แต่มารดารั้งไว้เสียก่อน เขาจึงยอมรามือ มารดาของเขาที่นิสัยใจคอยิ่งกว่าเจ้าแม่กวนอิม ใจนางกว้างใหญ่ยิ่งกว่าท้องทะเลจึงไม่เคยปริปากต่อว่าสามี ในเรื่องที่สามีปันใจ มันเลยทำให้นารีเหิมเกริม หลายครั้งที่นางล้ำเส้น และมารดาของเขายอมให้เพราะเห็นแก่ความสุขสงบของสามี นารีเลยยิ่งทะนงตน นางยุลูกชายคนเดียวให้กระด้างกระเดื่องกับพี่ชาย ผิดกับกัณฑ์มัทรีที่สั่งสอนให้ทศกัณฐ์รักพระราม เมื่อมีสายเลือดเดียวกัน แม้แต่การตั้งชื่อ นารียังจงใจ กัณฑ์มัทรีตั้งชื่อบุตรชายว่าทศกัณฐ์ เพราะอยากให้เขามีหัวใจหนักแน่นและรักมั่นผู้หญิงเพียงคนเดียว เป็นการเตือนสามีทางอ้อม แต่นารีจงใจ หลังตัวเองคลอดบุตร นางตั้งชื่อบุตรชายเหมือนจะข่มทศกัณฐ์กลายๆ เมื่อใครๆ ที่อ่านวรรณคดีไทยก็รู้ดีว่าพระรามถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อปราบทศกัณฐ์
แต่นั่นมันวรรณคดี...ทศกัณฐ์ เบอร์นาร์ดไม่ใช่ยักษ์โง่ เขาฉลาดกว่าพระรามเยอะ เมื่อมันยังเกาะชายกระโปรงมารดามันอยู่ พระรามไม่มีทางเอาชนะเขาได้แน่ๆ
“ไอ้หมอนั่นมันมีความสุขบ้างไหมว่ะ วานร... ฉันว่ามันเหมือนหุ่นยนต์ไขลานเข้าไปทุกวันๆ” ชายหนุ่มเปรย เขาสงสารพระรามที่กลายเป็นหุ่นเชิดให้มารดา ผู้หญิงอย่างนารีรักลูกบ้างหรือเปล่า? เขาไม่รู้!! แต่ถ้าเทียบนารีกับมารดาเขา นารีติดลบ แทบจะหาความเป็นแม่ในตัวหล่อนไม่เจอ ไม่รู้ว่าบิดาเห็นดีเห็นงามไปกับมารยาจอมปลอมได้อย่างไร!!
หนุ่มหล่อไม่ได้ตอบกลับ เขามีเพียงรอยยิ้มติดมุมปาก เมื่ออดเห็นใจและเวทนาพระรามไม่ได้ เขาถูกชักใยจากคุณนารี จนแทบจะไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเอง
“อืม...ที่ติดต่อไปว่าไง เขา Say yes. หรือ Say no?” เมื่อหมดความสนใจน้องชายรูปหล่อ ชายหนุ่มจึงถามเรื่องสำคัญ รูปแบบชั้นในล็อตใหม่ เขาอยากให้ตื่นตะลึงทั้งโลก เพราะทศกัณฐ์จะงัดผ้าไทยมาขาย และหากมันถูกตอบรับจากทั่วโลก มันหมายถึงการสร้างงานให้แหล่งชุมชนได้อีกมากมาย
“ยังไม่ตอบครับ แบ่งรับแบ่งสู้อยู่ ทางนั้นขอเวลาคิด1 อาทิตย์”
“นานไปว่ะ บอกเขาฉันให้เวลา3 วันไม่อย่างนั้นเราจะเปลี่ยนคนออกแบบ”
ชายหนุ่มพูดเสียงขุ่น เบอร์นาร์ดยิ่งใหญ่ขนาดไหน แทนที่จะรีบตะครุบกลับบอกปัดเสียอย่างนั้น
“เอ่อ...”
“มีอะไร?” แค่วานรพูดตะกุกตะกัก เขาก็รู้แล้วว่ามันต้องมีอะไร
“คนออกแบบเธอยืนกรานมาเองครับ หากดูผลงานเก่าๆ ของหล่อน ก็น่าจะอดทนรอสักนิด ผมว่าเธอมีกึ๋น!!”
“หล่อน...ผู้หญิงรึ?”
“ครับ...หากคุณทศกัณฐ์รู้ชื่อเธอ อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ครับ”
“เปลี่ยนใจ ฉันนี่นะ ไม่ล่ะวานร หากเขาทำไม่ได้อย่างที่ฉันบอก...หาเจ้าใหม่เลย ฉันไม่รอ!!”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับแยกเขี้ยวให้เลขานุการคู่ใจ เขาเดินผิวปากออกไปนอกห้องประชุม แต่ก็ไม่วายย้อนกลับมาถามอีกครั้ง ...ก็แววตาไอ้ลิงมันแปลกๆ ...
“หล่อนชื่อไรวะ? อย่าบอกนะว่า...” มันยิ่งกว่าแปลกเสียอีก เพราะเมื่อเขาเปิดปากถาม ดวงตาที่นิ่งสนิทของไอ้ลิง พราวระยิบระยับ!!
“ครับ... เธอชื่อสีดา สีดา ราชพกฤษ์”
แม่เจ้า!! ทศกัณฐ์กลอกตามองฝ้าเพดานเหนือศีรษะ มีคนแปลกพอๆ กับมารดาเขาเชียวหรือ? การที่คุณกัณฑ์มัทรีตั้งชื่อเขาเหมือนทศพักต์ ยักษาตนนั้น ก็เพราะความชอบส่วนตัวของนาง...เขาว่าแปลกแล้ว ยังมีคนเพี้ยนๆ ตั้งชื่อบุตรหลานว่า สีดาอีกหรือ?
“เนื้อคู่ฉันสิ...สวยไหมวะ?”
แววตาไอ้ลิงมันพราวเสียขนาดนั้น มันต้องมีอะไรมากกว่าชื่อ...หล่อนเป็นผู้หญิงเสียด้วยสิ แบบนี้น่าเก็บเข้าคอลเลคชั่น เขาไม่มีทางยอมโง่เหมือนยักษ์ตนนั้นหรอก รอให้เจอแม่สีดางามงอนก่อนเถอะพ่อจะปล้ำ! จับทำเมียเสียเลย ไม่ปล่อยให้ลอยนวลจนพระรามคาบไปแดกหรอกน่า...
ไม่มีคำตอบ...แต่มันกลับยื่นโทรศัพท์ของตัวมันเองให้กับเขา ชายหนุ่มยื่นมือไปรับ เขาสไลด์หน้าจอหาที่เก็บรูป จนเมื่อเปิดดู อุต๊ะ!! สีดา...หล่อนรูปงามสมชื่อ ผมยาวสยายเต็มแผ่นหลัง วงหน้าคมขำ ดวงตาหวานฉ่ำ ยิ่งมองยิ่งถูกใจ แต่...ทำไมหล่อนแต่งตัวแปลกๆ เขาย้อนกลับไปดูรูปแรกๆ ไม่มีชุดปรกติเหมือนคนทั่วไป หล่อนไม่ได้ใส่เดรสสั้นๆ ไม่ได้ใส่เดรสยาวๆ กรุยกราย เหมือนหล่อนนุ่งผ้าถุงใส่เสื้อลูกไม้ แต่ดูการตัดเย็บแล้วไม่ใช่ แต่มันก็คล้ายๆ กัน เหมือนที่เขาเห็นมารดาใส่เวลาไปทำบุญที่วัดไทย
“สวยว่ะ...มีผัวยัง?” หากสีดามาได้ยินทศกัณฐ์ถามคำถามนี้ อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะตอบเหมือนเดิมหรือไม่!! เมื่อทศกัณฐ์ใน พศ. นี้แตกต่างจากทศกัณฐ์ในวรรณคดี ไอ้เรื่องรักเดียวใจเดียวยังไม่รู้ แต่ไอ้เรื่องเจ้าชู้นี่ตัวพ่อ...ใช้คู่ควงเปลืองมากกว่าชั้นในตัวเองเสียอีก
“ยังโสดครับ เธอบอกว่า...” วานรขยักคำพูดไว้ เขาเงยหน้ามองเจ้านายแล้วยิ้มจนตาตี่
“พูดมาอย่าโยก... เดี๋ยวโดนเตะ!!”
มันมีลับลมคมในอะไรหนักหนาว่ะ ชายหนุ่มเริ่มหงุดหงิด เขาเดินวนรอบตัวของวานร พร้อมกับยกเท้าขึ้นเตรียมถีบ...
“เธอบอกว่ารอ...ทศกัณฐ์คร๊าฟฟฟฟฟ...” ลูกน้องสุดป่วนตะโกนก้อง เขารีบวิ่งหนีฝ่าเท้าของเจ้านายสุดชีวิต เพราะหากช้าอีกนาทีเดียว อาจจะโดน...บาทา
หะ!! ยัยสีดายุค2016 บอกว่ารอพญายักษ์ หล่อนไม่สนใจพระรามหรือไงเล่า...นั่นน่ะรูปทองเชียวนะ หากเทียบกับยักษ์ตัวเขียวอย่างทศกัณฐ์ แปลกคน...แต่น่าสนใจ น่าลองทาบ...น่าลองปลดสไบของสีดาสักที แค่คิดก็สนุกจนแทบจะอดใจรอพบไม่ไหว...แม่สีดาคน งามของพญายักษ์
“อะไรนะ!! ที่แม่สั่งให้แกทำ แกก็ทำไม่สำเร็จงั้นเหรอ ไอ้เวรนั่นมันแก้ได้... หมายความว่าไงราม? บอกให้แม่เข้าใจอีกทีสิ ครั้งนี้ลูกก็ทำไม่ได้เหมือนเดิมอย่างนั้นงั้นเหรอไง” เสียงนารีแหลมปรี๊ด นางนั่งไม่ติดต้องลุกขึ้นยืน เดินมาหยุดยืนใกล้ๆ บุตรชายพร้อมกับถามย้ำไปย้ำมา
พระรามยืนหน้าเครียด นารีสั่งให้เขาไปดิสเครดิตทศกัณฐ์ ด้วยการโจมตีไปที่ชื่อเสียงของพี่ชาย ทำยังไงก็ได้ให้เขาด่างพร้อย และทำให้ผู้ถือหุ้นทุกคนไม่ไว้วางใจ เพื่อที่จะได้ชิง...ตำแหน่ง ขึ้นไปยืนเป็นผู้กุมอำนาจแทน แม่คงลืมไป เบอร์นาร์ดไม่ใช่ของบิดา บริษัทนั้นพี่ชายเขาสร้างมาด้วยตัวเอง มีเพียงชื่อเท่านั้นที่หยิบยืมนามสกุลของอาร์มันโด้เอาไปใช้ จะมีอะไรไปล้มล้างพี่ชายได้เล่า... เมื่อหุ้นใหญ่เป็นของทศกัณฐ์ทั้งหมด อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดพี่ชายก็ถือครองแต่เพียงผู้เดียว
“ว่ายังไงราม...อธิบายให้แม่ฟังสิว่าทำไม!!” นางตาลุกวาว มองลูกชายเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ไอ้หอกข้างแคร่อย่างทศกัณฐ์ เด็กหนุ่มนั่นกำแหงและไม่เคยเห็นหัวนาง แม้แต่สามีก็ดูจะเกรงๆ บุตรชาย ไม่กล้าแม้แต่จะจัดการขั้นเด็ดขาด
“แม่ครับ...แค่เรื่องความประพฤติแย่ๆ ทำอะไรหมอนั่นไม่ได้หรอก มันสิวๆ เกินไป”
“ไม่ได้ก็หาทางอื่นสิ!! ลูก-ต้อง-กำจัด-มัน ไม่อย่างนั้นอนาคตลูกจะไม่เหลืออะไรเลยนะราม” นางกรรโชกเสียงเคร่ง พักนี้มารยาของนางใช้ไม่ค่อยได้ผล อาร์มันโด้เริ่มเอือม เขาเริ่มบ่นเรื่องรายจ่ายของนางที่มีแต่จะเยอะขึ้นทุกวัน
“ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนี่แม่...ผมกำลังพยายามอยู่ แต่แม่ก็รู้มันฉลาดจะตาย”
ชายหนุ่มพูดเสียงเหนื่อยหน่าย เขาทรุดนั่งบนโซฟาบุนวมเนื้อดี พริ้มเปลือกตาหลุบลง พร้อมทั้งขยับปลดเนกไทที่คอ
“มันต้องมีจุดอ่อนสิ...ไม่มีคนคนไหนไม่มีจุดอ่อน...รวมทั้งมันด้วย” นารีคั่งแค้น ถึงเธอจะฉกอาร์มันโด้มาได้ตัวเป็นๆ แต่สถานะทางสังคมนางก็ยังเป็นแค่เบอร์สอง เมื่อทั้งโลกรู้ว่าอาร์มันโด้แต่งงานอยู่กันกับกัณฑ์มัทรีมาก่อน นางมาทีหลังและเป็นมือที่สามในชีวิตครอบครัวของอาร์มันโด้ เพียงแต่สามีรักนางมาก... รักมากถึงขนาดเอานางมาไว้ข้างตัวไม่หวั่นแม้แต่เสียงต่อว่าต่อขานของคนรอบข้าง เมื่อเขาปันใจให้กับหญิงอื่นนอกจากภรรยาตัวเอง
“ผมกำลังพยายามอยู่” เสียงตอบกลับแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยิน
“ลูกต้องพยายามให้มากกว่านี้!! ไม่อย่างนั้นเราเดือดร้อนแน่” นางกดเสียงลงต่ำ จะอะไรเสียอีกล่ะ ครั้งนี้นางเสียยับเยิน...เสียมากกว่าทุกครั้งที่เคยเข้าบ่อนมา
“แม่...เสียไพ่มาเหรอครับ” พระรามไม่อยากถามคำถามนี้เลย กี่ครั้งแล้วที่มารดาเสียการพนัน แล้วเอาอารมณ์คลุ้มคลั่งเช่นนั้นมาโยนใส่เขา พร้อมทั้งบีบให้เขารีบกำจัดพี่ชาย