“แก ก่อนจะมาเป็นอาจารย์นางเป็นแรพเปอร์ปะวะ คือนางรัวไม่เกรงใจสมองนักศึกษาเลยอ่ะ” ฉันว่าแล้วอุ้มประมวลในมือถอนหายใจยาวมาก ถามว่ามาเรียนได้อะไรบ้าง พูดเลยว่าได้ความงงกลับไป เล่นมือถือจนแบตหมดแล้วหมดอีก แบตสำรองหมดเกลี้ยง คิดเอาแล้วกันว่าฉันตั้งใจขนาดไหน
“มันแปลกมาก อีมิ้ง ฉันนั่งฟังนะ พยายามจะจับใจความสำคัญแล้วจดมันลงในสมุด”
“แล้วมันทำไมวะ?”
“แม่งสำคัญทุกอย่างจนไม่รู้จะจดอะไรลงไป ถ้าเป็นหนังสือก็คงไฮไลท์ไปทั้งหน้าแล้วอ่ะ กะเทยสะพรึง” อีอาร์ตทำหน้าช็อกก่อนจะยกมือทาบอกเหนื่อยหน่าย ในขณะเดียวกันที่พวกฉันเดินออกจากห้องและลงมาที่ซุ้มคณะ สิ่งมีชีวิตที่ดีที่สุดของนิติศาสตร์ ส่วนสูงขนาดร้อยแปดสิบสองเซนติเมตร น้ำหนักราวๆ หกสิบเจ็ดกิโลกรัม ผมสั้นสีดำสนิทซอยเซ็ตอย่างดีที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนก็หันมาสบตาพวกเราสองคนอย่างไม่ได้ตั้งใจ
น่ะ น้องพีทททททททททท
กรี๊ด งานดีมากกกกกกกกกกก
“พี่มิ้ง พี่อาร์ต หวัดดีครับ” คนถูกมองยิ้มก่อนจะยกมือไหว้อย่างมีมารยาท อีอาร์ตรีบพุ่งเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามทันทีอย่างไม่มีสัญญาณ
มาจะกล่าวบทไป อีน้องพีทคือน้องปีสองของคณะนิติศาสตร์ ไม่ได้เป็นเดือนคณะหรืออะไร แต่นางหล่อล้ำกว่าเดือนคณะเป็นไหนๆ เป็นผู้ชายแมนๆ นิ่งๆ พูดจาน่าฟัง เรียบร้อย เล่นกีฬาเก่ง เรียนก็ดี บ้านรวยอีก พูดง่ายๆ คือเพอร์เฟ็ค น้องพีทเปรียบเหมือนบ่อโอเอซิสของรุ่นพี่ที่ใกล้จะแห้งเหี่ยวให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง
“เอ้า น้องพีท มีเรียนค่ำเหรอ ทำไมยังไม่รีบกลับเนี่ย”
“อ๋อ ไม่มีครับพี่ นี่ผมมารอเพื่อนอ่ะครับ”
“เพื่อน?” อีอาร์ตเลิกคิ้วสูง ขณะที่น้องพีทชะโงกหน้ามองตรงไปแล้วชี้เงาตะคุ่มที่กำลังเดินมาอยู่ไกลๆ ในความมืด
“นั่นไงพี่ มันมาพอดีเลย” เขาว่าทำให้ฉันโฟกัสสายตาสั้นๆ นั่นมอง อยากรู้ว่าเพื่อนน้องพีทจะหล่อสู้เขาได้รึเปล่า แต่ยิ่งร่างสูงเข้าใกล้แสงไฟมากเท่าไหร่หัวใจฉันยิ่งเต้นตึกตัก ตึกตัก เสื้อยืดสีขาวสะอาดกับใบหน้าเนียนใส พร้อมด้วยตุ้มหูข้างซ้ายแสดงความแบดบอยนั่น...
มัน...
“อ้าว พี่มิ้ง! บังเอิญจังเลย พี่เรียนนิติเหรอ?”
“...”
น่ะ น้องตี๋เหรอ!
กรี๊ด ทำไมโลกกลม คือไง ฉันยังไม่พร้อมเจอนะ พอนึกถึงสิ่งที่อีอาร์ตพิมพ์ฉันก็หน้าร้อนผ่าว ทำอะไรไม่ถูก เมื่อนึกถึงไอ้สิ่งที่อีอาร์ตพิมพ์ไปในไลน์...
Ming Ming: พี่กำลังคิดถึงน้องอยู่ไงคะ อิอิ
ฉึก... ลูกศรปักเข้ากลางใจดอกหนึ่ง!
NongTee ‘7-11: คิดถึงเหมือนกันพี่
ฉึก... ลูกศรปักเข้ากลางใจดอกที่สอง! รู้สึกเซๆ เหมือนจะเป็นลม ขณะที่ฉันกำลังพยายามทำตัวนิ่งๆ ไม่ให้เกิดพิรุธอะไร ท้ายที่สุดแล้วอีอาร์ตก็เล่นฉันเข้าดอกที่สามจนได้...
“เอ้า พอดีเลย เห็นแกบอกคิดถึงน้องเขานิ มีอะไรจะพูดก็รีบพูดนะมิ้ง”
คิดถึงอะไร ไม่ได้พิมพ์เว้ยยยยยยยยย T^T ไม่นะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่ๆๆๆๆ
“หือออออ” น้องตี๋ลากเสียงก่อนจะเดินมายืนอยู่ตรงหน้าพลางก้มตัวลงมา เอามือชันเข่าสบตาฉันปริบๆ ฉันรู้สึกได้เลยว่าร้อนไปทั้งตัวทั้งที่อีอาร์ตมันไม่ได้พูดความจริงแต่มันก็เขินอ่ะ ทำไงดี T_T
โอ๊ย ฉันจะเขินทำไมวะ ประสาท เลิกเขินเลยนะ เลิก!
“พี่มีอะไรจะบอกน้องเหรอ?” เขาถามเสียงอ่อนเสียงหวานทำให้ฉันก้มหน้างุดเมื่อนึกถึง...
Ming Ming: พี่กำลังคิดถึงน้องอยู่ไงคะ อิอิ
กะ กรี๊ดดดดดดดดดด T^T
“เปล่า พี่ไม่มีอะไร ในไลน์พี่ไม่ได้เป็นคนพิมพ์จริงๆ นะ” ฉันตั้งสติแล้วถอยกรูดหนึ่งก้าว ในขณะที่น้องเดินเข้ามาหนึ่งก้าว ทำเอาฉันหายใจไม่ทัน เฮ้ยๆ อย่าเข้ามานะ ฉันขอตั้งสติก่อนดิ อย่าพึ่ง สต๊อบ! หยุดตรงนั้นเลย!
“รักเขาก็บอกเขาไป”
โอ๊ย อีอาร์ต!
“จริงอ๋อพี่?”
“ไม่ๆๆๆ อีอาร์ตมันมั่ว”
“น้องไม่ได้ยินเลยอ่ะ พี่ว่าไงนะ” เขาทำท่าเงี่ยหูฟังไม่ถนัดทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมามอง ทำไงดีวะ ทำตัวไม่ถูกอ่ะ ไม่ใช่ชอบอะไรหรอกนะ ฉันอายอ่ะ ฉันเขินด้วย น้องแม่งจะหล่อทำไมวะ แล้วก็ช่วยเลิกมองหน้าฉันเถอะ ฉันไม่ชอบเพราะมันทำให้สติที่น้อยนิดของฉันไขว้เขวอ่ะ!
“คือ...”
“น้องคะ เพื่อนพี่ฝากบอกว่าโสด โปรดเวทนาจีบ”
อีอาร์ตตตตตตตตตตตต!
“มันฝากถามว่า มีค่าเทอมรึยังลูก”
กรี๊ดดดดดดดดดดดด ฉันแทบจะกรี๊ดแตกกลางซุ้มคณะ รู้สึกอยากแทรกตัวเข้าไปในรูหนู ณ ตอนนี้ ถึงมันจะเป็นเรื่องไม่จริง แต่ท่าทางที่น้องเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ชอบใจในสิ่งที่อีอาร์ตพูดมันทำให้ฉันเขินอ่ะ
โอ๊ย อีมิ้ง มึงจะเขินเพื่อ!
สติ!
สตรอง!
ไม่เขิน ไม่!
อ๊ากกกกกกกกก
“อ๋อ ค่าเทอมอ่ะมีแล้วพี่” น้องตี๋หัวเราะร่าแล้วช้อนสายตามองหน้าฉันที่ก้มงุดๆ เป็นเวลาไม่กี่วินาทีที่ฉันสบตากับเขาแต่ทำเอาร้อนไปทั้งหน้า “แต่ที่ยังไม่มีอ่ะคือแฟนนะ พี่สนใจเปล่า?”
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฉันรู้สึกต้องการยาดม ยาลม ยาหม่องเพราะสายตาที่เขามองขึ้นมา ทำไมน้องอ่อยอ่ะ น้องเขาแกล้งฉันเหรอ หรืออะไร ฉันไม่ไหวแล้วนะ!
“น้องคะ!” ฉันเชิดหน้าขึ้นมาทำท่าขึงขังทำให้คนอื่นๆ สะดุ้งโหยง ไม่รู้แหละ มาแกล้งคนแก่มันไม่ตลกนะเว้ย “คือพี่อ่ะจะบอกน้องว่า...”
“...”
“ฝันดีนะน้อง บายยยยยยยยย”
ฉันหายใจเข้าปอดเต็มๆ ครั้งสุดท้าย กลับหลังหันเก้าสิบองศา มองตรงไปข้างหน้าแล้วก็... วิ่ง!!!
วิ่งลูกเดียว ไม่รู้แล้ว ฉันไม่อยู่แล้ว ฉันไม่สามารถ ฉันสตรองไม่พอ น้องเขาหล่อเกินไป ทนมองหน้านานไม่ได้...
ฉันเขินโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!