ลูกน้องหนุ่มตอบ พร้อมกับเสก้มหน้าหนี มันมีอะไรแปลกๆ ให้ชายหนุ่มฉุกใจ?
“ไอ้ลิง...อย่าบอกนะว่า...” ชายหนุ่มหันขวับ เขาร้องถามเสียงหลง
“ครับ”
สิ้นคำตอบ ทศกัณฐ์คลี่ยิ้ม เขารู้สึกว่าอากาศรอบตัวสดชื่นขึ้นกว่าเก่า
แม่นางสีดาของพระราม!! ในที่สุดก็ได้เจอกัน...เดี๋ยวพ่อจะฉกดวงใจพระรามมาครองให้ดู ให้โลกจารึกไว้ พศ. นี้ทศกัณฐ์จะฟันตะละแม่สีดา...ไม่มีลงกา มีแต่มหานครปารีส...
วานรแอบยิ้ม เขาไม่ได้รู้สึกไปเอง แววตาของเจ้านายแวววาวแปลกๆ
กึกๆ
เสียงเคาะผิวโต๊ะดังเป็นจังหวะถี่ๆ เมื่อเวลาเดินผ่านไปแต่ยังไร้วี่แววของคนที่ควรมาถึง...
วานรกลืนน้ำลายลงคอเอือกๆ เขาชำเลืองมองประตูสลับกับใบหน้าเจ้านาย ที่หงิกงอขึ้นทุกช่วงเวลา
“เธอน่าจะมาถึงแล้วนะครับ...เออ...ให้ผมออกไปดูไหมครับเจ้านาย”
“ความจริง...ไม่น่าถามนะไอ้ลิง...10 นาที ถ้าเกินนั้นฉันจะนอน แล้วเรียกเจ้าใหม่มาแทนได้เลย ฉันไม่ชอบคนที่ผิดเวลา” เสียงเหี้ยมเกรียมเย็นเฉียบ วานรรู้ดีว่าเจ้านายหมายความอย่างนั้นจริงๆ
ผั๊วะ!!
ประตูถูกกระแทกเปิดเขามาพร้อมกับกลิ่นหอมชื่นใจของดอกไม้พื้นเมือง ‘มะลิ’ กลิ่นหอมเย็นสบายจมูก แม้จะเป็นกลิ่นอ่อนๆ แต่เวลาได้กลิ่นกับทำให้อารมณ์คุกรุ่นเย็นลงแล้วรู้สึกดีขึ้น
บุรุษหนุ่มที่นั่งอยู่หัวโต๊ะยกมือวางรองใต้คาง ทอดสายตาคนมาใหม่ พลางคะเนรูปร่างอย่างมืออาชีพ ดวงตาคมดุหรี่ลง จับโฟกัสอยู่กลางร่างกาย แม้เนื้อผ้าจะหนาพอดู แต่ทำไม? สีดากลับรู้สึกเย็นวาบ!! เหมือนเขามองทะลุเสื้อของเธอเขาไปถึงด้านใน มันเย็นวาบจนขนลุกชัน
“ขอโทษทีค่ะ พอดีดิฉันขึ้นรถผิดสาย เลยทำให้มาช้ากว่ากำหนด ต้องขออภัยและขอโทษอย่างแรง”
ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้เครื่องสำอาง แต่ปาก แก้ม คิ้ว คางเธอกับเด่นโดนใจ ปากรูปกระจับอิ่มเอิบ ปลายจมูกมีเม็ดเหงื่อเหมือนกับว่าเธอเร่งมาสุดฝีเท้าที่มี ผิวแก้มสีระเรื่อคงเป็นเพราะเลือดลมภายในไหลเวียนเพราะเหนื่อยอ่อน ดวงตากลมโตดูโศกสลด บวกกับอาการหอบเล็กๆ มันชี้ให้เห็นว่าทุกคำพูดของเธอพูดออกมาจากใจจริง ไม่ได้เพราะต้องการดึงเกมให้เขาสนใจ
“เริ่มเลยดีกว่า...ฉันรอนานแล้ว...เธอมีเวลา5 นาที”
สีดากะพริบเปลือกตาปริบๆ ผู้ชายใบหน้าเข้มนั่งอยู่หัวโต๊ะ คงจะเป็นผู้มีสิทธิ์ขาดในการตัดสินใจครั้งนี้ เขาดูน่าเกรงขาม และน่ากลัวพอๆ กัน
“ค่ะๆ เริ่มเลยนะคะ”
เธอวางกระเป๋าสะพายใบใหญ่บนโต๊ะ รื้อค้นของในกระเป๋าเพื่อนำออกมาพรีเซ้นต์ให้ชายหนุ่มดู
“เดี๋ยว...ไม่คิดจะบอกชื่อแซ่เหรอไง? ...มันเป็นธรรมเนียมไม่ใช่รึ?”
เสียงแย้งของเจ้านายหนุ่มดังขึ้น พร้อมกับที่วานรเดินพ้นออกไปนอกประตู ชายหนุ่มแอบอมยิ้ม... เป็นครั้งแรกที่เจ้านายทำเก๊กขรึม ทั้งที่หากเขาพอใจผู้หญิงตรงหน้าละก็... ลีลาทศกัณฐ์จะพราว จนสาวเจ้าหลงเล่ห์ง่ายๆ
“ค่ะๆ ...ดิฉันนึกว่าแจ้งไว้แล้วเสียอีก อีกอย่างดิฉันมีเวลาแค่5 นาทีไม่อยากให้เสียเปล่าค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ เธอเงยหน้าขึ้นสบตาสีเขียวมรกตของอีกฝ่าย รู้สึกใจวูบๆ ไปเหมือนกัน ไม่คิดว่าหนุ่มเมืองแฟชั่นจะทำให้คนเข้มแข็งอย่างวูบไหวได้... “ดิฉันชื่อสีดา...”
“สีดาของพระรามอย่างนั้นหรือ?” สีดายังแนะนำตัวไม่จบ เสียงถามจากอีกฝ่ายก็แทรกถามกลับขึ้นมาทันที
“ไม่ใช่ค่ะ...สีดาคนนี้เป็นของทศกัณฐ์ ไม่ใช่ของพระรามค่ะ” หญิงสาวตอบกลับแบบภาคภูมิใจ เจตนาของเธอหนักแน่น เพราะไม่ทันคาดคิดว่าจะมีใครอุตริตั้งชื่อบุตรหลานว่าทศกัณฐ์ เมื่อพญายักษ์เป็นตัวร้ายที่ไม่ใคร่จะมีใครนิยม
รอยยิ้มแปลกๆ กับแววตาจัดจ้าขึ้นวูบหนึ่ง สีดาไม่ทันคิด เธอรีบเสียจนไม่ทันใคร่ครวญให้ดี
แต่คนที่ฟังกลับรู้สึกปลื้ม ปลื้มที่ถูกเลือก แม้เจ้าหล่อนจะเข้าใจผิด!!
“สีสวยดีนะผ้าชิ้นนั้นนะ...มีแบบนี้อีกเยอะไหม?”
หญิงสาวสะดุ้งโหย่ง แค่เอี้ยวตัวไปหยิบผ้าชิ้นใหม่เพื่อนำมาให้เขาดู ผู้ชายคนนั้นก็เดินมาเสียจนชิด ชิดมากจนได้กลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ที่ระเหยออกมาทางลมหายใจ
เธอสูดลมหายใจลึกๆ ฉากตัวหลบแบบเนียนๆ ไม่ให้เขาทันรู้ตัว ทำทีเป็นเอื้อมหยิบผ้าในเป้สะพายหลัง จนชั้นในตัวที่เธอตัดเย็บเป็นต้นแบบร่วงออกมาจากซอกกระเป๋า...ทั้งที่เก็บไว้อย่างดี
ทศกัณฐ์โน้มตัวลง เขาย่อตัวลงไปเก็บผ้าชิ้นที่หล่น แต่เมื่อมองเห็นเต็มตา มันคือยกทรงที่ถูกตัดเย็บมาอย่างดี แม้จะฝีมือไม่เนียนเหมือนช่างผู้ชำนาญ เมื่อเธอไม่มีเครื่องจักรทันสมัยมากพอ แต่ทั้งสีและเนื้อผ้าถูกใจเขาจนอดไม่ได้ที่จะถาม
“เธอทำเองเหรอ? ฝีมือใช้ได้นี่”
เขายกชูผ้าชิ้นเล็กตรงหน้า โบกไปมา พร้อมกับยกขึ้นจรดปลายจมูก กลิ่นที่ฝังอยู่ในเนื้อผ้าเหมือนกับกลิ่นน้ำหอมที่ฟุ้งกระจายในห้อง ตอนที่สีดาของทศกัณฐ์ปรากฏตัว
หญิงสาวอ้าปากค้าง เธอห้ามก็ห้ามไม่ทัน ร่างกายร้อนวูบ สลับกับเย็นเฉียบ ผิวแก้มร้อนระอุ ร่างกายแทบจะระเหิดหายไปเพราะความร้อนในร่างกายที่หมุนวนเร็วจี๋! ก็เธอทดลองสวมไปแล้วครั้งหนึ่ง ที่สำคัญไม่ได้ตั้งใจนำมันมาให้เขาดู เพียงแต่ช่วงเวลาที่คัดสรรผ้า ทั้งหมดมาให้เบอร์นาร์ดดู มันเกิดอารมณ์อยากทำ แล้วก็ออกมาเป็นผลงานชิ้นนั้นนั่นเอง
“คือๆ” หญิงสาวทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆ เธออยากเอาหน้าซุกดิน รู้สึกเหมือนถูกชายหนุ่มตรงหน้าลวนลามด้วยสายตา ทั้งที่เขาแค่ยืนมองเธอเฉยๆ
“ถ้าผมตกลงเซ็นสัญญากับ เพชรนลิน แต่มีข้อแม้ว่า อยากเห็นเธอสวมชั้นในตัวนี้ให้ดู เธอจะว่าไง?”
เป็นคำถามที่สีดาอยากปฏิเสธ เธอถลึงตาให้ผู้ชายหน้าดุแต่หล่อเหลือร้ายตรงหน้า เขาเหมือนจอมวายร้ายที่กำลังบีบให้เธอจนแต้ม แต่ข้อเสนอที่เขายื่นให้... มันก็น่าสนใจ เมื่อมันคือการสร้างงานให้คนอีกเป็นจำนวนมากในประเทศของเธอ เพียงแค่เธอเสียสละเล็กๆ ครั้งเดียว!!
“ว่าไง?” เสียงเขาเร่งซ้ำมาอีก เธอกำลังจะอ้าปากปฏิเสธเมื่อมันสุดที่จะทำ
“วานร!! เรียกบริษัทต่อไปเข้ามาเลย” เสียงของเขาตะโกนบอกใครบางคนด้านนอก ทำให้สีดาตัดสินใจ แค่สวมชั้นในให้เขาดูคนเดียว แลกกับผลประโยชน์มหาศาลของคนในชาติ เธอยอมให้ไม่ได้เชียวหรือ? (นึกว่าใส่ชุดว่ายน้ำมาเดินกรุยกรายริมสระก็ได้นี่ มันไม่ต่างอะไรกันหรอก)
ได้สิ!! ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ...เสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนสวนกลับมา เธอทำได้สิ ไม่น่ายากนึกว่าใส่ชุดว่ายน้ำก็แล้วกัน
“คุณคะ!! หากดิฉันยอมใส่ชุดนั้น...ให้คุณดู... คุณจะเซ็นสัญญากับเพชรนลินจริงๆ เหรอคะ?”
“อืม...โปรเจกต์ครั้งนี้ผมเป็นคนคิด สิทธิ์ขาดอยู่ที่ผมคนเดียว” ประกายตาของชายหนุ่มเปล่งวูบ เขากลั้นใจฟังคำตอบ แทบจะกระโดดชกลม เมื่อเจ้าหล่อนพยักหน้ารับแบบเหนียมอาย
“หะ ห้องเปลี่ยนชุดอยู่ด้านนั้น คุณมีเวลา3 นาที”
หะ!! สีดากลอกตา หมอนี้เป็นอะไรกับCronus เทพพระเจ้าผู้ควบคุมเวลาหรือไงนะ? ถึงได้กำหนดกะเกณฑ์เวลาเสียจัง
ทศกัณฐ์กลับไปนั่งที่หัวโต๊ะเหมือนเดิม เขากลัวตัวเองขายขี้หน้า เมื่อรู้สึกว่านางสีดาของทศกัณฐ์คนนี้จะมีอิทธิพลกับร่างกายตัวเองเกินไป เธอทำให้เลือดในกายของเขาระอุร้อนเพียงแค่ขยับแย้มริมฝีปาก เธอทำให้กระดูกในร่างกายของเขาแทบทุกชิ้นเกือบจะละลายกลายเป็นวุ้น!! แค่เธอเคลื่อนตัวยั่วเย้า หากได้เห็นผิวกายผุดผาดโดยที่ปราศจากเสื้อผ้า เขากลัวว่าตัวเองจะเข่าอ่อนหรือไม่ก็อาจจะหน้ามืด แล้วกระโจนเข้าปล้ำเธอเสียนะสิ
สีดาเดินวนอยู่ในห้องน้ำ เธอถอดเสื้อเปลี่ยนมาใส่ยกทรงที่ตัดเย็บเองกับมือ สีหมากแห้งของผ้าไหมชั้นดีนั้นขับผิวขาวปานหยวกกล้วยของตัวเองให้ผ่องขึ้นนับเท่าตัว เธอสูดลมหายใจลึกๆ ยกเสื้อขึ้นปิดเนินอกไว้ แม้จะทำใจอย่างดีจากข้างใน แต่นี่คือการทำอะไรแหวกแนวครั้งแรกของตัวเอง เธอไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนเห็นตัวเองแบบลึกๆ ขนาดนี้ หากไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของคนทั่วไป เธอคงไม่ต้องลงทุนขนาดนี้หรอกน่า
เอาวะ!!