ชอบแบบไหน

1332 คำ
ตอนที่8 “มึงจะอารมณ์เสียใส่กูทำไมไอ้โชน” “กูไม่ได้อารมณ์เสีย” เชนทร์หรี่ตามองน้องชายที่พูดกับเขาเสียงแข็งแต่มียังหน้าบอกว่าตัวเองปกติดี “กูแค่จะบอกให้มึงอย่าแสดงออกว่าไม่ชอบณิชาได้มั้ย สงสารณิชา เขาไม่ใช่คนที่ทำร้ายมึงนะ” “อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้น” “ปล่อยวางเถอะเรื่องมันนานมากแล้วไอ้โชน แล้วก็หยุดอคติกับคนอื่นที่นิสัยแบบผู้หญิงคนนั้นซะ” “มึงกำลังหลงกลยัยนั่นอยู่หรือเปล่า” เชนทร์ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย สรุปว่ามันยังมีความคิดแบบเดิม “มึงไม่ต้องคิดแทนกูหรอกว่ากูจะโดนณิชาหรือใครหลอก มึงใช้ชีวิตของมึงไปเถอะ” ชายหนุ่มเพียงเข้าใจว่าพี่ชายหลงณิชาหัวปักหัวปลำ เขาก็เผลอมองเชนทร์แววตาแข็งกร้าวโดยไม่รู้ตัว “ทำไมมองกูแบบนั้น” “เปล่า กูเป็นของกูแบบนี้แหละ” “เอาแต่ใจเหลือเกินนะมึง คงมีแค่ณิชาคนเดียวที่ไม่ด่ามึงน่ะ” “กล้าก็ลองดูสิ” คนอารมณ์ร้ายเผลอมองไปที่เต็นท์นอนของณิชาก่อนจะชะงักกึกเพราะเขาก็กำลังถูกพี่ชายมองอยู่เช่นกัน “กูไปนอนแล้วรำคาญมึงพูดมากว่ะ” “เต็นท์มึงอยู่ติดกับของกูนะ ระวังจะเข้าผิด” “เชี่ยอะไรของมึงวะเชนทร์” ..... เช้าวันต่อมา... ในขณะที่กำลังรวมตัวกันเพื่อเตรียมเดินทางกลับ ณิชาที่ปกติพูดน้อยอยู่แล้วยิ่งไม่พูดไปกันใหญ่ เธอเอาแต่ก้มหน้าเพราะกลัวเผลอสบตากับคนที่มุดเต็นท์เข้ามาเมื่อคืน และได้เกินเลยกันไปมาก เธอน่าจะจำมันไม่ได้ซะ “ณิชา ไปขึ้นรถเร็ว” กวินนาดึงมอเธอให้ไปขึ้นรถที่โชนขับแต่หญิงสาวขืนตัวไว้ไม่ยอมไปตามแรงดึง “แก้ม เราว่าจะไปนั่งกับเชนทร์อ่ะ” คำพูดของเธอทำให้อีกคนถอนหายใจอย่างหงุดหงิด “เขาอยากจะไปนั่งกับคนของเขาก็ปล่อย ขึ้นรถได้แล้วแก้ม” “โอเค” กวินนาลืมนึกเอะใจที่พูดประชดประชันใส่ณิชา เพราะปกติเขาก็ไม่ได้พูดดีด้วยอยู่แล้ว ..... “ไอ้โชนมันนิสัยเสียเพราะตอนเด็กมันป่วยบ่อย ใครๆ ก็เลยพากันตามใจมันกันหมด” จู่ๆ เชนทร์ก็พูดขึ้นทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้คุยอะไรกันมาก่อน “ตอนเกิดมันก็เกือบไม่รอด” “แสดงว่าเชนทร์แข็งแรงกว่าใช่มั้ย” “ใช่ มันป่วยแต่ละครั้งก็จะเอาแต่ใจแล้วไม่มีใครกล้าขัด เลยติดเป็นสันดาน” “ถึงว่าเป็นฝาแฝดกันแท้ๆ แต่นิสัยต่างกันสุดขั้วเลย” “แล้วชอบแบบเราหรือแบบโชนล่ะ” คนถามแกล้งถามอย่างไม่ใส่ใจแต่ลอบสังเกตว่าคนที่นั่งข้างๆ ใบหน้าเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อจนถึงใบหู “ร้อนหรอ ปรับแอร์ได้นะ” “ป..เปล่า ไม่ได้ร้อน” “หรอ เห็นหน้าแดงนึกว่าร้อน” เชนทร์แอบยกยิ้มเล็กๆ ทั้งเธอทั้งน้องชายของเขาก็มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน ..... “โชนปากนายเป็นอะไรทำไมมันเหมือนบวมๆ เลย” กวินนาที่นั่งข้างเขาหรี่ตามองมาที่เรียวปากของเขา จะไม่บวมได้ไงเมื่อคืนเขาจูบณิชาอย่างแรงทั้งที่แผลเก่ายังไม่หาย “แปลกๆ นะ ณิชาก็ปากแตกเหมือนกัน ทำไมแตกกันอยู่สองคน” มินตราที่นั่งด้านหลังพูดขึ้นอย่างจับผิด คนมีความลับเริ่มกำพวงมาลัยแน่น ภาวนาให้สองคนนี้เงียบปากไปเสียที “บังเอิญ อากาศเย็นทาลิปมันไม่ทัน ถ้าไม่ง่วงนอนก็มาขับเปลี่ยนกันเลยมา พูดแต่เรื่องไร้สาระ” “ฉันอยากงีบอยู่พอดี” “ฉันด้วย” สองสาวแกล้งคอพับทันทีที่เชาหาคนขับรถเปลี่ยน ..... “จะไปทำงานอีกมั้ยเนี่ย นอนพักเถอะเดี๋ยวเราเคลียร์กับผู้จัดการให้เอง” “ไม่ต้องหรอกเชนทร์ เราอยากไปทำงานมากกว่า” “เหนื่อยก็พักนะ ขาดเหลืออะไรพวกเราพร้อมช่วยเธอเสมอ อย่าคิดว่าพวกเราเป็นคนอื่นสิ” “ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ เราจะบอกนะ ตอนนี้เรายังสบายมาก” “พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ อย่าเกรงใจกันเลยบางทีพวกเราก็อาจเผลอทำให้เธอไม่พอใจบ้าง แต่พวกเรารักเธอนะณิชา” ยกเว้นเขาคนนึง ประโยคนี้ดังก้องอยู่ในใจของหญิงสาว “ตอนนี้เรายังไหว ขอบคุณนะ” เขานั่งมองณิชาเดินเข้าที่พักไปจนลับสายตาสักพักหนึ่งจึงยอมขับรถออกมา และแวะทำธุระนิกหน่อย แต่เมื่อขับมาถึงบ้านน้องชายนิสัยเสียของเขามันทำท่าเหมือนรอเขาอยู่อย่างนั้น “รอกูหรอ” “เปล่า ทำไมมึงนานมา” คนพี่เริ่มสับสนกับคำพูดของน้องชาย สรุปมันรอเขาหรือเปล่า “ก็...กูมึงหายไปนานกูเป็นห่วง” “หรอ?” สีหน้าของคนพี่บ่งบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อคำพูดของเขาแต่เขาไม่สนใจ เขาแค่อยากรู้ว่ามันทำไมถึงมาช้า “ไม่ต้องห่วงกูมีความสุขดี” พูดจบก็ลากกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นไปยังห้องนอนของตัวเองทันที ปล่อยให้คนเอาแต่ใจคิดไปไกลอยู่คนเดียว ..... จากที่เขาอ่านไลน์กลุ่มมาสักพักก็สรุปได้ว่าเพื่อนทุกคนต้องการพักผ่อนกันหมดยกเว้นอยู่คนนึงที่ยังออกไปทำงานที่นั่น แววตาคมฉายความร้ายกาจที่มีณิชาเพียงคนเดียวเคยเห็นมัน เขาก็แค่อยากขับรถไปเรื่อย ๆ แต่อยากแวะกินเหล้าสักหน่อยจึงเลี้ยวรถเข้ามาจอดหน้าผับที่พวกเขามากันเป็นประจำ “ชั้นบนเต็มยัง” “ยังค่ะ วันนี้ชั้นบนยังไม่มีลูกค้าจองเลยค่ะ” “เปิดให้โต๊ะนึง” “ได้ค่ะ” เขานั่งชั้นบนเพียงคนเดียวเพราะวันนี้คนค่อนข้างน้อยมากจริงๆ และก็ไม่มีใครอยากมาเปิดโต๊ะนั่งชั้นนี้ด้วยเพราะมันแพง ผับนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาพวกเขาอยากมาสนุกมากกว่าอยากได้ความเป็นส่วนตัว ร่างสูงนั่งได้เพียงชั่วครู่คนที่เขาใจจดใจจ่อก็เป็นคนนำของขึ้นมาเสิร์ฟ เพราะไม่มีพนักงานคนไหนอยากขึ้นมาบนนี้เพราะเสี่ยงที่จะทำเหล้าราคาแพงหล่นแตก เธอจึงโดนเกี่ยงงานมาให้อย่างไม่กล้าปฏิเสธ ชายหนุ่มมองคนที่วางขวดเหล้าบนโต๊ะที่เขานั่งนิ่งๆ เธอไม่แม้แต่จะทักทายเหมือนเวลาที่เจอกับพี่ชายของเขา “ทำไมถึงไม่พัก” “พักก็ไม่ได้เงิน” “ไอ้เชนทร์มันให้ค่าตัวเธอไม่มากพอหรือไง” คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจที่เขาเอาแต่หาเรื่องมาต่อว่าเธอ แต่เมื่อหมดหน้าที่ของเธอแล้วจึงเดินลงไปทำงานที่ชั้นล่างต่อ โดยมีสายตาคู่หนึ่งมองมาที่เธออยู่ตลอด “เฮียตินน์สวัสดีค่ะ” “อ้าว ณิชากลับมาแล้วหรอ เห็นแจนบอกว่าจะหยุดสามวันไง” “วันนี้กลับมาทันเข้างานก็เลยมาค่ะ หนูร้อนเงินค่ะเฮียตินน์” “จริงหรือเปล่า จะเอาเท่าไร” เจ้านายหนุ่มทำท่าจะหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ให้เธอจริงๆ หญิงสาวจึงลืมตัวจับมือของเขาไว้ก่อนจะรีบผละออก “หนูพูดเล่นค่ะเฮียตินน์” “อ้าว เฮียก็นึกว่าพูดจริง” ชายหนุ่มแกล้งผลักศรีษะเธอเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว หญิงสาวหัวเราะร่าที่เจ้านายจะให้เงินเธอจริงๆ หารู้ไม่ว่าทุกการกระทำอยู่ในสายตาของคนที่มองมาอย่างดูถูกอยู่บนชั้นสอง “เหอะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม