ตอนที่ 7
เซนส์แรง
ฝ่ายสาวขี้เมาเจ้าของอกอวบชวนให้เอาใบหน้าซุกไซ้อย่างเมรีนั้น แม้จะรู้สึกเสียฟอร์มอยู่ไม่น้อยกับแผนการจับเขาทำสามีฉบับเร่งด่วนต้องมาล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะตนดันเผลอหลับไปเสียก่อนจะได้เผด็จ ทว่าสาวเจ้าก็ยังคงไม่ยอมแพ้อยู่ดี ยิ่งเห็นคนน้องเริ่มขยับ เธอก็ต้องรีบใส่เกียร์เดินหน้าให้มากกว่านี้เช่นกัน
"มาทำอะไรอีกละแม่คุณ"
นักรบที่กำลังนั่งครูฝึกและเด็กในค่ายซ้อมมวยกันอยู่ เอ่ยทักไปทันทีพร้อมกับใบหน้าท่าแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยเต็มใจจะเสวนากับเธอนัก หากแต่หญิงสาวก็หาใส่ใจไม่ยังคงก้าวมาหาเขาพร้อมรอยยิ้มหวานพร้อมกับถือวิสาสะทรุดตัวลงนั่งข้างเขาชนิดว่าแทบประชิด จนคนตัวโตต้องรีบเขยิบหนีเพราะกลัวความเป็นผู้หญิงของสาวเจ้า ทว่าก็ออกจะเบาใจหน่อยที่วันนี้ยังไม่ได้กลิ่นเหล้าลอยออกมาจากเธอ น่าจะไม่มีเรื่องแบบคืนนั้นอีกหรอกนะ
"ทำไมทักทายเสียห่างเหินจังคะ คน-กัน-เอง แท้ๆ"
"นี่เธอ เป็นผู้หญิงจริงรึเปล่าเราน่ะ ทำไมถึงได้ก๋ากั่นนัก" นักรบเอ่ยเสียงดุให้หญิงสาวจนเธอหน้ามุ่ยลงไปชั่วครู่ แต่ก็นั่นแหละไม่นานก็กลับมายิ้มแฉ่งเหมือนเคยแล้วส่งสายตาปริบๆ ราวรอคอยอะไรบางอย่างมาให้เขา
"อะไรของเธอ ยัยผู้หญิงประหลาด"
"ฉันก็แค่มองหน้าคนขี้โกงค่ะ"
"ขี้โกง? ขี้โกงตรงไหนอะไรมิทราบ พูดแบบนี้ผมฟ้องได้นะครับคุณ" เมรีที่ได้ยินคนหน้าดุร้องเอะอะก็พลันส่ายหน้าไปมาเหมือนกำลังตำหนิ
"ก็เรื่องที่เราพนันดวลเหล้ากันไงคะ ในเมื่อเราต่างก็ตกลงกันไว้ที่เสมอก็ต้องทำตามข้อตกลงสิ นี่ฉันแก้...อื้อ"
ประโยคของสาวน้อยถูกตัดไปทันทีเมื่อถูกอุ้งมือหนาประกบปิด ท่ามกลางความอยากรู้อยากเห็นของเหล่าลูกค่ายทั้งหลายแหล่ และเหมือนเมรีจะรู้ตัวและเข้าใจการกระทำของเขา ถึงได้ดึงฝ่ามือใหญ่ของเขาออกแล้วส่งเสียงเบากระซิบไปให้
"ทั้งที่คุณเห็นของฉันไปหมดทุกมุมแล้ว ทำไมฉันถึงไม่เห็นของคุณบ้างล่ะ ขี้โกงแท้"
นักรบทอดถอนลมหายใจออกมา ก่อนจะกระซิบอธิบายกึ่งติเตียนไป
"ผมก็ไม่ได้ขอให้คุณทำแบบนั้นซักหน่อย ทุกอย่างคุณพูดและทำเองทั้งนั้น อีกอย่างผมยังไม่ทันได้แตะต้องตัวคุณเลยนะครับ"...ก็แค่ปล่อยน้ำใส่หน้าเอง
"ก็คุณไม่ทำเองนี่ อีกอย่างยังไงคุณก็เห็นไปแล้ว แค่ให้ฉันดูก็เสมอกันแล้ว ทำเป็นขี้หวงไปได้ หรือว่าอายเพราะของตัวเองเท่าดักแด้กันคะ"
คนหน้าดุทำหน้าไม่สบอารมณ์นึกในใจอยากเถียงว่าถ้าคืนนั้นเธอไม่หลับก่อน คงได้เห็นแล้วล่ะว่าดักแด้น้อยหรือมังกรยักษ์กันแน่ แต่ก็ไม่ใช่ที่จะมาเอ่ยเถียงเรื่องสองแง่สองง่ามแบบนี้เพราะสายตาคนมองมาค่อนข้างเยอะ คนที่เสียหายจะเป็นตัวเธอเอง เขาเลยเลี่ยงไปเรื่องอื่นแทน
"เอาเป็นว่าคุณอย่าไปเที่ยวพนันอะไรแบบนี้กับใครก็แล้วกัน ส่วนเรื่องค่าเหล้าน่ะผมจ่ายเต็มราคาเหมือนตกลงกันไว้แหละ อ้อ! และผมจะจำไว้ให้ขึ้นใจว่าจะเผลอพนันอะไรกับคุณอีกแล้ว"
คนงามหน้างอขึ้นมาเมื่อโดนดักทาง ก่อนจะเดินขยับเข้าไปใกล้สนามมวยทรงสี่เหลี่ยมเพื่อมองหนุ่มทั้งน้อยมากไปจนถึงรุ่นใหญ่ดั่งคนไม่มีอะไรทำ ก่อนเสียงใสจะเอ่ยถามขึ้นทั้งที่ตายังจ้องไปยังคนบนนั้นอยู่ หนุ่มนักมวยคนหนึ่งก้มหัวเป็นเชิงทักทายเธอเล็กน้อย ตามประสาอยากทำความรู้จักกับพี่สาวของเพื่อนใหม่..ที่แอบชอบ แม้จะไม่เคยคุยกันส่วนตัวสักครั้งก็ตาม
"วันเสาร์นี้เห็นพ่อพูดว่าจะมีการจัดชกมวยขึ้น คุณจะส่งนักมวยไปด้วยไหมคะ"
"อื้อ ส่งสามคน คนนั้นชื่อ..."
นักรบเริ่มแนะนำนักมวยตัวเต็งของตัวเองให้เธอฟังเสียงกระตือรือร้นขึ้นมาเล็กน้อย ชายหนุ่มเองก็ไม่สามารถตอบตัวเองได้เหมือนกันว่าเหตุใดจึงยอมเอ่ยกับสาวเจ้าดีๆ ไม่ยอมไล่ออกไปดั่งที่ควรจะเป็นตามการระวังตัวจากเรื่องที่ถูกทายทัก
"ฉันว่าคนนั้นต้องชนะแน่ค่ะ เผลอๆ อนาคตข้างหน้าอาจขึ้นชื่อว่านักมวยเงินล้านก็ได้" เมรีกระซิบบอกเขา หลังจากดูการฝึกซ้อมของแต่ละคนแล้ว ฝ่ายนักรบที่ได้ยินแบบนั้นก็ยกยิ้มขึ้นยังมุมปากแล้วเอ่ยถามออกไป
"ดูมวยเป็นด้วยรึ"
"ก็เคยดูกับพ่อบ้างบางครั้ง แต่เชื่อฉันเถอะน่า ฉันมันคนเซนส์แรงมองอะไรไม่ค่อยผิดหรอก" นักรบที่ได้ยินคำพูดชวนให้คิดว่าขี้โม้ของอีกฝ่ายก็ส่ายหน้าไปมาอย่างไร้ความเชื่อในคำพูดของเธอ ก่อนจะแกล้งถามออกไป
"ถ้าเก่งจริง คุณคิดว่าอนาคตผมจะเป็นไงล่ะ" สาวน้อยทำท่าคิดในใจอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงใสแต่ชวนให้คนฟังหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาเสียดื้อๆ
"อนาคตของคุณต้องเป็นแฟนฉันแน่นอนค่ะ" สิ้นเสียงของเธอเหล่าลูกค่ายที่ได้ยินบทสนทนาก็อดไม่ได้จะส่งเสียงร้องแซว จนนายหัวต้องทำทีดุออกไปกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง
เมื่อถึงวันเสาร์ก็เป็นไปตามที่คาด คือมงคลต้องไปที่นั่นอยู่แล้วตามประสาเซียนมวย ทว่าครั้งนี้แม่สองลูกสาวของเขากลับกำลังออดอ้อนเกาะขาและแขนราวกับยังเป็นเด็ก เพื่อขอไปด้วยจนมงคลต้องตามใจ
สองสาวออกอาการตื่นเต้นกันใหญ่กับบรรยากาศของสนามมวย โดยเฉพาะเมรัยที่การเข้ามาดูมวยในสนามเป็นครั้งแรกของเธอ และเหตุผลอันนำพาให้สองสาวพร้อมใจกันมาเยือนที่นี่ได้นั้นคงได้ตอบเป็นเสียงเดียวกันแน่ ว่ามาเชียร์นักมวยในค่ายของนักรบเพื่อเอาใจเขา
และแม้จะมีพ่อมาด้วย แต่บรรดาผู้ชายน้อยใหญ่ในสนามก็ยังพร้อมใจกันมองมายังสองสาวเป็นตาเดียวเพราะความสวยและน่ามองคนละแบบ โดยเฉพาะเมรีที่มาในขุดทะมัดทะแมงเน้นรูปร่างในน่ามองโดนเฉพาะทรวงอก ต่างจากผ้าถุงอันเป็นเอกลักษณ์ในทุกที
ในขณะที่เมรัยก็แจกยิ้มหวานน่ารักราวกับไม่รู้หมด ประมาณว่าคนหนึ่งน่ารัก คนหนึ่งน่าฟัดอะไรแบบนั้น จนมงคลต้องทำตาดุใส่พวกชีกอออกนอกหน้าอยู่หลายที
ฝ่ายนักรบเองก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก แม้จะเพิ่งแอบบ่นรำคาญที่เห็นสองสาวมาที่นี่ แต่ตัวเขาเองก็แอบมองสาวเจ้าทั้งคู่อยู่อีกฝั่งของสนามเหมือนกัน
'เฮ้ยๆ อย่ามองดิ สามเดือนพ่อหนุ่ม สามเดือนท่องไว้'
ชายหนุ่มบอกกับตัวเองแบบนั้นก่อนจะหันไปทักทายคนที่นั่งถัดจากเขานั่นก็คือ โกศล กำนันของชุมชนที่เข้ามาดูมวยด้วยนั่นเอง
มวยแต่ละคู่เรียกได้ว่าดุเดือดเลือดพล่านจนคนในสนามแทบนั่งไม่ติด จนกระทั่งการชกของคู่สุดท้ายสิ้นสุดลง
นักมวยจากค่ายของนักรบ ตัวเต็งที่เขาคาดหวังว่าจะเอาชนะได้กลับแพ้น็อกอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนอีกคนที่คิดว่าฝีมือดีรองลงมาดันเอาชนะได้อย่างสบาย โดยเฉพาะสิงห์ หรือที่ใช้ชื่อในการชกว่า สิงโตเพชร โชว์ฝีมืออย่างสวยงามตามที่เมรีเคยบอกเขาไว้
ด้านกำนันโกศลที่เชียร์มวยอีกค่ายหนึ่งอยู่ เห็นนักมวยที่ชอบแพ้ก็ลุกออกไปเลย จนนักรบไม่ทันได้กล่าวลาทั้งชายหนุ่มก็ยังไม่ใส่ใจนัก เพราะมัวคิดว่า สิงห์ต้องมีอนาคตไกลแน่
'เชื่อฉันเถอะน่า ฉันมันคนเซนส์แรงมองอะไรไม่ค่อยผิดหรอก'
จู่ๆ เขาก็นึกถึงคำพูดท่าทีอวดภูมิของเมรี แล้วเผลอส่งสายตาให้อีกฝ่าย ในขณะที่เจ้าตัวกลับยักคิ้วกวน ๆ ตอบกลับมา ส่วนเมรัยที่นั่งอยู่ข้างกันนั้นก็พลันโบกมือให้เขาอย่างเป็นกันเองเรียกรอยยิ้มของคนหน้าโหดได้อย่างน่าแปลก
'สองคนนี้ก็ดูไม่มีพิษสงอะไรนี่ คงไม่นำเรื่องเดือดร้อนมาให้หรอกมั้ง โดยเฉพาะยัยขี้เมานั่น'
เขาคิดในใจพร้อมกับพยายามกลั้นรอยยิ้มเอาไว้สุดกำลัง เพราะกลัวสองสาวจะได้ใจแล้วยิ่งรุกหนักมากขึ้น