7

1936 คำ
โชคขับรถไปที่คอนโดไม่ไกลมากแล้วกดเบอร์โทรหาวีนัสอยู่หลายสายแต่ก็ถูกตัด เขาเลยส่งข้อความไปแทนว่าอยู่ที่คอนโดและนั่งรอที่ล็อบบี้ วีนัสอ่านแต่ไม่ยอมตอบแล้วผ่านไปประมาณห้านาทีเธอก็เดินออกมาจากลิฟต์ด้วยท่าทีเซนิดๆจนต้องรีบประคอง กลิ่นเหล้าลอยหึ่งออกมาขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดื่มไปเยอะมากขนาดไหน เขาประคองเธอขึ้นลิฟต์แบบไม่ถามอะไรสักคำว่าเกิดอะไรขึ้น ระหว่างเราเลยตกอยู่ในความเงียบมากที่โคตรน่าเป็นห่วง มาถึงห้องแล้ววีนัสยังไม่พูดอะไรเลย ไอ้เวรนั่นมันได้เจ็บตัวแน่ “เสี่ย…” “ทะเลาะกับมันเหรอ?” “อื้ม” “ไม่ได้คบกันแล้วใช่ไหม?” “ไม่อะ มันกลับไปหาเมียเก่าแล้ว!” “เฮ้อ…เสี่ยไม่เอามันไว้แน่!” “หนูโง่มากใช่ไหมล่ะ?” “ไม่โง่หรอกวีนัส อย่างน้อยหนูก็รู้ว่ามันรักผู้หญิงอีกคนก่อนจะคบกัน” “เสี่ย…” เธอเบ้ปากร้องไห้ออกมาด้วยความสมเพชตัวเองและเสี่ยโชคดึงเข้าไปกอดทันที มือใหญ่ลูบหัวแผ่วเบาเงียบๆ เขาไม่ดุด่าว่าเธอที่โง่ไปรู้สึกดีกับคนที่ลืมคนเก่าไม่ได้แถมยังติดต่อกันตลอดอีก ต้นขอคบจริงๆแต่เธอปฏิเสธ เธอเห็นเขากอดแฟนเก่าก่อนจะเดินมาหา น้ำตาไหลออกมาอย่างหนักเหมือนว่าทุกอย่างที่แย่ๆหลุดออกไปจากหัวใจแล้วเมื่อได้อยู่ในเซฟโซน คนที่ปากร้ายอ่อนโยนเสียจนความรู้สึกสมเพชตัวเองหายไป ความรู้สึกเหมือนตัวเองโง่ไม่ได้ทำให้เจ็บปวดเท่าตอนอยู่คนเดียวแล้ว เสี่ยโชคปล่อยเธอแล้วมือใหญ่ประคองใบหน้าก่อนจะเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มให้อย่างแผ่วเบาจนแทบไม่น่าเชื่อด้วยซ้ำว่าจะทำให้รู้สึกดีได้ “เสี่ยไม่ชอบให้หนูร้องไห้แบบนี้เลย” “หนูก็ไม่ชอบ” “เดี๋ยวทุกอย่างก็ผ่านไปเชื่อเสี่ยสิ” “แล้ว…เสี่ยโชครู้ได้ไงคะ?” “เพลิงบอก” “นึกว่าเสี่ยเห็นโพสต์ก่อนจะลบซะอีก” “เสี่ยกินเหล้าอยู่เลยไม่ได้ดู” “งั้นกินกับหนูต่อไหม?” “ได้สิ แต่ถ้าเมาเสี่ยขับรถกลับไม่ไหวนะ” “โซฟาตั้งใหญ่นอนคนเดียวได้สบายๆค่ะ” เขาเดินโอบไหล่วีนัสไปนั่งที่โซฟาในห้องรับแขกแล้วมองเหล้าเบียร์ที่วางเต็มโต๊ะพร้อมกับของกินแกล้ม นี่คือวันศุกร์และพรุ่งนี้คือวันเสาร์เลยไม่จำเป็นต้องกลัวตื่นสายมาก หรือถ้าตื่นสายก็ไม่เป็นอะไรเพราะเป็นเจ้าของบริษัทอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าช่วงนี้ที่ตื่นเช้าเพราะลูกน้องมันโทรปลุกเพราะเขาขับรถไปรับ มันไม่อยากไปทำงานสายถึงสุดท้ายจะไปสายอยู่ดีก็ตาม นี่คือครั้งแรกที่จะนอนคอนโดวีนัส รู้สึกดีแปลกๆนะ วีนัสเดินไปหยิบแก้วมาให้เพิ่มแล้วนั่งอยู่ใกล้กัน เธอระบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังและไม่มีคำว่ารักหลุดออกมาจากปากเลยสักคำเดียว นัยน์ตาที่สดใสแดงก่ำเพราะร้องไห้จากคนที่มันไม่คู่ควรกับหยดน้ำตานั้นเลยด้วยซ้ำ บอกไม่ถูกว่าดีใจขนาดไหนที่เธอแค่รู้สึกดีและตอนนี้ตัดใจได้แบบไม่คิดมากเพราะยังไม่ถลำลึกเกินไปในความสัมพันธ์ วีนัสไปก่อนเวลานัดเพราะตื่นเต้นเลยอยากทำให้ตัวเองดูดีเพื่อช่วงเวลาสำคัญ แต่ว่าเธอกลับเห็นมันยืนกอดกับแฟนเก่าปลอบใจแล้วยังจูบกันอีก จากนั้นมันก็มาขอคบวีนัสแต่ว่าเธอปฏิเสธไปทันทีเพราะหวั่นใจว่าจะไปเป็นตัวแทนของใคร หรืออาจจะเป็นแค่คนคั้นเวลา โอกาสของเขายังไม่หายไป ต่อจากนี้จะหวงเด็กและชัดเจนขึ้น “ถ้ามันมาง้อหนูจะทำยังไง?” “ไม่มีทางคืนดีหรอก หนู…น่าจะเชื่อเสี่ย” “เชื่อเสี่ย?” “ก็เสี่ยบอกว่าไม่มีใครเอาหนูลงหรอก” “เสี่ยพูดเล่นไปเรื่อยเฉยๆ เวลาได้แกล้งหนูแล้วมันรู้สึกดีตอนหนูทำหน้ายู่ใส่” “งั้นวันนี้ห้ามแกล้ง หนูไม่มีอารมณ์เล่นด้วยหรอกนะ” “แล้วพรุ่งนี้ไปไหนไหม?” “ไม่ค่ะ” “งั้นปาร์ตี้ที่บ้านของเสี่ยไหม?” “แต่พี่เพลิงจะไปเที่ยวกับสาวไม่ใช่เหรอคะ?” “แค่เราสองคนไม่ได้เหรอ?” “ก็…มันจะดูไม่ดี” “คิดมาก!” “ก็หนูเป็นผู้หญิงนี่!” “เสี่ยรู้จักหนูมาตั้งแต่อายุ…สิบห้าใช่ไหม ถ้าเสี่ยจะทำอะไรโอกาสมันมีตั้งเยอะแยะ” “จริงด้วย! จะว่าไปเรารู้จักกันมาตั้งเกือบห้าปีแล้วทำไมหนูไม่เคยเห็นเสี่ยโชคมีแฟนเลยล่ะคะ ตอนนั้นที่ทำงานด้วยก็เห็นแค่ควงมาครั้งสองครั้งก็เปลี่ยนคน เสี่ยลืมแฟนเก่าไม่ได้เหรอถึงไม่มีคนใหม่ หรือว่าเสี่ยโชคหวงอิสระจนไม่กล้าผูกมัดกับใคร” “หนูก็ไม่เคยมีแฟน” “มันไม่เหมือนกันสักหน่อย” “เสี่ยรอคนที่ใช่ดีกว่าคบไปเรื่อย” เธอเทเหล้าให้เสี่ยโชคแล้วนึกถึงสเป็คที่พี่เพลิงเคยเล่าให้ฟังแล้วก็หนักใจขึ้นมาทันทีเลย พี่เพลิงรู้จักเสี่ยโชคตั้งแต่เรียนมัธยมต้นจนถึงปัจจุบันเลยรู้ว่าเสี่ยเคยมีแฟนอยู่หลายคน แฟนของเสี่ยโชคส่วนใหญ่จะไปในทางหมวย เซ็กซี่ หุ่นนางแบบ สูงเกือบเท่าเสี่ยโชคและฐานะใกล้เคียงกันแทบทุกคนเลย น่าเสียดายที่ไม่เคยเห็นแฟนเสี่ยโชค ตอนนั้นเรายังไม่รู้จักกัน แฟนคนล่าสุดของเสี่ยโชคน่าจะตอนอายุยี่สิบสองสมัยพึ่งเรียนจบและเริ่มทำงาน หลังจากนั้นเสี่ยโชคก็โสดยาวแต่โสดแบบไม่สนิทเท่าไรหรอก เรื่องอย่างว่าน่าจะโชกโชนจนถึงขั้นเจนเวทีเลยก็ได้ ขนาดช่วงที่เธอทำงานด้วยปีหนึ่งยังเห็นเขาควงผู้หญิงมาไม่ซ้ำหน้าจนเริ่มงงและเพราะแบบนี้พี่เพลิงถึงเล่าให้ฟัง ปีนี้เสี่ยโชคจะอายุสามสิบปีแล้ว เขาจะครองโสดไปถึงไหน “เรียนเป็นยังไงบ้าง?” “ก็ดีค่ะ” “อีกแป๊บเดียวก็เรียนจบแล้วใช่ไหม?” “ใช่ค่ะ” “สนใจมาทำงานกับเสี่ยไหม?” “ทาบทามตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ?” “เสี่ยมีงานเยอะมากแล้วดูแลคนเดียวไม่ไหวหรอก เดี๋ยวอีกสักพักจะให้เพลิงมาดูแลบริษัทนี้ต่อ แล้วถ้าหนูอยากทำงานก็ทำคู่กับเพลิงได้นะ” “วางตัวพี่เพลิงไว้แบบนี้ถามเจ้าตัวรึยังคะ?” “แค่มันเห็นเรทเงินเดือนก็พร้อมทำงานแล้ว” “นั่นสิ!” “ลองคิดดูก็ได้นะ เสี่ยมีเวลาอีกหลายปีกว่าจะปล่อยเพลิงทำงานจริงๆ” “ช่วงหลังที่เสี่ยโชคเข้มงวดกับพี่เพลิงมากเพราะแบบนี้ด้วยใช่ไหมคะ?” “อืม แต่ห้ามบอกมันนะ เสี่ยอยากดูมันไปเรื่อยๆก่อน” “แล้วมาบอกให้หนูรู้นี่นะ!” “เสี่ยน่าจะ…เมามั้ง” “งั้นหนูก็เมาเหมือนกัน” “หนูเมามากด้วย” เวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนนิดๆวีนัสเมามากจนหน้าแดงเชียว เขาอุ้มเธอเดินเข้าไปในห้องนอนแล้ววางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาและห่มผ้าให้ จากนั้นก็ล้มตัวนอนลงบนเตียงเว้นระยะห่างประมาณหนึ่งคืนเห็นจะได้ เขาไม่เคยรู้เลยว่ารู้สึกอะไรกับเด็กคนนี้แบบไหนและทุกอย่างมันเริ่มตอนไหนกันแน่ สิ่งเดียวที่บอกชัดว่าวีนัสอยู่ในสายตาเสมอคือความทรงจำของตัวเองที่ได้เจอเธอตั้งแต่วันแรก เขาจดจำได้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ หลงรักไปหมดหัวใจรึยังนะ “ฝันดีนะวีนัส” “เสี่ยโชค…ฝันดีนะ” “หลับตานอนได้แล้ว จะมองหน้าเสี่ยทำไมห่ะ?” “แก่แล้วบ่นเก่ง” “เมาแล้วพูดไปเรื่อย” “หนูไม่ได้เมา!” “เที่ยงคืนกว่าๆแล้วนอนเถอะ เสี่ยจะอาบน้ำนอนเหมือนกัน” “ขอบคุณนะที่มาหาหนู” “เสี่ยไม่มีทางปล่อยให้หนูเสียใจคนเดียวหรอก” “ต่อจากนี้หนูจะไม่สนใจใครแล้ว!” “เว้นเสี่ยไว้สักคนนะ” วีนัสขยับเข้ามาใกล้และยิ้มหวานได้อย่างน่ารักแต่ว่าตาแทบจะลืมไม่ขึ้นแล้วนี่สิ มือเล็กๆยกขึ้นมาแตะกรอบหน้าของเขา ปลายนิ้วเกลี่ยไปตามสันกรามเหมือนกำลังยั่วยุอย่างนั้นแหละ นัยน์ตาฉ่ำเยิ้มจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่ช้อนตามองได้อย่างน่าเอ็นดู ปลายนิ้วแตะที่ปลายจมูกอยู่เพียงไม่กี่วินาทีก็เคลื่อนมาแตะที่ริมฝีปากหยักเหมือนต้องการจะทดสอบความอดทนจนทนไม่ไหวเลยงับเบาๆจนสะดุ้ง หัวใจสั่นไหวอย่างหนัก เขินเด็กจนรู้สึกร้อนไปทั้งตัวแล้ว “อื้อ! เสี่ยโชคอะแกล้งหนูอีกแล้วนะ” “หน้าเสี่ยมันใช่ของเล่นเด็กมือบอนไหมห่ะ?” “หล่อนะเนี่ย” “เรื่องนี้เสี่ยรู้น่าว่าตัวเองหน้าตาดีมาก” “แต่เสียดายที่ไม่เอาใคร” “ดีกว่าไม่มีใครเอาแบบหนูก็แล้วกัน” “เดี๋ยวหนูจะหาแฟนหล่อๆให้ดู” “หนูจะไม่มีวันได้ใครเป็นแฟนทั้งนั้น เสี่ยไม่ยอม” “ทำไมล่ะ!?” “เสี่ยแค่ไม่อยากให้หนูรักใครทั้งนั้น” “บ้าแล้ว!” “ตาจะลืมไม่ขึ้นก็พูดอยู่นั่นแหละ นอนได้แล้วจะได้โตไวๆ” “หนูโตแล้ว!” “เด็กอยู่ดี” “เสี่ยโชคแก่แล้วต่างหากเล่า!” “เถียงเก่ง” “ก็เสี่ยไม่ยอมรับความจริงนี่!” “นอนได้แล้ว” “เสี่ย…” “พูดอีกคำเสี่ยจูบนะ!” “ไม่กลัว…” ริมฝีปากหนักกดจูบทับลงไปแผ่วเบาแล้วผละออกมาสบตาฉ่ำเยิ้มที่เบิกโตและตัวแข็งทื่อไปด้วยความตกใจมาก ริมฝีปากบางเม้มแน่นอยู่ไม่กี่วินาทีก็เผยอออกจะพูดอะไรบางอย่างแต่วินาทีนั้นเขาจูบซ้ำไปอีกครั้งอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ค่อยๆละเลียดให้เคลิ้มหลงไปกับจูบที่เลาะเล็มกลีบปากก่อนจะสอดแทรกเข้าไปพลิกพลิ้วภายในปากและผละออกมาให้หายใจได้ก่อนจะจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุด ความต้องการปะทุขึ้นมาจนแทบพลิกตัวคร่อมทับแต่ยังข่มใจไหวแล้วระบายความหิวกระหายไปกับจูบที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ล่อหลอกให้เธอเคลิ้มหลงตามมาในเส้นทางที่นำพามา จูบไร้เดียงสาแบบนี้หวานใช่ย่อย จูบแล้วอยากจูบอีก “จะพูดอะไรอีกไหม?” “ไม่พูดแล้ว” “งั้นก็นอนได้แล้ว” “เสี่ย…” “หน้าแดงนะ” “จูบเมื่อกี้นี้” “ทำไม?” “หนูไม่เคยจูบมาก่อน หนู…” “กู๊ดไนท์คิสไงหนูไม่รู้จักเหรอ?” “ก็…” “จูบไม่เป็นเลยไม่รู้จักว่าจะโต้ตอบยังไงน่ะเหรอ ลองจูบเสี่ยกลับดูไหม เสี่ยก็ปากหวานมากนะ” “คือว่าเรา…” “งั้นเสี่ยจะสอนหนูจูบเอง” ไม่มีคำพูดอะไรออกมานอกจากริมฝีปากที่บดเบียดอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่หยุดพัก จูบอ่อนหวานหลอกล่อให้หลงระเริงมีอารมณ์ตามอย่างง่ายดาย สติที่มีอยู่เพียงน้อยนิดถูกทำละลายซ้ำๆไม่หยุด ลมหายใจติดขัดอย่างหนักและไม่รู้วิธีการจะโต้ตอบอะไรได้เลย ลมหายใจที่มีกลิ่นเหล้าของเราทั้งคู่ จูบที่มอมเมาให้เคลิ้มหลงไปกับสิ่งแปลกใหม่ สัมผัสไม่คุ้นเคยและน่าตื่นเต้น หัวใจแทบหยุดเต้นอยู่แล้ว จูบแบบนี้ดีเกินไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม