ตอนที่ 1
คัทลียา ถูกส่งตัวไปอยู่กับ ไกรสูรย์ เอ็ม. แซ็กเคอร์วิตซ์ เจ้าของไร่ไม้ดอกไม้ประดับส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี เธอคิดว่าผู้ปกครองหนุ่มวัย 38 หน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตร
เป็นคนจริงจังชอบวางอำนาจ แต่เมื่อได้ค้นพบบางสิ่งบางอย่าง สาวสวยวัยสะพรั่งก็แทบไม่อาจถอนใจ จากเสน่ห์อันน่าหลงใหลของเขาได้เลย
“หนูนิด...หนูนิด”
เสียงทุ้มลึกที่ดังอยู่ใกล้ ๆ ปลุกภวังค์อันล่องลอยของสาวสวยสะพรั่งวัยสิบเก้าให้ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น คัทลียาปรือตามองก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาของใครคนหนึ่งที่โน้มลงมาจนเกือบชิด
“คุณอาไกรสูรย์”
หญิงสาวเรียกชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงอันแห้งผากเมื่อเธอลืมตาและมองใบหน้าคร้ามเข้มของหนุ่มไทยที่มีเชื้อสายอเมริกันครึ่งหนึ่ง ร่างอรชรบิดกายที่เปลือยเปล่าใต้ผ้าแพรเนื้อบางลื่นไปมาเบา ๆ ใหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้จนเกือบชิด
“หนูนิด...ตื่นได้แล้วจ้ะ”
“คุณอาไกรสูรย์...คุณอาไกรสูรย์จริง ๆ หรือคะ?”
แม้จะตื่นแต่เธอก็ยังมีอาการสะลึมสะลือ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ทุกอย่างรอบกายลอยล่อง เบาหวิว มีเพียงอย่างเดียวที่ชัดเจนอยู่ในตาสวยคู่นั้น นั่นคือภาพของหนุ่มซึ่งมีอายุมากกว่าเธอหลายปีทว่าเขาก็ยังดูดีในแบบฉบับของหนุ่มลูกครึ่ง
“คุณอาไกรสูรย์คะ...”
สาววัยสิบเก้าเผยอริมฝีปากอิ่มสวยเล็กน้อย แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ถามอะไรริมฝีปากหยักหนาก็ประกบลงมาและบดเบียดกับปากของเธอจนแนบแน่น
“อืม...อืม...”
คัทลียาครางลึกในลำคอ ร่างสาวใต้ผืนแพรสั่นสะท้านเมื่อได้รับจุมพิตอันซาบซ่านโดยไม่ทันตั้งตัว ลิ้นอุ่นของผู้ชายที่เธอแทนตัวเขาว่า คุณอา แทรกเข้าไปในปากจิ้มลิ้ม ตวัดไปมาและโลมไล้ไปทั่ว ทั้งเพดานปาก ตวัดเกี่ยวลิ้นเล็ก ดูดดุนความฉ่ำชุ่มที่ปลายลิ้นของเธอและสำรวจไปทั่งทั้งอุ้งปาก
“อืม...อา...อา...”
ร่างแน่งน้อยบิดกายไปมาด้วยความสยิวซ่าน เธอไม่เคยค้นพบสิ่งนี้มาก่อน สิ่งที่เรียกว่าจูบ แต่เจ้าของเรือนร่างงามกลับยินดีต่อสัมผัสอันนุ่มละมุน ยินยอมให้ปากของเธอรับเรียวลิ้นที่ล่วงล้ำเข้ามา ดูดกลืนและดูดดื่มราวกับเป็นเจ้าของ
คัทลียาขนลุกซู่เมื่อมือไม้นั้นไล้ไปมาบนไหล่กลมกลึง กดลงบนผิวเนียนลื่นสลับกับลูบไล้อยู่ที่ลำคอระหง เสียงครางของเขาดังอยู่ในลำคอเช่นกันเมื่อหญิงสาวเริ่มตอบสนองต่อลิ้นหนาที่เลาะเล็มไปทั่วในกลีบปากอันฉ่ำหวาน
เธอรู้สึกถึงแรงเสียดสีจากมัดกล้ามบนหน้าอกกว้างบนเรือนร่างอันแข็งแกร่งที่บดเบียดลงมาระหว่างเนียนผิวและผิวหยาบกร้านซึ่งมีเพียงเนื้อผ้าแพรที่ขวางกั้นไว้เท่านั้น
นี่เป็นความจริงหรือความฝัน เธอจดจำใบหน้าของผู้ชายที่เธอเรียกเขาว่าคุณอามาโดยตลอดอย่างแม่นยำ เขาหล่อเหลา ใบหน้าคมคร้ามซึ่งดูเข้มอย่างหนุ่มไทยแต่มีเรือนร่างกำยำสูงใหญ่และเต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นอย่างชาวยุโรป
ทุกตารางนิ้วของผิวสาวสั่นระริก แค่จูบแสนละมุนก็ทำให้เธออ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งถูกไฟลน มือสากหนาของเขาเหมือนไฟร้อนระอุ มันเสียดสีไปบนผิวของเธอราวกับจะทำให้มันมอดไหม้
จูบนั้นเริ่มหนักหน่วงขึ้น หญิงสาวเสียวซ่านตั้งแต่กลีบปากสีระเรื่อลงไปจนถึงปลายเท้า คัทลียาบิดกายเร่า เขาค่อย ๆ เลื่อนริมฝีปากออก แต่กลับเลื่อนมือลงต่ำจากลำคอเรียวระหงและสัมผัสบนผืนแพรที่ปกปิดส่วนโค้งนูนของโนมเนื้อบนทรวงกลมกลึง
“อู๊ววว...คุณอาขา...”
คัทลียาร้อนวูบวาบไปหมด ร่างกายของเธอเหมือนมีคลื่นร้อนวิ่งเข้าปะทะนับล้านระลอก เขาลูบไล้ไปบนเนินอกสวยที่โผล่พ้นออกมาจากผืนผ้าแพรที่ปิดไว้อย่างหมิ่นเหม่ มันชูชันและส่วนปลายแข็งเป็นไตจนดันเนื้อผ้าเป็นรูปร่างคล้ายผลเบอร์รี่เม็ดเล็ก ๆ
แล้วมือสากกร้านก็สอดเข้าไปใต้เนื้อแพรบางนิ่มที่ปกปิดเรือนร่างเปลือยเปล่ากลมกลึง เคล้นคลึงความอวบอิ่มของทรวงสวยบนเรือนร่างสาวที่บิดเร่าเหมือนอยู่บนกองไฟ
“คุณอาไกรสูรย์...อย่าค่ะ...อืม...อย่าค่ะ...”
คัทลียาส่ายใบหน้าสวยหวานไปมาเมื่อมือสากหนาล้วงเข้าไปลูบไล้อยู่บนเนินเนื้ออวบนิ่มใต้แพรไหม หญิงสาวขยุ้มผ้าปูเตียงไว้จนแน่นเมื่อเขาเริ่มเคล้นคลึงดอกบัวตูมขนาดใหญ่ทั้งสองใต้ผืนแพร
“คุณอาขา...อ๊า...อย่าค่ะ...อ๊า”
ปากของเธอร้องห้ามแต่ร่างกายกลับยินดีต่อสัมผัสของมือหนาที่เคล้นคลึงและบีบบี้เบา ๆ คัทลียาร้องห้ามแต่เธอกลับเห็นรอยยิ้มย่ามใจบนใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มลงมาหาและประกบปิดริมฝีปากของเธออีกหน
“อู๊วววว...อ๊า...ซี๊ด...คุณอาขา...อย่าซีคะ”
ยิ่งดอกบัวตูมถูกเคล้นคลึงบีบคลำ หญิงสาวก็ยิ่งแอ่นร่างจนอกชูชันเผยออกมาจากผ้าห่มผืนบาง เสียงคัทลียาร้องครางลอดออกมาจากริมฝีปากที่ถูกประกบปิดเอาไว้เพียงเล็กน้อย
แต่ร่างกายของเธอกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงเมื่อร่างหนาใหญ่ทาบทับลงมาบนตัวเธอ เบียดบดและเสียดสีถูไถไปมาบนทรวงอกนุ่มก่อนที่ผ้าแพรซึ่งกั้นกลางระหว่างร่างที่เปล่าเปลือยของเธอและเขาจะถูกเลื่อนออกไป
“คุณอาขา...อา..อย่าค่ะ...ยะ...อย่า...”
คัทลียาแอ่นร่างรับเรี่ยวแรงมหาศาลของร่างใหญ่ที่กดทับลงมา เธอกอดตอบแต่แล้วทุกอย่างกลับเบาหวิวล่องลอยไปในวินาทีที่เธอปรือตามองใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงใหญ่อีกครั้ง
“คุณอาไกรสูรย์! ...คุณอา...”
ร่างอรชรเปล่าเปลือยใต้ผ้าแพรสะดุ้งตื่นขึ้นท่ามกลางแสงไฟสลัวในยามวิกาล คัทลียาหอบหายใจเมื่อรู้สึกถึงสิ่งรอบตัวที่ชัดเจนกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“ฝันไปหรือนี่...”
เด็กสาววัยสิบเก้าพูดกับตัวเองก่อนเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียงบอกเวลาเกือบเที่ยงคืน เธอปาดรอยเหงื่อบนขมับและถอนหายใจ พรุ่งนี้แล้วซีนะที่เธอต้องเดินทางไปไร่มัทนารี