บทที่1.ปฐมบทของสีดา
บทที่1.ปฐมบทของสีดา
*ความรักของทศกัณฐ์*
...นางมณโฑถูกพาลีแย่งไปทำเมียแต่ไม่เคยนึกรังเกียจนาง...
...นางมณโฑถูกหนุมารหลอกร่วมรัก ก็ไม่เคยเดียดฉันท์นางเพราะเข้าใจว่าถูกหนุมารหลอก...
...ขณะบำเพ็ญขันติธรรม ถูกก่อกวนจากหนุมาร สุครีพ นิลนนท์อย่างไรก็ทนได้ จนทหารลิงต้องจับนางมณโฑมาย่ำยีต่อหน้า เพราะรู้ว่าทศกัณฐ์รักเมียมาก ทำเอาทศกัณฐ์ตบะแตก ด่า3 ลิงจนศีลขาด...
...นี่คือรักในแบบทศกัณฐ์...
*ความรักของพระราม*
...ทันทีที่รบชนะทศกัณฐ์แทนที่จะดีใจที่ได้เจอนางสีดา แต่กลับให้นางสีดาลุยไฟพิสูจน์ว่าตัวนางสีดาไม่ได้มีอะไรกับทศกัณฐ์....
...แค่นางสีดาวาดภาพทศกัณฐ์ตามที่นางอาลู ขอให้วาด พระรามไม่พอใจ ไม่ฟังเหตุผล สั่งประหารนางสีดา ให้ควักหัวใจกลับมายืนยัน ทั้งที่นางสีดากำลังตั้งท้องลูกของตนอยู่แท้ๆ ...
...นี่คือรักในแบบพระราม...
สีดาเหยียดยิ้มบทความที่เธออ่านผ่านตา มันช่างขัดแย้งกับความเป็นจริง...ความรักที่โด่งดังของพระรามไม่ได้ทำให้เธอซาบซึ้งตรึงใจได้เท่ากับความรักของทศกัณฐ์ พญายักษ์ผู้ซื่อสัตย์ แม้ใครจะมองว่าเธอแปลก!! แล้วทำไมล่ะ ใครๆ ก็อยากให้มีคนมารุมรัก หรือรักมั่นแค่ตัวเองผู้เดียว เธอเองก็เช่นกันปรารถนาคนซื่อสัตย์ที่ไว้ใจได้
หญิงสาวมักจะถูกล้อเลียนเป็นประจำ เพราะตัวเธอนั้นมีชื่อพ้องกับนางเอกในหนังสือวรรณคดีไทยที่โด่งดังติดหู ทุกคนที่เคยได้ยินไม่มีใครไม่รู้จัก นางสีดา!
สีดา ราชพกฤษ์ ใครๆ ก็ว่า...การที่เธอยังไม่เจอคู่แท้ เพราะเธอเฝ้ารอพระรามในนวนิยาย แต่...สิ่งที่สีดาคิดในใจไม่มีใครล่วงรู้ หากให้เธอเลือก... ในฐานะนางสีดาละก็ พระรามสุดเจ้าชู้ไม่มีทางได้ยลขาอ่อนเธอแน่ๆ ถ้ามีพระรามกับทศกัณฐ์ยืนตรงหน้าให้เธอเลือก เธอจะเป็นสีดาในหน้าประวัติศาสตร์ เธอจะฉีกกฎ เปลี่ยนมุมมองของทุกคนให้รู้เสียใหม่ เธอจะเลือก...ทศกัณฐ์!! ถึงเขาเป็นยักษ์เลวในสายตาทุกคน แต่เขาเป็นคนเดียวที่มีรักมั่น สีดาคิดเช่นนั้นจริงๆ
...และเธอยังไม่เคยเจอใครคนนั้นใครคนนั้น คนที่คล้ายกับทศกัณฐ์ในแบบที่ตัวเองปักใจ…
ผู้ชายดีๆ บนโลกหายากยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร ส่วนมากที่ดีไม่กินเหล้า สูบบุหรี่ ก็มักจะเป็นเกย์ ไปเสียฉิบ! ไอ้ที่พอรับได้ก็เจ้าชู้ไก่แจ้ เพราะฉะนั้นสีดาจึงไม่รีบ เธอรอชายในฝันได้ แม้จะนาน...แสนนาน
“สีดาเอ๋ย สีดาอยู่ไหมลูก?” เสียงแหบเครือของยายสายหยุดร้องเรียกอยู่ที่ลานหน้าบ้าน กระท่อมหลังน้อยที่สีดาปลูกไว้ริมท่าน้ำ หน้าเรือนไทยหลังโตของยาย เธอทำงานเป็นแฟชั่นนิสต้าในร้านเสื้อผ้าชื่อดังกลางเมืองกรุง แต่เจ้าแม่แฟชั่นอย่างสีดา กลับนิยมความเรียบง่ายมากกว่า เธอแต่งกายมีเอกลักษณ์เก๋ไก๋ แม้จะเป็นแค่เสื้อผ้าธรรมดา แต่เมื่อจับมามิกซ์แอนด์แมตช์กับกลับดูมีราคาไม่น่าเชื่อ
“อยู่ค่ะยาย...มีอะไรให้สีดารับใช้เจ้าคะ” หญิงสาวขานรับเสียใสแจ๋ว เธอโผล่หน้าจากบานหน้าต่างพร้อมกับยิ้มแฉ่ง เมื่อสายตามองเห็นตะกร้าใส่อาหารที่บรรดาลูกสมุนคุณยายแบกเดินตามหลังท่านมา “หู้ย!! ลาภปากของสีดาอีกแล้ว ยายจ๋าเอาอะไรมาขุนสีดาอีกละคะนี่”
นานๆ หญิงสาวจะได้กลับมานอนที่บ้านหลังนี้สักที ส่วนมากเธออาศัยอยู่ในเมืองกรุง เมื่อหน้าที่การงานเกี่ยวพันอยู่ในเมืองหลวงทั้งหมด พอมีเวลาว่างเธอก็ไม่รั้งรอที่จะหอบผ้ามานอนในบ้านหลังน้อย รับกลิ่นอายธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ที่ไม่มีใครก็ไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง หรือจะแย่งชิงเอาไปจากเธอได้ แถมยายสายหยุดที่อดีตเคยเป็นนางใน เคยเป็นข้ารับใช้ในวังสมัยเก่า รสมือของนางจึงไม่มีใครเทียบเคียงได้ แม้แต่ต้นตำรับยังต้องซูฮก ทุกครั้งที่กลับมาพำนักที่บ้านทรงไทยหลังนี้ พอกลับไปเข้าเมืองไป เธอก็ต้องรีบไปออกกำลังกายรีดน้ำหนักส่วนเกินออกเป็นการใหญ่ เพราะอาหารการกินชั่งอุดมสมบูรณ์ ทั้งคาวทั้งหวาน จนหญิงสาวอดใจไม่อยู่ สวาปามเข้าไปเสียเต็มคราบ
เสียงวิ่งดังตึงตัง!! จนบ้านไม้หลังเล็กสั่นกราว ยายสายหยุดได้แต่ส่ายศีรษะ หลานสาวหัวโปรดคนเล็กสุด แต่กระโดกกระเดกผิดพี่น้องคนอื่นๆ เพราะเจ้าหล่อนหย่อนการอบรม เมื่อเจ้าตัวเติบโตจากเมืองนอกเมืองนาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เด็กๆ เป็นไม้อ่อนดัดง่าย แต่เมื่อสีดาต้องตามไปอยู่กับพ่อกับแม่ เลยห่างเหินเรื่องขนบธรรมเนียมไทย แต่ก็ยังถือว่าดีพอใช้ในระดับหนึ่ง เมื่อไม่ได้เปรี้ยวปรี๊ดจนเข็ดฟัน ดีนะว่าไม่ได้แต่งตัวโฉบเฉี่ยวเหมือนสาวๆ ที่นางเคยเห็น สีดาสวยสมกับชื่อของเธอ ผมยาวดำขลับ แพขนตางามงอน จมูกโด่งได้รูป รับกับริมฝีปากอิ่มรูปกระจับ หล่อนเป็นนักอนุรักษ์ความเป็นไทยตัวยง เสื้อผ้าที่เจ้าหล่อนสวมใส่ ส่วนมากเป็นผ้าไทย ที่เอามาประยุกต์ใหม่เก๋ไก๋ เสียจนนางยังแอบทึ่ง
“เบาๆ สิลูกยิ่งโต ยิ่งเหมือนม้าดีดกะโหลกนะเรา อย่างนี้พระรามมาเห็นท่านคงรับกระโจนหนี เผ่นแน่บแบบไม่เหลียวหลัง”
นางสัพยอกหลานสาว เป็นคำพูดติดปากที่ใครๆ ที่รู้จักชื่อของสีดาก็มักจะหยอกเอินเช่นนี้เป็นประจำ
“สีดาไม่ได้รอพระรามนะเจ้าคะยายจ๋า แต่ถ้าให้สีดาเลือก สีดาจะเลือกยักษ์” และเช่นกัน สีดาก็มักจะตอบเช่นนี้ทุกครั้งเสมอไป เธอไม่สนใจว่าคนฟังจะแปลกใจ เมื่อสาวๆ ส่วนใหญ่ชอบพระรามที่รูปงาม แต่สีดากลับไพล่ไปสนใจทศกัณฐ์ยักษ์ตัวเขียวหน้าถมึงทึง
“แปลกคน!! สาวๆ ส่วนมากก็หลงรูปพระรามกันแทบทั้งนั้น ทั้งรูปงามแล้วก็เป็นถึงเจ้านคร สีดาไม่ชอบหรือไงลูก”
หญิงสาวสอดมือสวมกอดเอวอวบๆ ของยายสายหยุด เธอซุกหน้ากับเนินอกอวบใหญ่แล้วจึงกระซิบตอบเสียงใส ดวงตาเต้นระริก
“ไม่เจ้าค่ะยายจ๋า นางเล็ก นางน้อยต่อแถวยาวเป็นวา กว่าจะถึงคิวสีดา หลานคงรอจนเหนียงยาน รูปงามแล้วไงเจ้าคะ!! ไม่ได้มีใจเดียว...สีดาไม่สนหรอกค่ะ สู้ทศพักตร์ของหลานก็ไม่ได้... ตัวเขียวปี๋ เขี้ยวยาวโง้ง แต่มีรักมั่นให้เมียคนเดียว แบบนี้สิน่าสนกว่าเป็นไหนๆ คนเราเดียวนี้นะเจ้าคะ ดูที่หัวใจค่ะ ไม่ใช่ดูที่หน้าตา ใครว่ายังไงก็ช่างแต่สีดาคิดแบบนั้นจริงๆ”
มือเหี่ยวๆ หยาบกร้านเพราะทำงานมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนจวบใหญ่ ถึงจะเป็นเศรษฐินีมีอันจะกิน แต่นางสายหยุดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จับนั่นทำนี่ไม่เคยหยุดมือ เงินทองที่มีก็เพิ่มพูน แถมลูกหลานไม่มีใครสักคนที่ผลาญเงินโดยเปล่าประโยชน์ เศรษฐินีเมืองเก่าอย่างนางจึงสบายตอนแก่ เมื่อดอกผลที่สร้างไว้งอกงามให้เก็บเกี่ยวกินยันตัวตาย
“คิดผิดแปลกจากคนอื่น แต่ยายก็เห็นด้วยกับสีดานะลูก จริงอยู่ว่าพระรามท่านรักแม่สีดาที่สุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมีนางเล็กๆ เป็นโขยง ยายเองก็ยังแปลกใจ สาวๆ พวกนั้นทนได้อย่างไรกัน เมื่อคนที่นั่งเด่นเป็นสง่าอยู่บนราชบัลลังก์นั่นก็สวามีของพวกเธอ แต่มีเมียต่อแถวยาวเป็นวา...”
“เห็นไหมเจ้าคะ...ผู้ชายแบบนั้น สีดาไม่คิดจะชอบ...มีเมียเป็นฮาเล็ม...เห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นประดับบารมี”
โบราณว่าไว้ เกลียดสิ่งไหนมักจะได้สิ่งนั้น สีดาเกลียดคนเจ้าชู้สุดๆ สีดาแอนตี้ผู้ชายที่มีคู่ควงพร้อมๆ กันทีละหลายๆ คน และในอนาคตเธอจะต้องเจอคนเช่นนั้น แต่เธอจะเอาตัวรอดจากบ่วงเสน่หาของเขาได้หรือเปล่า?
สองยายหลานกอดกันกลม เพราะชอบกลิ่นอายแบบถิ่นชนบทแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เธอก็รักความเป็นไทย สีดาชื่นชอบกับวัฒธรรมโบราณ เธอจึงเป็นสาวสมัยใหม่ ที่เป็นนักอนุรักษ์ตัวยง เพราะฉะนั้นไม่แปลกหากจะเห็นสีดาโฉบฉายในต่างแดน ด้วยการนุ่งผ้าไทย ห่มสไบนุ่งโจงกระเบน บวกกับความงามคมขำ ผมสีดำสนิทยิ่งกว่าขนนกกาน้ำ เส้นผมเรียบตรงสยายเต็มแผ่นหลัง เธอจะเด่นสะดุดตาแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย