บทที่ 5

1119 คำ
นาราภัทรชักโมโหอีกระลอกที่ถูกผู้ชายที่ไม่รู้จักมักจี่มาต่อว่าเอา “ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาสงสารฉัน ถอยไป ฉันจะไปเรียกรถคันอื่น มันต้องมีสักคันที่ยอมไปส่งฉันที่คฤหาสน์ผีสิง” “เอาหัวเป็นประกันไหมล่ะ ต่อให้คุณเรียกวันนี้ทั้งวัน ก็ไม่มีแท็กซี่คันไหนยอมไปส่งคุณ” แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่าไม่มีแท็กซี่คันไหนกล้าไปเหยียบถึงถิ่นของมาเฟียดังแห่งเกาะซิซิลี อย่าว่าแต่เข้าไปเหยียบเลย แค่เข้าไปใกล้ขอบรั้วกำแพงของคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ ยังไม่สามารถทำได้เลย เจอผู้ชายตรงหน้า ซึ่งนอกจากจะหล่อเหลาแล้ว ยังแลดูน่าเกรงขาม ท้าทายด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำเอานาราภัทรเริ่มลังเลเหมือนกัน เพราะเห็นอยู่แล้วว่าไม่มีแท็กซี่คันไหนยอมไปส่งเธอเลย “ดูเหมือนคุณจะรู้เรื่องเกี่ยวกับคฤหาสน์อัลซาโค้ร์เป็นอย่างดี” “ผมรู้ทุกซอก ทุกมุม ทุกตารางนิ้วของคฤหาสน์หลังนี้” มาคอสตอบรับเสียงหนักแน่น นาราภัทรหรี่ตามองผู้ชายตรงหน้า อยากรู้ขึ้นมาตะหงิดๆ ว่าผู้ชายคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ และเขารู้จักผู้ชายที่ชื่อ ‘ริคคาร์โด้’ มากเพียงใด “คุณรู้จักกับคนที่ชื่อริคคาร์โด้ ที่เป็นเจ้าของคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ด้วยหรือคะ”   “รู้จักสิ” มาคอสตอบสั้นๆ ไม่ยอมขยายความไปมากกว่านี้ “ดูท่าทางคุณจะรู้จักที่นั่นดีเหลือเกิน เคยไปที่นั่นหรือคะ” “ไม่ใช่แค่เคยไป แต่ผมอยู่ที่นั่น” ตอบไปแล้ว มาคอสก็หัวเราะอยู่ในลำคอ ก่อนจะพูดเสียงกลั้วเสียงหัวเราะต่อ “ผมเป็นคนสวนที่นั่น ก็เลยรู้จักคฤหาสน์อัลซาโค้ร์เป็นอย่างดี” “ไปหลอกเด็กอมมือเถอะค่ะ คนสวนบ้าอะไร แต่งตัวยังกับพวกมาเฟีย” คราวนี้มาคอสหัวเราะดังลั่น เมื่อถูกเหน็บแทงใจดำ กระนั้นก็ยังยืนกรานว่าตนเองเป็นคนสวนอยู่ “อ้าว ไม่เชื่ออีกว่าผมเป็นคนสวน” นาราภัทรเหนื่อยที่จะตอแยกับผู้ชายคนนี้ อีกทั้งยังอยากไปส่งพัสดุให้ถึงมือผู้ชายที่ชื่อริคคาร์โด้ให้เร็วที่สุด จึงโบกมือว่อน พูดตัดรำคาญในทันที “ช่างคุณเถอะ คุณจะเป็นใคร ฉันไม่สนใจทั้งนั้น ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคฤหาสน์ผีสิง” นาราภัทรเดินหนีทันทีที่พูดจบ แต่ร่างบางระหงเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็ถูกมือใหญ่ของมาคอสคว้าต้นแขนเนียนไว้เสียก่อน “เดี๋ยวสิคุณ จะรีบไปไหนครับ” นาราภัทรหันขวับ ถลึงตาเขียวใส่ พร้อมกับตะคอกสั่งเสียงห้วนจัด “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” “โอเค ปล่อยก็ได้” เจอสายตาที่ถลึงจ้องมองเขม็งไม่ต่างจากนางพญา มาคอสจำต้องปล่อยต้นแขนเล็กในที่สุด “คุณต้องการไปคฤหาสน์อัลซาโค้ร์ไม่ใช่หรือ ผมจะไปที่นั่นอยู่แล้ว คุณไปพร้อมกับผมเลยก็ได้” “ไม่ ขอบคุณ” นาราภัทรปฏิเสธและกล่าวขอบคุณเสียงแข็ง ก่อนจะเดินหนีอีกครั้ง แต่มาคอสก็เดินมาดักหน้าไว้เช่นเคย “ทำไมคุณไม่ไปที่คฤหาสน์อัลซาโค้ร์กับผม” มาคอสถามอย่างเอาเรื่อง เพราะไม่มีใครกล้าปฏิเสธคนอย่างเขา แต่พอถูกนาราภัทรสะบัดหน้าหนี ก็ชักจะไม่พอใจ “ฉันไม่ไว้ใจคุณ ฉันไม่รู้จักคุณ ฉันไม่มีทางไปกับคุณเด็ดขาด และไม่เชื่อด้วยว่าคุณจะเป็นแค่คนสวนที่คฤหาสน์อัลซาโค้ร์เหมือนอย่างที่พูดตะกี้นี้ หน้าตาของคุณมันบ่งบอกว่าเป็นพวกมาเฟียชัดๆ” นาราภัทรตอกหน้ามาคอสชุดใหญ่ ไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นแค่เพียงคนสวน เธอไม่ใช่คนโง่ที่จะดูไม่ออกว่าชุดสูท รวมทั้งเครื่องประดับที่ชายผู้นี้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นแว่นตา นาฬิกา หรือแม้กระทั่งแหวนที่เขาสวมติดนิ้วก้อย ล้วนแต่เป็นของแบรนด์เนมและมีราคาแพงทั้งสิ้น มาคอสเลิกเล่นละคร ชายหนุ่มถอดแว่นตาออก เผยให้เห็นดวงตาสีฟ้าคมกริบ ก่อนจะเอ่ยต่อรองกับนาราภัทรเสียงเข้ม “ถ้าคุณยอมบอกว่ามีธุระอะไรถึงต้องการไปที่คฤหาสน์อัลซาโค้ร์ให้ผมรู้ ผมก็จะยอมบอกเหมือนกันว่าผมเป็นใคร” “หวังว่าคุณคงไม่ใช่ริคคาร์โด้ อัลซาโค้ร์หรอกนะ” นาราภัทรเหน็บแนมไม่เต็มเสียงนัก ไม่คิดว่าชายหนุ่มผู้นี้จะเป็นคนที่เธอกำลังตามมาหาอยู่ “ไม่ใช่” มาคอสปฏิเสธทันทีที่นาราภัทรพูดจบ คำพูดของมาคอส ทำให้นาราภัทรช่างใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบในที่สุด “ก็ได้ค่ะ ฉันจะยอมบอกคุณ ฉันชื่อนาราภัทร เป็นน้องสาวของพี่เพิร์ล นิลนารา พี่เพิร์ลให้ฉันเอาของสำคัญมาให้กับเอ่อ...อดีตคู่หมั้นที่ชื่อริคคาร์โด้” ขณะเอ่ยพูดถึงชื่อของพี่สาว นาราภัทรไม่แน่ใจว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า ที่เห็นแววตาของชายผู้นี้คล้ายกับมีความรักที่มาพร้อมกับความเจ็บปวด ซึ่งเจ้าตัวเผยให้เห็นแค่เพียงชั่วขณะวูบเดียวเท่านั้น เมื่อเห็นท่าทางสงสัยของนาราภัทร มาคอสก็รู้สึกตัว ปรับสีหน้าและแววตาให้เป็นปกติเรียบเฉยดั่งเดิม แล้วเอ่ยบอกว่า “ผมจะพาคุณไปพบกับริคคาร์โด้เอง” “คุณรู้จักเขาหรือคะ” “รู้จักสิครับ เพราะผมเป็นน้องชายของเขา” “น้องชาย!” นาราภัทรถามเสียงหลง เบิกตาโตด้วยความแปลกใจอยู่มาก “ใช่ ผมเป็นน้องชายของริคคาร์โด้ ชื่อ...มาคอส อัลซาโค้ร์ คุณจะเรียกผมว่ามาคอสก็ได้” “คนสวนกิตติมศักดิ์” นาราภัทรเหน็บแนมเบาๆ เรียกเสียงหัวเราะร่วนได้จากมาคอส “คราวนี้คุณจะไปที่คฤหาสน์อัลซาโค้ร์กับผมได้หรือยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับก้าวเดินนำหน้านาราภัทรตรงไปยังรถสปอร์ตราคาแพงลิบของเขา ซึ่งอยู่ในลานจอดรถไม่ไกลนัก พอมาคอสเดินจ้ำอ้าวออกจากสนามบิน นาราภัทรก็จำต้องลากกระเป๋า ซอยเท้ายิกๆ ตามอีกฝ่าย โดยไม่ลืมตะโกนถามมาคอสด้วย “ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณรู้จักกับริคคาร์โด้จริง และจะเชื่อได้ยังไงว่าคุณเป็นน้อง ชายของเขา” “อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการเสี่ยงเลือกของคุณ ว่าจะเชื่อหรือไม่ แต่ผมบอกได้คำเดียวว่า คนในตระกูลอัลซาโค้ร์ ไม่เคยพูดโกหก เหมือนใครบางคน” 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม