คุณครูและนักมวย

1523 คำ
ตอนที่ 6 คุณครูและนักมวย ดวงตาคู่งามของเมรีขี้เมาค่อยๆ ปรือขึ้นสิ่งแรกที่มองเห็นคือตะวันที่มันแทบจะลับฟ้าไปแล้ว และความรู้สึกหนักอึ้งบนหัวก็ตามมาติดๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอตื่นตกใจเท่ากับร่างบางของใครบางคนที่กำลังนั่งจุ้มปุ๊กอยู่ปลายเตียงราวกับรอเธอตื่นยังไงอย่างนั้น เธอลุกขึ้นมาพร้อมหัวหนักๆ ก่อนจะเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก "เมรัย มานั่งทำไรปลายเตียง ตกใจหมด" คนพี่เอ่ยพลางยกมือเกาหัวแครกๆ สีหน้าของเธอแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดว่าแฮงค์เหล้า มือเรียวขมวดปมผ้าถุงตัวเก่งขึ้นกระชับมันเข้าให้แน่นก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล "ก็จะมาปลุกพี่ไง นอนยังกับซ้อมตาย นู้น เพื่อนพี่มาหา" คนน้องพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสากับท่าทีพยักพเยิดให้พี่สาวเห็นว่ามีใครคนหนึ่งกำลังรออยู่ที่ตัวบ้าน "ใคร? เจ้าภัทรรึ" เมรีเอ่ยถามด้วยแววตาที่พอจะรู้แล้วว่าคนที่มารอเป็นใคร เพราะเธอไม่ได้มีเพื่อนเยอะมากถึงขนาดเดาไม่ถูกว่าใครที่มาหาเธอถึงบ้าน และก็อย่างที่คิดเมื่อใบหน้าสวยของน้องสาวพยักตอบก่อนจะเอ่ยเสียงใส "พี่ภัทรซื้อขนมมาฝากเยอะเลย เนี่ยหนูว่าพี่ควรเลิกวิ่งไล่ตามนายหัวแล้วหันมาคบพี่ภัทรแทนเหอะ ดูแกรักพี่ขนาดนั้น" น้องสาวพูดขึ้นมาอย่างไม่คิดอะไรมาก จริงอยู่ที่ว่าช่วงนี้บุคคลที่สามที่พวกเธอเอ่ยชื่อกันว่าภัทรจะเข้ามาหาเมรีบ่อยๆ แต่สำหรับเมรีแล้วภัทรคือเพื่อน เพื่อนแท้ที่ไม่มีวันหาได้อีกแล้ว เธอจึงไม่เคยคิดกับเขาในแง่ชู้สาว ต่างจากทางด้านชายหนุ่มซึ่งแสดงออกชัดเจนแบบมองจากดาวอังคารลงมาก็รู้ว่าชอบคนพี่อย่างมาก และดูเหมือนจะชอบมานานแล้วด้วย "แกก็พูดเพ้อเจ้อ ไอ้ภัทรเป็นเพื่อนรักพี่ มันก็รักพี่แบบเพื่อนแหละ" พูดจบก็กระตุกผ้าถุงมากระโจมอกแน่นอีกครั้งก่อนจะเดินออกไปทิ้งสาวอีกคนให้มองตามไปอย่างนั้นปากก็บ่นอุบอิบตามประสาสาวน้อยช่างจินตนาการ "เหอะ คนเค้ามองออกกันทั้งหมู่บ้านตัวเองนั่นแหละทำเป็นไม่สนใจ" พูดออกมาแล้วก็เดินตามคนพี่ออกมาอย่างกระเง้ากระงอด ที่โถงกลางบ้าน เมรัยที่เดินมาพร้อมกับผ้าถุงที่กระโจมไว้ตรงอกอย่างไม่ได้คิดเยอะ สายตากวาดมองหาเพื่อนรักและก็เจอเขากำลังพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับ พ่อ-แม่ ของเธอ ทำเอาสาวเจ้ายิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ "ภัทร" เสียงหวานเอ่ยขึ้น ขณะที่ปากยังหาวหวอดๆ "ไอ้เมรี" เสียงเรียกชื่อเธอดังขึ้นหากแต่ว่าไม่ใช่เสียงของภัทรเจ้าของชื่อที่เธอเรียกก่อนหน้านั้นแต่เป็นเสียงของผู้อาวุโสชายหญิงเอ่ยขึ้นเสียงดังพลางตาเบิกโพลงที่เห็นลูกสาวนุ่งแค่กระโจมอกเดินเข้ามาหาเพื่อนชายอย่างผ่าเผย "พ่อ-แม่ จะเสียงดังทำไม" เธอหันขวับไปมองคู่สามีภรรยาตาดุ "ไอ้เมรี ทำไมนุ่งกระโจมอกออกมาแบบนี้ ประเจิดประเจ้อเกินไปแล้ว" คนแม่รีบเอ่ยก่อนที่ฝ่ายพ่อจะเอ่ยเสริม "นั่นสิ เพื่อนมาบ้านทั้งทีแกไปแต่งตัวดีๆ หน่อย" "โอ๊ยพ่อ ไอ้ภัทรกับหนูเล่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นกันมาหมดแล้ว เนอะภัทร" คนงามหันไปหาเจ้าของชื่อที่กำลังยืนหน้าแดงก่ำไปจนถึงใบหู และอย่างที่เธอพูด พวกเขาเคยเห็นกันมาหมดแล้วแต่นั่นมันสมัยที่พวกเขายังเด็กมาก และภัทรต้องห่างจากเมรีเพื่อไปศึกษาต่อพึ่งจะกลับมาเป็นครูสอนที่โรงเรียนแถวนี้ไม่นาน และใช่ภัทรตั้งใจทำเรื่องย้ายมาสอนที่นี่เพราะอยากกลับมาใช้ชีวิตอยู่ใกล้ๆ กับผู้หญิงที่ครองหัวใจเขามาตลอดสิบปี ด้วยที่เขาต้องไปเรียนเพื่อเป็นครูอย่างที่ฝัน ต่างจากเมรีที่จบแค่มัธยมต้น ด้วยเหตุผลที่ว่าเรียนไปก็ปวดหัว สุดท้ายก็ต้องมาดูแลโรงเหล้าให้พ่ออยู่ดี ให้เมรัยมันเรียนไปคนเดียวเถอะ แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าเป็นแค่ข้ออ้างที่เธอขี้เกียจแต่ก็ไม่มีใครขัดใจเธอได้ ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มเห่อแดงฉ่าเพราะมองไปยังกระโจมอกที่เก็บนมของเพื่อนหญิงแทบไม่มิดทำเอาเขาต้องลอบกลืนน้ำลายแล้วรีบหันใบหน้าและสายตาคมคายนั่นหนีเสีย "ไปแต่งตัวดีๆ ก่อนไอ้เมรี" ภัทรเอ่ยเสียงตะกุกตะกัก ทำเอาสาวน้อยต้องสะบัดก้นออกไปตามบัญชา ด้านเมรัยที่กำลังรุดหน้าเพื่อที่จะจีบนายหัวค่ายมวย ตอนนี้เธอมีเบอร์มือถือของสิงห์นักมวยตัวเต็งของค่ายในกำมือ เธอจึงไม่รอช้าที่จะนัดเจอเขาเพื่อสืบประวัติของนายหัวและจะใช้เขาเป็นเครื่องมือสืบเรื่องของเจ้านายนั่นเอง สันกรามคมกริบของสิงห์และดวงตาสีดำที่แหลมคมทำเอาหลายคนที่มองต้องเหลียวหลัง ด้วยร่างกายกำยำและหน้าท้องที่กระชับ ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนมวย เขาชนะการแข่งขันหลายรายการและกลายเป็นดาวเด่นในวงการมวยอีกทั้งยังเป็นตัวเต็งของค่าย ไกรสรสีห์ แม้เขาจะประสบความสำเร็จ แต่สิงห์ก็ยังรู้สึกขาดหายไปในชีวิตอยู่เสมอ จนกระทั่งได้พบกับเมรัย ตั้งแต่วินาทีที่เขาสบตากับเธอก็เหมือนถูกน็อกบนเวทีมวย ความสวยและน่ารักของเด็กสาววัยไล่เลี่ยกันทำเอาสิงห์หวั่นไหว และเขาก็อดไม่ได้ที่จะสนใจเธอ ขณะที่เขาคลำหาโทรศัพท์เพื่อดูว่าใครโทรมาชื่อที่เมมไว้ที่หน้าจอฉายชัดว่าเป็นเมรัย หัวใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นระรัวไปด้วย ความคิดที่จะได้เห็นเธออีกครั้งทำให้เขายิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัวแต่ก็พลันต้องหุบยิ้มลงในทันทีเมื่อได้รู้เป้าหมายที่แท้จริงของสาวเจ้า เมรัยออกตัวชัดเจนว่าชอบนายหัวนักรบ และพยายามคะยั้นคะยอขอเบอร์โทรของเขาจากสิงห์ "นี่สิงห์ ขอร้องละช่วยหน่อยนะ เราไม่รู้จักใครเลย สิงห์เป็นเพื่อนเราต้องช่วยเราสิ" "นี่เดี๋ยวนะ ฉันไปเป็นเพื่อนเธอตอนไหน มีแต่เธอที่มาไล่ขอเบอร์ฉัน แล้วนี่ก็นัดออกมาเจอตามใจชอบ ไอ้เราก็นึกว่า..." อยากเจอเรา ประโยคหลังนี่ไม่ได้พูดออกไปแต่แสดงออกมาทางสีหน้าชัดเจนมาก แต่คนที่ไม่ได้สนใจก็คือไม่สนใจ เธอเมินท่าทีผิดหวังของอีกฝ่ายแล้วพูดจุดประสงค์แท้จริงของตัวเองออกมาอีกครั้ง "นึกว่าอะไร เหอะทำไมสิงห์ขี้งกกับเราแบบนี้ล่ะ เราอยากเข้าหานายหัวและสิงห์ก็ช่วยเราได้แต่ไม่ช่วย ใจดำชะมัด" "อะไรของเธอ" สิงห์กำลังจะอ้าปากบอกว่าช่วยก็ได้ เพราะอย่างน้อยถ้าเขาช่วยเธอ ก็อาจจะได้ใกล้ชิดกันแล้วบางทีเมรัยอาจเปลี่ยนใจมาชอบเขาแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากสาวน้อยผู้กระตือรือร้นก็รีบหยิบธนบัตรปึกไม่ใหญ่มากออกมาให้เขา "นี่ ค่าขนมเราเลยนะ นายเอาไปเลย เรามีแค่นี้จริงๆ ช่วยเราหน่อยนะ" "..." สิงห์กำลังอึ้งที่เธอจับเงินยัดใส่มือเขา แต่ก็ยังไม่ทันได้อ้าปากอีกแล้วสาวน้อยก็ชิงพูดขึ้นอีกครั้ง "ฮะ ไม่พออีกรึ งั้นเอาเลขบัญชีมา" "เฮ้อ เธอเนี่ยเป็นประเภทคิดเองเออเองเสมอสินะ" นักมวยตัวเต็งส่ายหัวไปมาราวกับระอาแต่ที่จริงหัวใจกำลังเต้นไม่เป็นส่ำกับความน่ารักเอาแต่ใจนั่น "ก็..." "หยุดเลยๆ เธอต้องหัดฟังคนอื่นพูดให้จบก่อนบ้างสิ" "..." "อืม ดีมาก เดี๋ยวฉันช่วยเธอเอง แลกกับการที่ถ้าฉันต้องการเจอเธอ เธอต้องรีบมาหา ดีลมั้ย" "ดีลจ๊ะ" เมรัยแสดงออกมาว่าดีใจแค่ไหนที่สิงห์ยอมช่วย อีกฝ่ายแม้จะแอบผิดหวังแต่ถ้าแลกกับการที่ได้เจอเธอตลอดแบบนี้มันก็ไม่แย่ สองหนุ่มสาวแยกกันโดยตกลงกันได้ เมื่อเมรัยได้เบอร์นายหัวมาก็ไม่รอช้า รีบส่งข้อความไปหาเขาทันที แต่สาวน้อยก็ต้องหน้ามุ่ยลงอีกครั้ง เมื่อข้อความที่เธอส่งไปถามยาวเหยียดกลับได้คำตอบมาเพียงคำว่า 'โอเคขึ้นแล้ว ขอบคุณครับ' เมรัยรู้สึกผิดหวังกับคำตอบสั้น ๆ แต่ตั้งใจว่าจะไม่ยอมแพ้ เธอเริ่มค้นหาวิธีพิชิตใจผู้ชายอย่างเร่งด่วนทางอินเทอร์เน็ตทันทีตามสไตล์สาวช่างฝัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม