bc

เด็กอ้วนคนนี้...เป็นแฟนพี่ได้ไหมครับ?

book_age12+
11
ติดตาม
1K
อ่าน
ครอบครัว
จบสุข
รักต่างวัย
พ่อเลี้ยง
ผู้สืบทอด
หวาน
เบาสมอง
สาสมใจ
วิทยาลัย
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
ปิ๊งรักวัยเด็ก
love at the first sight
addiction
like
intro-logo
คำนิยม

เธอคือหญิงสาวตัวนุ่มนิ่ม ที่ไม่ว่าจะก้าวไปทางไหนก็โดนแกล้ง

แล้วผู้ชายที่เข้าหาเธอคนนั้นจะแกล้งเธอเหมือนคนอื่นๆไหมนะ?

แล้วทำไมถึงได้ขยันเข้ามาทำให้เธอคนนี้หวั่นไหวอยู่เรื่อย

ยิ่งเขาเข้าใกล้ คนรอบข้างยิ่งแกล้งเธอ

แล้วแบบนี้เธอควรจะทำยังไงกันดี

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
เด็กอ้วนคนนี้...เป็นแฟนพี่ได้ไหมครับ? 1
เด็กอ้วนคนนี้...เป็นแฟนพี่ได้ไหมครับ? 1 เบื้องหน้าตึกสูงใหญ่ที่มีนักศึกษาเดินกันเข้าออกขวักไขว่ เมื่อหกเดือนก่อนบริเวณลานด้านหน้าอาคารเคยเป็นสถานที่รับน้องของคณะที่ฉันกำลังศึกษาอยู่ แต่ก็เป็นเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วนั่นแหละตอนนี้กลับเข้าสู่ช่วงการเรียนแบบปกติแล้วและผ่านพ้นช่วงกิจกรรมรับน้องมาแล้วด้วย ซึ่งฉันเองก็มีประสบการณ์รับน้องที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่เลยไม่อยากจดจำอะไรในช่วงนั้น “วุ้นกรอบ! แดดมันแรงรีบเดิน” แทบจะไม่รู้ตัวว่ายืนเหม่ออยู่ท่ามกลางแสงแดดเจิดจ้านานเท่าไหร่และรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกเพื่อนเรียกเสียงดังนั่นแหละ เมื่อได้สติก็รีบหันหน้าไปมองเพื่อนแล้วส่งยิ้มอ้อนทันที เมื่อเดินเข้าไปใกล้เพื่อนสาวก็ควงแขนอย่างออดอ้อน “เดี๋ยวผิวไหม้ยัยตัวนิ่ม รีบเดินได้แล้ว” คิมมี่ เพื่อนชายใจสาวของฉันเอ่ยบอกมือก็รีบยกร่มที่กางกั้นแสงแดดให้ตัวเองแบ่งมาทางฉันอย่างใจดี ที่จริงคิมมี่ชื่อขุมทรัพย์แต่พอเข้ามหา’ลัยก็เปลี่ยนเป็นคิมมี่บอกว่าชื่อไม่เก๋ไม่ชอบสักเท่าไหร่ และฉันก็ต้องเรียกคิมมี่เท่านั้น นอกจากคิมมี่แล้วยังมีเพื่อนอีกสองคนของเราชื่อ กายกับฤดีเพื่อนทั้งสองคนมาจากต่างจังหวัดหากมีโอกาสฉันเองก็อยากจะไปเที่ยวบ้านเพื่อนเหมือนกันนะ อยากรู้ว่าครอบครัวเพื่อนเป็นยังไงเพื่อนทั้งสามคนถึงได้น่ารักและใจดีกับฉันแบบนี้ ต่างจากคนอื่นที่ไม่ค่อยชอบติดจะรังเกียจฉัน แม้รูปร่างของฉันจะไม่ได้สวยเหมือนสแตนด์ดาร์ดทั่วไปแต่ฉันก็เป็นเพียงแค่คนคนหนึ่งที่มีความรู้สึกกับสิ่งที่พวกเขาต่างพูดดูถูก หรือบางครั้งก็แกล้งเล่นหรือแซวด้วยถ้อยคำหรือกิริยาที่รุนแรง มีเพียงแค่สามคนนี้นี่แหละที่เข้ามาทักและชวนฉันเล่นด้วยตั้งแต่ได้เข้ามาเรียนที่นี่วันแรก จนถึงตอนนี้แล้วเพื่อนยังคบกับฉันอยู่และน่ารักกับฉันมากในทุก ๆ วัน “เข้าเรียนของสมชายเสร็จแล้วไปกินส้มตำกันไหม อยากกิน ไม่มีเรียนต่อแล้วด้วย” ฤดูที่ยืนรอตรงบันไดทางขึ้นอาคารเอ่ยถามฉันและคิมมี่ที่เพิ่งจะเดินมาถึง “เอาสิ อยากกินไก่ย่างเหมือนกัน ชะนีน้อยไปด้วยกันนะ” คิมมี่หันมาชวนฉันในท้ายประโยค “ไป...” “อุ๊ย กล้าเรียกว่าน้อยได้ยังไง ตัวอย่างกับช้าง ดูหน้าสิสิวเขรอะขนาดนั้น นี่คิมมี่ระวังนะ ระวังเชื้อโรคบนหน้ายัยวุ้นเน่าจะแปดเปื้อนเธอนะ” ยังไม่ทันจะได้ตอบก็ดันมีประโยคที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่เอ่ยแทรกเข้ามา ฉันเงียบเสียงลงก้มหน้าหลบสายตากลุ่มเจ้าของเสียงนั้นอย่างไม่สบายใจ และไม่เคยจะชินเสียทีที่เพื่อนต่างแซวฉันด้วยถ้อยคำรุนแรงแบบนั้น “อ้าวเหรอ? ขอบใจนะที่เตือน แต่เธอก็ระวังด้วยล่ะเวลาฉีดหน้า ดูดไขมันระวังติดเชื้อเข้าสักวัน อุ๊ย ขอโทษจ้ะไม่ได้ตั้งใจ แค่อยากเตือน” คิมมี่ปิดปากขอโทษเมื่อเผลอพูดอะไรออกไป แต่ท่าทางของคิมมี่นั้นไม่ได้รู้สึกผิดเหมือนคำพูดของเจ้าตัวเลยสักนิด “นี่แก!” “ชัตอัป!! เสียงดัง ผู้ชายที่เธอคั่วอยู่กำลังเดินมานะยะ! ไปกันพวกเราไปเรียนกันเถอะ” คิมมี่ขู่เจ้าของเสียงนั้นก่อนจะเอ่ยชวนฉันกับเพื่อนอีกสองคนให้เดินไปเข้าลิฟต์ด้วยพร้อมกัน “อย่าไปใส่ใจฟังเลยนะ หมามันเห่าไปเรื่อย” ฤดีเอ่ยปลอบ มือก็ยกขึ้นวางบนไหล่ฉันอย่างแผ่วเบาก่อนจะลูบไปมาปลอบโยนให้ฉันหายเศร้าใจที่ถูกคนอื่น ๆ ในคณะพูดในเชิงนี้อยู่ตลอด ทั้งที่ก็คิดว่าพอเข้ามหา’ลัยแล้วจะไม่มีการพูดในเชิงนี้ แต่ไม่ใช่เลย เหมือนสังคมมหา’ลัยยังมีเรื่องราวแบบนี้อยู่ การกดข่มคนอื่นให้ด้อยกว่าตัวเอง หรือบางครั้งอาจจะเรียกว่าการบุลลีก็คงจะได้ และแน่นอนว่าฉันได้รับสิ่งนี้มาตั้งแต่ช่วงมัธยมปลายจวบจนตอนนี้ที่เรียนอยู่มหา’ลัยปีหนึ่งเทอมสอง ฉันยังเจอเรื่องราวและเหตุการณ์แบบนี้อยู่ น่าเศร้าใจเสียจริง

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook