ตอนที่ 2

2293 คำ
ในเวลาต่อมา ฮือๆๆๆ เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ดังออกมาเป็นระยะๆ นั้นบ่งบอกถึงความเสียใจของคนร้องได้เป็นอย่างดี สองสาวต่างวัยที่ฝ่ายหนึ่งเป็นคนร้อง อีกฝ่ายเป็นคนปลอบและเป็นอยู่อย่างนั้นได้พักใหญ่ หญิงวัยกลางคนยกมือข้างหนึ่งลูบเรือนผมนุ่มสลวยของหญิงสาวที่ยังเอนซบอกร้องไห้อยู่อย่างนั้นอย่างแผ่วเบา ชื่นจิตกอดร่างบอบบางเอาไว้แน่น ตั้งแต่ที่เห็นหญิงสาววิ่งร้องไห้เข้ามาในครัว ก่อนจะเค้นถามอยู่นานกว่าเนื้อแพรจะยอมเอ่ยบอกเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องร้องไห้ออกมาไม่หยุดอยู่แบบนี้ “คุณแพรของน้า...โธ่ แม่คุณของน้า เคราะห์กรรมอะไรนักหนานะถึงได้ต้องมาเจอะมาเจอกับคนแบบนี้” “น้าชื่นอย่าพูดแบบนี้สิคะ”เนื้อแพรพูดบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นจากอกที่เอนซบอยู่ในขณะนี้ หญิงสาวเห็นดวงตาของชื่นจิตที่มองสบมานั้นแดงก่ำจึงพูดต่อออกมาว่า “เดี๋ยวคุณท่านมาได้ยินเข้าน้าชื่นจะเดือดร้อนเอาได้” “ได้ยินก็ได้ยินสิคะ ดีซะอีก น้าจะได้ลาออกไปให้มันพ้นๆ จากที่นี่ซะที ในเมื่อไม่มีคุณหนูอยู่ที่นี่แล้วน้าก็ไม่อยากอยู่แล้วเหมือนกันแหละค่ะ” ชื่นจิตพูดบอกน้ำเสียงเอาเรื่อง “อย่าเลยค่ะ แพรขอเถอะนะคะ”หญิงสาวเอ่ยเสียงสะอื้น และนั่นก็ทำให้ชื่นจิตต้องหยุดอารมณ์โกรธเอาไว้ ก่อนจะคว้าเอาร่างบางของหญิงสาวที่รักเหมือนลูกเข้ามากอดไว้อีกครั้ง “ทำไมคุณผู้หญิงถึงทำอย่างนี้นะ เงินทองก็ออกจะมีมากมาย ใช้ไปถึงชาติหน้าก็ไม่หมด แล้วทำไมจะต้องให้คุณหนูของชื่นไปใช้หนี้ด้วยวิธีแบบนี้ด้วย ชื่นไม่เข้าใจเลยจริงๆ แล้วนี่คุณหนูจะต้องไปเมื่อไหร่ล่ะคะเนี่ย แล้วไหนจะเรื่องเรียนอีกล่ะจะทำยังไง” ชื่นจิตไม่วายห่วงกังวลเรื่องเรียนของหญิงสาว “ยังไม่รู้เหมือนกันเลยค่ะ คุณท่านบอกแต่เพียงว่าให้เตรียมตัวเอาไว้เท่านั้น แต่ยังไงแพรก็คงจะต้องไปขอดร็อปเรียนจากทางมหาวิทยาลัยให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วก็ยังเรื่องทุนที่ได้อีก คงจะต้องสละสิทธิ์ให้กับคนอื่นเขาไปแทน” “โธ่...คุณหนูขา ไม่น่าเลย น้าชื่นขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองคุณหนูของชื่นด้วยนะคะ ขอให้คนที่มันคิดร้ายกับคุณหนูมันต้องแพ้ภัยไปเอง ขอให้เจ้าบ่าวของคุณหนูเป็นคนใจดีมีเมตตานะคะ”พูดไปน้ำตาก็ไหลรินไม่ขาดสาย “เจ้าบ่าวที่ไหนกันล่ะน้าชื่น คุณท่านให้แพรไปเป็นเมีย เอ่อ...อย่าพูดว่าเมียเลย ไปเป็นนางบำเรอใช้หนี้เขาต่างหาก ใครที่ไหนเขาจะมาแต่งงานกับเรา ยกย่องเราให้เป็นเจ้าสาวล่ะ” พูดจบน้ำตาเม็ดใสก็ร่วงเผาะลงมาใส่มือของชื่นจิต ที่กอบกุมมือเรียวเอาไว้อย่างให้กำลังใจก็ยิ่งบีบกระชับแรงยิ่งขึ้นไปอีก “ไม่รู้ว่าน้าจะมีโอกาสได้เจอกับคุณหนูอีกไหม คุณท่านได้บอกระยะเวลาหรือเปล่าคะ” ชื่นจิตเอ่ยถามออกมาเสียงสั่นเครือ ก่อนจะได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าให้รู้ พร้อมกับใบหน้าเศร้าๆ ของหญิงสาวที่ยังคงมีหยาดน้ำตาไหลซึมออกมาอยู่ตลอดเวลา “กี่วันคะคุณหนู” “ไม่มีกำหนดค่ะ” “ไม่มีกำหนด!” เสียงชื่นจิตร้องออกมาจนเกือบจะเป็นตะโกน แล้วพูดต่ออีกว่า “จะเป็นไปได้ยังไงกันคะคุณหนู ถึงจะไปใช้หนี้เขายังไงก็ต้องมีระยะเวลากำหนดค่ะ” “จำนวนหนี้มันสูงค่ะ อาจจะต้องใช้ทั้งชีวิตเลยก็ได้” เนื้อแพรพูดเสียงเศร้า เมื่อนึกถึงจำนวนหนี้ที่จะต้องไปชดใช้ให้กับเจ้าหนี้ของคุณท่านรายนี้ “ทั้งชีวิตเลยหรือคะ มันสูงมากถึงขนาดนั้นเลยหรือคะคุณหนู แล้วเรื่องเรียนจะทำยังไงล่ะคะ” ชื่นจิตยังไม่วายซัก “ก็...10 ล้านน่ะค่ะน้าชื่น เรื่องเรียนเดี๋ยวค่อยคิดหาวิธีทีหลัง ตอนนี้แพรเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันค่ะ” “10 ล้าน!!!”ชื่นจิตอุทานดังลั่น จนเนื้อแพรต้องรีบยกมือขึ้นมาอุดปากของชื่นจิตเอาไว้แทบไม่ทัน “น้าชื่นอย่าเสียงดังไปสิคะ แพรไม่อยากให้ใครรู้” “โธ่! คุณหนูของชื่น”พูดจบชื่นจิตก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ทำเอาเนื้อแพรน้ำตาไหลตามออกมาเช่นกัน ชื่นจิตเห็นหญิงสาวร้องไห้ตามก็รีบป้ายเช็ดน้ำตาตัวเองก่อนยกมือขึ้นเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ไหลรินรดแก้มนวลของหญิงสาวตรงหน้าออกอย่างเบามือ “คุณหนูอย่าร้องนะคะ คุณหนูต้องเข้มแข็งนะคะ น้าชื่นขอโทษค่ะที่ร้องไห้ออกมาแบบนี้ทำให้คุณหนูต้องร้องไห้ตาม อย่าร้องเลยนะคะคนดีของน้าชื่น” “น้าชื่นเองก็เหมือนกันนะคะ อย่าร้องนะคะ ถือซะว่ามันเป็นชะตากรรมของแพรที่ถูกลิขิตมาให้ต้องชดใช้ให้กับคุณท่านก็แล้วกันค่ะ และแพรจะถือด้วยว่าแพรได้ชดใช้หนี้ของแม่ที่มีต่อคุณท่านไปแล้วด้วยเช่นกัน” พูดจบเนื้อแพรก็ไม่อาจห้ามน้ำตาของตัวเองได้ จึงได้แต่ปล่อยให้มันไหลรินออกมาอยู่อย่างนั้น โดยมีชื่นจิตร่วมร้องไห้เป็นเพื่อนอยู่ด้วย ต่างฝ่ายต่างปลอบใจกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่ชื่นจิตจะเป็นฝ่ายที่หยุดร้องก่อนหญิงสาว เพราะไม่อยากให้เนื้อแพรรู้สึกหดหู่และเศร้าโศกต่อโชคชะตาของตัวเองไปมากกว่านี้ “หยุดร้องเถอะค่ะคุณหนูของชื่น ร้องมากเดี๋ยวตาบวมนะคะ” พลางเอื้อมมือมาลูบที่แผ่นหลังบางเบาๆ เป็นการปลอบ “ไปค่ะ เดี๋ยวชื่นจะช่วยคุณหนูเก็บของเองนะคะ เอาของสำคัญๆ ไปให้หมดเลยค่ะ อย่าเก็บเอาไว้ เอาติดตัวไปด้วยนะคะ” “ค่ะ น้าชื่น” เนื้อแพรรับคำเสียงแผ่ว ก่อนพากันลุกเดินไปยังห้องของหญิงสาวเพื่อเก็บของใช้จำเป็นในการเดินทาง สองวันต่อมา หญิงสาวในวัยที่สดใสแต่เวลานี้หัวใจกลับไม่สดสวย หัวใจดวงน้อยเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งนักกับเวลานี้ ที่เจ้าหนี้ของคุณท่านกำลังจะมารับตัวเธอไปในอีกไม่ช้านี้แล้ว เนื้อแพรถูกบังคับให้แต่งกายด้วยชุดใหม่ที่ดูดีและสมฐานะลูกสาวของคุณผกากรอง ทวีขจรไพศาล หญิงสาวอยู่ในชุดเดรสผ้าชีฟองสีชมพูอ่อน ซึ่งเป็นชุดที่คุณผกากรองซื้อให้กับหญิงสาวเป็นครั้งแรก และมันอาจทำให้เนื้อแพรดีใจก็เป็นได้หากว่าเธอจะได้รับมันในโอกาสอื่นที่ไม่ใช่โอกาสนี้...เพราะการรับในครั้งนี้มันหมายถึงการที่เธอจะต้องออกไปจากบ้านหลังนี้นั่นเอง ยิ่งคิดน้ำตาที่เอ่อคลออยู่แล้วก็ไหลรินอาบแก้มนวลขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ชื่นจิตจะเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงสวนหย่อมข้างบ้านเงียบๆ “คุณหนูขา”ชื่นจิตพูดเสียงแผ่ว หากแต่ภายในใจนั้นเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งนัก ลูกสาวของคุณผู้ชายที่ตนเองเคารพรักและรับปากว่าจะดูแลให้ดีที่สุดนั้น บัดนี้ชื่นจิตไม่สามารถทำตามที่เคยให้สัญญาเอาไว้ได้ คุณหนูคนสวยของนางถูกคนที่มีอำนาจมากที่สุดของบ้านหลังนี้ใช้วิธีสกปรกที่สุดบังคับให้ต้องรับใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อให้กับเจ้าหนี้ ก่อนเอื้อมมือลูบเรือนผมนุ่มสลวยนั้นอย่างเบามือ เนื้อแพรมองสบดวงตาแดงก่ำของชื่นจิตก่อนจะโอบเอวของคนที่เปรียบเสมือนมารดาเอาไว้แน่น “ทำไมคุณหนูถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ล่ะคะ” “คุณท่านสั่งให้มารออยู่ที่นี่ค่ะ บอกว่าถ้าเจ้าหนี้มารับก็ให้ไปกับเขาได้เลย ไม่จำเป็นต้องพาเข้าไปในบ้านน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดเสียงสั่นเครือ “คุณผู้หญิงทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วยนะ ทั้งๆ ที่คุณหนูยอมไปใช้หนี้แทนคุณยุทธกับคุณรสให้ ความเมตตาสักนิดก็ไม่มี จิตใจทำด้วยอะไรกันเนี่ย” ชื่นจิตพูดอย่างมีอารมณ์ นึกขุ่นเคืองกับการกระทำของนางผกากรองยิ่งนัก “น้าชื่นอย่าพูดดังไปสิคะ ถือซะว่าการใช้หนี้ของแพรให้กับคุณท่านในครั้งนี้เป็นการชดใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่แพรกับแม่ของแพรทำไว้กับคุณท่านก็แล้วกันค่ะ เพราะหลังจากวันนี้ไปแพรจะไม่เป็นหนี้อะไรกับคุณท่านอีกแล้ว” “คุณหนูขา คุณหนูไม่ได้เป็นหนี้อะไรคุณผู้หญิงเลยนะคะ คุณหนูบริสุทธิ์ คุณหนูของน้าชื่นไม่ได้มีความผิดอะไรเลยสักนิด คนที่ผิดน่ะคือคุณผู้หญิงต่างหากค่ะ” “แพรผิดค่ะน้าชื่น แพรผิด แม่ผิด คุณพ่อผิด...ผิดที่ทำให้คุณท่านต้องเจ็บช้ำน้ำใจจนถึงทุกวันนี้” พูดจบน้ำตาเม็ดใสก็ไหลรินกระทบแก้มนวลทันที และนั่นก็ทำให้ชื่นจิตไม่อาจที่จะพูดอะไรออกมาได้อีก เพราะมันคือความจริงที่สุดในสิ่งที่หญิงสาวพูดออกมา แต่ถึงจะจริง ความผิดนั้นก็ไม่น่าที่จะต้องมาตกอยู่ที่คุณหนูแพรของตนให้ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเลยสักนิด ในระหว่างนั้นได้มีรถเบนซ์สีดำแล่นเข้ามาจอดที่หน้าประตูรั้วของบ้าน แล้วบีบแตรเสียงดังเป็นสัญญาณ ปี๊น ปี๊น “เสียงแตรรถ ไม่ใช่รถที่จะมารับคุณหนูมาแล้วหรือคะ น้าชื่นขอตัวไปดูก่อนนะคะ” ชื่นจิตพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้นที่หน้ารั้วบ้าน “ค่ะน้าชื่น”หญิงสาวตอบรับเสียงแผ่ว ก่อนที่ชื่นจิตจะเดินไปที่รั้วบ้านเพื่อสอบถามในทันที ก่อนชายฉกรรจ์สองคนในชุดดำจะลงมาจากรถ และพูดขึ้นทันทีที่เห็นมีคนเดินมาที่ประตูรั้วบ้าน “พวกเรามารับน้องสาวของคุณพีรยุทธ” “รอสักครู่ค่ะ” ชื่นจิตรับคำอย่างเกรงๆ ทีแรกว่าจะเข้าไปซักถามข้อมูลสักหน่อย แต่เอาเข้าจริงกลับไม่กล้า ก่อนบ่นอุบอิบเสียงเบาว่า “คนอะไรกัน หน้าตาน่ากลัว ท่าทางไม่เป็นมิตรเลยสักนิด” แล้วรีบสาวเท้าเข้าไปหาเนื้อแพรที่ยืนเตรียมพออยู่แล้วตรงหน้า “คนที่จะมารับแพรใช่ไหมคะน้าชื่น” “ค่ะ คุณหนู สองคนนั่นหน้าตาน่ากลัวจังค่ะ” “คงไม่มีอะไรที่จะน่ากลัวไปกว่านี้แล้วล่ะค่ะ” พูดจบเนื้อแพรก็เดินนำออกไปทันที ชื่นจิตรีบยกกระเป๋าเดินทางใบเล็กของหญิงสาวตามไปติดๆ เนื้อแพรกวาดตามองใบหน้าที่สวมแว่นกันแดดปกปิดดวงตาของชายฉกรรจ์สองคนที่ยืนรออยู่อย่างหวาดๆ ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของทั้งสองยิ่งทำให้หญิงสาวหวาดกลัวขึ้นมาเสียเฉยๆ ก่อนจะหยุดยืนตรงหน้าของชายชุดดำทั้งสอง “คุณหนูมาแล้วค่ะ” ชื่นจิตเป็นฝ่ายพูดขึ้นทันทีที่เดินมาถึงประตูรั้ว “เชิญครับ”หนึ่งในสองชายชุดดำพูดขึ้น แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นฟังดูแข็งกระด้างยิ่งนัก “ฉะ...ฉันขอถามอะไรพวกคุณก่อนขึ้นรถได้ไหม” “ไม่ได้ คุณจะถามอะไรพวกเราก็ให้ถามในรถ เพราะเราต้องเดินทางกันอีกไกล ถ้าช้ามันจะทำให้เราไปถึงที่เกาะมืด มันจะเป็นอันตราย” ชายชุดดำอีกคนปฏิเสธการตอบคำถามของเนื้อแพร ก่อนจะรีบดันร่างบอบบางของหญิงสาวเข้าไปในรถทันที “ว้าย!”เนื้อแพรหวีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนกด้วยไม่คิดว่าชายชุดดำจะกล้าทำกับเธอเช่นนี้ “นี่! พวกแกทำอะไรคุณหนูน่ะ ปล่อยคุณหนูเดี๋ยวนี้นะ” ชื่นจิตเมื่อเห็นคุณหนูของตนหวีดร้องออกมาเช่นนั้นก็หมายที่จะเข้าไปช่วย ก่อนที่ชายชุดดำจะชี้นิ้วไปที่หน้าของชื่นจิตพร้อมกับเสียงคำรามลั่นออกมาสั่งให้หยุด ทำให้เนื้อแพรเองก็หยุดการดิ้นรนที่จะพาตัวเองออกมาจากรถเบนซ์สีดำคันนั้น “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ! อย่าเข้ามายุ่งเชียวนะ! และจำเอาไว้ด้วยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นทรัพย์สินของคุณอัศนี! ใครหน้าไหนก็ห้ามยุ่งเด็ดขาด!!” พูดจบก็ก้าวขึ้นไปนั่งคู่กับหญิงสาวที่เบาะหลังและปิดประตูรถทันที พร้อมกับรถที่ขับเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็ว “คุณหนู! คุณหนูเนื้อแพร!”ชื่นจิตได้แต่พร่ำร้องเรียกชื่อของคุณหนูที่ตนรักอยู่อย่างนั้น โดยหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีสายตาสองคู่ของนางผกากรองและโชติรส แม่ลูกสาวตัวดียืนมองดูผ่านทางหน้าต่างบริเวณห้องนั่งเล่นชั้นบนของตัวบ้านด้วยความสะใจ ที่สามารถกำจัดเสี้ยนหนามที่คอยทิ่มแทงหัวใจของตนออกไปพ้นๆ ได้สำเร็จ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม