปด้านหลัง นวดเฟ้นบั้นท้ายงอนกลมแน่น พอซีเกอครางพร้อมเอ่ยถ้อยคำสัปดนอย่างอู้อี้ นางจึงถาม
“เจ้าทนความเจ็บ และความอึดอัดได้ดีเพียงใด”
“ขึ้นอยู่กับว่า สิ่งที่คุณหนูจะตอบแทนมีค่ามากหรือน้อย”
หลิวลั่วอี้ หัวเราะ และเอ่ยพอให้ได้ยินเพียงสองคน
“หากเจ้าปรารถนาเป็นอิสระคงไม่อาจทำได้ แต่จะได้อยู่รับใช้ข้าอย่างใกล้ชิด มีเงินทองล้นเหลือ ทั้งยังสามารถ เสพสุขกับคนที่เจ้าต้องการ”
ซีเกอครางเสียงต่ำๆ ออกมาอีกหน ก่อนตอบนางเสียงสั่นพร่า
“เช่นนั้น คุณหนูหลิวจงแทงเจ้าสิ่งนั้นเข้ามาในร่างกายข้าได้เลย”
“เยี่ยม ข้าเลือกคนไม่ผิดจริงๆ” เอ่ยจบ กัวซาหัวเห็ดก็ค่อยๆ เย้าหยอกกลีบดอกเบญจมาศของซีเกอ และภาพดังกล่าว ก็เปิดประสบการณ์ให้ทั้งหญิงสาวที่รอรับการฝึกฝน รวมถึงขันทีอีกสี่คน ที่ทั้งหวาดเสียว แต่กลับกระสันอยากลิ้มลองรสชาติความสุขดังกล่าว
ซีเกอร้องดังอย่างน่าตื่นตระหนก แต่มันเป็นเพียงชั่วเวลาประเดี๋ยวเดียว ด้วยจากนั้น จู่ๆ ขันทีผู้หนึ่งที่ซ่านสยิวจัด ต่อภาพการเล่นสนุกของหลิวลั่วอี้กับซีเกอได้หลั่งความสุขออกมา อย่างล้นทะลัก ‘ทำคะแนนได้ 300 คะแนน เปลี่ยนฉากต่อไป!’
- ผู้เขียน
